กรุงเทพฯ 23 ก.พ. – คลังเดินหน้าเร่งรัดใช้จ่ายงบปี 67 กำชับ งบลงทุนปีเดียว ก่อหนี้ผูกพัน เสร็จภายใน มิ.ย. 67 รัฐวิสาหกิจต้องลงนามสัญญาภายใน มี.ค. 67
นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการติดตามเร่งรัดการเบิกจ่ายงบประมาณและการใช้จ่ายภาครัฐ รับทราบผลการเบิกจ่ายงบประมาณรายจ่าย 2566 ไปพลางก่อน ตั้งแต่ต้นปีงบประมาณจนถึง 9 กุมภาพันธ์ 2567 เบิกจ่ายแล้ว 1.32 ล้านล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 64.64 ของเงินจัดสรร 1.816 ล้านล้านบาท จำแนกเป็น รายจ่ายประจำ เบิกจ่ายแล้วจำนวน 1,104,510 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 66.29
สำหรับเป้าหมายการเบิกจ่ายงบประมาณ 2567 กำหนดเป้าหมายภาพรวมร้อยละ 93 เป็นการเบิกจ่าย รายจ่ายประจำร้อยละ 98 เบิกจ่ายงบลงทุนร้อยละ 75 โดยกรมบัญชีกลางได้แจ้งให้หน่วยรัฐ ตามหนังสือสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ด่วนที่สุด ที่ นร 0505/ว 77 ลงวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2567 เพื่อเร่งรัดการใช้จ่ายงบประมาณ 2566 ไปพลางก่อน ดังนี้
1. ให้เร่งส่งเงินจัดสรรต่อไปยังสำนักงานในส่วนภูมิภาคภายใน 5 วัน นับแต่วันที่ได้รับอนุมัติเงินจัดสรร เพื่อให้ส่วนภูมิภาคใช้จ่ายหรือก่อหนี้ผูกพันต่อไป
2. รายการลงทุนปีเดียวให้ก่อหนี้ผูกพันให้แล้วเสร็จภายในเดือนมิถุนายน 2567 ส่วนรายการผูกพันใหม่ให้ก่อหนี้ผูกพันให้แล้วเสร็จภายในเดือนกรกฎาคม 2567
3. ให้หัวหน้าหน่วยส่วนราชการ เร่งรัดก่อหนี้และเบิกจ่ายเงินงบประมาณให้แล้วเสร็จโดยเร็ว กระทรวงคลัง กำหนดให้รัฐวิสาหกิจ เบิกจ่ายงบลงทุน ไม่น้อยกว่าร้อยละ 95 ของกรอบงบลงทุน และเป็นตัวชี้วัดของผู้บริหารสูงสุดของรัฐวิสาหกิจ ต้องเร่งลงนามในสัญญาภายในเดือนมีนาคม 2567 สำหรับรัฐวิสาหกิจ ใช้เงินงบประมาณในการลงทุน ให้เตรียมความพร้อมเพื่อให้สามารถลงนามในสัญญาได้ทันทีเมื่อได้รับการจัดสรรงบประมาณ การปรับแผนการเบิกจ่าย ช่วงเดือนมกราคม 2567 – มิถุนายน 2567 (Front – Loaded) และหลีกเลี่ยงการกระจุกตัวของการเบิกจ่ายงบลงทุนในไตรมาสสุดท้าย
การให้รัฐวิสาหกิจปีปฏิทินปรับปรุงงบลงทุนระหว่างปี 2567 ให้แล้วเสร็จภายในไตรมาสแรก สำหรับรัฐวิสาหกิจปีงบประมาณ ที่ยังปรับปรุงไม่แล้วเสร็จ ให้ดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในเดือนมีนาคม 2567 การให้กระทรวงเจ้าสังกัดกำกับดูแลการเบิกจ่ายให้ได้ตามเป้าหมาย สำหรับ หน่วยงานของรัฐ ให้เตรียมการจัดซื้อจัดจ้าง ภายในของหน่วยงานของรัฐไว้ก่อน เพื่อจัดซื้อจัดจ้างในปีงบประมาณ 67 เพื่อให้การดำเนินงานมีความรวดเร็วยิ่งขึ้น.-515-สำนักข่าวไทย