fbpx

“วนรัชต์ ตั้งคารวคุณ” ไม่สู้คดีที่ผู้ถือหุ้นกู้รายย่อย STARK ฟ้อง

กรุงเทพฯ 29 ม.ค.-“วนรัชต์ ตั้งคารวคุณ”ผู้ถือหุ้นใหญ่ STARK แถลงต่อศาลแพ่ง ด้วยเสียงสั่นเครือ ยืนยันไม่ผิด แต่ไม่ระวัง ไม่ต่อสู้คดีที่ผู้ถือหุ้นกู้รายย่อยฟ้อง ประกาศนําทรัพย์สินที่เหลืออยู่ไปบรรเทาทุกข์ให้แก่ผู้เสียหาย 


ดร.วีรพัฒน์ ปริยวงศ์ ที่ปรึกษากฎหมาย ผู้ได้รับมอบอำนาจจากกลุ่มประชาชนผู้เสียหายจากหุ้นกู้สตาร์คกว่า 4,600 ราย เปิดเผยว่า เมื่อช่วงเช้าวันที่ 29 ม.ค. 2567 ที่ผ่านมา นายวนรัชต์ ตั้งคารวคุณ ผู้ถือุห้นใหญ่ บริษัท สตาร์ค คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ  STARK จำเลยที่ 1 ในคดี ผู้เสียหายหุ้นกู้อีกกลุ่มฟ้อง กรรมการบริษัท STARK 5 รายได้เดินทางไปห้องพิจารณาคดีที่ศาลแพ่งกรุงเทพใต้ เพื่อแถลงต่อศาล ด้วยน้ำเสียงร้องไห้ต่อศาล ยืนยันว่าตนไม่ผิด แต่ไม่ระวัง ขอให้ศาลกําชับทนายความของตนไม่ต้องสู้คดีนี้  จะช่วยเยียวยาความเสียหายที่เกิดขึ้น

สำหรับคำแถลงของนายวนรัชต์  ต่อศาล แพ่ง ระบุว่า รู้สึกเสียใจเป็นอย่างยิ่งสําหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับบริษัท สตาร์ค คอร์เปอเรชั่น จํากัด (มหาชน) และกลุ่มสตาร์ค แม้ว่าข้าพเจ้าจะไม่ได้เป็น ผู้กระทําความผิดก็ตาม แต่ข้าพเจ้าก็รู้สึกเศร้าใจเป็นอย่างยิ่งที่ไม่สามารถ ดูแลในรายละเอียดของการบริหารจัดการได้ ซ้ํายังไว้วางใจคนผิดจนทําให้เกิด การผิดพลาดและการทุจริตขึ้นในบริษัทสตาร์คและกลุ่มสตาร์ค แต่เหตุการณ์ ที่เกิดขึ้นกับสตาร์คนั้นเป็นเรื่องส่วนตัวของข้าพเจ้า ไม่เกี่ยวข้องกับครอบครัวของข้าพเจ้า 


และข้าพเจ้ายังเห็นว่ากรรมการท่านอื่นไม่น่าจะมีส่วนเกี่ยวข้อง กับเรื่องนี้ด้วย รวมทั้งพนักงานระดับล่างซึ่งถูกล่อลวงหรือบีบคั้นจนต้องปฏิบัติตามคําสั่งของผู้กระทําการทุจริต ซึ่งบุคคลเหล่านี้เป็นบุคคลที่ควรได้รับความเห็นใจและไม่สมควรที่ต้องร่วมรับผิดกับผู้กระทําความผิดที่ได้สั่งการให้กระทําด้วย

ข้าพเจ้าสามารถรับรู้ได้ถึงความทุกข์ยากอย่างแสนสาหัสของกลุ่มผู้ซื้อหุ้นกู้รายย่อยที่ต้องมาร่วมรับเคราะห์กรรมในครั้งนี้ด้วย ข้าพเจ้าจึงใคร่ขอความกรุณาศาลได้โปรดเร่งกระบวนการพิจารณาคดีนี้โดยเร็ว และได้กําชับทนายความของข้าพเจ้าไม่ต้องสู้คดีนี้ ทั้งนี้เพื่อที่จะได้รีบนําทรัพย์สินของข้าพเจ้าที่เหลืออยู่ไปบรรเทาทุกข์ให้แก่ผู้เสียหาย 

