เคทีซีปลุกกระแสท่องเที่ยวยั่งยืนจากไทยสู่เวทีโลก

กรุงเทพ 7 มี.ค. – เคทีซีเปิดเวทีเสวนา “เคทีซีปลุกกระแสท่องเที่ยวยั่งยืนจากไทยสู่เวทีโลก” แนะภาครัฐหามาตรการจูงใจสายการบิน เปลี่ยนใช้เชื้อเพลิงอากาศยานชีวภาพเพื่อบรรลุเป้าหมาย Net Zero ขณะที่หน่วยงานท้องถิ่นเดินหน้าสร้างการท่องเที่ยวยั่งยืนครอบคลุมเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม พร้อมชูโมเดลการท่องเที่ยวประเทศสวิตเซอร์แลนด์ตัวอย่างการใช้ทรัพยากรอย่างรู้คุณค่า


นายยงยุทธ ลุจินตานนท์ ผู้จัดการภูมิภาคประจำประเทศไทย ลาว กัมพูชา และเมียนมา สมาคมขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศ (lATA: International Air Transportation Association) กล่าวในเวทีเสวนา “เคทีซีปลุกกระแสท่องเที่ยวยั่งยืนจากไทยสู่เวทีโลก” ว่า IATA ทำงานร่วมกับสายการบินทุกสายในการพัฒนาธุรกิจการบินให้เกิดความยั่งยืนเพื่อให้บรรลุเป้าหมายการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิให้เป็นศูนย์ (Net Zero) ทั่วโลกภายในปี 2593 โดยเป้าหมาย Net Zero ดังกล่าวจำเป็นอย่างยิ่งสำหรับการควบคุมอุณหภูมิโลกไม่ให้สูงขึ้นเกิน 1.5 องศาเซลเซียส โดยปัจจุบันอุตสาหกรรมการบินได้เห็นความสำคัญของเชื้อเพลิงอากาศยานชีวภาพแบบยั่งยืน (Sustainable Aviation Fuel) หรือ SAF แต่การเปลี่ยนมาใช้ SAF สายการบินจะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น 2 – 5 เท่า ดังนั้นหากรัฐบาลสามารถรับรองเครื่องบินและเครื่องยนต์ใหม่เพื่อให้สามารถใช้ SAF ได้ 100% และพิจารณาการใช้สิทธิพิเศษจูงใจในการสนับสนุนการใช้ SAF ในอุตสาหกรรมการบินได้ อาจส่งผลให้ทุกสายการบินเปลี่ยนมาใช้ SAF ได้สะดวกและรวดเร็วมากขึ้นโดยไม่กระทบต่อต้นทุนมากนัก

นางสาวเคอรี่ ลุย ผู้จัดการประจำประเทศไทยและเมียนมา สายการบินคาเธ่ย์ แปซิฟิค เปิดเผยว่า การเป็นผู้นำด้านความยั่งยืนเป็นหัวใจสำคัญของคาเธ่ย์เสมอมาเนื่องจากเป้าหมายของแบรนด์คือการขับเคลื่อนผู้คนไปข้างหน้าในชีวิต เรามุ่งมั่นที่จะลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมให้น้อยลง และบุกเบิกเพื่อสร้างความเปลี่ยนแปลงที่ยั่งยืนในอุตสาหกรรมการบินให้มากขึ้น เราดำเนินหลากหลายวิธีการเพื่อที่จะลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกให้บรรลุเป้าหมายในการปล่อยก๊าซคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ภายในปี 2593 และนำไปสู่การเดินทางที่มีการปล่อยก๊าซคาร์บอนต่ำ โดยมีโครงการที่สำคัญ เช่น โครงการชดเชยคาร์บอนที่ดำเนินการโดยการคำนวณการปล่อยคาร์บอน (Fly Greener) / โครงการเพิ่มประสิทธิภาพของอากาศยานและการทำงานเพื่อลดการปล่อยก๊าซคาร์บอน (Corporate Sustainable Aviation Fuel) / การใช้ปลอกหมอนและผ้านวมทำจากผ้าฝ้ายที่ยั่งยืน 100% ในชั้นธุรกิจ การใช้ผ้าห่มที่ทำจากขวดพลาสติกรีไซเคิลและพรมจากวัสดุเหลือใช้ไนลอนที่นำกลับมาใช้ใหม่ การลดการใช้พลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวบนห้องโดยสารบนเครื่องบินชั้นประหยัด โดยในปี 2565 สายการบิน ฯ สามารถลดการใช้พลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวได้ถึง 56% ต่อผู้โดยสาร 1 คน และจะยังคงลงมือทำเพื่อให้บรรลุเป้าหมายด้านความยั่งยืนต่อไปในปี 2567


