กรุงเทพฯ 23 ก.พ.-ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์การลงทุน บล. หยวนต้า (ประเทศไทย) ในสัมภาษณ์ในรายการนาทีลงทุน ช่อง 9MCOTHD หมายเลข 30 ถึงทิศทางตลาดทุนไทย และ ปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตามสัปดาห์หน้า
นายณัฐพล คำถาเครือ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์การลงทุน บล. หยวนต้า (ประเทศไทย) ในสัมภาษณ์ในรายการนาทีลงทุน ช่อง 9MCOTHD หมายเลข 30 ถึงทิศทางตลาดทุนไทย และ ปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตามสัปดาห์หน้าว่า ตลาดทุนไทยมี Momentumไปต่อได้ในแง่ของปัจจัยพื้นฐาน แม้ว่าผลประกอบการไตรมาส4 ส่วนใหญ่จะออกมาใกล้เคียงกับที่คาดการณ์ หรือ ต่ำกว่าคาด แต่เมื่อประกาศออกมาแล้ว จะเห็นว่ามีการซื้อกลับเนื่องจากนักลงทุนคาดหวังว่า จะเห็นผลประกอบการฟื้นตัวในไตรมาส 1 เนื่องจากไตรมาส4 การบริโภคและการท่องเที่ยวทรุดตัวลงไป และไตรมาส1 มีการฟื้นตัวกลับเข้ามาอย่างชัดเจนมาก จึงคาดหวังว่าผลประกอบการที่ประกาศออกมา
โดยเฉพาะพวกหุ้น Domestic play อีกประเด็นหนึ่งก็คือหลายบริษัทขนาดใหญ่ประกาศปันผลออกมาอย่างน่าประทับใจโดยเฉพาะกลุ่มธนาคารพาณิชย์ ที่ส่วนใหญ่ตัวเลขปันผลที่ประกาศออกมาสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ ช่วยเรียก Fund Flow เข้ามาได้มาก เพราะนักลงทุนต่างชาติชอบลงทุนในหุ้นกลุ่มธนาคารพาณิชย์ เพื่อคาดหวังเงินปันผล ฉะนั้นในแต่ละปีนักลงทุนต่างชาติจะเข้ามาสองรอบ คือครึ่งปีหลังอย่างช่วงนี้ flow ก็จะเข้ามา อีกช่วงคือครึ่งปีแรกที่จะประกาศกัน คือช่วงเดือนกรกฎาคม-สิงหาคม Flow ก็จะเข้ามาเพื่อรับปันผล รอบนี้ถือว่าทำได้ค่อนข้างดี ก็เลยมองว่าในเชิง Fundamental ประกอบกับการที่หุ้นไทยยืนอยู่ที่ 1,400 จุดได้ ก็น่าจะเห็น Fundamental ไต่ระดับขึ้นต่อได้ ควบคู่กับการที่ตลาดหลักททรัพย์ฯ ออกมาเรียกความเชื่อมั่นให้กับตลาดทุน ซึ่งถือว่าทำได้ค่อนข้างดี และจะสะท้อนทิศทางตลาดทุน
โดยเฉพาะเรื่องการทำธุรกรรม short sell ที่เชื่อว่าหลังจากนี้จะทำได้ยากขึ้น และจะทำให้หุ้นที่มีขนาดเล็ก ขนาดกลางที่มี Market Cap ต่ำว่า 7,500 ล้านบาท ถูกขับออกจากตระกร้าที่สามารถ short sell ได้ ซึ่งหุ้นที่สามารถทำ short sell ได้จะมีจำนวนน้อยลง จึงช่วยปกป้องนักลงทุนได้ และหากราคาหุ้นปรับตัวระหว่างวันมากเกินไป เช่น ปรับลดลง 10% ก็ไม่สามารถ short ซ้ำได้ เป็นลักษณะของการวางขวาง นอกจากนี้ยังมีเรื่องการเปิดเผยข้อมูลที่นักวิเคราะห์สามารถเข้าไปใช้ประโยชน์ได้มากขึ้น ส่วนเรื่องของโปรแกรม Trading โดยโปรแกรมเทรดที่ใช้ Market maker คงไม่ได้มีผลกระทบ ส่วนเรื่องของ Portfolio management สำหรับการลงทุนระยะยาวก็ไม่ได้มีผลกระทบ แต่โฟกัสไปที่ HFP ซึ่งใครจะเข้ามาลงทุนบ้านเราต้องลงทะเบียนก่อน ซึ่งจะทำให้ HFP มีคุณภาพมากขึ้น เมื่อวานจึงเป็นครั้งแรกที่เห็นพัฒนาการเชิงบวกในการเรียกความเชื่อมั่นให้กับตลาดทุนไทย.-517-สำนักข่าวไทย