นอกจากนี้ ข้าพเจ้าในฐานะผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของบริษัทสตาร์คจะดําเนินการ ทุกวิถีทางเพื่อประโยชน์ของกลุ่มผู้ซื้อหุ้นกู้รายย่อยหรือจนกว่ากลุ่มผู้ซื้อหุ้นกู้รายย่อยจะได้รับการเยียวยาจนเสร็จสิ้น 


โดยในเบื้องต้นข้าพเจ้าจะทําหนังสือแสดงเจตนาของข้าพเจ้าส่งไปยังคณะกรรมการบริษัทสตาร์คขอให้เร่งยุติ กระบวนการพิจารณาคดีที่เกี่ยวกับกลุ่มผู้ถือหุ้นกู้โดยเร็วที่สุด โดยยอมรับความจริงที่เกิดขึ้น เพื่อให้กลุ่มผู้ถือหุ้นกู้ได้รับสิทธิโดยชอบธรรมตามกฎหมายอย่างเต็มที่ในการบังคับคดีเอากับทรัพย์สินของสตาร์ค 

อันได้แก่ หุ้นและสิทธิ เรียกร้องเงินกู้ที่สตาร์คได้ให้บริษัท เฟลปส์ ดอด์จ อินเตอร์เนชั่นแนล (ไทย แลนด์) จํากัด กู้ยืมไปเป็นจํานวนหลายพันล้านบาท เพราะหากเวลาเนินช้า ออกไปแล้ว กลุ่มผู้ถือหุ้นกู้อาจไม่ได้รับความเป็นธรรมอย่างเต็มที่เพราะบริษัท เฟลปส์ ดอด์จ อินเตอร์เนชั่นแนล (ไทยแลนด์) จํากัด กําลังเข้าสู่การฟื้นฟู กิจการ ซึ่งหมายถึง การถูกบังคับจากเจ้าหนี้รายใหญ่ให้ทําการปรับปรุงโครงสร้างหนี้และลดยอดหนี้ส่วนนี้ลงในอนาคตอันใกล้นี้

บัดนี้ความจริงปรากฏชัดในระดับหนึ่งแล้วว่า เงินจากการทุจริตจํานวน 8,000 ล้านบาทถูกนําไปซุกซ่อนที่ประเทศอังกฤษส่วนหนึ่ง และอีกจํานวนหนึ่งที่กรม สอบสวนคดีพิเศษตรวจพบว่าอยู่ในความครอบครองของผู้กระทําความผิด ซึ่งเงินทุจริตอยู่ที่ใคร คนนั้นจะต้องรับผิดชอบ 

ข้าพเจ้าได้แต่หวังว่าหน่วยงานของรัฐจะสามารถเร่งดําเนินการเรื่องนี้ให้เสร็จสิ้นโดยเร็วที่สุด และสามารถนําตัวผู้กระทําความผิดมาฟ้องลงโทษได้ในที่สุด 

ส่วนตัวของข้าพเจ้าจะต้องเผชิญกับเคราะห์กรรมอะไรบ้างก็ขอให้โชคชะตาเป็นผู้กําหนด.-511-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

มหาวิทยาลัยแจงเหตุ นศ.สาวปี 3 แทงแฟน นศ.ปี 1 สาหัส

มหาวิทยาลัยออกแถลงการณ์ชี้แจงกรณีนักศึกษาหญิงทำร้ายนักศึกษาชาย ในหอพักจนบาดเจ็บสาหัส ด้านตำรวจยืนยันนักศึกษาหญิงที่ก่อเหตุมอบตัวแล้ว ยอมรับเป็นแฟนและทะเลาะกัน

รวบผู้ต้องสงสัยคดีฆ่าหั่นศพที่นนทบุรี นำตัวเข้าเซฟเฮาส์

รวบตัวชายไทย อายุประมาณ 35-40 ปี ต้องสงสัยคดีฆ่าหั่นศพ ภายในซอยจัดสรรสวิง 2 ถนนบ้านกล้วย-ไทรน้อย ต.พิมลราช อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ตำรวจนำตัวเข้าเซฟเฮาส์ อยู่ระหว่างสอบสวนและรวบรวมพยานหลักฐาน

