สภาพัฒน์ คาดจีดีพีปี 67 ขยายตัวร้อยละ 2.2-3.2  

กรุงเทพฯ 19 ก.พ.-สภาพัฒน์เผยจีดีพีปี 66 เติบโตร้อยละ 1.9 คาดเศรษฐกิจปี 67 ขยายตัวร้อยละ 2.2-3.2 แนะ กนง. ลดส่วนต่างดอกเบี้ยช่วยเหลือเอสเอ็มอี ภาคครัวเรือน เป็นห่วงภาคอุตสาหกรรมไม่โตตามการส่งออก กระทุ้งหน่วยงานรัฐเร่งเบิกจ่ายงบปี 67 


นายดนุชา พิชยนันท์ เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) เปิดเผยว่า ตัวเลข GDP ไตรมาส  4/66 ขยายตัวร้อยละ 1.7 โตต่อเนื่องจาก (GDP) ไตรมาส  3/66 ขยายตัวร้อยละ  1.5 ส่งผลให้เศรษฐกิจทั้งปี 66 ขยายตัวร้อยละ 1.9  จากเดิมสภาพัฒน์คาดการณ์จีดีพีในปี 66 ขยายตัวร้อยละ 2.5 ขณะที่การส่งออกเริ่มขยายตัวร้อยละ 3.4 นับว่าเติบโตในรอบ 5 ไตรมาส โดยกระทรวงการคลังเผยตัวเลขจีดีพีปี 66 ขยายตัวเพียงร้อยละ 1.8  คาดการณ์จีดีพีปี 67  เติบโตร้อยละ 2.8  ส่วน กนง.คาดการณ์จีดีพีปี 67 ขยายตัวร้อยละ 2.5-3 

สภาพัฒน์ คาดการณ์เศรษกิจในปี 67 ขยายตัวร้อยละ 2.2-3.2  อัตราเงินเฟ้อร้อยละ 0.9-1.9  โดยยังไม่นำโครงการดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท เข้ามาคำนวณ เพราะนโยบายหลักต้องหารืออีกหลายฝ่าย หลังได้ตั้งอนุกรรมการขึ้นอีก 2 ชุด เพื่อพิจารณาความเห็นทั้งกฤษฎีกาและ ป.ป.ช. และด้านต่างๆ คาดว่าการบริโภคภาคเอกชนขยายตัวร้อยละ 3 การลงทุนขยายตัวร้อยละ 3.5 การท่องเที่ยวคาดว่านักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าไทย 35 ล้านคน มีการใช้จ่ายในประเทศ 1.22 ล้านล้านบาท มีการใช้จ่าย 35,0000 บาทต่อคนต่อทริป นับเป็นแรงหนุนเศรษฐกิจที่สำคัญ รัฐบาลต้องดูแลความปลอดภัยในการท่องเที่ยวในประเทศ การยกเว้นวีซ่าระยะยาวให้กับต่างชาติ ทั้งผู้สูงอายุ ผู้เชี่ยวชาญ ผู้มีกำลังซื้อสูง เพื่อเข้ามาใช้จ่ายในประเทศ   


“ขณะนี้มีควาเป็นห่วงตัวเลขการผลิตภาคอุตสาหกรรมอย่างมาก คาดว่าขยายตัวร้อยละ 3.5 ในปี 67 เพราะการส่งออกเริ่มกลับมาขยายตัวร้อยละ 2.9 ในปี 67 เทียบกับการลดลงร้อยละ 1.7 ในปี 66 จึงต้องหารือกับสภาอุตสหกรรม สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) และหน่วยงานเกี่ยวข้อง เนื่องจากการส่งออกเริ่มดี แต่ทำไมเอกชนไม่สามารถผลิตสินค้าให้เติบโตได้ทันตามออร์เดอร์เข้ามา มีปัญหาเกิดขึ้นอย่างไร ทั้งเงินทุน แรงงาน การผลิต เพราะการผลิตอุตสาหกรรมมีสัดส่วนสูงถึงร้อยละ 27-28 ของจีดีพี หากเอกชนไม่ขยับกระทบต่อจีดีพีของประเทศหนักมาก” นายดนุชา กล่าว 

สภาพัฒน์ ยังแนะให้ ธปท. พิจารณาอัตราดอกเบี้ยครั้งต่อไปอย่างจริงจัง หากลดดอกเบี้ยครั้งต่อไป จะช่วยดูแลให้ครอบคลุมทุกภาคส่วน  รวมทั้งควรลดส่วนต่างดอกเบี้ยเงินฝากและเงินกู้ เพื่อดูแลภาระเอสเอ็มอีและรายย่อย ปัจจุบัน ธนาคารมีส่วนต่างประมาณร้อยละ 5 เพื่อให้กลุ่มเอสเอ็มอีให้มีสภาพคล่องเพิ่ม รวมทั้งภาคครัวเรือน ยอมรับว่ารายย่อยต้องจ่ายเงินงวดผ่อนบ้าน นับว่าสำคัญมาก และเอสเอ็มอีและรายย่อยนำบัตรเครดิตมารูดใช้เป็นทุนประกอบอาชีพอย่างมาก หากรายใดมีปัญหาค้างชำระหนี้เป็นเวลานาน ต้องดึงลูกหนี้มาเจรจาหนี้ ไม่ให้กระทบต่อหนี้ NPL จึงอยากให้ ธปท. ทบทวนเกณฑ์ชำระหนี้ขั้นต่ำร้อยละ 5 ซึ่งได้ปรับเพิ่มเป็นร้อยละ 10 ช่วงที่ผ่านมา เพื่อดูแลหนี้ครัวเรือน โดยทำอย่างจริงจังเห็นผลชัดเจนมากขึ้น ยอมรับว่านโยบายการคลังใช้กระตุ้นเศรษฐกิจไปเกือบหมดแล้ว จึงต้องใช้นโยบายการเงินเข้ามาดูแลเศรษฐกิจเพิ่มเติม 

