เอกชนไม่ทนโรคใบด่างมันฯร้องรัฐเร่งแก้ด่วนหลังยอดส่งออกตก

กรุงเทพฯ 22 ก.พ.-สมาคมแป้งมันสำปะหลังร่วมกับมูลนิธิสถาบันพัฒนามันสำปะหลังแห่งประเทศไทยแถลงเป็นห่วงสถานการณ์ส่งออกมันสำปะหลังไทยที่ถูกโรคใบด่างระบาดต่อเนื่องจนยอดส่งออกลดลงทุกปี ชี้ปัญหาโรคใบด่างไม่มียาปราบต้องหาพันธุ์ทนทานมาปลูกแทน จึงอยากให้ภาครัฐช่วยหาทางแก้ไขด่วนก่อนที่ภาคอุตสาหกรรมและเกษตรกรจะเดือดร้อนไปมากกว่านี้


นายชุมพล ขจรเฉลิมศักดิ์ นายกสมาคมแป้งมันสำปะหลังและมูลนิธิสถาบันพัฒนามันสำปะหลังแห่งประเทศไทยเปิดเผยว่าทั้ง 2 องค์กรตระหนักถึงปัญหาโรคใบด่างของมันสำปะหลังไทยที่ก่อตัวแพร่ระบาดในประเทศไทยมาตั้งแต่ปี 61 โดยปัญหาก่อให้เกิดผลกระทบต่อการเพาะปลูกมันสำปะหลังไปจนถึงปริมาณส่งออกทั้งมันสำปะหลังและผลิตภัณฑ์แป้งมันลดน้อยลงอย่างน่าตกใจ โดยยอดพื้นที่เพาะปลูกมันสะปะหลังไทยมีอยู่กว่า 9 ล้านไร่ แต่จากผลกระทบใบด่างระบาดจนกระทบพื้นที่เพาะปลูกแล้วกว่า 3 ล้านไร่ และหากไม่เร่งแก้ไขพื้นที่เพาะปลูกมันจะลดลงต่อเนื่องได้

นอกจากนี้ ไม่เพียงกระทบต่อพื้นที่เพาะปลูกเท่านั้น ยังกระทบไปถึงยอดส่งออกมันสำปะหลังไทยลดลงอย่างเห็นได้ชัด โดยยอดส่งออกมันสำปะหลังไทยในปี 66 ปริมาณลดลง 30 % คิดเป็นมูลค่าลดลงถึง 16.62 % หรือ 127,407 ล้านบาทเมื่อเทียบกับปี 65 ส่งผลให้ความต้องการใช้สินค้ามันสำปะหลังลดลงมากถึง 20-30%หรือทำให้มูลค่าของอุตสาหกรรมลดลงไปแล้วประมาณ 50,000 ล้านบาท และอาจลดลงอย่างต่อเนื่องในปีต่อไปด้วย โดยมันสำปะหลัง เป็นพืชเศรษฐกิจที่สำคัญของประเทศ มีเกษตรกรผู้ปลูกมันสำปะหลังประมาณ 700,000 ครัวเรือน และก่อให้เกิดการจ้างงานในอุดสาหกรรมแปรรูปและอุต สาหกรรมต่อเนื่องไม่น้อยกว่า 1 ล้านคน โดยประเทศไทยเป็นผู้ส่งออกผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังเป็นอันดับหนึ่งของโลกมากว่า 20 ปี โดยที่ผ่านมามีมูลค่าส่งออกสูงถึง 150,000 บาทต่อปี และการใช้ภายในอีกประมาณ 50,000 ล้านบาทต่อปี มูลค่ารวมทั้งอุดสาหกรรมมันสำปะหลังประมาณ 200,000 ล้านบาท และยังมีมูลค่าอุตสาหกรรมต่อเนื่องอีกมากกว่า 300,000 ล้านบาท นับเป็นอุตสาหกรรมที่มีมูลค่ามหาศาล มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อระบบเศรษฐกิจของประเทศไทย และปัจจุบันอุตสาหกรรมมันสำปะหลังไทย ต้องประสบกับภาวะวิกฤตขาดแคลนผลผลิต ไม่เพียงพอต่อความต้องการอย่างมาก โดยเฉพาะในช่วง 2-3 ปีการผลิตที่ผ่านมา ผลผลิตมันสำปะหลังของไทยมีปริมาณลดลงจากในอดีตที่ได้ผลิตมากกว่า 30-33 ล้านตันต่อปี เหลือเพียงประมาณ 24-26 ล้านตันต่อปี อีกทั้งคุณภาพผลผลิตที่ลดลงด้วย ทำให้ตันทุนการผลิตสินค้าสูงขึ้นอย่างมาก


