GGC มุ่งขยายพอร์ทหลัก พร้อมสร้าง High Value Product ประเดิมส่ง Nutralist สู่ตลาด

กรุงเทพฯ 21 ก.พ.- บริษัท โกลบอลกรีนเคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ GGC เปิดแผนธุรกิจปี 2567 เดินหน้าขับเคลื่อนธุรกิจ  สร้างโอกาสความสำเร็จสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน ด้วย  3 กลยุทธ์ เข้มแข็ง เติบโต ยั่งยืน สู่การปรับธุรกิจให้สอดรับกับความท้าทายในการดำเนินธุรกิจหลัก  และยังมุ่งขยายโอกาสธุรกิจ High Value Product ส่งผลิตภัณฑ์เสริมอาหารภายใต้แบรนด์“Nutralist” สู่ตลาดมั่นใจสร้าง EBITDA 300 ล้านบาทในปี 2026


นายกฤษฎา ประเสริฐสุโข กรรมการผู้จัดการ บริษัท โกลบอลกรีนเคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ   GGC เปิดเผยว่า  ปี 2567  บริษัทเตรียมงบลุงทุนไว้ที่ 5,000 ล้านบาท โดยเป็นกระแสเงินสด 3,000 ล้านบาท และวงเงินจากธนาคารกรุงไทย 2,000 ล้านบาท เพื่อสร้างโอกาสการเติบโตสู่ความสำเร็จอย่างมั่นคงและยั่งยืน ภายใต้กรอบยุทธศาสตร์ The New Chapter of GGC to be the Sustainable Growth Business : Execution for Success ผ่านการมุ่งมั่นดำเนินการตาม 3 กลยุทธ์หลัก คือ เข้มแข็ง เติบโต ยั่งยืน

เข้มแข็ง (Enhance Competitiveness) : สร้างความเป็นเลิศในด้านการผลิต มุ่งเน้นการลดต้นทุนในองค์กร (Cost Optimization) เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพทางการเงินและสร้างมูลค่าสูงสุดจากทรัพยากรที่ใช้ในกิจการการปรับปรุงการใช้วัตถุดิบ (Feedstock Optimization) โดยเน้นการใช้วัตถุดิบทางเลือกอย่างเหมาะสม การเพิ่มยอดขายของสินค้าที่ผลิตจากวัตถุดิบ RSPO (FA) และการจัดการด้าน Operation Excellence โดยบริหารจัดการการดำเนินธุรกิจให้มีประสิทธิภาพสูงสุดเพื่อลดปัจจัยเสี่ยงที่ส่งผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจหลัก  อาทิ เมทิลเอสเทอร์ (ME) แฟตตี้แอลกอฮอล์ (FA) และเอทานอล (EtOH)  


เติบโต (Growth Portfolio) : ปรับ Portfolio ให้ชัดเจนสำหรับการลงทุนใน 3 กลุ่มธุรกิจ Bioenergy, Biochemicals และ Food Ingredients & Pharmaceutical เพื่อความพร้อมในการปรับตัวให้สอดรับกับความท้าทายและสถานการณ์เศรษฐกิจที่เปลี่ยนแปลง ขับเคลื่อนด้วยการต่อยอดธุรกิจเดิมสู่การเพิ่มโอกาสในการเข้าสู่ผลิตภัณฑ์ที่มีมูลค่าสูงขึ้น ( High Value Product)  โดยการขยายพอร์ตการลงทุนใน 3 กลุ่มธุรกิจ ประกอบด้วย

ธุรกิจเชื้อเพลิงชีวภาพ (BioEnergy Business) เป็นความร่วมมือกันระหว่าง PTT GC และ GGC ซึ่งอยู่ระหว่างศึกษาโครงการและความเป็นไปได้ของโครงการ ในด้านต่าง ๆ เช่น ด้านตลาด เทคโนโลยี การผลักดันด้านนโยบาย และการสร้างความร่วมมือกับสายการบิน โดยมี 3 โครงการ  โครงการน้ำมันเชื้อเพลิงชีวภาพ ซึ่งจะดำเนินการเชิงพาณิชย์ภายในปี 2025 (พ.ศ.2568),    โครงการ ATJ : เป็นการศึกษาแผนการลงทุนในการต่อยอดผลิตภัณฑ์เอทานอลเพื่อผลิตเป็นน้ำมันอากาศยานชีวภาพ โดยมีแผนที่จะดำเนินการภายในปี 2030 (พ.ศ.2573) ,  โครงการ Green Methanol : เป็นการศึกษาเพื่อต่อยอด และขยายปลายทางธุรกิจไปสู่ตลาด Marine Biofuel และเพื่อตอบสนองต่อแผนกลยุทธ์ Decarbonization

