จัดใหญ่มหกรรมของขวัญปีใหม่ลดค่าครองชีพให้ประชาชน  

กรุงเทพฯ 20 ธ.ค. – พาณิชย์มอบของขวัญปีใหม่ 2567 จัดใหญ่ นิวเยียร์ เมกกะเซลล์ 2024 ขึ้นทั่วประเทศ ลดราคาสูงสุด 82% เริ่มตั้งแต่ 15 ธ.ค.66 ถึง 15 ม.ค.67 เป็นเวลา 1 เดือน และช่วงวันที่ 20-24 ธ.ค.นี้ ร่วมกับผู้ผลิตสินค้า จัดภายในฮอล์ 9-10 ศูนย์การแสดงสินค้าอิมแพ็ค เมืองทองธานี คาดว่าจะช่วยลดค่าครองชีพให้แก่พี่น้องประชาชนสูงถึง 4,000 ล้านบาท สามารถกระตุ้นเศรษฐกิจได้มากกว่า 12,000 ล้านบาท เพื่อส่งมอบความสุข ส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่


นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ และนายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ นำทีมพาณิชย์ มอบของขวัญปีใหม่ 2567 ให้ประชาชน และผู้ประกอบการ เพื่อส่งมอบความสุข ส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ เพิ่มความสุข สำหรับมาตรการช่วยลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ ขยายโอกาส ซึ่งเป็นมหกรรมที่ประชาชนรอคอยและเป็นโอกาสแก่พี่น้องประชาชน ได้เข้าถึงแหล่งผลิตสินค้าจากผู้ผลิตโดยตรงเพื่อช่วยลดรายจ่ายแล้ว ยังเป็นเวทีที่เปิดโอกาสให้ผู้ผลิตรายใหม่ ๆ ได้มีช่องทางการเพิ่มรายได้และเพิ่มโอกาสของคนตัวเล็ก ๆ อีกจำนวนมาก

อย่างไรก็ตาม ในปีนี้กระทรวงพาณิชย์ได้จัดงาน นิวเยียร์ เมกกะเซลล์ 2024 ขึ้นทั่วประเทศ ลดราคาสูงสุด 82% เริ่มตั้งแต่ 15 ธันวาคม 66 ถึงวันที่ 15 มกราคม 67 เป็นเวลา 1 เดือน และเพื่อให้คนกรุงเทพมหานครและจังหวัดใกล้เคียงได้สินค้าดีราคาถูก จึงได้นำโครงการนี้มาจัดมหกรรมสินค้าภายในฮอล์ 9-10 ศูนย์การแสดงสินค้าอิมแพ็ค เมืองทองธานี ระหว่างวันที่ 20-24 ธ.ค.นี้ เป็นเวลา 5 วัน ซึ่งมีสินค้าจาก 3 กลุ่มสำคัญ ได้แก่ สินค้าอุปโภคบริโภค บริการ และค้าออนไลน์ กว่า 41,267 รายการ มาลดสูงสุดถึง 82% พี่น้องประชาชนจะได้เลือกซื้อสินค้า ของใช้ อุปโภค บริโภค ที่จำเป็นได้ยังมีธุรกิจบริการมาร่วมจัดแสดงสูงสุดอีกกว่า 1,180 รายการ ไม่ว่าจะเป็นบริการทางการแพทย์ ยาและเวชภัณฑ์ แฟรนไชส์ บริการขนส่งและโลจิสติกส์ ที่พัก ร้านอาหาร การเดินทาง อุปกรณ์ยานยนต์และซ่อมบำรุงรถยนต์ บัตรเครดิต อินเทอร์เน็ต อสังหาริมทรัพย์ และประกันภัย ลดราคาข้าวสารเพื่อประชาชน ขององค์การคลังสินค้า และอื่น ๆ อีกจำนวนมากจากของขวัญปีใหม่ เป็นต้น


