รมว.อุตฯ เตรียมดึงสถานประกอบการผลิตพลุเข้าข่ายเป็นโรงงาน 

กรุงเทพฯ 18 ม.ค.-รมว.อุตสาหกรรม เตรียมดึงสถานประกอบการผลิตพลุเข้าข่ายเป็นโรงงาน หวังคุมความปลอดภัยชีวิต-ทรัพย์สินประชาชน หลังเกิดเหตุถี่ และสั่งอุตฯจังหวัด-กรมโรงงานฯ ร่วมหน่วยงานเกี่ยวข้องดูหลักความปลอดภัยด้านวิศวกรรมทั้งหมด


น.ส.พิมพ์ภัทรา วิชัยกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมกล่าวถึงกรณีเกิดเหตุระเบิดที่สถานประกอบการผลิตพลุ ที่จ.สุพรรณบุรี ซึ่งมีผู้เสียชีวิต และได้รับบาดเจ็บเป็นจำนวนมากว่า  หลังจากเกิดเหตุการณ์ดังกล่าว ทางกระทรวงอุตสาหกรรม ได้ตรวจสอบทันที เบื้องต้นพบว่า สถานประกอบกิจการดังกล่าว ประกอบกิจการผลิตประทัดลูกบอลไล่นก ชนวนดำใช้กับพลุ  มีคนงานประมาณ 30 ราย และไม่มีการใช้เครื่องจักรในการประกอบกิจการ ให้คนงานใช้มือในการบรรจุดินปืนและประกอบส่วนต่างๆ  จึงไม่เข้าข่ายการเป็นโรงงาน ที่ต้องมีคนงานเกิน 50 ราย และใช้เครื่องจักรประกอบกิจการ  ทางผู้ประกอบกิจการรายนี้มีใบอนุญาตเกี่ยวกับดอกไม้เพลิง เป็นการออกให้ตามพระราชบัญญัติอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืน พ.ศ.2490  อยู่ในอำนาจของกระทรวงมหาดไทย  และได้ตรวจสอบพระราชบัญญัติวัตถุอันตราย พ.ศ.2535 และ ไม่พบว่าสารโพแทสเซียมคลอเรต ที่ใช้ในการจัดทำดอกไม้เพลิงนี้จัดอยู่ในบัญชีรายชื่อวัตถุอันตรายที่ออกตามพระราชบัญญัติดังกล่าว

 “แม้สถานประกอบการลักษณะดังกล่าว ไม่ได้เป็นโรงงาน แต่ทางกระทรวงอุตสาหกรรม ไม่ได้นิ่งนอนใจแต่อย่างใด เนื่องจากเป็นความปลอดภัยของพี่น้องประชาชนทั้งใน และรอบๆ สถานประกอบการ ทางกระทรวงอุตสาหกรรม จึงอยู่ระหว่างประสานหน่วยงานที่กำกับดูแลอย่างใกล้ชิด หากมีความจำเป็น อาจต้องกำหนดให้การประกอบกิจการประเภทนี้ เข้าข่ายเป็นโรงงาน ตาม พ.ร.บ.โรงงานอุตสาหกรรม  เพื่อที่กระทรวงฯ จะได้เข้าไปมีส่วนกำหนดเงื่อนไขการประกอบกิจการ กำกับดูแลให้เป็นไปตามหลักวิศวกรรม ทั้งด้านความปลอดภัยและสิ่งแวดล้อม ให้เกิดความรอบคอบรัดกุม เพื่อป้องกันการเกิดเหตุในลักษณะนี้อีก  หลังจากที่ผ่านมาช่วงเดือนก.ค. 66 เคยเกิดเหตุการณ์โกดังเก็บพลุดอกไม้ไฟระเบิดในพื้นที่ตลาดมูโนะ อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส แรงระเบิดทำให้พื้นที่ชุมชุมโดยรอบกว่า 500 เมตร เสียหายอย่างหนัก มีผู้บาดเจ็บ และเสียชีวิตจำนวนมากมาแล้วเช่นกัน” น.ส.พิมพ์ภัทรา กล่าว