“หากสถานการณ์ยังเป็นเช่นนี้ต่อไป จะส่งผลกระทบต่อความสามารถในการแข่งขัน และทำให้สินค้ามันสำปะหลังไทยไม่สามารถรักษาความเป็นผู้นำในตลาดโลกได้อีกต่อไปโดยผลผลิตมันสำปะหลังที่ลดลงนั้น มีสาเหตุสำคัญจากการระบาดของโรดใบด่างมันลำปะหลัง
ที่เป็นโรดอุบัติใหม่พบการระบาดในประเทศไทยครั้งแรกเมื่อปี 2561 โดยมีสาเหตุจากเชื้อไวรัส
Cassava mosaic virus สายพันธุ์ Sri Lankan (SLCMV/ มีแมลงหวี่ขาวเป็นพาหะนำโรด และการนำ
ตันพันธุ์ที่เป็นโรดไปปลูกต่อ เกิดภาวะขาดแคลนต้นพันธุ์สะอาดปลอดโรค มีการใช้พันธุ์อ่อนแอต่อโรดและที่เป็นโรดอยู่แล้วไปปลูกขยายต่อ แม้ว่าที่ผ่านมาภาครัฐและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้พยายามแก้ไขปัญหา“นายชุมพล กล่าว

อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันยังไม่สามารถกำจัดหรือควบคุมการระบาดได้สร้างความเสียหายต่อผลผลิตมันสำปะหลัง ซึ่งภาคเอกชนประเมินว่าพบการระบาดของโรดใบด่างมันสำปะหลังในประเทศไทยแล้วไม่น้อยกว่า 3 ล้านไร่ จากพื้นที่เพาะปลูกมันสำปะหลังทั้งประเทศประมาณ 9 ล้านไร่ หรือประมาณร้อยละ 30 ของพื้นที่เพาะปลูกทั้งหมด หากผู้ที่เกี่ยวข้องทุกภาคส่วนไม่ลงมือแก้ไขปัญหาอย่างจริงจังและเป็นรูปธรรม ไม่มีวิธีการแก้ไขปัญหาที่มีประสิทธิภาพเพียงพอ ภาคเอกชนเชื่อว่าภายในระยะเวลาอันสั้น โรคใบด่างมันสำปะหลังจะระบาดไปในพื้นที่เพาะปลูกทั้งประเทศ สร้างความเสียหายและเกิดหายนะต่ออุตสาหกรรมอย่างใหญ่หลวง

ทั้งนี้ 2 องค์กรได้ตระหนักถึงภัยอันตราย ได้จัดทำปรับปรุงพันธุ์ต้นทานและการใช้วิธีการควบคุมโรคพืชรวมกับมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์สามารถคัดลือกพันรุ์ต้านทานโรคใบด่างมันสำปะหลังชุดแรก 3 พันธุ์ และได้รับพระราชทานซื่อพันธุ์จาก สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัดนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ได้แก่ พันธุ์อิทธิ 1 พันธุ์อิทธิ 2 และพันธุ์อิทธิ 3 รวมทั้งยังมีการวิจัยและพัฒนาพันธุ์ลูกผสมต้านทานโรค เพื่อให้มีผลผลิตดีขึ้น แม้จะไม่สูงเท่ากับพันธุ์เกษตรศาสตร์ 50 แต่ทั้ง 3 พันธุ์ มีความคุ้มค่าเชิงพาณิชย์เพื่อนำไป
ปลูกทดแทนในพื้นที่ที่มีการระบาดของโรค เพื่อช่วยยับยั้งการระบาดของโรคได้อย่างมีประสิทธิภาพ
และประสิทธิผล โดยมีเป้าหมายให้เกิดการใช้พันธุ์ต้านทานให้ครอบคลุมพื้นที่เพาะปลูกทั่วประเทศไทยภายในเวลา 5 ปี เพื่อให้ภาคเกษตรกรรมและอุตสาหกรรมมันสำปะหลัง
ไทยทั้งระบบคงขีดความสามารถการแข่งขันที่ยั่งยืน ดังนั้น จึงอยากให้รัฐบาลเร่งหามาตรการช่วยเหลือโดยจัดหาพันธุ์ที่ทนทานเพื่อแจกจ่ายให้กับเกษตรกรผู้ปลูกมันสะปะหลังกันต่อไป.-541-สำนักข่าวไทย


  1. โรคใบด่างมันสำปะหลัง (Cassava Mosaic Disease, CMD) เกิดจากเชื้อ Cassava
    Mosaic Virus ซึ่งเป็นไวรัสที่มีผลต่อการเจริญเติบโตของมันสำปะหลัง โดยทำให้ใบด่าง ต้น
    แคระแกรน และผลผลิตลดลง พบการระบาคเข้าสู่เอเชียใต้ในประเทศศรีลังกาและอินเดีย และมี
    เพียงสายพันธุ์ SLCMV (Sri Lankan Cassava Mosaic Virus) ได้แพร่เข้าสู่ประเทศกัมพูชา
    ด้านจังหวัดรัตนคืรี เมื่อปี 2559 และประเทศเวียดนาม จังหวัดเตนินห์ ชายแคนเวียดนาม
    กัมพูชา ในปี2560 และแพร่เข้าสู่ประเทศไทยทางบริเวณจังหวัดชายแดน ไทย-กัมพูชา ด้าน
    จังหวัดศรีสะเกษ บุรี รัมย์ และปราจีนบุรี เมื่อปี 2561
  2. มูลนิธิฯ ตระหนักถึงอันตรายของโรคใบค่างมันสำปะหลังนี้ ตั้งแต่ปี 2559
    จึงได้ร่วมกันเผยแพรถึงอันตราย และผลกระทบที่จะเกิดต่อการผลิตมันสำปะหลังของประเทศ
    และย้ำถึงการแก้ไขการระบาคของโรคใบค่างในฟริกาและเอเชียใต้ว่า โรคใบด่างมันสำปะหลังนี้
    ไม่มียารักษา ไม่มีมาตรการใดแก้ไขได้นอกจากต้องใช้พันธุ์ต้านทานโรคใบด่างที่เหมาะสมมา
    เปลี่ยนให้เกษตรกรปลูกทั่วประเทศ เพียงอย่างเดียวเท่านั้น
    จากการประสานงานกับผู้เชี่ยวชาญทั่วโลก มูลนิธิฯ ได้ทำโครงการวิจัยพัฒนาพันธุ์
    ต้านทาน CMD ร่วมกับมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ในปี 2560 และได้รับความร่วมมือจากศูนย์
    เกษตรเขตร้อนนานาชาติ (Centro Internacional de Agricultura Tropical, CIAT) และสถาบัน
    เกษตรเขตร้อนนานาชาติ (International Institute of Tropical Agriculture, IITA) และได้นำสาย
    พันธุ์ต้านทาน CMD จาก ITA เข้ามารวม 5 สายพันธุ์ ในปี 2561 เพื่อทคลองปลูก โดยผ่านการ
    ตรวงควบคุมโรคพืชของกรมวิชาการเกษตร ผลการทคสอบในช่วงปี 2561-2566 งได้คัดเลือก
    สายพันธุ์ที่มีความต้านทานต่อโรดใบด่างระดับสูง (ตารางที่ 1 และ 2) และเหมาะแก่การปลูกใน
    ประเทศไทย จำนวน 3 สายพันธุ์ ได้แก่ สายพันธุ์ TME B419, IITA-TMS-IBA980581 และ
    ITA-TMS-IBA920057 และ โครงการฯ ได้มอบต้นพันธุ์ของทั้ง 3 สายพันธุ์ จำนวน 17,000 ลำ
    ให้แก่มูลนิธิฯ ในเดือนมีนาคม 2566
ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ไฟไหม้รถยนต์ อดีต สส.ศิริโชค วอดทั้งคัน