นอกจากการจัดงานดังกล่าวแล้วกระทรวงพาณิชย์ยังเพิ่มมาตรการด้านต่างๆ เพื่อเป็นของขวัญปีใหม่นี้ด้วย ได้แก่ เพิ่มอาชีพจากนโยบายรัฐบาลที่มุ่งแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบ ได้เตรียมการรองรับและผลักดันให้พี่น้องประชาชน SMEs ที่เป็นคนตัวเล็กเหล่านี้เมื่อปลดหนี้นอกระบบแล้ว ได้มีโอกาสลืมตาอ้าปาก มีช่องทางทำมาหากินเพิ่มขึ้น โดยเตรียมลดแพ็กเกจแฟรนไชส์ให้สูงสุด 30% อาทิ แฟรนไชส์ร้านอาหาร ไม่ว่าจะเป็น เตี๋ยวตุ๋นหม้อไฟ ไจแอ้นลูกชิ้นระเบิด หรือเครื่องดื่มชานม อย่าง Am Tea หรือ Zerocco เป็นต้น ตลอดจนจะมีเจ้าหน้าที่ไปช่วยดูแลทั้งกระบวนการดำเนินธุรกิจให้เกิดความเป็นธรรม

แนวทางเพิ่มทักษะ เมื่อรัฐบาลได้ประกาศขึ้นค่าแรงขั้นต่ำทั่วประเทศ การพัฒนาและยกระดับทักษะฝีมือแรงงานหรือ Up-Skill, Re-Skill เป็นสิ่งจำเป็น เพื่อสอดรับกับค่าแรงที่เพิ่มขึ้นและเป็นการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศกระทรวงพาณิชย์จึงได้เตรียมหลักสูตรสำคัญและจำเป็นแก่ SMEs ทุกท่าน ตลอด 3 เดือน โดยไม่มีค่าใช้จ่าย อาทิ หลักสูตรเพิ่มศักยภาพด้านการบริหารจัดการธุรกิจอย่างครบวงจรกับ DBD Academy (e-Learning) เช่น การบริหารจัดการธุรกิจอย่างครบวงจร การเพิ่มทักษะในการทำงบดุลบัญชี การคำนวณต้นทุน การพัฒนาทักษะการค้าออนไลน์ โดยออกหนังสือรับรองได้ทันที ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม -30 พฤศจิกายน 2567 ส่วน SMEs ที่สนใจด้านการส่งออกกระทรวงฯ ได้เตรียมหลักสูตรสำคัญมากมายทั้งการพัฒนาผู้ส่งออกให้สอดคล้องกับบริบทของโลกที่เปลี่ยนแปลงไป จัดกิจกรรมบูธ FTA Center ที่ให้ความรู้ด้านการใช้ประโยชน์จาก FTA ตั้งแต่วันที่ 18 – 28 ธันวาคม 2566 (วันจันทร์ – วันพฤหัสบดี) รวมไปถึงจัดกิจกรรมสัมมนาเศรษฐกิจการค้า อิสราเอล – ฮามาส/ รัสเซีย – ยูเครน/จีน – สหรัฐฯ ตั้งแต่วันที่ 16 ธันวาคม 2566 –   15 มกราคม 2567 เป็นต้น

การเพิ่มโอกาส สำหรับ SMEs ที่ทำธุรกิจร้านอาหาร คาเฟ่ สปา โรงแรม รีสอร์ท สามารถใช้ลิขสิทธิ์เพลงภายใต้ผู้ให้บริการด้านการจัดเก็บลิขสิทธิ์ที่มีเพลงมากกว่า 10 ล้านเพลง โดยสมัครผ่านบริษัทโฟโนไรท์ (ไทยแลนด์) จำกัด เพื่อขอรับสิทธิ์ในการใช้เพลงฟรีเป็นเวลา 3 เดือน พร้อมทั้งมอบส่วนลด 50-55% เป็นเวลา 1 ปี เมื่อต่ออายุการใช้งาน นอกจากนี้ ยังขยายระยะเวลาการให้บริการต่าง ๆ ของกระทรวง อาทิ เปิดให้บริการออกใบอนุญาตและหนังสือรับรองการส่งออก-นำเข้าสินค้า ในวันที่ 29 ธันวาคม 2566 บริการรับจดทะเบียนนิติบุคคลและออกหนังสือรับรอง ในช่วงเวลา 16.30-17.30 น. ระหว่างวันที่ 18-22 ธันวาคม 2566