ธุรกิจเคมีชีวภาพ (Bio Chemical Business)  ธุรกิจ FA, Oleochemical Specialty & Derivative อยู่ระหว่างการขยายธุรกิจ เพื่อให้ได้ผลผลิต Oleochemicals ที่มีมูลค่าเพิ่ม เพื่อรองรับความต้องการที่เพิ่มขึ้นของผลิตภัณฑ์สีเขียว ผ่านพันธมิตร


ธุรกิจ Food Ingredients & Pharmaceutical    มุ่งเน้นธุรกิจกลุ่ม Food Ingredients & Pharmaceutical,   มุ่งเน้นเป็น Brand Owner โดยดำเนินธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนา  ผลิต  และจัดจำหน่าย ผลิตภัณฑ์ในกลุ่ม Food Ingredients & Pharmaceutical

ล่าสุด บริษัทฯ ได้ขยายธุรกิจสู่ตลาดในกลุ่ม Food Ingredients & Pharmaceutical ในฐานะผู้ผลิตผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่เป็น Green Product เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่ต้องการมีสุขภาพดีภายใต้แบรนด์ “Nutralist”  เปิดตัวผลิตภัณฑ์อาหารเสริม 2 ตัว คือ Astaxanthin และ Probiotic ซึ่งถือว่าเป็นหนึ่งก้าวที่สำคัญของ GGC ที่ต่อยอดธุรกิจเดิมสู่การขยายพอร์ตการลงทุนในธุรกิจเสริมอาหารเพื่อสุขภาพ เนื่องจากบริษัทฯ เล็งเห็นว่า กลุ่มผลิตภัณฑ์ดังกล่าวมีความต้องการสูงและตอบสนองต่อ Lifestyle ของผู้บริโภคที่รักสุขภาพในปัจจุบัน โดยบริษัทฯ คาดว่าผลิตภัณฑ์ดังกล่าวจะช่วยผลักดันให้ธุรกิจของ GGC เติบโตได้อย่างเข้มแข็งและยั่งยืนในอนาคต พร้อมตั้งเป้าการเติบโตของธุรกิจกลุ่ม Food Ingredients & Pharmaceutical ไว้ที่ 10% ของ EBITDA หรือคิดเป็นมูลค่า 300 ล้านบาท ภายในปี 2026 (พ.ศ.2569) 

ทั้งนี้ GGC มีแผนพัฒนาใหม่ๆ ด้วยกระบวนการผลิตที่ทันสมัยและใส่ใจต่อสิ่งแวดล้อม เพื่อเพิ่มผลิตภัณฑ์ให้มีความหลากหลายมากขึ้น ตอบโจทย์ความต้องการของทุกเจนเนอเรชั่นที่ใส่ใจรักสุขภาพ ภายใต้สโลแกน “Extract Your New Life”

จากแผนขยายพอร์ตในการสร้างการเติบโตผ่านการลงทุนต่อยอดธุรกิจเดิมของบริษัทฯ รวมถึงการลงทุนในธุรกิจใหม่ที่มีศักยภาพ โดยบริษัทฯ มีเป้าหมายในการปรับ Portfolio เพื่อให้ตอบโจทย์ Mega Trend ที่จะสร้างการเติบโตจากธุรกิจใหม่มากกว่า 50% (New Business)

ยั่งยืน (Sustainability Development) : มุ่งมั่นดำเนินธุรกิจตามแนวทาง ESG และได้รับการยอมรับในระดับสากล รวมทั้งแสวงหาโอกาสทางธุรกิจจาก Decarbonization  พร้อมเดินหน้าเพื่อให้บรรลุวิสัยทัศน์ด้านการพัฒนาอย่างยั่งยืน เพื่อสร้างความเชื่อมั่นด้านการเติบโตของธุรกิจรวมถึงการสร้างคุณค่า ยกระดับมาตรฐานการดำเนินธุรกิจให้ได้รับการยอมรับทั้งในระดับประเทศ และระดับสากล 

อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ ได้มีการกำหนดเป้าหมายด้านความยั่งยืน เพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ในปี 2050 โดยกำหนดเป้าหมายเพื่อวัดประสิทธิผลในระยะสั้นในปี 2030 เพื่อที่จะลด CO2 ให้ได้ 20%สำหรับปี 2024 (พ.ศ.2567) 

 “สำหรับผลการดำเนินงานปี 2567 คาดจะมี EBITDA ใกล้เคียงกับปีก่อน ที่มี EBITDA ราว 800 ล้านบาท เนื่องจากสถานการณ์ใกล้เคียงกัน แต่จะพลิกกลับมากำไรสุทธิหรือไม่อาจต้องรอดูปัจจัยอื่นๆประกอบ เช่น สต็อกวัตถุดิบ   อย่างไรก็ตามปีนี้ บริษัทเตรียมงบลงทุนไว้ที่ 5,000 ล้านบาท เป็นกระแสเงินสด 3,000 ล้านบาท และวงเงินจากธนาคารกรุงไทย 2,000 ล้านบาท มั่นใจดำเนินการได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ EBITDA เติบโตเป็น 3,000 ล้านบาทในปี 2569” นาย กฤษฎากล่าว.-517-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ธปท.ย้ำเร่งปลดล็อกบัญชีผู้บริสุทธิ์ ทำให้ร้านค้ามั่นใจ

กรุงเทพฯ 15 ก.ย. – ธปท. ย้ำทุกหน่วยงานร่วมกำหนดเงื่อนไขปลดล็อกบัญชีไม่มีเอี่ยวบัญชีม้า สิ้นเดือน ก.ย.นี้ เพื่อให้ร้านค้ามั่นใจรับโอนเงินซื้อสินค้า นางสาวดารณี แซ่จู ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับระบบชำระเงินฯ ธนาคารแห่งประเทศไทย กล่าวว่า จากปัญหาชาวบ้านถูกระงับธุรกรรมและระงับวงเงิน แต่ไม่ได้ระงับเงินในบัญชีในช่วงเดือนกันยายน 68 ตรวจพบบัญชีต้องสงสัยเฉลี่ย 10,000 บัญชี/สัปดาห์ ยอมรับว่าการคุมเข้มในช่วงที่ผ่านมา เพื่อต้องการกวาดเอาเส้นทางบัญชีที่เกี่ยวข้องเข้ามาตรวจสอบ ทั้งโอนเงินผ่าน e-money และคริบโตฯ ทำให้ประชาชนผู้บริสุทธิ์ได้รับผลกระทบในบางส่วน ในการทำธุรกรรมทางการเงิน ธปท. จึงเร่งหารือกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมกำหนดเงื่อนไขร่วมกันให้เสร็จภายในสิ้นเดือน ก.ย.นี้ “ธปท., ธนาคาร, ตำรวจ ศปอท. พร้อมปลดล็อกให้กับผู้บริสุทธิ์ มุ่งเน้นบัญชีจำนวนไม่มาก เช่นวงเงิน 100-500 บาท หรือร้านค้า ที่มีการซื้อของมาประกอบอาหารหรือสินค้าในร้านเป็นประจำในยอดที่ไม่สูงมากนัก กลุ่มเหล่านี้จะเร่งตรวจสอบ เพื่อแจ้งข้อมูลให้ลูกค้าบัญชีรับทราบ พร้อมทำอย่างรวดเร็ว และมุ่งทำความเข้าใจกับร้านค้า ให้เกิดความเชื่อมั่น และรับเงินโอนจากลูกค้า เพราะที่ผ่านมายอดปฏิเสธรับโอนเงินไม่สูงมากนัก หากตรวจสอบเสร็จแล้วคาดว่าใช้เวลา 2-3 ชั่วโมง ถึง 1 […]

ครอบครัวชินวัตร ถึงเรือนจำคลองเปรม เข้าเยี่ยม “ทักษิณ”