นายดนุชา เสนอเพิ่มเติมว่า มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงนี้ ต้องหามาตรการดูแลภาคหนี้ครัวเรือน เพราะหนี้ครัวเรือนต่อจีดพีสูงต่อเนื่องมาหลายปียังไม่ลดลง หวั่นกระทบรายย่อยอย่างมาก สำหรับการดูแลผู้ส่งออก สภาพัฒน์กำลังหารือกับกระทรวงการคลัง สร้างระบบค้ำประกันการส่งออกเป็นรายบุคคล หากมีออเดอร์สั่งซื้อเข้ามา ควรนำเอกสารดังกล่าว ยื่นค้ำประกันการกู้เงินจากแบงก์ เพื่อนำทุนมาผลิตสินค้าได้ โดยไม่ต้องรอการค้ำประกันจาก บสย.ในแต่ละชุด เพื่อออกมาดูแลเอสเอ็มอีผู้ส่งออก รวมทั้งการเร่งรัดเบิกจ่ายงบประมาณปี 67 ของหน่วยงานภาครัฐ เพื่อให้เบิกจ่ายงบลงทุนได้ตามเป้าหมาย เตือนระวังภัยแล้งจากอุณหภูมิสูงในปีนี้ จนกระทบต่อการผลิตสินค้าเกษตร รัฐบาลต้องเตรียมแผนรองรับ หวั่นกระทบต่อเกษตรกรหนักมาก อีกทั้งความรุนแรงตะวันออกกลาง ยังกระทบต่อค่าระวางเรือ กระทบต้นทุนการส่งออกของไทย.-515-สำนักข่าวไทย 


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

Joe Biden and Kamala Harris on stage

ผู้เชี่ยวชาญชี้สาเหตุที่ “แฮร์ริส” พ่ายแพ้

ผู้เชี่ยวชาญชี้สาเหตุที่นางคอมมาลา แฮร์ริส ตัวแทนพรรคเดโมแครต พ่ายแพ้การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ ให้แก่นายโดนัลด์ ทรัมป์ จากพรรครีพับลิกัน

“ทรัมป์” คว้าชัยเด็ดขาด ครองตำแหน่งประธานาธิบดีอีกสมัย

โดนัลด์ ทรัมป์ ผู้สมัครจากพรรครีพับลิกัน คว้าชัยชนะเด็ดขาดในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ เหนือคู่แข่งอย่าง คอมมาลา แฮร์ริส จากพรรคเดโมแครต นับเป็นการกลับมาครองตำแหน่งผู้นำสหรัฐอีกครั้ง หลังต้องออกจากทำเนียบขาวไปเมื่อ 4 ปีก่อน

พบศพไวยาวัจกรวัดดังระยองถูกยิงดับพร้อมหญิงสาวในบ้านพัก

พบศพไวยาวัจกรวัดดัง จ.ระยอง ถูกยิงเสียชีวิตในบ้านพัก พร้อมหญิงสาวหน้าตาดี คาดเสียชีวิตมาแล้ว 3 วัน ตำรวจเร่งหาสาเหตุ

พบเด็กหญิงฝาแฝดวัย 9 ขวบ ดวงตาสีฟ้า

พบเด็กหญิงฝาแฝดชาวนครพนม วัย 9 ขวบ มีดวงตาสีฟ้าสดใส ซึ่งเป็นโรคทางพันธุกรรมที่พบได้ยาก อาศัยอยู่กับแม่เลี้ยงเดี่ยว แม่เผยลูกมีปัญหาทางการได้ยิน ใช้ชีวิตลำบาก ถูกบลูลี่ แต่ไม่ขอเปิดรับบริจาค เพราะเคยถูกมิจฉาชีพแอบอ้าง

ข่าวแนะนำ

นำ “ทนายตั้ม-ภรรยา” ฝากขัง เจ้าตัวยกมือไหว้ ปัดตอบทุกประเด็น

กองปราบฯ นำ “ทนายตั้ม-ภรรยา” ฝากขังศาลอาญารัชดา เบื้องต้นท้ายคำร้องพนักงานสอบสวนคัดค้านการประกันตัว ด้านเจ้าตัวยกมือไหว้ ปัดตอบทุกประเด็น

ครูปรีชาทนายตั้ม

“ครูปรีชา” หิ้วกาแฟ-ข้าวผัด เยี่ยม “ทนายตั้ม”

เกือบ 24 ชั่วโมง ที่ตำรวจกองปราบฯ คุมตัว “ทนายตั้ม-ภรรยา” มาสอบปากคำ เบื้องต้นทั้งคู่ยังให้การปฏิเสธ เตรียมส่งตัวฝากขังบ่ายนี้ ส่วนคู่กรณีหวย 30 ล้าน “ครูปรีชา” นำข้าวผัดและกาแฟ เข้าเยี่ยม “ทนายตั้ม” พร้อมยืนยันคำเดิม “ความจริงก็คือความจริง”

นายกฯ เร่งตั้งทีม JTC เจรจา MOU44 คาดชัด 18 พ.ย.นี้

นายกฯ ยันรัฐบาลเร่งตั้งคณะกรรมการ JTC หารือเส้นเขตแดน MOU 44 และพลังงานใต้ทะเล คาด 18 พ.ย.นี้ ชัดเจน “ภูมิธรรม” มั่นใจกัมพูชายึดตามสนธิสัญญาเจนีวา แม้ไม่เข้าร่วม ย้ำมีผลผูกพันทุกประเทศทั่วโลก