นนทบุรี 9 ก.พ.-อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้าเตรียมเปลี่ยนแปลงการให้บริการจดทะเบียนบริษัทมหาชนเป็นผ่านระบบออนไลน์ e-PCL เพียงช่องทางเดียว ขอความร่วมมือกรรมการผู้มีอำนาจเร่งลงทะเบียนขอรับ Username & Password พร้อมลงลายมือชื่อทางอิเล็กทรอนิกส์ และใช้บริการจดทะเบียนฯ ผ่านระบบ e-PCL เท่านั้น รับรองใช้งานง่าย สะดวก รวดเร็ว ประหยัดเวลา และลดต้นทุนค่าใช้จ่าย
นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้าเปิดเผยว่า กรมพัฒนาธุรกิจการค้า เปิดให้บริการจดทะเบียนบริษัทมหาชนจำกัดทางอิเล็กทรอนิกส์ (e-Registration For Public Company Limited : e-PCL) มาตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2566 และได้พัฒนาระบบฯ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งานรองรับผู้ใช้บริการที่มีจำนวนเพิ่มมากขึ้นตามลำดับ โดยระบบ e-PCL จะให้บริการด้านการจดทะเบียนของบริษัทมหาชนจำกัดทุกรายการ การชำระค่าธรรมเนียม การขอรับหนังสือรับรอง ใบสำคัญการจดทะเบียน การพิมพ์ใบเสร็จรับเงิน รวมทั้ง สร้างแบบคำขอจดทะเบียนอัตโนมัติในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งเป็นการให้บริการจดทะเบียนฯ แบบครบวงจร ภาคธุรกิจ (บริษัทมหาชนจำกัด) ไม่จำเป็นต้องเดินทางมาที่กรมพัฒนาธุรกิจการค้าเพื่อทำธุรกรรมด้านการจดทะเบียนฯ อีกต่อไป
นอกจากนี้ ในอนาคต กรมฯ จะมีการพัฒนาเชื่อมโยงข้อมูลการจดทะเบียนฯ กับหน่วยงานต่างๆ อาทิ สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (กลต.) และ บริษัท ศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ (ประเทศไทย) จำกัด (TSD) เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ดียิ่งขึ้นเพื่อตอบสนองภาคธุรกิจได้อย่างเต็มที่ เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้ประกอบการทุกระดับ ตลอดจนให้กระทรวงพาณิชย์ดำเนินการลดอุปสรรคทางการค้าด้านต่างๆ เพื่อให้ภาคธุรกิจสามารถแข่งขันได้อย่างสมบูรณ์
อย่างไรก็ตาม ปัจจุบัน ข้อมูล ณ วันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2567 มีบริษัทมหาชนจำกัดในประเทศไทยจำนวนทั้งสิ้น 1,443 ราย มูลค่าทุนจดทะเบียนรวมกว่า 5.3 ล้านล้านบาท ในอดีตหากกรรมการต้องการจดทะเบียนฯ ที่เกี่ยวข้องกับบริษัทมหาชนจำกัด ต้องเดินทางมา ณ หน่วยบริการจดทะเบียนบริษัทมหาชนจำกัด กรมพัฒนาธุรกิจการค้า สนามบินน้ำ เท่านั้น แต่ปัจจุบันสามารถดำเนินการจดทะเบียนฯ ผ่านระบบ e-PCL ได้ทันที ช่วยประหยัดเวลาและค่าใช้จ่ายของภาคธุรกิจได้เป็นอย่างมาก โดยหลังจากที่กรมฯ ได้เปิดใช้ระบบการจดทะเบียนบริษัทมหาชนจำกัดทางอิเล็กทรอนิกส์ หรือ e-PCL มาครบ 6 เดือน ได้ดำเนินการประมวลผลปัญหา อุปสรรค ข้อดี ข้อด้อย และรับฟังข้อคิดเห็นด้านต่างๆ เกี่ยวกับการใช้งานระบบฯ จากผู้ใช้บริการ โดยได้ทำการปรับปรุงพัฒนาระบบให้มีประสิทธิภาพและเสถียรภาพตามข้อเสนอแนะของผู้ใช้บริการเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ทั้งนี้ ระยะต่อไป กรมฯ เตรียมเปลี่ยนแปลงการให้บริการจดทะเบียนบริษัทมหาชนเป็นผ่านระบบออนไลน์ e-PCL เพียงช่องทางเดียว เพื่อให้ภาคธุรกิจสามารถนำข้อมูลที่มีการจดทะเบียนฯ ไปใช้งานได้แบบเรียลไทม์ ลดข้อจำกัดด้านการรอคอยเอกสาร และเพิ่มประสิทธิภาพ ขีดความสามารถทางการแข่งขัน ส่งผลให้การบริหารจัดการธุรกิจมีความคล่องตัวและเกิดประสิทธิภาพสูงสุด และขอเชิญชวนกรรมการผู้มีอำนาจของบริษัทมหาชนจำกัดเร่งลงทะเบียนขอรับ Username & Password พร้อมยืนยันตัวตนให้เรียบร้อย เพื่อทำธุรกรรมการจดทะเบียนฯ ได้ทันที
อย่างไรก็ตาม ผู้ใช้งานที่มี Username & Password แล้ว สามารถเข้าระบบเพื่อจัดทำคำขอจดทะเบียน โดยกรอกข้อมูลเฉพาะส่วนที่จำเป็นต่อการจดทะเบียนและสอดคล้องกับเงื่อนไขตามที่กฎหมายกำหนด โดยระบบจะมีฟังก์ชัน (Function) ที่ช่วยอำนวยความสะดวกให้กับผู้ใช้งาน ด้วยการสร้างแบบคำขอจดทะเบียนและเอกสารอื่นที่เกี่ยวข้องกับการจดทะเบียนโดยอัตโนมัติ เช่น รายงานการประชุมฉบับคัดย่อสำหรับใช้เพื่อประกอบการจดทะเบียน หนังสือชี้แจงสำเร็จรูปสำหรับการจดทะเบียน เป็นต้น นอกจากนี้ ผู้ใช้งานยังสามารถเลือกใช้วัตถุประสงค์และข้อบังคับสำเร็จรูปที่สอดคล้องกับกฎหมายได้ เพียงคลิกเลือกจากเทมเพลต (Template) ภายในระบบ ภายหลังจากการจัดทำคำขอเสร็จสิ้นแล้ว กรรมการผู้ขอจดทะเบียนสามารถเลือกรูปแบบการยื่นคำขอได้ 2 รูปแบบ คือ การลงลายมือชื่อทางอิเล็กทรอนิกส์ผ่าน Mobile App DBD e-PCL ได้ทันที หรือเลือกลงลายมือชื่อแบบ e-Form ก็ได้ (พิมพ์แบบคำขอจดทะเบียนที่ระบบสร้างอัตโนมัติเฉพาะแผ่นที่ต้องลงลายมือชื่อและนำมายื่นที่กรมฯ) ซึ่งระบบจะช่วยอำนวยความสะดวกและลดขั้นตอนการจัดทำคำขอจดทะเบียนที่มีความยุ่งยากซับซ้อนให้ง่ายมากขึ้น
“กรมฯ ขอยืนยันว่า e-PCL เป็นระบบที่ใช้งานง่าย มีความสะดวก รวดเร็ว ช่วยประหยัดเวลา และลดต้นทุนค่าใช้จ่าย ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการแข่งขันให้ภาคธุรกิจ ทั้งนี้ สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ กองทะเบียนบริษัทมหาชนและธุรกิจพิเศษ กรมพัฒนาธุรกิจการค้า โทร 0 2547 5982 อีเมล์ bservice@dbd.go.th www.dbd.go.th และ สายด่วน 1570”นางอรมนกล่าว.-514-สำนักข่าวไทย