กทม. 10 ก.พ.- รมว.คมนาคม พอใจท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เตรียมพร้อมรับเทศกาลตรุษจีน มอบนโยบายดันติด 20 อันดับโลกใน 4 ปี ด้านการท่าเผยนักท่องเที่ยวจีนพุ่งจากนโยบายฟรีวีซ่า
นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวภายหลังการตรวจการเตรียมความพร้อมให้บริการผู้โดยสารช่วงเทศกาลตรุษจีน และการแก้ไขปัญหาความหนาแน่นในการรอคิวตรวจหนังสือเดินทาง ที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (ทสภ.) การให้บริการต่างๆ ดีขึ้นกว่าเดิมมาก และพบว่านโยบายวีซ่าฟรี ให้กับนักท่องเที่ยวชาวคาซัคสถาน อินเดีย ของรัฐบาลทำให้มีผู้โดยสารเดินทางมายังท่าอากาศยานสุวรรณภูมิเพิ่มขึ้น โดยปัจจุบันมีไฟลต์บินจำนวน 1,040 ไฟลต์ต่อวัน ผู้โดยสาร 190,000 คนต่อวัน ซึ่งเพิ่มขึ้นมาเท่ากับปี 2562 ช่วงก่อนเกิดสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคโควิด-19
ส่วนกรณีที่ก่อนหน้านี้เกิดปัญหาระบบตรวจคนเข้าเมือง ร่ม ทำให้มีผู้โดยสารต่อคิวกันจำนวนมากนั้น ต้องขอชมเชยทางสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ที่ได้พยายามแก้ไขปัญหา โดยจัดเจ้าหน้าที่คอยเฝ้าระวัง ซึ่งทางผู้บังคับการตรวจคนเข้าเมือง 2 คาดว่าจะไม่เกิดเหตุการณ์ระบบขัดข้องอีก หรือเกิดขึ้นน้อยมาก นอกจากนี้ ในวันที่ 1 มีนาคม ซึ่งเป็นช่วงเปิดฟรีวีซ่าให้กับนักท่องเที่ยวชาวจีน ทางสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองจะเพิ่มกำลังเจ้าหน้าที่รองรับอีกกว่า 200 นาย และเพิ่มเป็น 600 นายในเดือนพฤษภาคม รวมถึงเพิ่มเคาน์เตอร์สำหรับตรวจสอบผู้โดยสารของสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองจากสองเคาน์เตอร์เป็นสามเคาน์เตอร์ คาดว่าจะช่วยเพิ่มการตรวจสอบผู้โดยสารได้ร้อยละ 50
นอกจากนี้ เพื่อแก้ไขปัญหาผู้โดยสารแออัดเนื่องจาก contact gate หรือสะพานเทียบเครื่องบิน ซึ่งปัจจุบันใช้การไม่ได้ 7 ช่องนั้น และหลายสายการบินยังมีความกังวลเกี่ยวกับการให้บริการจัดส่งกระเป๋าหากเปลี่ยนไปใช้อาคารอื่นทดแทนนั้น ในวันจันทร์นี้จะให้ผู้ประกอบการสายการบินทุกรายในสุวรรณภูมิ พร้อมทั้งบริษัทการบินไทยและภาคเอกชนที่รับหน้าที่ดูแลการจัดส่งกระเป๋าภายในท่าอากาศยานร่วมหารือแนวทางการแก้ไขปัญหาร่วมกัน นอกจากนี้ยังได้มอบนโยบายให้ทาง ทอท.ได้พัฒนาให้ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิกลับมาเป็นท่าอากาศยานที่มีคุณภาพติด 20 อันดับแรกของโลก ภายในระยะเวลา 3-4 ปีนี้
ด้านนายกีรติ กิจมานะวัฒน์ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่บริษัทท่าอากาศยานไทยจำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ในช่วงเวลาที่มีผู้โดยสารขาออกจำนวนมากที่สุดประมาณ 6,000 คนต่อชั่วโมง ดังนั้น เพื่อลดการแออัดของผู้โดยสาร ทาง ทอท.ได้ประสานกับผู้ประกอบการ ให้ดำเนินการเช็กอินผู้โดยสารล่วงหน้าให้เร็วขึ้น 4 ชั่วโมงจากเดิม 3 ชั่วโมงเพื่อลดการรอคอยของผู้โดยสารในอาคาร และมีนโยบายสนับสนุนให้กับสายการบิน ต่างๆ เข้ามาใช้ระบบออโตเช็กอินให้มากขึ้น โดยจะรับผิดชอบค่าใช้จ่ายทั้งหมดในการเชื่อมต่อการใช้ระบบออโตเช็กอิน เพื่อให้สายการบินได้รับความสะดวก และใช้ลดกำลังคนน้อยลงในกระบวนการเช็กอิน ซึ่งปัจจุบันนี้ผู้โดยสารใช้บริการออโตเช็กอินอยู่ประมาณร้อยละ 27
นอกจากนี้ ยังได้ประสานไปยังสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองให้เพิ่มจำนวนช่อง automatic channels เพิ่มอีก 80 ช่องที่จะสั่งเข้ามาในเดือนกรกฎาคม และพร้อมติดตั้งทันที ซึ่งทางสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองได้มีการหารือร่วมกันรวมทั้งแก้ไขกฎระเบียบต่างๆ เพื่อให้ใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ คาดว่าเมื่อเปิดใช้แล้วจะสามารถลดปัญหาการพักคอยของผู้โดยสารได้จำนวนมาก
ส่วนระบบการเชื่อมต่อการขนส่งสาธารณะรอบสนามบินนั้น ขณะนี้มีแท็กซี่ ให้บริการในสนามบินประมาณ 3,500 คัน และจะมีการเปิดบริการแท็กซี่ในรูปแบบอื่น เช่น รถแท็กซี่อีวีเพิ่มเติม รวมทั้งมีการเปิดลานจอดที่เป็นร่มเงาเพื่อให้แท็กซี่มีคุณภาพชีวิตดีขึ้น
ทั้งนี้ คาดการณ์ว่าในช่วง 10 วันของช่วงตรุษจีนจะมีปริมาณผู้โดยสารเพิ่มขึ้นจากปี 2566 เพิ่มขึ้นมาประมาณ 37,000 คน หรือร้อยละ 35 โดยในจำนวนนี้เป็นชาวจีนประมาณ 20,000 คน แสดงให้เห็นถึงผลดีจากนโยบายฟรีวีซ่าของรัฐบาลที่ทำให้นักท่องเที่ยวชาวกลับมาสนใจและท่องเที่ยวในไทยเป็นจำนวนมาก. 414 .-สำนักข่าวไทย