ทั้งนี้ สายการบินคาเธ่ย์ แปซิฟิค ได้ดำเนินการสนับสนุนชุมชนท้องถิ่นฟื้นฟูถิ่นที่อยู่ตามธรรมชาติ ตลอดจนรับมือกันแก้ปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ โดยสายการบินฯ ได้ปลูกต้นไม้ที่ป่าชายเลนในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มาตั้งแต่ปี 2564 เป็นจำนวนกว่า 21,000 ต้น และในปี 2567 นี้ สายการบินคาเธ่ย์ แปซิฟิค ในประเทศไทยก็จะร่วมมือกับเคทีซีในการปลูกต้นไม้ที่ป่าชายเลนในจังหวัดสมุทรปราการจำนวน 4,000 ต้น

ดร.วาสนา พงศาปาน ผู้อำนวยการสำนักสื่อสารองค์กร องค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (องค์การมหาชน) กล่าวว่า อพท. ดำเนินงานตามนโยบายรัฐบาลที่จะพัฒนาการท่องเที่ยวเพื่อเพิ่มรายได้และกระจายรายได้ไปสู่ชุมชนท้องถิ่น โดยทำหน้าที่กำหนดนโยบายและแผนยุทธศาสตร์การพัฒนาพื้นที่พิเศษฯ โดยบูรณาการและร่วมมือกับทุกภาคส่วนเพื่อพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวให้เกิดความยั่งยืน มีความสมดุลใน 3 มิติ ทั้ง“เศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม” ภายใต้กระบวนการมีส่วนร่วม Co-creation & Co-own ขณะนี้มี 9 พื้นที่พิเศษฯ ที่ได้รับการประกาศแล้ว ซึ่ง อพท. ได้นำหลักเกณฑ์ตามมาตรฐานสากลมาเป็นเครื่องมือในการพัฒนาการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนและเกิดผลเป็นรูปธรรมแล้ว ได้แก่
1) เกณฑ์การท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนโลก (GSTC) ใช้พัฒนาและยกระดับแหล่งท่องเที่ยวในพื้นที่พิเศษฯ จนได้รับรางวัล Green Destinations Top 100 Stories แล้ว 5 แห่ง
2) ร่วมขับเคลื่อนเมืองสู่การเป็นเครือข่ายเมืองสร้างสรรค์ของยูเนสโก (UCCN) เพื่อเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืน (SDGs) แล้ว 4 เมือง
3) ส่งเสริมมาตรฐานการจัดการการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (STMS) ให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นแล้ว 86 องค์กร
4) เกณฑ์การพัฒนาการท่องเที่ยวโดยชุมชน (Community-Based Tourism หรือ CBT Thailand) ได้พัฒนาและเพิ่มศักยภาพให้แก่ชุมชน CBT เข้าสู่กระบวนการพัฒนาและด้านการตลาด รวมถึงเครื่องมือการท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์ (Creative Tourism) มาอย่างต่อเนื่องและในปี 2567 ตั้งเป้าหมายสร้างรายได้ให้แก่ชุมชนในพื้นที่พิเศษไม่น้อยกว่า 60 ล้านบาท