นอกจากนี้ยังลดค่าธรรมเนียมการจดทะเบียนห้างหุ้นส่วนและบริษัทจำกัดในเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2567 –31 ธันวาคม 2569 ในจังหวัดนราธิวาส ปัตตานี ยะลา สงขลา สตูล พร้อมกันนี้ ยังจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายร่วมกับ E-commerce และ Food delivery ชั้นนำ อาทิ Shopee Lazada Robinhood Lineman Foodpanda Grab AirasiaSuperapp Kerry Jatujak mall Thailand postmart รวมทั้งคาดว่าจะช่วยลดค่าครองชีพให้แก่พี่น้องประชาชนสูงถึง 4,000 ล้านบาท สามารถกระตุ้นเศรษฐกิจได้มากกว่า 12,000 ล้านบาท สำหรับกลุ่ม SMEs และคนตัวเล็กลดค่าใช้จ่ายได้ 1,656 ล้านบาท มี SMEs ได้ประโยชน์มากกว่า 6,000 ราย และที่สำคัญจะสามารถสร้างงาน สร้างอาชีพใหม่ได้มากกว่า 20,000 ครัวเรือน ซึ่งกระทรวงพาณิชย์หวังเป็นอย่างยิ่งว่าของขวัญปีใหม่ 2567 นี้ จะเกิดประโยชน์โดยตรงกับประชาชน ผู้ประกอบการ ให้อยู่ดี กินดี มีความสุขตลอดเทศกาลปีใหม่ 2567 นี้” นายภูมิธรรม กล่าว

นางอำพร ทองสุข ประชาชน กล่าวว่า หลายปีที่ผ่านมาได้รับผลกระทบจากปัญหาค่าครองชีพที่สูงขึ้นต่อเนื่อง เดือดร้อนอย่างมาก ขายสินค้าก็ไม่ดี ดังนั้น จึงอยากฝากรัฐบาลของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีจะต้องลงมาดูทำอย่างไรไม่ให้ราคาสินค้าแพงขึ้นไปมาก เพราะยิ่งแพงมากจะทำให้ประชาชนมีความลำบากกระทบต่อการครองชีพ จึงอยากให้รัฐบาลเข้ามาดูแลไม่ให้สินค้าอุปโภคและบริโภคมีแต่สูงแต่ไม่ลดลง ซึ่งรัฐบาลจะตัองเน้นดูแลคนรากหญ้าให้มากยิ่งขึ้น

นางสำรอง โกศิลปศักดิ์ กลุ่มทอผ้าย้อมสีธรรมชาตื หนองบัวแดง จังหวัดชัยภูมิกล่าวว่า ที่ผ่านมาค้าขายไม่ได้ผลิตสินค้าออกมาก็ไม่มีที่วางขาย จึงอยากให้รัฐบาลเข้ามาช่วยดูแลหาพื้นที่ชุนชนให้วางขายได้ รวมทั้งจะต้องหาหนทางทำอย่างไรไม่ให้สินค้าแพงจนเกินไปและควรทำให่เศรษฐกิจไทยกลับมาดีขึ้น เพื่อให้สินค้าชุมชนเป็นที่ยอมรับของคนไทยและชาวต่างชาติมากขึ้นได้ต่อไป.-514-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เปิดเนื้อหาหนังสือแจง UNSC กัมพูชาวางทุ่นระเบิด-เริ่มยิงก่อน