สงขลา 5 ก.ค.-“ศิริโชค” อดีต สส.ปชป. เผยเหตุระทึก รถยนต์ PHEV ไฟลุกไหม้วอดทั้งคันกลางดึก ทั้งที่ไม่ได้ชาร์จ ภาพคลิปเหตุการณ์ไฟไหม้รถยนต์ส่วนตัวของนายศิริโชค โสภา อดีต สส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งจอดอยู่บริเวณบ้านพักที่ อ.นาทวี จ.สงขลา ช่วงตี 3 เมื่อเช้ามืดที่ผ่านมา (5 ก.ค.68) โดยเพจเฟซบุ๊ก “ศิริโชค โสภา” ได้โพสต์คลิปเหตุการณ์ พร้อมระบุข้อความว่า “อุทาหรณ์สยอง! ผมตื่นมากับเปลวเพลิงกลางดึก-ไฟลุกท่วมรถ PHEV ทั้งคัน ทั้งที่ไม่ได้ชาร์จ! เช้ามืดวันนี้ ผมสะดุ้งตื่นขึ้นมาพร้อมเสียง “ปะทุ” ดังสนั่นกลางความเงียบของตีสาม…เมื่อรีบวิ่งออกมาดู สิ่งที่ผมเห็นคือเปลวไฟสีส้มแดงกำลังลุกโชนอย่างบ้าคลั่งจากรถยนต์ PHEV ที่จอดนิ่งหน้าบ้าน ตอนนั้นผมไม่ได้เสียบชาร์จไว้ด้วยซ้ำ-จอดไว้เฉยๆ แต่จู่ๆ ไฟกลับลุกขึ้นมาเอง โดยไม่มีสัญญาณเตือนล่วงหน้าแม้แต่นิดเดียว รถดับเพลิงต้องใช้เวลาหลายนาทีกว่าจะควบคุมเพลิงได้ และเมื่อไฟดับลง… สิ่งที่เหลืออยู่คือซากรถที่ไหม้เกรียมทั้งคันนี่ไม่ใช่แค่ความเสียหาย แต่คือคำเตือนที่น่ากลัวสำหรับผู้ใช้รถ EV และ PHEVแม้ไม่ได้ชาร์จ แม้จอดนิ่ง แบตเตอรี่ก็ยังมีโอกาสลุกไหม้ได้เองโดยไม่ทันตั้งตัว ไฟฟ้าเงียบ-แต่มันเผาผลาญทุกอย่างได้ในพริบตา ต่อมาผู้สื่อข่าวได้ […]

ตาขับรถทับศีรษะหลานวัย 1 ขวบ ดับสลด

สุราษฎร์ธานี 5 ก.ค. – สุดสลด ตาขับรถกระบะไม่ทันดู เหยียบศีรษะหลานสาว วัย 1 ขวบ 5 เดือนเสียชีวิตคาที่ ตายายร้องไห้แทบขาดใจ สุดสลด ตาขับรถกระบะไม่ทันดู เหยียบศีรษะหลานสาว วัย 1 ขวบ 5 เดือนเสียชีวิตคาที่ หลังจากที่ตากลับจากซื้อของที่ตลาด เมื่อมาถึงบ้านซึ่งเปิดเป็นร้านขายของชำในอำเภอพระแสง จังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้ขนของลงจากรถเสร็จ ระหว่างจะนำรถไปจอดไม่ทันสังเกตว่าหลานวิ่งอ้อมรถมา รู้อีกทีล้อรถหน้าด้านคนขับเหยียบเข้าที่ศีรษะของหลานแล้ว ทำให้หลานเสียชีวิตทันที เมื่อเห็นร่างหลาน ตาและยายร้องไห้แทบขาดใจ เพราะเลี้ยงหลานคนนี้มาตั้งแต่เล็กๆ ก่อนนำร่างส่งชันสูตรที่โรงพยาบาลพระแสงต่อไป.- สำนักข่าวไทย