ผู้ว่าการ ธปท.เตือน ครม. หวั่นดิจิทัลวอลเล็ตก่อหนี้จำนวนมาก

ทำเนียบฯ 24 เม.ย.- ผู้ว่าการ ธปท. ทำหนังสือถึง ครม. เตือนเดินหน้าดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท หวั่นก่อหนี้จำนวนมาก นายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้ทำหนังสือถึงสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ลงวันที่ 22 เมษายน 2567 เพื่อเสนอความเห็นประกอบการพิจารณาในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 23 เม.ย.2567 มองว่า โครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท เป็นโครงการขนาดใหญ่ของประเทศ  ต้องใช้เงินจำนวนมาก อาจก่อให้เกิดภาระหนี้ผูกพันต่อรัฐบาลในอนาคตดังนี้ 1.ความจำเป็น โครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท และผลกระทบต่อเสถียรภาพทางการคลังของประเทศ ควรดูแลครอบคลุมเฉพาะกลุ่มเป้าหมาย  เพื่อเป็นการแบ่งเบาภาระค่าครองชีพ ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างมีประสิทธิผลคุ้มค่า และใช้งบประมาณลดลง  โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบาง ยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ เช่น กลุ่มผู้มีรายได้น้อย หรือผู้ถือบัตรสวัสดิการฯ 15 ล้านคน ซึ่งดำเนินการได้ทันที และใช้งบประมาณเพียง 150,000 ล้านบาท และควรทำแบบแบ่งเป็นระยะ (phasing) เพื่อลดผลกระทบต่อเสถียรภาพการคลัง  […]

ข่าวแนะนำ

ดีเดย์ 29 เม.ย. ส่งกากแคดเมียมกลับคืนบ่อฝังกลบ

ดีเดย์ 29 เม.ย. ส่งกากแคดเมียมกลับคืนบ่อฝังกลบเที่ยวแรก 270 ตัน “พิมพ์ภัทรา” ลงพื้นที่สมุทรสาคร คุมหน้างานด้วยตัวเอง ย้ำต้องปลอดภัยได้มาตรฐานตลอดเส้นทาง

“ภูมิธรรม” ปลื้ม “กล้วยหอมทอง” โคราชส่งออกไปญี่ปุ่นเพิ่ม

รมว.พาณิชย์ ปลื้ม “กล้วยหอมทอง” โคราช ส่งออกไปญี่ปุ่นเพิ่ม สั่งทีมพาณิชย์เร่งส่งออกสินค้าเกษตร ช่วยชาวสวนไทยมีรายได้ยั่งยืน

ทั่วไทยอากาศร้อนถึงร้อนจัด สูงสุด 44 องศาฯ

กรมอุตุฯ รายงานทั่วไทยอากาศร้อนถึงร้อนจัด ภาคอีสาน สูงสุด 44 องศาฯ แนะเลี่ยงกิจกรรมกลางแจ้ง มีฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรงบางแห่ง

คุมเพลิงไหม้ “วิน โพรเสส” ได้แล้ว 95%

เหตุไฟไหม้โรงงานเก็บขยะเคมีอันตราย วินโพรเสส อ.บ้านค่าย จ.ระยอง วันนี้ เจ้าหน้าที่ควบคุมเพลิงได้แล้ว 95% เหลือเพียงจุดความร้อนที่อยู่ใต้ซากกองเพลิง ซึ่งยังต้องใช้สาร F500 ฉีดลดความร้อน แต่ยังมีกลิ่นฉุนแอมโมเนีย ด้านกรมโรงงานอุตสาหกรรมเช็กกล้องวงจรปิดตรวจสอบว่าเป็นการวางเพลิงเพื่อทำลายหลักฐานเช่นเดียวกับเหตุที่เกิดขึ้นใน อ.ภาชี จ.พระนครศรีอยุธยา หรือไม่