นางสาวสุวิมล งามศรีวิโรจน์ ผู้อำนวยการฝ่ายขาย เซเรนาต้า โฮเทล แอนด์ รีสอร์ท กรุ๊ปและตัวแทนสมาคม TEATA สมาคมไทยท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์และผจญภัย (สทอ.) กล่าวว่า ปัจจุบันเทรนด์การท่องเที่ยวของนักท่องเที่ยวทั่วโลกเริ่มมองหาการท่องเที่ยวเชิงสิ่งแวดล้อมและยั่งยืนมากขึ้น โดยผู้ประกอบการและบริษัทนำเที่ยวที่ให้บริการนักท่องเที่ยวต่างชาติ (Inbound Tour) กว่า 50% ของตลาดนักท่องเที่ยวชาวตะวันตกจะมีการตรวจประเมินสถานที่พักด้านคุณธรรม / สังคมชุมชน / ความปลอดภัย และความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมก่อนเซ็นสัญญานำนักท่องเที่ยวเข้าพักสะท้อนให้เห็นว่านักท่องเที่ยวต้องการสร้างประสบการณ์ที่ดีในการท่องเที่ยวโดยเน้นกิจกรรมท่องเที่ยวคาร์บอนต่ำ (Low Carbon) และคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ (Carbon Neutrality)


สำหรับโรงแรมในเครือเซเรนาต้า โฮเทล แอนด์ รีสอร์ท กรุ๊ปถือเป็นต้นแบบการท่องเที่ยวยั่งยืน (Sustainable Tourism) ตั้งแต่ปี 2519 โดยให้ความร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐและเอกชนเพื่อสนับสนุนส่งเสริมด้านการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน เช่น ร่วมจัดตั้งสมาคมไทยท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์และผจญภัย (สทอ.) / ร่วมดำเนินโครงการ TEATA “เที่ยวไทยไร้คาร์บอน 50 เส้นทาง” (Eco Friendly – Low Carbon) / ร่วมโครงการ Stay Green Stay with SERENATA มอบส่วนลดสำหรับสมาชิกที่ชื่นชอบการท่องเที่ยวสีเขียว (Green Tourism) ร่วมกับ KTC World Travel Service

นางสาวธันย์ชนก น่วมมะโน ผู้แทนประจำประเทศไทย การท่องเที่ยวสวิตเซอร์แลนด์ กล่าวว่า การท่องเที่ยวสวิตเซอร์แลนด์ได้มีการพัฒนากลยุทธ์และปลูกฝังแนวคิดสวิสเทเนเบิล (Swisstainable) ตั้งแต่ปี 2562 เพื่อสร้างประสบการณ์การท่องเที่ยวที่ยั่งยืนต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมโดยมีเป้าหมายให้สวิตเซอร์แลนด์เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ยั่งยืนที่สุดในโลกและเป็นจุดมุ่งหมายของนักเดินทางซึ่งจะส่งผลบวกต่อเศรษฐกิจของสวิตเซอร์แลนด์และยังเป็นการพัฒนาเศรษฐกิจท้องถิ่นอีกด้วย สำหรับยุทธศาสตร์ความยั่งยืนของสวิตเซอร์แลนด์(Swisstainable Strategy) โดยการท่องเที่ยวสวิตเซอร์แลนด์ได้เชิญกลุ่มผู้ประกอบการท่องเที่ยวในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ทั้งภาคขนส่ง / ภาคอุตสาหกรรม / โรงแรมที่พัก / ร้านอาหาร และสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ เข้าร่วมแคมเปญ ซึ่งทุกองค์กรจะได้รับการอนุมัติให้ใช้สัญลักษณ์สวิสเทเนเบิล (Swisstainable) ตามระดับความมุ่งมั่นของแต่ละองค์กร โดยปี 2566 ที่ผ่านมามีองค์กรในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวสวิตเซอร์แลนด์เข้าร่วมทั้งหมด 2,500 องค์กรและตั้งเป้าหมายภายในสิ้นปี 2567 จะมีองค์กรเข้าร่วมมากถึง 4,000 องค์กร