25 ก.ค.- เปิดเนื้อหาหนังสือจากผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติที่นิวยอร์ก เพื่อชี้แจงต่อประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา นายเชิดชาย ใช้ไววิทย์เอกอัครราชทูต ผู้แทนถาวรไทย ประจำสหประชาชาติ ณ นครนิวยอร์ก ส่งหนังสือชี้แจงต่อประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ระบุว่า ขอแจ้งให้ท่านและสมาชิกคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติทุกท่านทราบ ถึงสถานการณ์อันร้ายแรงที่ส่งผลกระทบต่ออธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนของไทย อันเป็นผลจากการรุกรานทางทหารของประเทศกัมพูชา โดยมีรายละเอียด ดังนี้ 1.     เมื่อวันที่ 16 และ 23 กรกฎาคม ค.ศ. 2025 ขณะที่เจ้าหน้าที่ทหารไทยกำลังลาดตระเวนตามเส้นทางปกติที่กำหนดไว้ ซึ่งอยู่ภายในอาณาเขตของประเทศไทย ทหารได้เหยียบทุ่นระเบิดชนิด PMN-2 ส่งผลให้ทหาร 2 นาย ได้รับบาดเจ็บอย่างสาหัสส่งผลถึงขั้นพิการถาวร ขณะที่ทหารนายอื่น ๆ ก็ได้รับบาดเจ็บสาหัส ทุ่นระเบิด PMN-2 ทั้งหมดที่พบอยู่ในสภาพใหม่ ยังมีเครื่องหมายที่มองเห็นได้ชัดเจน หลักฐานบ่งชี้ว่าทุ่นระเบิดเหล่านี้เพิ่งถูกวางใหม่ ในฐานะที่ประเทศไทยเป็นรัฐภาคีของอนุสัญญาห้ามทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ไทยได้ยื่นรายงานประจำปีเกี่ยวกับความโปร่งใสในการดำเนินการตามพันธกรณีในอนุสัญญาดังกล่าว ตามมาตรา 7 ของอนุสัญญาฯ อย่างต่อเนื่อง รายงานดังกล่าวระบุว่าประเทศไทยได้ทำลายทุ่นระเบิดในคลังทั้งหมดแล้วตั้งแต่ปี ค.ศ. 2003 และต่อมา ได้ทำลายทุ่นระเบิดทั้งหมดที่เก็บไว้เพื่อการฝึกอบรมและการวิจัยในปี ค.ศ. […]

“ภูมิธรรม” เชื่อประชาชนคิดเหมือน “ทักษิณ” ขอให้กองทัพลบเหลี่ยม “ฮุนเซน”

ก.มหาดไทย 25 ก.ค.-“ภูมิธรรม” เชื่อประชาชนคิดเหมือน “ทักษิณ” ขอให้กองทัพลบเหลี่ยม “ฮุนเซน” ชี้รับฟังทุกความไม่พอใจ แต่ทุกอย่างเป็นไปตามยุทธวิธี ให้ทหารมีอิสระในการทำงาน มอง “ก่อแก้ว” ขอศาล รธน. คืนอำนาจให้ “แพทองธาร” เป็นความเห็นเหมือนประชาชนจำนวนมาก แต่ให้เป็นตามกระบวนการยุติธรรม นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รักษาการนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความผ่านทวิตเตอร์ ระบุถึง อยากให้กองทัพสั่งสอนความเจ้าเล่ห์ของฮุนเซนก่อน ว่า ก็เหมือนประชาชนทั่วไป ที่เวลานี้มีความรู้สึกเช่นนั้น หลายคนแสดงความเห็นให้ทำแบบนู้นแบบนี้ เราก็รับฟังความห่วงใยความไม่พอใจที่เราถูกกระทำ ตนเข้าใจความรู้สึกเหล่านั้น และเห็นว่าเป็นจุดมุ่งหมายเดียวกัน เพราะเรื่องอธิปไตยของประเทศ การรุกล้ำเข้ามา กระทบประชาชนเรายอมไม่ได้ ซึ่งที่ผ่านมาทุกฝ่ายจะเห็นว่าเราประนีประนอม (Compromise) ให้มากที่สุด แต่เมื่อสิ่งดังกล่าวไม่เกิดขึ้น และเป็นปัญหา วันนี้จึงได้สั่งการให้ทหารมีอิสระในพื้นที่ โดยผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) เป็นผู้คุมยุทธการ ปฏิบัติได้ตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้น รวมถึงได้มีการทำความเข้าใจกับ พลเอก ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะรักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม มีการโทรคุยกับผู้บัญชาการทหารสูงสุด […]