อ.อ๊อด ชี้เป็นเหตุการณ์ที่ไม่ปกติ กรณีรถยนต์ไฟฟ้า อดีตสส.สงขลา ไฟไหม้

นครปฐม 5 ก.ค. – อาจารย์อ๊อด นักวิชาการสาขาเคมีอินทรีย์ แสดงความคิดเห็นว่า กรณีรถยนต์ไฟฟ้าของนายศิริโชค โสภา อดีต สส.สงขลา เกิดไฟไหม้ ถือเป็นเหตุการณ์ไม่ปกติ และแบตเตอรี่อาจจะมีปัญหา จากกรณีเพจเฟซบุ๊ก Sirichok Sopha หรือ นายศิริโชค โสภา อดีต สส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ แชร์ประสบการณ์ โดยระบุข้อความว่า “เช้ามืดวันนี้ ผมสะดุ้งตื่นขึ้นมาพร้อมเสียง “ปะทุ” ดังสนั่นกลางความเงียบของตีสาม…เมื่อรีบวิ่งออกมาดู สิ่งที่ผมเห็นคือเปลวไฟสีส้มแดงกำลังลุกโชนอย่างบ้าคลั่งจากรถยนต์ PHEV ที่จอดนิ่งหน้าบ้าน รถคันนี้ซื้อจากศูนย์หาดใหญ่เมื่อ 2 ปีก่อน ผมใช้งานตามปกติ และที่สำคัญคือ ตอนนั้นผมไม่ได้เสียบชาร์จไว้ด้วยซ้ำ-จอดไว้เฉยๆแต่จู่ๆ ไฟกลับลุกขึ้นมาเอง โดยไม่มีสัญญาณเตือนล่วงหน้าแม้แต่นิดเดียวรถดับเพลิงต้องใช้เวลาหลายนาทีกว่าจะควบคุมเพลิงได้ และเมื่อไฟดับลง… สิ่งที่เหลืออยู่คือ ซากรถที่ไหม้เกรียมทั้งคันนี่ไม่ใช่แค่ความเสียหาย แต่คือคำเตือนที่น่ากลัวสำหรับผู้ใช้รถ EV และ PHEVแม้ไม่ได้ชาร์จ แม้จอดนิ่ง แบตเตอรี่ก็ยังมีโอกาสลุกไหม้ได้เองโดยไม่ทันตั้งตัวไฟฟ้าเงียบ-แต่มันเผาผลาญทุกอย่างได้ในพริบตา” รศ.ดร.วีรชัย พุทธวงศ์ หรือ อาจารย์อ๊อด นักวิชาการสาขาเคมีอินทรีย์ ผู้ช่วยอธิการบดีฝ่ายนวัตกรรมและกิจการเพื่อสังคม […]

สพฐ. จัดทีมนิติกรช่วยครูการเงิน

กทม. 5 ก.ค.-สพฐ. จัดทีมนิติกรช่วยครูการเงิน กรณีถูกชี้มูลร่วมลงชื่อเบิกจ่ายค่าอาหารกลางวัน วันที่ 4 กรกฎาคม 2568 ว่าที่ร้อยตรี ธนุ วงษ์จินดา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน เปิดเผยว่า ตามที่มีรายงานข่าวผ่านสื่อสังคมออนไลน์ กรณีข้าราชการครูผู้รับผิดชอบงานการเงินของโรงเรียนแห่งหนึ่งในจังหวัดกาญจนบุรี ได้ร้องขอความเป็นธรรมภายหลังถูกชี้มูลความผิดร่วมกับอดีตผู้อำนวยการโรงเรียน จากการลงนามในเอกสารเบิกจ่ายค่าอาหารกลางวัน โดยยืนยันว่าไม่ได้มีส่วนร่วมในการกระทำความผิดนั้น สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงร่วมกับสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาต้นสังกัด และยืนยันว่า ขณะนี้ยังไม่มีคำสั่งลงโทษทางวินัยออกโดยเขตพื้นที่ฯ แต่อย่างใด สำหรับการดำเนินการในขั้นต่อไป สพฐ. ได้จัดเตรียมนิติกรจากส่วนกลาง เพื่อสนับสนุนการให้คำปรึกษาทางกฎหมายและการรวบรวมข้อมูลที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้ครูสามารถใช้สิทธิในการอุทธรณ์ต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (คณะกรรมการ ป.ป.ช.) ตามมาตรา 99 แห่งพระราชบัญญัติ ป.ป.ช. พ.ศ. 2561 ได้อย่างเต็มที่ เลขาธิการ กพฐ. ระบุว่า กรณีนี้สะท้อนถึงความจำเป็นที่ต้องทบทวนบทบาทภาระงานของครูในภารกิจที่ไม่เกี่ยวข้องกับการจัดการเรียนการสอน โดยเฉพาะงานด้านการเงินและพัสดุ ซึ่งมีความซับซ้อนและมีความเสี่ยงเชิงกฎหมายสูง สพฐ. จึงอยู่ระหว่างการปรับปรุงระบบสนับสนุนภายในโรงเรียน เพื่อให้โครงสร้างงานสนับสนุนมีความเหมาะสมกับวิชาชีพครูมากยิ่งขึ้น “ข้าราชการครูที่ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความสุจริตจะไม่ต้องเผชิญกระบวนการตามลำพัง สพฐ. พร้อมอยู่เคียงข้างและสนับสนุนในทุกขั้นตอน เพื่อให้สามารถใช้สิทธิและเข้าถึงความเป็นธรรมได้อย่างมั่นใจครับ” เลขาธิการ กพฐ. กล่าว.-416.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