ขณะที่นักท่องเที่ยวที่เดินทางมาสวิตเซอร์แลนด์สามารถร่วมส่งเสริมการท่องเที่ยวแบบยั่งยืนได้ เช่น การบริโภคผลิตภัณฑ์ ผลผลิตจากท้องถิ่นที่ผลิตในสวิตเซอร์แลนด์ / สัมผัสบรรยากาศธรรมชาติของสวิตเซอร์แลนด์อย่างแท้จริงทั้งภูเขา ทะเลสาบ / เลือกการเดินทางท่องเที่ยวด้วยรถยนต์ไฟฟ้า และอยู่ต่อรวมถึงเข้าพักนานขึ้น (Stay Longer) เพื่อซึมซับธรรมชาติและเพิ่มประสบการณ์ท้องถิ่นในสวิตเซอร์แลนด์ และประเทศจะคงความดั้งเดิมของการท่องเที่ยวเพื่อให้นักท่องเที่ยวเลือกสวิตเซอร์แลนด์เป็นจุดหมายปลายทางในอนาคตตามพันธกิจ “ธรรมชาติของเราเป็นแรงขับเคลื่อนให้คุณ” (Our Nature Energizes You.)

มิสเตอร์อัวร์ส เคสเลอร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารการรถไฟยุงเฟรา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ กล่าวว่า ปัจจุบันพฤติกรรมของนักท่องเที่ยวทั่วโลกเริ่มมองหาการท่องเที่ยวแบบยั่งยืนมากขึ้น กลุ่มบริษัทรถไฟยุงเฟรา (Jungfrau Railway Group) จึงได้พัฒนารูปแบบการท่องเที่ยวที่ตอบโจทย์และแสดงให้เห็นว่าการเติบโตทางเศรษฐกิจผ่านการท่องเที่ยวและความยั่งยืนสามารถทำคู่ขนานไปด้วยกัน ทั้งนี้ได้กำหนดกลยุทธ์การใช้ทรัพยากรนิเวศอย่างยั่งยืนเช่น การใช้รถไฟและกระเช้าลอยฟ้า (Cable Car) ที่ใช้พลังงานหมุนเวียนทั้งหมด 100% นอกจากนี้ได้เตรียมจัดตั้งกองทุนความยั่งยืนระยะเวลา 10 ปี สำหรับการดูแลหมู่บ้านกรินเดิลวาลด์ (Grindelwald) และหมู่บ้านเลาเทอร์บรุนเนน (Lauterbrunnen) กรุงเบิร์น ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ และมีแผนที่จะสร้างระบบโซลาร์ขนาด 12 เฮกตาร์บนเทือกเขาแอลป์ โดยมีเป้าหมายเพื่อผลิตพลังงานให้ได้ 12 กิโลวัตต์ – ชั่วโมงต่อปี เพื่อจัดหาพลังงานให้กับ 3,000 ครัวเรือนในช่วงฤดูหนาวซึ่งเป็นช่วงที่ราคาไฟฟ้าแพงที่สุดเพราะมีความต้องการใช้มากที่สุด

นางสาวพัทธ์ธีรา อนันต์โชติพัชร ผู้บริหาร KTC World Travel Service และการตลาดหมวดสายการบิน “เคทีซี” หรือ บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า KTC World Travel Service หน่วยงานที่ดูแลและให้บริการด้านการท่องเที่ยวให้กับสมาชิกบัตรเครดิตเคทีซี ได้วางกลยุทธ์เพื่อกระตุ้นและส่งเสริมการท่องเที่ยวอย่างรับผิดชอบต่อเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน ดังนี้