กทม. 15 ก.ย.-ครอบครัวชินวัตร ถึงเรือนจำคลองเปรม เข้าเยี่ยม “ทักษิณ” หลังครบ 5 วันกักโรค และกรมราชทัณฑ์ อนุญาตให้ญาติเข้าเยี่ยมได้วันนี้เป็นวันแรก นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความส่วนตัวของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ทำเรื่องขอเข้าเยี่ยมนายทักษิณ ที่เรือนจำกลางคลองเปรม หลังครบ 5 วัน การกักตัวเฝ้าระวังโรคโควิด-19 และกรมราชทัณฑ์ อนุญาตให้ญาติตามรายชื่อ 10 คน และทนายความ เข้าเยี่ยมได้วันนี้เป็นวันแรก โดยก่อนหน้านี้ พันตำรวจโท เชน กาญจนาปัจจ์ โฆษกกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยว่าอาการของนายทักษิณ โดยรวมดีขึ้น ความดันสูงก่อนหน้านี้ลงมาอยู่ในเกณฑ์ปกติ ซึ่งการเข้าเยี่ยมจะเป็นการพูดคุยผ่านกระจกใส เพื่อความปลอดภัย ล่าสุด ครอบครัวชินวัตรเดินทางมาถึงเรือนจำคลองเปรมแล้ว นำโดยคุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์, น.ส.พินทองทา ชินวัตร คุณากรวงศ์ ลูกสาวคนโต และ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี.-สำนักข่าวไทย

“บิ๊กเต่า” เปิดคดีใหม่ พระวัดดังเมืองปทุม เอี่ยวเงินวัดโยงสีกาเยอรมัน

บช.ก. 15 ก.ย. – “บิ๊กเต่า” เปิดคดีใหม่ พระวัดดังเมืองปทุมธานี เอี่ยวเงินวัดโยงสีกาเยอรมัน ฝากให้มาชี้แจงความบริสุทธิ์ หากไม่มาจะเสียหาย พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกระแสข่าวพระวัดดังจังหวัดปทุมธานี ที่มีความเกี่ยวข้องกับเงินวัดจำนวน 12.2 ล้านบาท ที่โอนเข้าบัญชีสีการายหนึ่ง ว่า เรื่องนี้ทราบว่ามีคนแจ้งความและเป็นคดีความอยู่ที่กองบังคับการปราบปรามแล้ว ขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการดำเนินการตรวจสอบ และได้ข้อมูลที่น่าสนใจมากพอสมควร ซึ่งสีกาคนดังกล่าวจะเกี่ยวข้องกับสีกาที่ทางตำรวจเพ่งเล็งอยู่หรือไม่จะต้องตรวจสอบในประเด็นนี้ด้วย แต่คดีนี้หลักๆ จะดูที่เส้นทางการเงินของบัญชีวัด หากพบใครเกี่ยวข้องก็จะต้องดำเนินการ ส่วนกรณีที่ทนายอนันต์ชัย ไชยเดช ประธานมูลนิธิทนายกองทัพธรรม นำหลักฐานออกมาโพสต์ผ่านโซเชียลนั้น ก็ถือว่ามีประโยชน์ต่อรูปคดี ส่วนจะเรียกเข้าสอบหรือไม่นั้นอยู่ระหว่างการพิจารณาของพนักงานสอบสวน ซึ่งคาดว่าอีกไม่นานเรื่องนี้จะชัดเจน มีรายงานว่าผู้ที่เกี่ยวข้องในเรื่องนี้พบว่ามี 8 คน รวมพระด้วยเป็น 9 คน จึงอยากฝากถึงพระว่า ให้มาชี้แจงความบริสุทธิ์ หากไม่มาจะเสียหายเนื่องจากมีหลักฐานจำนวนมาก.-419-สำนักข่าวไทย

