หอการค้าไทยชู 4 แผนเสนอนายกฯ หวังดัน GDP ไทยปีนี้โตเกิน 3%

กรุงเทพฯ 23 ก.พ.-ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ชู 4 แผนรับมือการเปลี่ยนแปลง 4 แผนเชิงรุกสอดรับ วิสัยทัศน์ไทย 8 ข้อของรัฐบาล หนุน GDP ไทยปีนี้ โตเกิน 3%


นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เปิดเผยหลังรับฟังนายกรัฐมนตรีแถลง 8 วิสัยทัศน์จุดพลังศักยภาพประเทศไทยเป็นที่ 1 ในภูมิภาค ทั้ง 8 ด้าน TOURISM HUB, WELLNESS & MEDICAL HUB, AGRICULTURE & FOOD HUB, AVIATION HUB, LOGISTIC HUB, FUTURE MOBILITY HUB,  DIGITAL ECONOMY HUB และ FINANCIAL HUB ซึ่งถือเป็นเรื่องที่ดีที่รัฐบาลมีความตั้งใจที่จะวางวิสัยทัศน์ของประเทศในระยะยาว และยุทธศาสตร์ที่นำมาเสนอนั้นถือว่ามีเป้าหมายที่ชัดเจน สามารถเสริมสร้างขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศไทยอย่างยั่งยืน สอดคล้องกับแนวคิด Connect Competitive Sustainable ของหอการค้าไทย ที่ใช้เป็นแนวทางขับเคลื่อนเศรษฐกิจของภาคเอกชน

ทั้งนี้ ต้องยอมรับว่าประเทศไทยเจอความท้าทายที่หลากหลายในปีที่ผ่านมา ทำให้ GDP ในปี 2566 เติบโตได้ไม่เป็นไปตามที่คาดประมาณการไว้ ทั้งเศรษฐกิจโลกผันผวน – เปลี่ยนผ่านรัฐบาลช้ากระทบงบประเทศ – วิกฤตหนี้ครัวเรือน – ดอกเบี้ยสูง – รวมถึงกำลังผลิตหดตัวต่อเนื่อง ทำให้ GDP ที่งปี 2566 เติบโตเพียง 1.9% แม้ว่าเศรษฐกิจไทยสามารถฟื้นตัวได้อย่างต่อเนื่อง แต่ยังถือว่าเติบโตต่ำกว่าศักยภาพและประเทศเพื่อนบ้าน สำหรับปี 2567 นี้ หากรัฐบาลสามารถดำเนินการผลักดันตามยุทธศาสตร์แต่ละด้าน พร้อมกับเร่งให้งบประมาณรายจ่ายประจำปีออกมาใช้ได้รวดเร็วในช่วงต้นเดือนเมษายนตามที่ได้แถลงไว้ จะทำให้งบประมาณกระจายสู่พื้นที่ต่างๆ และเกิดเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจมากขึ้น


หอการค้าฯ มองว่า ประเทศไทยกำลังเผชิญหน้ากับ 4 การเปลี่ยนแปลงสำคัญ ที่ภาครัฐและเอกชนจะต้องช่วยกันแก้ไขปัญหาและทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิด ได้แก่  

1. Geopolitical Change ความไม่แน่นอนของสถานการณ์ความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ในหลายภูมิภาค การชะลอตัวของเศรษฐกิจจีน ความกังวลและความคาดหวังต่อการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐ รวมถึงผลการเลือกตั้งผู้นำของสหรัฐและหลายประเทศในปีนี้ จะมีส่วนทำให้เกิดความผันผวนของนโยบายเศรษฐกิจโลกและกระทบต่อเศรษฐกิจไทยโดยตรง ที่ผ่านมาต้องขอบคุณภาครัฐที่ทำให้ประเทศไทยสามารถวางตัวเป็นกลาง รวมถึงที่เห็นชัดคือท่านนายกฯ เป็น Good Salesman ขยันขันแข็งลงพื้นที่เจรจากับประเทศต่างๆ เพื่อสร้างโอกาสให้ประเทศไทย ตลอดจนมีมาตรการส่งเสริมและสร้างความมั่นใจให้กับนักลงทุนและนักท่องเที่ยวต่างประเทศ ในส่วนนี้ภาคเอกชนพร้อมสนับสนุนรัฐบาลเป็น Team Thailand Plus ในการปลดล็อคส่งเสริมภาคการค้า การลงทุน และการท่องเที่ยว นำไปสู่การสร้างความเชื่อมั่น สร้างโอกาสในการเติบโตของเศรษฐกิจไทย