กรมอุตุฯ เตือน 4 ภาครับมือฝนถล่ม ระวังน้ำท่วม-น้ำป่าไหลหลาก

กทม. 6 ก.ค.- กรมอุตุฯ เผยประเทศไทยยังมีฝนฟ้าคะนอง เตือน “เหนือ อีสาน ตะวันออก ใต้” รับมือฝนตกหนัก อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก กรมอุตุนิยมวิทยาเผยภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้มีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนในบริเวณจังหวัดภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้ ระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ทั้งนี้เนื่องจากมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศเมียนมาตอนบนและลาวตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางยังคงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย อนึ่ง พายุโซนร้อน “ดานัส” บริเวณทะเลจีนใต้ตอนบน คาดว่าจะเคลื่อนเข้าใกล้ไต้หวัน ในช่วงวันที่ 6–7 กรกฎาคม 2568 โดยไม่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อลักษณะอากาศของประเทศไทย แต่จะทำให้มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่ปกคลุมประเทศไทยมีกำลังแรงขึ้น โดยพายุนี้ไม่เคลื่อนเข้าสู่ประเทศไทย – สำนักข่าวไทย

ไทยยื่นหนังสือถึงสหประชาชาติปมชายแดนไทย-กัมพูชาเช่นกัน

5 ก.ค. – โฆษกกระทรวงการต่างประเทศ ชี้แจงไทยยื่นหนังสือถึงสหประชาชาติเรื่องปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชาเช่นกัน เพื่อชี้แจงท่าทีของประเทศไทย ตามที่มีการสอบถามจากสื่อต่าง ๆ เรื่องในสื่อออนไลน์ เกี่ยวกับหนังสือของเอกอัครราชทูต ผู้แทนถาวรกัมพูชา ณ นครนิวยอร์ก ถึงเลขาธิการสหประชาชาติต้องการจะฟ้องร้องประเด็นชายแดนระหว่างไทยกับกัมพูชาต่อ ICJ หรือศาลยุติธรรมระหว่างประเทศนั้น นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ ชี้แจงว่า