บุกห้ามยายวัย 83 โอนเงินแก๊งคอลเซ็นเตอร์

กทม. 16 ก.ย.-บุกห้ามยายวัย 83 โอนเงินให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์เกือบ 5 ล้าน แต่ยายไม่ฟัง ไม่เชื่อว่าโดนหลอก ไล่ตำรวจกลับไป แถมโทรฟ้องมิจฉาชีพว่าตำรวจมากวน สุดท้ายเข้าแจ้งความแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.พระโขนง ตะโกนคุยกับคุณยายวัย 83 ปี ข้ามรั้วประตูบ้าน ว่า อย่าโอนเงินให้มิจฉาชีพอีก หลังธนาคารพบความผิดปกติ เนื่องจากคุณยายถอนเงินออกมาหลายล้านบาท จึงประสานงานไปที่ศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ AOC 1441 ให้แจ้งมายังตำรวจนครบาล เพื่อตรวจสอบการโอนเงินของคุณยายโดยด่วน ปรากฏว่า เมื่อตำรวจมาถึงบ้าน คุณยายไม่เชื่อ แถมยังคุยโทรศัพท์กับตำรวจปลอมในมือถือตลอดเวลา แล้วไม่เชื่อว่า ตำรวจที่มาหน้าบ้านเป็นตำรวจจริง จนตำรวจตัวจริงอ่อนใจ ทำได้เพียงแค่ประสานงานผู้นำในชุมชนให้ช่วยดูแลคุณยาย และเตือนเรื่องนี้ ล่าสุดคุณยายมาแจ้งความแล้ว เมื่อวันที่ 13 กันยายน แต่ยังไม่ได้เงินคืน ข้อมูลของตำรวจพบว่า คุณยายโอนเงินไปทั้งหมด 5 ครั้งครั้งแรกวันที่ 3 กันยายน ฝากเงินสดเข้าบัญชีธนาคารแห่งหนึ่ง 3.5 ล้านบาทวันที่ 4 กันยายน โอนเงินสดไป 400,000 บาทวันที่ […]

ข่าวแนะนำ

ผู้ค้าทองคำเสนอตั้งเคลียริ่งเฮาส์ ค้านเก็บภาษีเทรดทอง

กรุงเทพฯ 16 ก.ย. – ราคาทองคำนิวไฮตามตลาดโลก การค้าทองคึกคัก ผู้ค้าทองคำค้านแนวคิดภาครัฐเก็บภาษีเทรดทองคำออนไลน์ เพื่อป้องกันบาทแข็งค่า ระบุถอยหลังเข้าคลอง ทำลายการค้า เสนอ ธปท. “ตั้งเคลียริ่งเฮาส์-ปรับสูตรดูแลค่าเงิน” นพ.กฤชรัตน์ หิรัณยศิริ ประธานกรรมการ กลุ่มบริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ แม่ทองสุก จำกัด (MTS Gold) กล่าวว่า ในการประชุมระหว่างผู้ค้าทองคำและธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) วานนี้ ทาง ธปท.มีการสอบถามความเห็นเรื่อง การที่กระทรวงการคลังอาจออกมาตรการเก็บภาษีในการซื้อ-ขายทองคำ โดยเฉพาะธุรกรรมออนไลน์และมีการชำระเป็นเงินบาท เพื่อลดผลกระทบจากการเคลื่อนไหวของราคาทองคำต่อเงินบาท ซึ่งทางผู้ค้าทองคำ คัดค้านเพราะจะกระทบต่อการค้าทองคำในองค์รวมของทั้งในและต่างประเทศ ทำลายระบบเศรษฐกิจ โดยในขณะนี้การค้าทองคำทั้งในและต่างประเทศแต่ละปีมีมูลค่ารวมกว่า 3 ล้านล้านบาท/ปี และความนิยมเทรดระบบออนไลน์เพิ่มสูงขึ้น ตามทิศทางเศรษฐกิจดิจิทัล ตอบสนองนพฤติกรรมคนรุ่นใหม่ ที่นิยมเทรดออนไลน์ทั้งผ่านแอปฯ ต่างๆ และเทรดผ่าน Gold Futures ตลาด TFEX ซึ่งเป็นการเทรดสัญญาซื้อขายล่วงหน้าที่อ้างอิงกับราคาทองคำภายในประเทศ โดยยอดเทรดเติบโตอย่างมากราว 9-20 ตัน/วัน หรือ 20,000-35,000 สัญญาต่อวัน […]