2. Technology Change ปัจจุบัน AI Technology เข้ามามีส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจประเทศทุกมิติ ไทยจึงจำเป็นต้องให้ความจริงจังกับเรื่อง Digital Transformation โดยนำ Digital Technology มาใช้ก้าวข้ามการทำงานรูปแบบเดิมๆ ที่มีขั้นตอนเยอะ ทำให้สามารถเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานได้มากยิ่งขึ้น การที่รัฐบาลประกาศว่าประเทศไทยจะเป็น Digital Economy Hub ภาคเอกชนมองว่าเป็นเรื่องที่ดี แต่ยังต้องเสริมเรื่องการยกระดับ Innovation และ Digital ซึ่งเป็นสิ่งประเทศไทยยังขาดอยู่ จึงเสนอให้ภาครัฐยกระดับมาตรการ Talent immigration policy เพื่อดึงดูดคนต่างชาติที่เก่งเข้ามาทำงานและอยู่อาศัยในประเทศไทยจะช่วยให้เกิดการสร้างงาน รวมถึงการถ่ายทอดเทคโนโลยีและทักษะสมัยใหม่ โดยรัฐบาลควรมีมาตรการ Incentive ที่เหมาะสมเช่น การอำนวยความสะดวกเรื่อง Visa และ Work permit มาตรการทางภาษี มาตรการพำนักอยู่อาศัยที่เหมาะสม เป็นต้น นอกจากนี้เรื่อง e-Government หอการค้าฯ ยังได้ร่วมกับ สำนักงาน ก.พ.ร. และ กระทรวงพาณิชย์ ยกระดับ Ease of Doing Business ทั้งการปรับปรุงกฎระเบียบ การลดขั้นตอนการติดต่อ การขอและการเซ็นเอกสารจำนวนมากให้แล้วเสร็จภายในปีนี้เพื่อช่วยลดระยะเวลาและต้นทุนให้กับผู้ประกอบการ


3. Population Change ประเทศไทยกำลังเผชิญกับปัญหาโครงสร้างประชากรจากแนวโน้มจำนวนเด็กเกิดใหม่ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อการขาดแคลนแรงงานภายในประเทศในอนาคตอันใกล้ ดังนั้น รัฐบาลควรมีนโยบายเพิ่มจำนวนประชากรและพัฒนาประชากรให้มีคุณภาพ เพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงของโลก และสร้างคนไทยให้กลายเป็น Global Citizen ที่มีคุณภาพ  ผ่านการยกระดับ Upskill Reskill อย่างต่อเนื่อง ส่วนนี้ต้องอาศัยการทำงานที่สอดประสานกันระหว่างภาครัฐ โดยที่ผ่านมาหอการค้าฯ ร่วมมือกับ Harbour Space ซึ่งเป็น Startup University แบบใหม่ เข้ามาช่วยยกระดับทักษะใหม่ๆ ขับเคลื่อนการศึกษาที่ตอบโจทย์โลกอนาคต โดยนำคนเก่งจากทั่วโลกมาสอนนักศึกษาในประเทศไทย สร้าง Young Talent ด้าน IT เพื่อสร้างขีดความสามารถในการแข่งขันให้ทัดเทียมประเทศอื่นๆ ในเวทีโลก นอกจากนั้น หอการค้าไทยยังส่งเสริมและเปิดโอกาสให้คนรุ่นใหม่ที่มีศักยภาพมีบทบาทและมีส่วนร่วมในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจแต่ละจังหวัด โดยกลุ่มคนรุ่นใหม่ YEC ของหอการค้าไทย ได้มีส่วนร่วมไป Connect เครือข่ายกับกลุ่ม Young ในภูมิภาคมากขึ้น พร้อมกันนั้น มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ยังได้เปิดตัวสู่การเป็น AI University นำการเรียนการสอนแบบใหม่มาใช้ในการเรียนการสอน โดยใช้ AI เข้ามาเป็นผู้ช่วยในการทำงาน รวมถึงการพัฒนาทักษาะภาษาผ่าน App Duolingo เป็นต้น

4. Climate Change ปัญหาเรื่องสภาพอากาศเปลี่ยนแปลงช่วงที่ผ่านมาส่งผลกระทบทางตรงต่อประเทศไทย โดยเฉพาะสิ่งจำเป็นที่ต้องเร่งดำเนินการคือการบริหารจัดการน้ำและแก้ไขปัญหาฝุ่นควันอย่างเป็นระบบ ปีนี้ต้องยอมรับว่ายังมีความกังวลต่อปัญหาภัยแล้งที่จะส่งผลต่อผลผลิตภาคเกษตรจากสภาวะเอลนีโญ (El Niño) 