 ทั้งนี้ ได้สั่งการให้หน่วยงานที่รับผิดชอบในกระทรวงอุตสาหกรรมไม่ว่าจะเป็นกรมโรงงานอุตสาหกรรม และอุตสาหกรรมจังหวัด ให้เข้าไปตรวจสอบเรื่องดังกล่าวอย่างเร่งด่วน และให้รายงานกลับมา เบื้องต้นแม้ว่า สถานประกอบกิจการดังกล่าวไม่เข้าข่ายเป็นโรงงาน ไม่ได้เป็นอำนาจหน้าที่ของกระทรวงอุตสาหกรรมตรง แต่ได้ให้หน่วยงานเข้าไปให้ความรู้และสนับสนุนการจัดความความปลอดภัยในโรงงานผลิตดอกไม้เพลิง และตอนนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาว่า จะนำสถานประกอบการลักษณะดังกล่าวเข้าเป็นโรงงานหรือไม่ เพื่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของพี่น้องประชาชนโดยรอบพื้นที่ และในตัวสถานประกอบการเองได้ต่อไป.-511-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สุดยื้อ! ด.ช.5 ขวบ น้ำหนัก 50 กก. อาหารติดคอดับ

เจ้าหน้าที่กู้ภัยพยายามปั๊มหัวใจเด็กชายวัย 5 ขวบ น้ำหนัก 50 กิโลกรัม อาหารติดคอ แต่สุดยื้อ เสียชีวิต ท่ามกลางความโศกเศร้าของครอบครัว

เจอร่างใต้ตึกถล่ม

เจออีก 4 ร่างใต้ซากตึกถล่มโซน C จ่อนำเครนยักษ์เปิดพื้นที่

กู้ภัยเจอ 4 ร่างผู้สูญหายตึกถล่ม โซน C รอส่งนิติเวชโรงพยาบาลตำรวจ เตรียมนำเครนเข้ายกแผ่นปูนขนาดใหญ่ เปิดพื้นที่มากขึ้น

“ไฮโซกำมะลอ” กระโดดชั้น 3 สน.โคกคราม

“ไฮโซเก๊” โลก 2 ใบ เครียดปีนตึก หลังถูก “คะน้า” ดาราสาว ออกมาแฉกลางรายการดัง จนตำรวจต้องเข้าเกลี้ยกล่อมพาไปโรงพัก แต่ยังวิ่งหนีการควบคุม กระโดดลงมาจากชั้น 3 สน.โครกคราม บาดเจ็บ

ปิดฉาก “มอเตอร์โชว์” ครั้งที่ 46 ยอดจองพุ่ง 7.9 หมื่นคัน โต 44.8%

ยอดจองรถยนต์ในงาน “บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 46” รวมทุกเซกเมนต์โตพุ่ง 44.8% หรือคิดเป็น 79,941 คัน โดยเป็น EV 65% ส่งผลให้ภาพรวมอุตสาหกรรมยานยนต์ของไทยในปีนี้ยังคงอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ยอดผู้เข้าชมงานทั้งสิ้น 1.6 ล้านคน

ข่าวแนะนำ

นายกฯ ควงหัวหน้าพรรคร่วม แถลงเลื่อน “เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์”

นายกฯ ควงหัวหน้าพรรคร่วม แถลงเห็นตรงกันเลื่อนพิจารณาร่าง พ.ร.บ.เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ออกไปก่อน หลังมีเรื่องด่วนกว่า ต้องจัดลำดับความสำคัญ แต่ไม่ถอนการพิจารณาในสภา บอกการเมืองบิดเป็นกาสิโน ลั่นผู้นำสไตล์ “แพทองธาร” พรรคร่วมต้องเห็นด้วยอย่างเต็มใจ

“คะน้า” แจ้งความเอาผิดไฮโซเก๊ หลอกจ่ายค่าแชมเปญ

“คะน้า” ดาราสาว แจ้งความตำรวจไซเบอร์ ดำเนินคดีกับอดีตแฟนหนุ่ม ข้อหาฉ้อโกง หลังหลอกให้จ่ายค่าแชมเปญ 98,000 บาท เพื่อเป็นของขวัญ

ตึกสตง.ถล่ม

เข้าสู่วันที่ 12 นำออกได้อีก 4 ร่าง ภารกิจค้นหาผู้สูญหายตึก สตง.ถล่ม

หลังดีเอสไอรับคดีตึก สตง.ถล่ม เป็นคดีพิเศษ วันนี้ (8 เม.ย.) กรรมการคดีพิเศษได้ลงพื้นที่สังเกตการณ์และหารือแรงงานที่เกี่ยวข้องกับพยานหลักฐาน เพื่อใช้ในคดีกับผู้ที่เข้าข่ายกระทำความผิด ขณะที่ กทม. ยืนยันใช้แผนเดิมในการรื้อถอนอาคาร โดยวันนี้จะพยายามตัดยอดส่วนบนให้ได้ 5 เมตร เพื่อหาร่างผู้ติดอยู่ในโซน B และ C