  1. การสร้างความตระหนักรู้ให้กับนักท่องเที่ยวกับประสบการณ์ท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม ท้องถิ่น ธรรมชาติและชุมชน ผ่านช่องทางประชาสัมพันธ์ต่างๆ ของเคทีซี เพื่อแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวชุมชน ร้านค้า ร้านอาหารท้องถิ่น ร้านขายของฝาก ที่พักชุมชน ให้กับสมาชิกได้เข้าถึงข้อมูลแหล่งท่องเที่ยวได้สะดวกมากขึ้น
  2. การจัดทำโครงการนำร่อง “ท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนกับ KTC WORLD” ร่วมกับพันธมิตรท่องเที่ยวกว่า 10 รายทั้งในประเทศและต่างประเทศ คัดเลือกผลิตภัณฑ์กรีนโปรดักส์ด้านการทางท่องเที่ยวที่สะท้อนถึงการลดการปล่อยคาร์บอน หรือการเดินทางท่องเที่ยวแบบสาธารณะและชุมชนมากขึ้น อาทิ บัตรรถไฟ บัตรรถราง รถเช่าไฟฟ้า (EV) และแพคเกจท่องเที่ยวชุมชน โดยทุกยอดการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตเคทีซีกับกลุ่มผลิตภัณฑ์กรีนโปรดักส์ตั้งแต่ 10,000 บาทขึ้นไป สมาชิกจะได้รับคะแนนพิเศษ KTC FOREVER 1,000 คะแนน โดยจะเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม 2567 ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2567
  3. การมีส่วนร่วมกับพันธมิตรสร้างประโยชน์และคืนผลประโยชน์สู่ทรัพยากรการท่องเที่ยวและสิ่งแวดล้อม อาทิ การร่วมต่อยอดกับสายการบินคาเธ่ย์ แปซิฟิค ภายใต้โครงการ “บิน1 เที่ยว ปลูก 1 ต้น” (1 Ticket 1 Tree) ในการพัฒนาความยั่งยืนผ่านการปลูกต้นโกงกางในพื้นที่ป่าชายเลน เมื่อจองตั๋วกับสายการบินคาเธ่ย์ แปซิฟิค ทุกๆ 1 ใบ ผ่าน KTC World Travel Service เคทีซีจะช่วยสบทบร่วมปลูกต้นไม้เพิ่ม 1 ต้นตลอดปี 2567.-513-สำนักข่าวไทย
ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ธปท.ย้ำเร่งปลดล็อกบัญชีผู้บริสุทธิ์ ทำให้ร้านค้ามั่นใจ

กรุงเทพฯ 15 ก.ย. – ธปท. ย้ำทุกหน่วยงานร่วมกำหนดเงื่อนไขปลดล็อกบัญชีไม่มีเอี่ยวบัญชีม้า สิ้นเดือน ก.ย.นี้ เพื่อให้ร้านค้ามั่นใจรับโอนเงินซื้อสินค้า นางสาวดารณี แซ่จู ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับระบบชำระเงินฯ ธนาคารแห่งประเทศไทย กล่าวว่า จากปัญหาชาวบ้านถูกระงับธุรกรรมและระงับวงเงิน แต่ไม่ได้ระงับเงินในบัญชีในช่วงเดือนกันยายน 68 ตรวจพบบัญชีต้องสงสัยเฉลี่ย 10,000 บัญชี/สัปดาห์ ยอมรับว่าการคุมเข้มในช่วงที่ผ่านมา เพื่อต้องการกวาดเอาเส้นทางบัญชีที่เกี่ยวข้องเข้ามาตรวจสอบ ทั้งโอนเงินผ่าน e-money และคริบโตฯ ทำให้ประชาชนผู้บริสุทธิ์ได้รับผลกระทบในบางส่วน ในการทำธุรกรรมทางการเงิน ธปท. จึงเร่งหารือกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมกำหนดเงื่อนไขร่วมกันให้เสร็จภายในสิ้นเดือน ก.ย.นี้ “ธปท., ธนาคาร, ตำรวจ ศปอท. พร้อมปลดล็อกให้กับผู้บริสุทธิ์ มุ่งเน้นบัญชีจำนวนไม่มาก เช่นวงเงิน 100-500 บาท หรือร้านค้า ที่มีการซื้อของมาประกอบอาหารหรือสินค้าในร้านเป็นประจำในยอดที่ไม่สูงมากนัก กลุ่มเหล่านี้จะเร่งตรวจสอบ เพื่อแจ้งข้อมูลให้ลูกค้าบัญชีรับทราบ พร้อมทำอย่างรวดเร็ว และมุ่งทำความเข้าใจกับร้านค้า ให้เกิดความเชื่อมั่น และรับเงินโอนจากลูกค้า เพราะที่ผ่านมายอดปฏิเสธรับโอนเงินไม่สูงมากนัก หากตรวจสอบเสร็จแล้วคาดว่าใช้เวลา 2-3 ชั่วโมง ถึง 1 […]

ครอบครัวชินวัตร ถึงเรือนจำคลองเปรม เข้าเยี่ยม “ทักษิณ”