รวมถึงปัญหา PM 2.5 ที่อาจส่งผลกระทบต่อบรรยากาศการท่องเที่ยว ซึ่งทั้งหมดนี้ล้วนแต่เป็นโจทย์สำคัญที่รัฐบาลจะต้องเตรียมแผนระยะสั้นเพื่อรับมือ และวางมาตรการระยะยาวเพื่อไม่ให้ปัญหาดังกล่าวส่งผลกระทบวงกว้างในภาคการเกษตร ภาคการท่องเที่ยวและบริการที่เป็นกำลังสำคัญของเศรษฐกิจไทยในอนาคต ทั้งนี้ ภาคเอกชนเห็นว่ารัฐบาลเคยมีแผนบริหารจัดการน้ำเดิมอยู่แล้ว หากสามารถนำมาปรับปรุงและเชื่อมโยงโครงข่ายการจัดการน้ำทั่วประเทศ จะช่วยทำให้ภาคเกษตรมีความั่นคง ขณะเดียวกันภายในไตรมาส 2 ของปีนี้ หอการค้าฯ มีแผนนำคณะเดินทางไปเจรจาและหารือกับหน่วยงานรัฐและเอกชนประเทศเนเธอร์แลนด์ หนึ่งในประเทศผู้นำด้านการส่งออกผลผลิตภาคการเกษตรลำดับต้น ๆ ของโลก ในการถ่ายทอดองค์ความรู้และเทคโนโลยีที่ทันสมัย เพื่อเพิ่มผลผลิต พัฒนาการแปรรูป นำไปสู่การยกระดับรายได้และสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีของเกษตรกรไทย พร้อมกันนั้น การที่รัฐบาลประกาศแนวทางเรื่อง Net Zero Carbon ภาคเอกชนก็พร้อมที่จะช่วยให้ผู้ประกอบการปรับตัวเข้าสู่การค้ารูปแบบใหม่ที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อมร่วมกัน ผ่านมาตรการสิ่งจูงใจสำหรับการพัฒนาเศรษฐกิจที่เป็นมิตรแก่ธรรมชาติ (Nature Positive Economy)

ทั้งนี้ นอกเหนือจาก 4 แผนรับมือการเปลี่ยนแปลงข้างต้นแล้ว หอการค้ายังพร้อมจะดำเนินการ 4 แผนเชิงรุก เสริมกับภาครัฐให้เกิดการลงมือทำร่วมกันดังนี้

1. ดูแลอัตราดอกเบี้ยและการสนับสนุนแหล่งเงินทุน ปัจจุบันภาคธุรกิจถูกกดดันจากอัตราดอกเบี้ยที่ยังอยู่ในระดับสูงและสถาบันการเงินก็มีความเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อ หอการค้าฯ จึงอยากให้รัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เข้ามาดูแลอัตราดอกเบี้ยที่สูงอยู่ในขณะนี้ ซึ่งจะช่วยลดภาระของประชาชนและลดต้นทุนผู้ประกอบการ รวมถึงเสนอให้มีมาตรการใหม่ ๆ ช่วยเหลือ SMEs ให้เข้าถึงแหล่งเงินทุน (เติมทุน แก้หนี้ และขยายกิจการ) ซึ่งที่ผ่านมาแม้ทุกฝ่ายจะมีความตั้งใจดีที่อยากช่วยเหลือผู้ประกอบการและประชาชน ในการเข้าถึงแหล่งเงินทุนแต่ยังไม่เกิดการทำงานที่เชื่อมโยงกัน 

ยกตัวอย่าง การปล่อยสินเชื่อหรือการแก้หนี้ที่ภาครัฐพยายามช่วยเหลืออยู่ หากมองไปในระดับภูมิภาค สถาบันทางการเงิน แต่ละสาขาไม่มีอำนาจในการตัดสินใจ ไม่รู้แนวทางที่ชัดเจน จึงไม่กล้าปล่อยสินเชื่อหรือปล่อยแบบดอกเบี้ยอัตราเสี่ยงสูง ส่วนนี้หอการค้าจังหวัดทั่วประเทศที่มีความใกล้ชิดกับผู้ประกอบการสามารถเข้าไปทำหน้าที่เป็นตัวกลางประสานงาน และขัดกรองผู้ประกอบการที่ยังมีศักยภาพให้กับสถาบันการเงิน เพื่อเข้าถึงสินเชื่อได้อย่างรวดเร็วพร้อมฟื้นฟูและขยายกิจการ ขณะเดียวกันก็ช่วยทำให้สถาบันการเงินเกิดความมั่นใจในการปล่อยสินเชื่อไปพร้อมกัน นอกจากนี้ ในประเด็นหนี้นอกระบบที่ภาครัฐประเมินตัวเลขไว้ประมาณ 5 แสนล้านบาท ส่วนภาคเอกชน (กกร.) ประเมินไว้ 3 ล้านล้านบาท ซึ่งยังมีจำนวนและความคลาดเคลื่อนกันมากนั้น กกร.อยู่ระหว่างการสำรวจและประเมินตัวเลขหนี้ระบบของประเทศให้ชัดเจน ก่อนนำเสนอตัวเลขให้รัฐบาลได้พิจารณาถึงแนวทางการช่วยเหลือกลุ่มต่าง ๆ ได้อย่างตรงจุด