ปลัด อบต. ถูกหลอกลงทุน สูญ 4 ล้าน

บุรีรัมย์ 5 ก.ค. – ปลัด อบต.สาวชาว ถูกมิจฉาชีพอ้างเป็นหมอเกษียณ ทักมาจีบ แล้วหลอกร่วมลงทุนอ้างผลตอบแทนสูง หลงเชื่อสูญ 4 ล้าน นำที่ดินไปจำนอง รถเข้าไฟแนนซ์ นส.ปลา ปลัด อบต.สาว แห่งหนึ่ง ในจังหวัดศรีสะเกษ นำข้อความแชตสนทนาและรูปโปร์ไฟล์ของชายคนหนึ่งอ้างตัวเป็นแพทย์ รพ.ชื่อดัง ชื่อ เจ ซึ่งปัจจุบันเกษียณอายุราชการแล้วออกมาร้องสื่อมวลชน ในจังหวัดบุรีรัมย์ เพื่อขอความช่วยเหลือโดยอ้างว่า ถูก นายแพทย์คนดังกล่าวหลอกลวง ด้วยวิธีการทักเฟซบุ๊กมาจีบ เมื่อ 21 พ.ย.67 ก่อนจะขอแอดไลน์ระหว่างนั้นมีการพูดคุยวิดีโอคอนสานสัมพันธ์กัน ผ่านไปไม่นานก็หลอกล่อให้ร่วมลงทุนผ่านแอปฯ อ้างว่าจะได้ผลตอบแทนสูงยิ่งลงทุนมากยิ่งผลตอบแทนมาก จนหลงเชื่อร่วมลงทุน     ครั้งแรก หมอเจ ชักชวนให้ลองลงทุน เป็นเงิน 50,000 บาท มีการเติมเงินเข้าระบบ และลองเล่นที่ห้องที่ 1 ตามที่หมอเจแนะนำ จนเสร็จสิ้นขั้นตอนการเล่น ปรากฏว่าได้ผลตอนแทน เป็นเงิน 54,000 บาทจริง ต่อมาหมอเจ ก็โน้มน้าวต่อ หากอยากเล่นแบบมีรายได้เยอะกว่านี้ ก็ให้เติมเงินเข้าระบบไปเล่นที่ห้อง 2-10 ตนเห็นว่าครั้งแรกได้เงินจริง […]

ไฟไหม้รถยนต์ อดีต สส.ศิริโชค วอดทั้งคัน

สงขลา 5 ก.ค.-“ศิริโชค” อดีต สส.ปชป. เผยเหตุระทึก รถยนต์ PHEV ไฟลุกไหม้วอดทั้งคันกลางดึก ทั้งที่ไม่ได้ชาร์จ ภาพคลิปเหตุการณ์ไฟไหม้รถยนต์ส่วนตัวของนายศิริโชค โสภา อดีต สส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งจอดอยู่บริเวณบ้านพักที่ อ.นาทวี จ.สงขลา ช่วงตี 3 เมื่อเช้ามืดที่ผ่านมา (5 ก.ค.68) โดยเพจเฟซบุ๊ก “ศิริโชค โสภา” ได้โพสต์คลิปเหตุการณ์ พร้อมระบุข้อความว่า “อุทาหรณ์สยอง! ผมตื่นมากับเปลวเพลิงกลางดึก-ไฟลุกท่วมรถ PHEV ทั้งคัน ทั้งที่ไม่ได้ชาร์จ! เช้ามืดวันนี้ ผมสะดุ้งตื่นขึ้นมาพร้อมเสียง “ปะทุ” ดังสนั่นกลางความเงียบของตีสาม…เมื่อรีบวิ่งออกมาดู สิ่งที่ผมเห็นคือเปลวไฟสีส้มแดงกำลังลุกโชนอย่างบ้าคลั่งจากรถยนต์ PHEV ที่จอดนิ่งหน้าบ้าน ตอนนั้นผมไม่ได้เสียบชาร์จไว้ด้วยซ้ำ-จอดไว้เฉยๆ แต่จู่ๆ ไฟกลับลุกขึ้นมาเอง โดยไม่มีสัญญาณเตือนล่วงหน้าแม้แต่นิดเดียว รถดับเพลิงต้องใช้เวลาหลายนาทีกว่าจะควบคุมเพลิงได้ และเมื่อไฟดับลง… สิ่งที่เหลืออยู่คือซากรถที่ไหม้เกรียมทั้งคันนี่ไม่ใช่แค่ความเสียหาย แต่คือคำเตือนที่น่ากลัวสำหรับผู้ใช้รถ EV และ PHEVแม้ไม่ได้ชาร์จ แม้จอดนิ่ง แบตเตอรี่ก็ยังมีโอกาสลุกไหม้ได้เองโดยไม่ทันตั้งตัว ไฟฟ้าเงียบ-แต่มันเผาผลาญทุกอย่างได้ในพริบตา ต่อมาผู้สื่อข่าวได้ […]