กทม. 15 ก.ย.-ครอบครัวชินวัตร ถึงเรือนจำคลองเปรม เข้าเยี่ยม “ทักษิณ” หลังครบ 5 วันกักโรค และกรมราชทัณฑ์ อนุญาตให้ญาติเข้าเยี่ยมได้วันนี้เป็นวันแรก นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความส่วนตัวของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ทำเรื่องขอเข้าเยี่ยมนายทักษิณ ที่เรือนจำกลางคลองเปรม หลังครบ 5 วัน การกักตัวเฝ้าระวังโรคโควิด-19 และกรมราชทัณฑ์ อนุญาตให้ญาติตามรายชื่อ 10 คน และทนายความ เข้าเยี่ยมได้วันนี้เป็นวันแรก โดยก่อนหน้านี้ พันตำรวจโท เชน กาญจนาปัจจ์ โฆษกกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยว่าอาการของนายทักษิณ โดยรวมดีขึ้น ความดันสูงก่อนหน้านี้ลงมาอยู่ในเกณฑ์ปกติ ซึ่งการเข้าเยี่ยมจะเป็นการพูดคุยผ่านกระจกใส เพื่อความปลอดภัย ล่าสุด ครอบครัวชินวัตรเดินทางมาถึงเรือนจำคลองเปรมแล้ว นำโดยคุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์, น.ส.พินทองทา ชินวัตร คุณากรวงศ์ ลูกสาวคนโต และ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี.-สำนักข่าวไทย

“บิ๊กเต่า” เปิดคดีใหม่ พระวัดดังเมืองปทุม เอี่ยวเงินวัดโยงสีกาเยอรมัน

บช.ก. 15 ก.ย. – “บิ๊กเต่า” เปิดคดีใหม่ พระวัดดังเมืองปทุมธานี เอี่ยวเงินวัดโยงสีกาเยอรมัน ฝากให้มาชี้แจงความบริสุทธิ์ หากไม่มาจะเสียหาย พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกระแสข่าวพระวัดดังจังหวัดปทุมธานี ที่มีความเกี่ยวข้องกับเงินวัดจำนวน 12.2 ล้านบาท ที่โอนเข้าบัญชีสีการายหนึ่ง ว่า เรื่องนี้ทราบว่ามีคนแจ้งความและเป็นคดีความอยู่ที่กองบังคับการปราบปรามแล้ว ขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการดำเนินการตรวจสอบ และได้ข้อมูลที่น่าสนใจมากพอสมควร ซึ่งสีกาคนดังกล่าวจะเกี่ยวข้องกับสีกาที่ทางตำรวจเพ่งเล็งอยู่หรือไม่จะต้องตรวจสอบในประเด็นนี้ด้วย แต่คดีนี้หลักๆ จะดูที่เส้นทางการเงินของบัญชีวัด หากพบใครเกี่ยวข้องก็จะต้องดำเนินการ ส่วนกรณีที่ทนายอนันต์ชัย ไชยเดช ประธานมูลนิธิทนายกองทัพธรรม นำหลักฐานออกมาโพสต์ผ่านโซเชียลนั้น ก็ถือว่ามีประโยชน์ต่อรูปคดี ส่วนจะเรียกเข้าสอบหรือไม่นั้นอยู่ระหว่างการพิจารณาของพนักงานสอบสวน ซึ่งคาดว่าอีกไม่นานเรื่องนี้จะชัดเจน มีรายงานว่าผู้ที่เกี่ยวข้องในเรื่องนี้พบว่ามี 8 คน รวมพระด้วยเป็น 9 คน จึงอยากฝากถึงพระว่า ให้มาชี้แจงความบริสุทธิ์ หากไม่มาจะเสียหายเนื่องจากมีหลักฐานจำนวนมาก.-419-สำนักข่าวไทย