2. การสนับสนุนการท่องเที่ยวคุณภาพสูง ปี 2567 จะเป็นอีกปีที่ภาคการท่องเที่ยวเติบโตโดดเด่น จากตัวเลขนักท่องเที่ยวต่างชาติตั้งแต่ต้นปีถึงถึงกลางเดือนกุมภาพันธ์กว่า 5 ล้านคน โดยคาดการตัวเลขนักท่องเที่ยวต่างชาติทั้งปีประมาณ 35 ล้านคน และอาจทะลุถึง 38 ล้านคนได้ ทั้งนี้ ต้องขอบคุณรัฐบาลที่ให้ความสำคัญกับมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยว การยกเว้นการตรวจลงตรา (VISA FREE) ความพยายามในการเพิ่มเที่ยวบินจากต่างประเทศ และการกระตุ้นกิจกรรมท่องเที่ยวในรูปแบบงาน Event ต่างๆ ตลอดทั้งปี เช่น การจัดเทศกาลสงกรานต์และเพิ่มวันหยุดยาวช่วงดังกล่าวเชื่อว่าเทศกาลมหาสงกรานต์ปีนี้จะคึกคักมากเป็นพิเศษอย่างแน่นอน รวมถึงหากสามารถจัดการเรื่องการเพิ่มเที่ยวบินและปรับราคาให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม สนับสนุนเงินทุนให้กับผู้ประกอบการในการพัฒนาคุณภาพ และเพิ่มกำลังการรองรับที่เพียงพอ จะยิ่งเป็นปัจจัยสนับสนุนให้ภาคการท่องเที่ยวกลับมาคึกคักได้อย่างต่อเนื่อง 

นอกจากนั้น หอการค้าฯ และหน่วยงานด้านการท่องเที่ยวยังมุ่งขยายผลการท่องเที่ยวคุณภาพสูง (Happy Model) โดยเฉพาะจังหวัดที่เป็นเมืองรอง ถือเป็นการโปรโมทแหล่งท่องเที่ยวใหม่ๆ ที่มีศักยภาพ ทำให้นักท่องเที่ยวกลับมาเที่ยวไทยซ้ำในพื้นที่ใหม่ จะช่วยกระจายรายได้ให้กับผู้ประกอบการทั่วประเทศมากยิ่งขึ้น เสริมกับแผนงาน Soft Power ที่ทำร่วมกับภาครัฐ เชื่อว่าจะช่วยเพิ่มมูลค่าให้สินค้าและบริการในพื้นที่ดึงดูดจุดเด่นของแต่ละจังหวัด เช่น งานปลาร้า หมอลำ ที่หอการค้าฯ จะเป็นแกนหลักในการผลักดันไปสู่ Event ใหญ่ของจังหวัดขอนแก่นปลายปีนี้

3. ยกระดับจังหวัดสู่เมืองหลักที่เข้มแข็งพร้อมการกระตุ้นภาคอสังหาริมทรัพย์ในประเทศ หอการค้าฯ และรัฐบาลอยู่ระหว่างเตรียมการรผลักดันโครงการพัฒนาเมืองรอง 10 จังหวัดนำร่อง ได้แก่ จังหวัด นครพนม ศรีสะเกษ แพร่ ลำปาง นครสวรรค์ กาญจนบุรี ราชบุรี จันทบุรี ตรัง และนครศรีธรรมราช ที่ถือเป็นบิ๊กโปรเจคที่หอการค้าฯ และรัฐบาลจะร่วมกันดันเศรษฐกิจในระดับจังหวัดให้เติบโตอย่างก้าวกระโดด ทั้งการท่องเที่ยว การลงทุน และระบบ Infrastructure โดยภาคเอกชนพร้อมที่จะเริ่มกระตุ้นการลงทุนในท้องถิ่นอย่างจริงจัง ซึ่งจะเป็นโมเดลขยายผลกับจังหวัดอื่น ๆ ในระยะต่อไป 

