นนทบุรี 6 มี.ค. – งานแสดงสินค้าอาหาร หรืองาน THAIFEX เริ่มขึ้นแล้ว แต่ปีนี้จัดขึ้นภายใต้งานแสดงสินค้า THAIFEX – HOREC ASIA 2024 (ไทยเฟก โฮเร็ค เอเชีย) เนื่องจากได้ขยายธุรกิจการจัดงานครอบคลุมไปถึงกลุ่มอุตสาหกรรม HoReCa (โฮเรกา) หรือธุรกิจโรงแรม ร้านอาหาร และการจัดเลี้ยง เป็นครั้งแรก คาดปีนี้ดึงดูดผู้ซื้อจากทั่วโลก 20,000 ราย พร้อมผลักดันให้ไทยเป็นศูนย์กลาง HoReCa แห่งเอเชีย
นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดงานแสดงสินค้า THAIFEX – HOREC ASIA 2024 ซึ่งมีผู้ประกอบการ เข้าร่วมกว่า 300 บริษัท 722 คูหา จาก 24 ประเทศ ทั้งในโซนยุโรป อเมริกา และเอเชีย รวมประเทศไทยด้วย กว่า 120 บริษัท 270 คูหา ครอบคลุม 9 กลุ่มหลัก ได้แก่ เบเกอรี่และไอศกรีม คาเฟ่และบาร์ ธุรกิจ ทำความสะอาดและซักรีด อุปกรณ์รับประทานอาหาร กลุ่มเฟอร์นิเจอร์ อุปกรณ์เครื่องครัว ธุรกิจบริการด้านอาหาร เทคโนโลยี ธุรกิจการดูแลสุขภาพ และโซนพิเศษ HoReCa World
“ธุรกิจโฮเรกา (HoReCa) เป็นกลุ่มธุรกิจที่มีบทบาทสำคัญในการรองรับความต้องการของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว ซึ่งสอดคล้องกับวิสัยทัศน์ Thailand Vision ที่รัฐบาล ตั้งเป้าหมายให้ประเทศไทยก้าวเป็น ศูนย์กลางเมืองท่องเที่ยว (Tourism Hub) ซึ่งไทย มีนักท่องเที่ยวเดินทางมาเยือน อันดับ 8 ของโลก อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวสร้างรายได้คิดเป็นมูลค่ากว่า 2.3 ล้านล้านบาท การเติบโตของการท่องเที่ยวจึงมีความเกี่ยวข้องโดยตรงต่อการขยายตัวของธุรกิจโฮเรกา จากข้อมูลการจดทะเบียนธุรกิจ เรามีผู้ประกอบการธุรกิจโรงแรมและรีสอร์ท 11,540 ราย ธุรกิจร้านอาหาร 21,695 ราย และธุรกิจจัดเลี้ยง 606 ราย ซึ่งยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง“ นายภูมิธรรม กล่าว
อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมารัฐบาล ยึดหลักการทำงานเป็นรัฐสนับสนุนเพื่อแก้ไขอุปสรรคต่างๆ เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับประชาชนและภาคธุรกิจให้ได้มากที่สุด ในส่วนของการส่งเสริมภาคท่องเที่ยว เริ่มด้วยการเปิดฟรีวีซ่า จีน คาซัคสถาน อินเดีย และเตรียมจะเจรจาวีซ่าโซนยุโรป ทำให้ไทย เป็นศูนย์กลางการเดินทางในภูมิภาค หลังจากนี้จะต้องเร่งหาช่องทางให้ทุกจังหวัดใช้ศักยภาพระดับพื้นที่ มารองรับการท่องเที่ยวที่จะขยายตัวมากขึ้น
นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทย ย้ำว่าการยกระดับงาน THAIFEX – HOREC ASIA 2024 เป็นปีนี้แรกนี้ ได้รับการตอบรับเกินเป้าหมาย และสอดคล้องกับการส่งเสริมการท่องเที่ยวของรัฐบาล รวมทั้งจะได้เห็นความก้าวหน้า ของอุตสาหกรรมในกลุ่มนี้ เพราะภายในงานจะเน้นการนำเสนอสินค้าที่ตอบโจทย์เทรนของโลก เช่น Sustainability แสดงความรับผิดชอบและใส่ใจสิ่ งแวดล้อม ระบบไร้สัมผัส ระบ บาทดิจิทัล อาหารจากพืช การจัดการขยะอาหาร และเทคโนโลยีเพิ่มประสิทธิภาพพลังงาน รวมไปถึงการสัมมนาให้ความรู้ คาดว่าตลอด 3 วัน ของการจัดงาน ตั้งแต่วันที่ 6-8 มี.ค.67 ที่ อาคาร 9-12 ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมอิมแพ็ค เมืองทองธานี ผู้เข้าชมงานไม่น้อยกว่า 20,000 ราย มีเงินสะพัดกว่า 1,000 ล้านบาท.-514-สำนักข่าวไทย