บุกห้ามยายวัย 83 โอนเงินแก๊งคอลเซ็นเตอร์

กทม. 16 ก.ย.-บุกห้ามยายวัย 83 โอนเงินให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์เกือบ 5 ล้าน แต่ยายไม่ฟัง ไม่เชื่อว่าโดนหลอก ไล่ตำรวจกลับไป แถมโทรฟ้องมิจฉาชีพว่าตำรวจมากวน สุดท้ายเข้าแจ้งความแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.พระโขนง ตะโกนคุยกับคุณยายวัย 83 ปี ข้ามรั้วประตูบ้าน ว่า อย่าโอนเงินให้มิจฉาชีพอีก หลังธนาคารพบความผิดปกติ เนื่องจากคุณยายถอนเงินออกมาหลายล้านบาท จึงประสานงานไปที่ศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ AOC 1441 ให้แจ้งมายังตำรวจนครบาล เพื่อตรวจสอบการโอนเงินของคุณยายโดยด่วน ปรากฏว่า เมื่อตำรวจมาถึงบ้าน คุณยายไม่เชื่อ แถมยังคุยโทรศัพท์กับตำรวจปลอมในมือถือตลอดเวลา แล้วไม่เชื่อว่า ตำรวจที่มาหน้าบ้านเป็นตำรวจจริง จนตำรวจตัวจริงอ่อนใจ ทำได้เพียงแค่ประสานงานผู้นำในชุมชนให้ช่วยดูแลคุณยาย และเตือนเรื่องนี้ ล่าสุดคุณยายมาแจ้งความแล้ว เมื่อวันที่ 13 กันยายน แต่ยังไม่ได้เงินคืน ข้อมูลของตำรวจพบว่า คุณยายโอนเงินไปทั้งหมด 5 ครั้งครั้งแรกวันที่ 3 กันยายน ฝากเงินสดเข้าบัญชีธนาคารแห่งหนึ่ง 3.5 ล้านบาทวันที่ 4 กันยายน โอนเงินสดไป 400,000 บาทวันที่ […]

ข่าวแนะนำ

“อนุทิน” สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมือง ก่อนทูลเกล้าฯ ครม.

กทม 16 ก.ย.- “อนุทิน” สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมือง ไหว้ศาลหลักเมือง – วัดพระแก้ว ก่อนนำรายชื่อ ครม. ขึ้นทูลเกล้าฯ วันนี้ บอกเสร็จสิ้นภารกิจไปอีกเปราะ ขณะ “บิ๊กเล็ก” ว่าที่ รมว.กลาโหม รอรับ พลาดลื่นคะมำที่บันได นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เดินทางมายังศาลหลักเมือง หลังตรวจสอบรายชื่อคณะรัฐมนตรีที่สำนักงานเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสร็จสิ้นแล้ว โดยมี พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม รอต้อนรับ โดยจุดแรก นายกรัฐมนตรีได้สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์บริเวณหอพระ ซึ่งระหว่างทางที่จะเดินขึ้นไปยังหอพระ พล.อ.ณัฐพล ที่เดินตามข้างหลัง ได้ลื่นล้มทั้งตัวหน้าบริเวณหน้าบันไดทางขึ้นหอพระ คาดว่าเป็นเพราะถุงเท้าทำให้ลื่น แต่ พล.อ.ณัฐพล ได้ลุกอย่างรวดเร็ว และไม่ได้รับบาดเจ็บอะไร ขณะที่ผู้เห็นเหตุการณ์ร้องอุทานด้วยความตกใจ ต่อมา นายอนุทิน ได้ผูกผ้าแพร 3 สี ถัดจากนั้นได้ถวายพวงมาลัยศาลหลักเมือง และสักการะศาลเทพารักษ์ทั้ง 5 พร้อมเติมน้ำมันตะเกียงพระประจำวันเกิด ขณะที่ประชาชนที่มาสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ศาลหลักเมือง ต่างตะโกนให้กำลังใจนายอนุทิน “นายกฯ สู้ๆ” ก่อนที่นายอนุทินจะหันไปยกมือไหว้ขอบคุณ […]

ประชุมความร่วมมือไทย-กัมพูชา ปราบสแกมเมอร์

สระแก้ว 16 ก.ย.-วันนี้ที่จังหวัดสระแก้ว มีการประชุมสำคัญระหว่างไทยและกัมพูชา เพื่อหวังแนวทางร่วมมือในการปราบอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสแกมเมอร์.-สำนักข่าวไทย