ในส่วนของภาคอสังหาริมทรัพย์ ต้องขอขอบคุณรัฐบาลที่ได้ขยายเวลาลดค่าธรรมเนียมการโอน การจดจำนองเมื่อปลายปีที่ผ่านมา เพื่อให้ประชาชนรายย่อยซื้อบ้านในราคาที่ไม่สูงมากและสนับสนุนให้ประชาชนมีที่อยู่อาศัยมากขึ้น ขณะที่ผู้ประกอบการอสังหารายย่อยสามารถยื่นขอส่งเสริมจากบีโอไอ สร้างบ้านอยู่อาศัยในราคาไม่เกิน 1.5 ล้านบาทต่อหน่วย จะช่วยให้เกิดเม็ดเงินหมุนเวียนในภาคอสังหาริมทรัพย์และธุรกิจอื่น ๆ ใน Value Chian เพราะเป็นธุรกิจต้นน้ำที่สร้างมูลค่าเพิ่มและส่วนใหญ่เป็น Local Content นอกจากนี้ ภาคเอกชนยังอยากให้รัฐบาลได้พิจารณามาตรการลดหย่อนภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างออกไปต่อ เพื่อลดภาระของประชาชนและผู้ประกอบการในช่วงที่เศรษฐกิจยังฟื้นตัวไม่เต็มที่

4. การส่งเสริมการค้าการลงทุนระหว่างประเทศ การเร่งเดินหน้าเจรจา FTA เพื่อขยายตลาดการค้า การลงทุน ที่มีศักยภาพและมีโอกาสเติบโตสูง เช่น ซาอุดิอาระเบีย เวียดนาม และอินเดีย เป็นต้น ควบคู่ไปกับการดำเนินนโยบาย FDI อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะกลุ่ม Tech company เพื่อดึงดูดเม็ดเงินลงทุนใหม่ ๆ เข้าประเทศ ยกตัวความสำเร็จที่รัฐบาลสามารถดึง บริษัท Ctrls จากอินเดียเข้ามาลงทุน Data Center ในพื้นที่ EEC ได้ จะช่วยยกระดับประเทศ สร้าง Innovation ecosystem เตรียมความพร้อมให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางดิจิทัลในภูมิภาค จะมีส่วนช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจภายในประเทศได้อย่างมหาศาล มหาศาล ซึ่งหอการค้าไทยและเครือข่าย พร้อมร่วมมือกับภาครัฐ กระทรวงพาณิชย์ กระทวงต่างประเทศ สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) และสำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ในการรักษาตลาดคุณภาพเดิมควบคู่ไปกับการเดินหน้าขยายตลาดการค้า การลงทุน ใหม่ ที่มีศักยภาพและมีโอกาสเติบโตสูง ร่วมกัน ยกตัวอย่าง เช่น การจัดงานแสดงสินค้า ThaiFEX ร่วมกับกระทรวงพาณิชย์ในกลางปีนี้ ที่ถือเป็นงานแสดงสินค้าด้านอาหาร ระดับ Top ของโลก

อย่างไรก็ตาม หอการค้าไทยและเครือข่ายพร้อมให้การสนับสนุนภาครัฐอย่างเต็มขีดความสามารถ และเชื่อว่าหากภาคเอกชนและภาครัฐผสานการทำงานร่วมกันตามข้อเสนอแนะ ทั้ง 4 แผนรับมือการเปลี่ยนแปลง และ 4 แผนงานเชิงรุก จะยิ่งเป็นกำลังเสริมให้ขับเคลื่อนเศรษฐกิจประเทศไทยเติบโตเกิน 3% ได้.-514-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ออกหมายจับ 5 คนแก๊ง “เสือปุ่น” ปล้นเงินสด 3.4 ล้าน

กทม. 1 ก.ค.-ออกหมายจับ 5 คนแก๊ง “เสือปุ่น” ปล้นเงินสด 3.4 ล้านตุ๋นแลกคริปโตฯ ชุดสืบปูพรมล่า จากกรณีกลุ่มคนร้าย 7 คน ก่อเหตุปล้นทรัพย์ เงินสด 3.4 ล้านบาท โดยใช้อาวุธมีดจี้ ข่มขู่ผู้เสียหาย 3 คน ที่มาซื้อเงินคริปโตเคอร์เรนซี่ สกุลเวิน USDT จำนวน 100,000 ดอลล่า ภายในลานจอดรถศูนย์การค้าชื่อดังย่านลาดพร้าว แขวงและเขตจตุจักร กทม. เมื่อช่วงเวลา 19.30 น. ของวานนี้ (30 มิ.ย.) ภายหลัง พล.ท.สยาม บุญสม ผบช.น. และ พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. นำชุดสืบสวนเร่งรัดติดตามตัว จนสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ 2 ราย คือ นายเฌอพัชญ์ หรือหนาว อายุ 25 ปี […]