เข้าสู่วันที่ 2 กัมพูชาเปิดฉากตั้งแต่เช้ามืด ที่ปราสาทตาเมือนธม

สุรินทร์ 25 ก.ค.-เข้าสู่วันที่ 2 เหตุปะทะไทย-กัมพูชา เริ่มเปิดฉากยิงกันตั้งแต่เช้ามืด บริเวณปราสาทตาเมือนธม และปราสาทตาควาย อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ ขณะนี้เสียงยังดังต่อเนื่อง ก่อนขยายการสู้รบไปตลอดแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ด้านอีสานใต้ อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ เป็นพื้นที่แรกที่ฝ่ายกัมพูชาเปิดฉากยิงก่อนด้านปราสาทตาเมือนครับ เช้ามืดวันนี้ ราวตี 5 ครึ่ง ก็เริ่มปะทะกันอีก ขณะนี้ก็มีเสียงดังอย่างต่อเนื่อง เส้นทางจากอำเภอปราสาท จังหวัดสุรินทร์ เข้าสู่อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ แม้สายแล้ว ก็มีรถสัญจรไปมาค่อนข้างน้อย เนื่องจากเป็นพื้นที่เสี่ยงภัยการสู้รบ โดยอำเภอพนมดงรักเป็นหนึ่งใน 4 อำเภอ ที่ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ ประกาศให้ผู้ที่ไม่มีความจำเป็นเข้าพื้นที่ร่วมกับอำเภอกาบเชิง บัวเชดและสังขะ โดยตลอดช่วงเช้าที่ผ่านมา ในพื้นที่ตามแนวชายแดนได้ยินเสียงการปะทะด้วยกระสุนปืนใหญ่ดังอย่างต่อเนื่อง ผู้นำหมู่บ้านบันทึกสถิติเฉพาะฝั่งไทยตอบโต้เกินกว่า 100 ลูกแล้ว บ้านหนองแรด ตำบลบักได อำเภอพนมดงรัก ที่จรวดหลายลำกล้อง BM 21 ตกเยอะสุด 10 ลูก วานนี้โดยรอบหมู่บ้าน โชคดีไม่ลงบ้านเรือน มีกระจกแตกเล็กน้อยจากแรงอัดลูกจรวดเท่านั้น วันนี้ ยังมีชาวบ้านอยู่นับร้อยคนหลบอยู่ในหลุมหลบภัย จากทั้งหมด […]

เปิดศูนย์พักพิงชั่วคราวรองรับประชาชนพื้นที่เสี่ยงภัยชายแดน

ศรีสะเกษ 24 ก.ค. – บรรยากาศคืนแรกที่ศูนย์อพยพฯ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ประชาชนต้องละทิ้งบ้านเรือนมาพักอาศัยชั่วคราว จากเหตุปะทะตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา นี่เป็นบรรยากาศค่ำคืนแรกที่ประชาชนในเขต อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ต้องออกมาพักอาศัยนอกบ้านเรือน ตั้งแต่เกิดเหตุกัมพูชายิงจรวดเข้าใส่เขตพักอาศัยของพลเรือน ซึ่งเป็นการละเมิดข้อตกลงระหว่างประเทศ ทำให้ตลอดทั้งวัน อ.กันทรลักษ์ มีการอพยพประชาชนแล้วมากกว่า 41,000 คน กระจายไปตามจุดต่างๆ โดยจุดนี้เป็นจุดที่น่าจะมีผู้อพยพมากที่สุด เพราะใกล้แนวชายแดนที่อยู่ในระยะปลอดภัยมากที่สุด คือ ประมาณ 40 กิโลเมตร จากแนวชายแดน มีประชาชนเข้ามาพักอาศัย 4,865 คน และยังมีจุดอื่นๆ ที่ใกล้เคียงกระจายกันไป ผลจากสถานการณ์ตึงเครียดและพลเรือนตกเป็นเป้าของการโจมตี ทำให้หลายคนอยู่ในอาการเครียดและกังวล เจ้าหน้าที่ต้องมีการประชาสัมพันธ์ให้กำลังใจเป็นระยะ รวมทั้งให้บริการยาและอุปกรณ์ต่างๆ ที่จำเป็นเบื้องต้น พร้อมกันนี้ได้ย้ำให้ปฏิบัติตามคำแนะนำของนายอนุพงศ์ สุขสมนิตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ ที่ได้ฝากแจ้งประชาชนที่ยังลังเลไม่ยอมอพยพออกจากพื้นที่ เนื่องจากเป็นห่วงทรัพย์สินหรือสัตว์เลี้ยง ว่า ขณะนี้มีชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) ผู้ใหญ่บ้าน และกำนัน ดูแลพื้นที่อย่างใกล้ชิดทุกหมู่บ้าน จึงขอให้ทุกคนให้ความร่วมมือ และออกมาจากพื้นที่เสี่ยงตามจุดนัดหมาย เพื่อความปลอดภัยของตนเองและครอบครัว. – สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