รอลุ้นโฉมหน้า ครม.อนุทิน 1 คาดช้าสุดทูลเกล้าฯ พรุ่งนี้

พรรคภูมิใจไทย 16 ก.ย.-รอลุ้นโฉมหน้า ครม.อนุทิน 1 คาดช้าสุดทูลเกล้าฯ พรุ่งนี้ หลังนายกฯ ลั่นเสร็จสิ้นภายในสัปดาห์นี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ความคืบหน้าการนำรายชื่อคณะรัฐมนตรีอนุทิน 1 คาดว่าจะมีความชัดเจนเร็วสุดในเย็นวันนี้ (16 ก.ย.) หรืออย่างช้าวันพรุ่งนี้ (17 ก.ย.) ซึ่งต้องรอความชัดเจนจากสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ขณะที่บรรยากาศพรรคภูมิใจไทยในช่วงเช้าวันนี้ยังคงเงียบเหงา มีแกนนำพรรคเดินทางเข้าที่ทำการพรรค อาทิ นายทรงศักดิ์ ทองศรี ว่าที่รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายศุภชัย ใจสมุทร ประธานคณะทำงานฝ่ายกฎหมายพรรคภูมิใจไทย ส่วนนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เบื้องต้นยังไม่มีกำหนดการเดินทางเข้าพรรคในวันนี้ อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้นายอนุทิน ได้ให้สัมภาษณ์ก่อนหน้านี้ไว้ว่า รายชื่อคณะรัฐมนตรีเสร็จสิ้นแล้ว ซึ่งจะสามารถทูลเกล้าฯ ถลายได้ภายในสัปดาห์นี้.-สำนักข่าวไทย

เตือนภาวะน้ำทะเลหนุนสูง 17-22 ก.ย.

กรุงเทพฯ 16 ก.ย.-สทนช. ออกประกาศเตือน เฝ้าระวังน้ำทะเลหนุนสูง 17-22 ก.ย.นี้ คาดระดับน้ำบริเวณป้อมพระจุลจอมเกล้าและพื้นที่ใกล้เคียงจะสูงกว่าจุดวิกฤติ 0.20 เมตร เสี่ยงน้ำเอ่อล้นริมเจ้าพระยา-ท่าจีน-แม่กลอง สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ออกประกาศเตือน เรื่อง “เฝ้าระวังน้ำทะเลหนุนสูง” เตือนประชาชนและหน่วยงานในพื้นที่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา แม่น้ำท่าจีน และแม่น้ำแม่กลอง ให้เฝ้าระวังระดับน้ำเอ่อล้นตลิ่ง ระหว่างวันที่ 17–22 กันยายน 2568 ในช่วงเวลา 16.00–19.00 น. ของแต่ละวัน โดยเฉพาะพื้นที่นอกแนวคันกั้นน้ำและแนวเขื่อนชั่วคราว ซึ่งยังไม่มีแนวป้องกันน้ำถาวร หรือที่เรียกว่า “แนวฟันหลอ” นายสุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการสทนช. กล่าวว่า จากการติดตามสถานการณ์ร่วมกับกรมอุทกศาสตร์ คาดว่าช่วงเวลาดังกล่าวจะเป็นช่วงที่ระดับน้ำทะเลหนุนสูง โดยระดับน้ำบริเวณป้อมพระจุลจอมเกล้าและพื้นที่ใกล้เคียงอาจสูงถึง 1.70–1.90 เมตร จากระดับทะเลปานกลาง ซึ่งสูงกว่าระดับน้ำวิกฤติประมาณ 0.20 เมตร ปัจจัยที่ส่งผลต่อการหนุนสูงของน้ำทะเลในช่วงนี้ได้แก่ ร่องมรสุมที่พาดผ่านประเทศไทย ประกอบกับลมตะวันออกเฉียงใต้และมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่มีกำลังปานกลาง ซึ่งยังคงพัดปกคลุมประเทศไทยและบริเวณอ่าวไทย ส่งผลให้บางพื้นที่ยังคงมีฝนตก และเมื่อรวมกับปรากฏการณ์น้ำทะเลหนุน จะทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำเพิ่มสูงขึ้น เกิดน้ำเอ่อล้นตลิ่งในพื้นที่ลุ่มต่ำริมน้ำ พื้นที่เสี่ยงที่ต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษ ได้แก่ […]

จับตาเวทีหารือปราบสแกมเมอร์

15 ก.ย. – พรุ่งนี้ (16 ก.ย.) ต้องเกาะติดการประชุมความร่วมมือไทย-กัมพูชา วางแนวทางปราบอาชญากรรมทางเทคโนโลยีและสแกมเมอร์ ที่ จ.สระแก้ว ต่อยอดการประชุม GBC ที่เกาะกง เมื่อ 10 ก.ย.ที่ผ่านมา.-สำนักข่าวไทย