“ทักษิณ” พร้อมลูกสาว เดินทางออกจากศาลอาญา หลังสืบพยานนัดแรก

1 ก.ค. – บรรยากาศที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ภายหลังนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เดินทางเข้าสืบพยานโจทก์นัดแรกในคดีหมายเลขดำ อ.1860/2567 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 8 เป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายทักษิณ เป็นจำเลยในความผิด ฐานดูหมิ่นสถาบันฯ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา ม.112 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ เมื่อเวลา 12.10 น. นายทักษิณ พร้อมด้วย น.ส.พินทองทา ชินวัตร คุณากรวงศ์ หรือเอม ได้เดินทางกลับโดยใช้ประตูด้านข้างของศาลอาญา ก่อนขึ้นรถออกไป โดยเลี้ยวออกไปทางประตูของศาลแพ่ง และเลี้ยวออกถนนพหลโยธินโดยทันที โดยมีกลุ่มมวลชนสวมเสื้อสีแดงยืนคอยให้กำลังใจอยู่บริเวณริมฟุตบาธบริเวณประตูทางออกอยู่จำนวนหนึ่ง ทั้งนี้มีนางเพญ พินิจอักษร ชาวจังหวัดศรีสะเกษ ถือรูปนายทักษิณ โดยมีการเขียนข้อความในภาพว่าขอส่งกำลังใจให้นายกฯในดวงใจ พร้อมถือพวงมาลัยดอกมะลิพวงใหญ่ และมีกลุ่มมวลชนสวมเสื้อสีแดงกลุ่ม 50 เขตแดน กทม. มาให้กำลังใจด้วยเช่นเดียวกัน จากนั้น นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความส่วนตัว นายทักษิณ ได้เดินมาทำความเข้าใจกับสื่อมวลชนหลังจากที่ศาลอาญาได้มีการพักการสืบพยาน ว่า ขอให้สื่อมวลชนใช้วิจารณญาณว่าจะอยู่หรือไม่อยู่ เพราะศาลใช้การพิจารณาลับ ทั้งนี้ไม่สามารถพูดอะไรในกระบวนการได้ จะพูดได้แค่มีพยานกี่ปาก […]

ธปท.เผย “คุณสู้ เราช่วย” เฟส 2 มีลูกหนี้เข้าเกณฑ์ 1.8 ล้านราย

กรุงเทพฯ 1 ก.ค. – ธปท.เผย “คุณสู้ เราช่วย” เฟส 2 เพิ่ม “จ่าย ตัด ต้น” พร้อมขยายขอบเขต 2 มาตรการเดิม “จ่ายตรง คงทรัพย์” และ “จ่าย ปิด จบ” มีลูกหนี้เข้าเกณฑ์ 1.8 ล้านราย ยอดนี้ประมาณ 3.1 แสนล้านบาท นางสาวสุวรรณี เจษฎาศักดิ์ ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับสถาบันการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผย ว่า ภายใต้เศรษฐกิจที่มีความไม่แน่นอนสูง ยังมีลูกหนี้กลุ่มเปราะบางจำนวนมากที่มีปัญหาในการชำระหนี้ และพบว่าลูกหนี้ยังให้ความสนใจเข้าร่วมโครงการอย่างต่อเนื่อง แต่บางส่วนไม่สามารถเข้าร่วมได้เนื่องจากคุณสมบัติไม่เป็นไปตามเงื่อนไขที่กำหนด กระทรวงการคลัง สศช. ธปท. ธนาคารพาณิชย์ สถาบันการเงินเฉพาะกิจ รวมถึงผู้ประกอบธุรกิจ non-bank ที่เป็นบริษัทในกลุ่มธุรกิจทางการเงินของธนาคารพาณิชย์ เห็นควรขยายระยะเวลาลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการคุณสู้เราช่วยเฟส 1 (เดิมสิ้นสุด 30 มิ.ย.68) และให้ความช่วยเหลือเพิ่มเติม ภายใต้โครงการ […]

