นนทบุรี 8 ก.พ.-รัฐมนตรีพาณิชย์เผยผลทำงาน 6 เดือนภายใต้พาณิชย์ยุคใหม่ดูแลเกษตรกร ดันพืชเกษตรทุกตัวราคาพุ่ง เตรียมแผนแก้ไขปัญหาทั้งระบบ โดยเฉพาะภัยแล้ง หาตลาดใหม่ และเดินหน้าขายข้าวแบบรัฐต่อรัฐเพื่อให้สินค้าเกษตรไทยมีราคาดีอย่างต่อเนื่อง ชี้แม้ภัยแล้งจะดูน่ากลัว แต่เชื่อว่าทุกส่วนงานจะร่วมกันหาทางออกให้กับประเทศได้แน่
นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์กล่าวว่าในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมาราคาสินค้าเกษตรสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นข้าว ข้าวโพค มันสำปะหลัง ยางพาราและปาล์มน้ำมันรวมถึงผลไม้ชนิดต่างๆทีราคาสูงขึ้น เช่น ราคาข้าวหอมมะลิ/ข้าวเหนียว ราคาเพิ่มขึ้น 12% มันสำปะหลัง เพิ่มขึ้น 49% ปาล์มน้ำมัน เพิ่มขึ้น 9% ยางพารา ยางแผ่นดิบ เพิ่มขึ้น 22% พืชหัว เช่น หอมแดง เพิ่มขึ้น 27% ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ เพิ่มขึ้น 6%
อย่างไรก็ตาม นโยบายการดูแลสินค้าเกษตรของกระทรวงพาณิชย์ยุคใหม่จะเน้นวางแผนล่วงหน้าจัดการผลผลิตในแต่ละช่วงเวลา เพื่อพยากรณ์อนาคตได้ บริหารจัดการผลผลิตล่วงหน้าทำให้ราคามีเสถียรภาพ มีการใช้ความร่วมมือระหว่างกรมการค้าภายใน และไปรษณีย์ไทย ระบายสินค้าเกษตร มีการจัดทำ Directory สินค้าผลไม้ทั้งในประเทศและต่างประเทศให้ทราบทั้งปริมาณและผลผลิตของพืชเกษตรแต่ละชนิดในแต่ละพื้นที่ พร้อมวางระบบติดตามสถานการณ์สินค้าเกษตร เพื่อรับมือแก้ปัญหาล่วงหน้า มีการศึกษาโครงสร้างต้นทุนและราคาสินค้าเกษตรให้ทุกฝ่ายได้ประโยชน์อย่างสมดุล แก้ปัญหาทั้งระบบ มีการเพิ่มประสิทธิภาพสินค้าเกษตร เช่น พัฒนาพันธุ์ข้าว ส่งเสริมการปลูกสินค้าเกษตร แก้ปัญหาโรคใบด่างมันสำปะหลังร่วมกับภาคเอกชน เพราะมันสำปะหลัง มีความต้องการมากในตลาดโลก ไทยเป็นประเทศที่ส่งออกเป็นลำดับต้นของโลกผลผลิตได้ต่ำกว่าความต้องการของตลาดโลกถึง 20% จึงได้ประชุมกับสมาคมมันสำปะหลังที่โคราช จะร่วมมือกับเอกชนทุกภาคส่วน แก้ไขปัญหาโรคใบด่างมันสำปะหลัง เพื่อร่วมกันหาทางออก รวมไปถึงการทำน้อยได้มาก พัฒนาศักยภาพเกษตรกร Smart Farmer ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญที่จะช่วยให้ภาคเกษตรไทยสามารถเติบโต เปลี่ยนแปลงได้อย่างยั่งยืนสร้างผู้ประกอบการ เกษตรกรยุคใหม่ และดูแลเกษตรกรรุ่นเก่า ให้ทั่วถึงก้าวทันโลก
ทั้งนี้ โดยทั้งหมดเกิดขึ้นได้ด้วยความเข้าใจในสินค้าและความใส่ใจในปัญหาของพี่น้องประชาชน เอาวิทยาการการบริหารจัดการ และความเข้าใจของแต่ละองค์กรทุกหน่วยงานช่วยกันแก้ไขปัญหาในทุกระยะ ขอบคุณความตั้งใจในการทำงานของกระทรวงพาณิชย์ทำให้เกิดประโยชน์สูงสุด ใช้วิธีคิดที่นอกกรอบ หากลไกมาพัฒนาสิ่งที่เป็นอยู่ ทำให้สามารถสำเร็จได้ ถ้ารู้จักคิดและรู้จักทำ แม้ช่วงในอีกไม่กี่เดือนหลายฝ่ายวิตกปัญหาภัยแล้งและมองว่าจะรุนแรงจนกระทบการเพาะปลูกพืชเศรษฐกิจสำคัญของไทยจนทำให้พี่น้องเกษตรกรต้องเดือดร้อน โดยรัฐบาลเข้าใจปัญหานี้ดี และได้เตรียมแผนรองรับไว้แล้ว ซึ่งจะทำงานทุกหน่วยงานเป็นแผนเดียวกันเพื่อหาทางช่วยเหลือลดผลกระทบจากภัยแล้งที่จะเกิดขึ้นในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้านี้
นอกจากนี้ สิ่งที่รัฐบาลจะเดินหน้าเพื่อยกระดับสินค้าเกษตรไทยสู่ตลาดโลกยังมีความจำเป็นที่ต้องช่วยกันผลักดันให้สินค้าเกษตรไทย เช่น ข้าว มันสำปะหลังไปขายในตลาดต่างประเทศด้วยราคาที่เหมาะสม แม้จะภาคเอกชนโดยเฉพาะสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทยระบุการที่ราคาข้าวไทยสูงจะทำราคาขายที่ลำบากและไม่จำเป็นต้องขายผ่านระบบภาครัฐต่อภาครัฐหรือจีทูจีเพียงอย่างเดียวนั้น ซึ่งตนมองว่า การทำตลาดไม่ว่าจะเป็นเอกชนต่อเอกชนหรือรัฐต่อรัฐขึ้นอยู่กับโอกาสและท่าทีของการเจรจา อย่างเช่น การขายข้าวให้กับอินโดนีเซียจำนวน 2 ล้านตัน โดยเป็นของเอกชน 1 ล้านตันและของรัฐอีก 1 ล้านตัน โดยของเอกชนก็เจรจากันไป ส่วนของภาครัฐตอนนี้อยู่ระหว่างเจรจาต่อรองกันอยู่ คาดว่าจะได้ข้อสรุปขายข้าวจีทูจีกับอินโดนีเซียได้จริงในเร็วๆนี้ รวมทั้งยังมีแผนการเจรจาขายข้าวแบบรัฐต่อรัฐอีกหลายประเทศที่สนใจจะทำสัญญาซื้อขายข้าวไทยอีกด้วย.-514-สำนักข่าวไทย