ผู้ค้าทองคำเสนอตั้งเคลียริ่งเฮาส์ ค้านเก็บภาษีเทรดทอง

กรุงเทพฯ 16 ก.ย. – ราคาทองคำนิวไฮตามตลาดโลก การค้าทองคึกคัก ผู้ค้าทองคำค้านแนวคิดภาครัฐเก็บภาษีเทรดทองคำออนไลน์ เพื่อป้องกันบาทแข็งค่า ระบุถอยหลังเข้าคลอง ทำลายการค้า เสนอ ธปท. “ตั้งเคลียริ่งเฮาส์-ปรับสูตรดูแลค่าเงิน” นพ.กฤชรัตน์ หิรัณยศิริ ประธานกรรมการ กลุ่มบริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ แม่ทองสุก จำกัด (MTS Gold) กล่าวว่า ในการประชุมระหว่างผู้ค้าทองคำและธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) วานนี้ ทาง ธปท.มีการสอบถามความเห็นเรื่อง การที่กระทรวงการคลังอาจออกมาตรการเก็บภาษีในการซื้อ-ขายทองคำ โดยเฉพาะธุรกรรมออนไลน์และมีการชำระเป็นเงินบาท เพื่อลดผลกระทบจากการเคลื่อนไหวของราคาทองคำต่อเงินบาท ซึ่งทางผู้ค้าทองคำ คัดค้านเพราะจะกระทบต่อการค้าทองคำในองค์รวมของทั้งในและต่างประเทศ ทำลายระบบเศรษฐกิจ โดยในขณะนี้การค้าทองคำทั้งในและต่างประเทศแต่ละปีมีมูลค่ารวมกว่า 3 ล้านล้านบาท/ปี และความนิยมเทรดระบบออนไลน์เพิ่มสูงขึ้น ตามทิศทางเศรษฐกิจดิจิทัล ตอบสนองนพฤติกรรมคนรุ่นใหม่ ที่นิยมเทรดออนไลน์ทั้งผ่านแอปฯ ต่างๆ และเทรดผ่าน Gold Futures ตลาด TFEX ซึ่งเป็นการเทรดสัญญาซื้อขายล่วงหน้าที่อ้างอิงกับราคาทองคำภายในประเทศ โดยยอดเทรดเติบโตอย่างมากราว 9-20 ตัน/วัน หรือ 20,000-35,000 สัญญาต่อวัน […]

รอลุ้นโฉมหน้า ครม.อนุทิน 1 คาดช้าสุดทูลเกล้าฯ พรุ่งนี้

พรรคภูมิใจไทย 16 ก.ย.-รอลุ้นโฉมหน้า ครม.อนุทิน 1 คาดช้าสุดทูลเกล้าฯ พรุ่งนี้ หลังนายกฯ ลั่นเสร็จสิ้นภายในสัปดาห์นี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ความคืบหน้าการนำรายชื่อคณะรัฐมนตรีอนุทิน 1 คาดว่าจะมีความชัดเจนเร็วสุดในเย็นวันนี้ (16 ก.ย.) หรืออย่างช้าวันพรุ่งนี้ (17 ก.ย.) ซึ่งต้องรอความชัดเจนจากสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ขณะที่บรรยากาศพรรคภูมิใจไทยในช่วงเช้าวันนี้ยังคงเงียบเหงา มีแกนนำพรรคเดินทางเข้าที่ทำการพรรค อาทิ นายทรงศักดิ์ ทองศรี ว่าที่รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายศุภชัย ใจสมุทร ประธานคณะทำงานฝ่ายกฎหมายพรรคภูมิใจไทย ส่วนนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เบื้องต้นยังไม่มีกำหนดการเดินทางเข้าพรรคในวันนี้ อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้นายอนุทิน ได้ให้สัมภาษณ์ก่อนหน้านี้ไว้ว่า รายชื่อคณะรัฐมนตรีเสร็จสิ้นแล้ว ซึ่งจะสามารถทูลเกล้าฯ ถลายได้ภายในสัปดาห์นี้.-สำนักข่าวไทย