“บิ๊กเต่า” เร่งสอบบัญชีวัดดัง พบเส้นเงินไหลเข้าสีกาคนสนิทหลายครั้ง

กรุงเทพฯ 1 ก.ค. – “บิ๊กเต่า” เร่งสอบ 5 บัญชี เงินวัดตรีฯ-ทิดอาชว์ พบมีเส้นเงินไหลเข้าสีกาคนสนิทหลักหมื่นถึงหลักแสนบาทหลายครั้ง ส่วนคลิปลับแชทหลุดเป็นหน้าที่สำนักพุทธฯ ตรวจสอบ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เรียกประชุมตำรวจ บก.ปปป. และเจ้าหน้าที่ ป.ป.ท. เพื่อติดตามความคืบหน้าการตรวจสอบบัญชีรายรับรายจ่ายของวัดตรีทศเทพวรวิหาร หลังพบพิรุธพระเทพวชิรปาโมกข์ (อาชว์ อาชฺชวปเสฏฺโฐ) หรือ “เจ้าคุณอาชว์” ได้ลาสิกขาหรือสึก ที่ จ.หนองคาย อย่างกะทันหัน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ เปิดเผยภายหลังการประชุมว่า จากการเข้าตรวจสอบบัญชีรายรับรายจ่ายที่วัดตรีทศเทพเมื่อวานนี้ ยังไม่เป็นที่น่าพอใจ ทางวัดให้เอกสารทางบัญชีมาบางส่วน พระหลายรูปกังวลหวาดกลัวจึงไม่ค่อยให้ความร่วมมือเท่าที่ควร แต่ตำรวจได้ประสานรักษาการเจ้าอาวาสวัด เพื่อให้แต่งตั้งไวยาวัจกรใหม่ ซึ่งเชื่อว่าหลังจากนี้จะได้รับความร่วมมือมากขึ้น โดยตำรวจได้ประสานขอรายการเดินบัญชีธนาคารของวัด 5 บัญชี เป็นบัญชีที่เกี่ยวกับเงินกฐิน ค่าเช่าที่จอดรถ ฌาปนกิจศพ ค่าน้ำค่าไฟ และภาพวาดโบราณ และบัญชีที่ต้องสงสัยอีกจำนวนหนึ่ง มาตรวจสอบทั้งหมด รวมถึงบัญชีส่วนตัวของทิดอาชว์ เบื้องต้นตำรวจมีข้อมูลน่าเชื่อได้ว่า ตำแหน่งเจ้าอาวาสไม่ได้มีเงินเยอะ แต่ตำรวจเห็นหลักฐานการโอนเงินบางส่วนไปยังสีกาหญิงหลายรายการ ยอดเงินตั้งแต่หลักหมื่นถึงหลักแสนบาท ซึ่งอาจเป็นเงินของวัด หรืออาจใช้ให้คนอื่นไปโอน […]

ข่าวแนะนำ

รวบเพิ่มอีก 1 แก๊ง “เสือปุ่น” ปล้นเงิน 3.4 ล้าน

นนทบุรี 2 ก.ค. – สืบนครบาลบุกรวบเพิ่มอีก 1 คน แก๊ง “เสือปุ่น” ร่วมปล้นเงิน 3.4 ล้านบาท ระหว่างเข้าจับกุมพยายามปีนหลังคาหลบหนี สุดท้ายไม่รอด ตกลงมาบาดเจ็บ เร่งล่าอีก 4 รายที่ยังหลบหนี ภาพขณะตำรวจสืบนครบาล บุกรวบนายนนทวัฒน์ หรือสอง ที่บ้านพักย่านนนทบุรี หลังร่วมแก๊งนายวรวัฒน์ หรือ “เสือปุ่น” คนดังสายคุกในโซเชียล ปล้นเงินสด 3.4 ล้านบาท ในลานจอดรถห้างสรรพสินค้าชื่อดังย่านลาดพร้าว โดยนายสอง พยายามหลบหนีด้วยการปีนหลังคาบ้านและตกลงมาถูกเศษกระจกบาดขาได้รับบาดเจ็บ เจ้าหน้าที่จึงนำตัวนายสอง ส่งโรงพยาบาลพระนั่งเกล้าก่อน จากนั้นนำตัวมาสอบปากคำที่ สน.พหลโยธิน โดยมีรายงานข่าวว่าผู้บังคับบัญชาระดับสูงของกองบัญชาการตำรวจนครบาลจะเข้ามาสอบปากคำนายสองด้วยตนเอง สำหรับคดีนี้มีผู้ต้องหาทั้งหมด 7 คน ถูกจับกุมเมื่อวานนี้ (1 ก.ค.) 2 คน คือ นายเฌอพัชญ์ หรือหนาว ทำหน้าที่เป็นเอเย่นต์หรือตัวแทนหลอกซื้อขายคริปโทเคอร์เรนซี ผ่านเฟซบุ๊ก และ น.ส.นานา ซึ่งอ้างว่าถูกนายหนาวชักชวนมาก่อเหตุ ล่าสุดคือนายสอง ทำให้ยังเหลือผู้ต้องหาตามหมายจับที่ยังหลบหนี […]

