fbpx

นักวิชาการให้จับตาหลายปัจจัยเสี่ยงอาจกระทบเศรษฐกิจไตรมาสแรก

กรุงเทพฯ 4 ม.ค.-นักวิชาการมหาวิทยาลัยหอการค้าไทยมองงบประมาณรายจ่ายปี 67 จำนวน 3.48 ล้านล้านบาทภาพรวมกระตุ้นเศรษฐกิจได้ โดยเฉพาะเมื่องบประมาณเบิกจ่ายต้องเร่งเบิกจ่ายเต็มทีไปพร้อมกับเงินนอกงบประมาณที่รัฐบาลจะนำเงินหลายแสนล้านมากระตุ้นเศรษฐกิจ การท่องเที่ยวให้เศรษฐกิจไทยปี 67 โตได้ 3.2-3.5 % แต่ให้ติดตามยังมีปัจจัยเสี่ยงที่จะอาจกระทบต่อเศรษฐกิจไทยในช่วงไตรมาสแรกได้


นายธนวรรธน์  พลวิชัย อธิการบดี มหาวิทยาลัยหอการค้าไทยกล่าวว่าการพิจารณารายจ่ายประจำปีงบประมาณ 67 ของสภาผู้แทนราษฎรวาระที่ 1 จำนวน 3.48 ล้านบาทบาท ที่คาดว่าจะนำเม็ดเงินดังกล่าวมาใช้ได้จริงในเดือนพ.ค.67 นั้น ก็คาดว่าโดยภาพรวมแม้ว่ากระทรวงหลัก โดยเฉพาะกระทรวงมหาดไทย กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงการคลัง กระทรวงคมนาคมจะได้งบประมาณไปหลายแสนล้านบาท ถือว่าจะต้องนำงบประมาณไปใช้จ่ายในด้านต่างๆที่รัฐบาลได้กำหนดไว้ และเห็นว่าหลายโครงการเป็นโครงการต่อเนื่องและจำเป็นที่จะนำไปใช้ด้านการส่งเสริมองค์กรส่วนท้องถิ่น การพัฒนาด้านการศึกษาลดปัญหาการเหลื่อมล้ำทางสังคม การจัดทำโครงสร้างพื้นฐานของประเทศและอื่นๆ  

อย่างไรก็ตาม งบประมาณปี 67 เมื่อผ่านสภาผู้แทนราษฎรวาระที่ 2-3 มาแล้ว คาดว่าน่าจะเบิกจ่ายใช้ได้จริงประมาณเดือน พ.ค.นี้ ดังนั้น รัฐบาลจะต้องเร่งเบิกจ่ายประมาณประมาณทุกด้านทุกโครงการอย่างเต็มทีเพื่อเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงครึ่งปีหลัง แต่สิ่งที่จะต้องจับตาจากปัญหาหลายด้านโดยเฉพาะในช่วงไตรมาสแรกปี 67 ซึ่งยังมีหลายปัจจัยที่มีความเสี่ยง เช่น การฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก สงครามรัสเซียและยูเครน สงครามอิสราเอลและกลุ่มฮามาสที่ยังไม่รู้ว่าจะกลับมารุนแรงจนกระทบต่อราคาน้ำมันและพลังงานในตลาดโลกอย่างไร จนมากระทบต่อการฟื้นตัวภาคการส่งออกของโลกและของไทยอีกด้วย แต่หากความกังวลดังกล่าวไม่รุนแรงการค้าของโลกฟื้นตัวส่งออกไปได้ดีและต่อเนื่องได้จะทำให้ทิศทางเศรษฐกิจโลกและเศรษฐกิจไทยจะกลับมาดีขึ้นในช่วงไตรมาส 2 เป็นต้นไปได้


นอกจากนี้ ยังเห็นว่าแม้งบประมาณรายจ่ายในปี 67 จำนวน 3.48 ล้านล้านบาทจะเริ่มเบิกจ่ายได้จริงช่วงเดือน พ.ค.นี้ แต่เศรษฐกิจไทยในปี 67 ยังจำเป็นต้องมีเงินนอกงบประมาณที่รัฐบาลตั้งไว้หลายแสนล้านบาทที่จะนำมาใช้ผ่านโครงการดิจิทัลวอลเล็ต มาตรการด้านภาษี มาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวฟรีวิซ่าและอื่นๆถือว่าเป็นมาตรการเร่งด่วนและจำเป็นในระยะสั้น เพื่อให้จีดีพีของไทยในปีนี้เติบโตอยู่ที่ 3.2-3.5% 