“พล.อ.ณัฐพล​” ยัน​ไม่มีสุญญากาศ​ แม้ไร้​ รมว.กลาโหม

กลาโหม 2 ก.ค.- “พล.อ.ณัฐพล​” ยัน​ไม่มีสุญญากาศ ​แม้ไร้​ รมว.กลาโหม​ เผย​ชายแดนกัมพูชา​มีแนวโน้มดีขึ้น​ หลัง “เตีย​ เซ็ยฮา​” ยอมคุย​เปิดเวที​ GBC​ แต่อยู่ระหว่างต่อรอง​ ย้ำ​คำนึงถึงศักดิ์​ศรีของ​ 2 ประเทศ​ ขอบคุณนายกฯ เชื่อมั่น​ พร้อมระบุ​ กต.​เตรียมรับมือปม “ฮุน มา​เนต” นำ​ 3 ปราสาท​ -​ 1 พื้นที่สู่ศาลโลก พลเอกณัฐพล​ นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม รักษาราชการแทน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม​ กล่าวถึง ภาพรวมสถานการณ์ชายแดนไทย- กัมพูชา ว่า ขณะนี้สถานการณ์ยังทรงอยู่ แต่เราได้ใช้กลไกในทุกระดับของกองทัพ ในการประสานงานกับกัมพูชา และพูดคุยอย่างไม่เป็นทางการ เพื่อให้เข้าสู่กระบวนการพูดคุยแบบทวิภาคี​ สิ่งที่กระทรวงกลาโหมคาดหวัง คือกลไก​ GBC​ ซึ่งมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมเป็นประธาน ในขณะเดียวกันระดับรัฐบาลและกระทรวงการต่างประเทศ ก็มีการพูดคุย​ ซึ่งมีสัญญาณที่ดีขึ้นเล็กน้อย คือทางกัมพูชาเริ่มคุยด้วยจากก่อนหน้านี้ที่ไม่คุยเลย แต่ยอมรับว่ายังมีการต่อรองกันอยู่ ซึ่งฝ่ายไทยยึดถือศักดิ์ศรีของ 2 ประเทศ […]

“สุริยะ” ปัดตอบตื่นเต้นหรือไม่ รักษาราชการแทนนายกฯ วันแรก

ทำเนียบ 2 ก.ค.- “สุริยะ” ยิ้มรับสื่อฯ ทำหน้าที่รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี เป็นประธานวันสถาปนาสำนักนายกรัฐมนตรี ปีที่ 93 ปัดตอบตื่นเต้นหรือไม่ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี เดินลงจากตึกไทยคู่ฟ้าโดยมีสีหน้ายิ้มแย้ม ปฏิเสธตอบคำถามสื่อมวลชนว่าตื่นเต้นหรือไม่ ในการทำหน้าที่รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรีเป็นวันแรก จากนั้นนายสุริยะ เป็นประธานในพิธีเนื่องในโอกาสวันสถาปนาสำนักนายกรัฐมนตรี ปีที่ 93 ที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล ถือเป็นภารกิจแรกหลังทำหน้าที่รักษาราชการนายกรัฐมนตรี -สำนักข่าวไทย

“ทักษิณ” ฟังสืบพยานโจทก์ นัดที่ 2 คดีหมิ่นเบื้องสูง

2 ก.ค.- “ทักษิณ” ถึงศาลอาญา เข้าฟังสืบพยานโจทก์ นัดที่ 2 คดีหมิ่นเบื้องสูง ทนายเผยคุยกับลูกความแค่เรื่องคดี ปัดคุยเรื่องการเมือง ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ศาลนัดสืบพยานโจทก์นัดที่ 2 คดีดูหมิ่นสถาบันเบื้องสูง ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 8 เป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นจำเลยในความผิด ฐานดูหมิ่นสถาบันตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา ม.112 ความผิดเกี่ยวกับ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ กรณีเมื่อปี 2558 นายทักษิณ ได้ให้สัมภาษณ์สื่อทีวีต่างประเทศประเทศเกาหลีใต้พาดพิง ดูหมิ่นสถาบันเบื้องสูง โดยจำเลยให้การปฏิเสธ และได้รับการประกันตัว วันนี้ นายทักษิณ จะเดินทางเข้ามาฟังการสืบพยานโจทก์เป็นวันที่สอง โดยเดินทางมาถึงศาล เวลาประมาณ 09.26 น. ด้านนายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความของนายทักษิณ กล่าวว่า วันนี้เป็นการสืบพยานโจทก์นัดที่ 2 โดยเป็นการสืบพยานโจทก์ทั้งหมด 4 ปาก แต่ตนไม่สามารถเปิดเผยได้ว่าเป็นใครบ้าง และในส่วนของพยานจำเลยจะเริ่มในสัปดาห์ถัดไป เมื่อถามว่าหลังจากการสืบพยานโจทก์นัดแรก เมื่อวานเสร็จสิ้นได้มีการพูดคุยกับนายทักษิณหรือไม่ นายวิญญัติ กล่าวว่า ได้มีการคุยกันในฐานะทนายความกับลูกความ […]