อย่างไรก็ตาม แต่สิ่งที่ทุกฝ่ายอยากเห็นแผนงานกระตุ้นเศรษฐกิจระยะปานกลางและระยะยาวของรัฐบาลจะต้องวางแผนให้มีความชัดเจน เช่น การปรับโครงสร้างพื้นฐานระบบสาธารณูโภคต่างๆให้เห็นเป็นรูปธรรมเพื่อเป็นแรงจูงใจให้ต่างชาติเข้ามาลงทุนในประเทศไทยเพิ่มมากยิ่งขึ้นและพัฒนาด้านการท่องเที่ยวให้เป็นระบบเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกให้เข้ามาท่องเที่ยวในไทยเพราะเชื่อว่าไทยมีโอกาสสูงที่นักลงทุนและนักท่องเที่ยวสนใจที่จะเข้ามาลงทุนและท่องเที่ยวได้ และรวมไปถึงในด้านการศึกษาเกี่ยวกับภาษาต่างประเทศที่คนไทยจะต้องปรับตัวเรียนรู้รองรับต่อการลงทุนและการท่องเที่ยวของชาวต่างชาติที่เข้ามาในประเทศไทยเพิ่มมากขึ้นอีกด้วย.-514-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผู้อพยพจากไทยคว้าแจ็กพอตเพาเวอร์บอล

ผู้อพยพจากไทยไปใช้ชีวิตอยู่ในสหรัฐดวงเฮง คว้ารางวัลแจ็กพอตลอตเตอรี่เพาเวอร์บอล ได้เงินรางวัลสูงถึง 1,300 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

“ซูเปอร์โพล” เผยผลสำรวจสเปก “ผบ.ตร.คนใหม่” ต้องซื่อสัตย์สุจริต

“ซูเปอร์โพล” เผยผลสำรวจสเปก “ผบ.ตร.คนใหม่” ต้องซื่อสัตย์สุจริต ชี้ประชาชนเบื่อมากข่าวนายตำรวจระดับสูง ควรเร่งทำงานสร้างความปลอดภัยให้ประชาชน

นายกฯ บอกขอโทษ “ปานปรีย์” แล้ว ไม่ขัดแย้ง

นายกฯ เผยขอโทษ “ปานปรีย์” แล้วหลังหลุดรองนายกฯ รับมีทั้งคนพอใจ ไม่พอใจ ยันสัมพันธ์ลูกเป็นเพื่อนกัน ไม่ขัดแย้ง เชื่อคนใหม่สานต่องานได้  

“ปานปรีย์” รับยื่นลาออก หลังถูกปรับพ้นรองนายกฯ

“ปานปรีย์” ยอมรับยื่นลาออก หลังถูกปรับออกจากรองนายกฯ ชี้หากไม่มีตำแหน่งพ่วงอาจทำงานไม่ราบรื่น ลั่นหากมีคนอื่นเหมาะสมกว่าให้มาทำงานแทน

ข่าวแนะนำ

“ทนายตั้ม” เดินหน้ายื่น ปปง.ยึด-อายัดทรัพย์สินภรรยา “บิ๊กตำรวจ”

“ทนายตั้ม” รุกคืบยื่น ปปง. ยึด-อายัดทรัพย์สินภรรยา “บิ๊กตำรวจ” ที่ได้จากการฟอกเงินเว็บพนัน พร้อมเปิดตัวละครใหม่ “สารวัตร สาวหล่อ” ให้ ปปง.ตรวจสอบด้วย

ผู้อพยพจากไทยคว้าแจ็กพอตเพาเวอร์บอล

ผู้อพยพจากไทยไปใช้ชีวิตอยู่ในสหรัฐดวงเฮง คว้ารางวัลแจ็กพอตลอตเตอรี่เพาเวอร์บอล ได้เงินรางวัลสูงถึง 1,300 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

“ทุเรียนหมอนทองเขาบรรทัด” ขึ้นทะเบียนเป็นสินค้า GI แล้ว

อธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญา ประกาศขึ้นทะเบียน “ทุเรียนหมอนทองเขาบรรทัด” สินค้า GI รายการใหม่ ประจำจังหวัดตราด เนื้อสีเหลืองอ่อน รสชาติหวาน มัน เป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวและผู้บริโภคสร้างรายได้ให้เกษตรกรอย่างยั่งยืน