กรมอุตุฯ เผย “เหนือ-อีสาน” ยังมีฝนตกหนักบางแห่ง

กทม. 26 ก.ค.- กรมอุตุฯ เผย “เหนือ-อีสาน” ยังคงมีฝนตกหนักบางแห่ง เตือน 7 จังหวัดรับมือ อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยตอนบนยังคงมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ ตาก บึงกาฬ สกลนคร นครพนม และมุกดาหาร ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ทั้งนี้เนื่องจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังค่อนข้างแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ในขณะที่มีหย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณประเทศเวียดนามตอนบน สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบน และอ่าวไทยตอนบนมีกำลังปานกลาง โดยมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุโซนร้อน “ก๋อมัย” บริเวณมหาสมุทรแปซิฟิก มีแนวโน้มเคลื่อนตัวไปทางตอนใต้ของประเทศญี่ปุ่น โดยพายุนี้ไม่เคลื่อนเข้าสู่ประเทศไทย.- สำนักข่าวไทย

9 ทันโลก : แจงด่วน! คณะมนตรีความมั่นคง ไทยนี้รักสงบ

25 ก.ค. – นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ จะร่วมประชุมคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ตามที่กัมพูชาร้องขอไว้ รายงาน 9 ทันโลก พาไปติดตามบทบาทและโอกาสของไทยบนเวทีสำคัญนี้ ไทยในฐานะสมาชิกสหประชาชาตินานเกือบ 80 ปี จะได้แสดงบทบาทอีกครั้งในคณะมนตรีความมั่นคง ซึ่งเป็นโอกาสสำคัญในการสื่อสารกับประชาคมโลก ถึงการกระทำของกัมพูชา ซึ่งเป็นการละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศหลายด้าน รวมถึงกฎบัตรสหประชาชาติที่ไทยยึดมั่น ในห้องประชุมนี้ ไทยในฐานะสมาชิกสหประชาชาติ ลำดับที่ 55 จะทำหน้าที่อีกครั้งในภารกิจด้านสันติภาพ ตั้งแต่เข้าเป็นสมาชิกเมื่อปี 2489 ที่นี่ไทยเคยทำหน้าที่ประธานการประชุมคณะมนตรีความมั่นคง โดยพลอากาศเอก สิทธิ เศวตศิลา และหม่อมหลวง พีระพงศ์ เกษมศรี ทำหน้าที่สองวาระ ในปี 2528 และ 2529 ในเวลาที่สงครามเย็นคุกรุ่น มาในวันนี้ไทยกำลังจะมีโอกาสอันดีที่ได้ใช้ช่องทางการทูตสำคัญ เสาหลักความมั่นคงของสหประชาชาติ ในอีกบทบาทหนึ่งที่ยังคงอยู่บนพื้นฐานการแสวงหาสันติภาพตามกลไกนี้ เมื่อประเทศสมาชิก ในกรณีนี้คือกัมพูชา ร้องขอให้เปิดประชุมเร่งด่วน สมาชิกคณะมนตรีซึ่งมีสมาชิกถาวร 5 ประเทศ และสมาชิกไม่ถาวร 10 ประเทศ พิจารณากรณีที่เป็นภัยคุกคามใดต่อสันติภาพและความมั่นคงระหว่างประเทศ เช่น กรณีการปะทะระหว่างไทยกับกัมพูชา […]

น่านยังอ่วม บางจุดน้ำท่วมสูงเกือบ 2 เมตร

น่าน 25 ก.ค. – เข้าสู่วันที่ 3 น้ำท่วมใหญ่เป็นประวัติการณ์ของเมืองน่าน แม้ระดับน้ำลดลงบ้างแล้ว แต่ในตัวเมือง-เขตเศรษฐกิจยังท่วมสูง บางจุดระดับน้ำเกือบ 2 เมตร ขณะที่ “บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์” นำทีมกู้ภัยฝ่ากระแสน้ำเชี่ยวเข้าช่วยเหลือชาวบ้าน .-สำนักข่าวไทย

มีผลทันที! ประกาศกฎอัยการศึก 8 อำเภอ “จันทบุรี-ตราด”

25 ก.ค.- กองบัญชาการป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด ประกาศใช้กฎอัยการศึกบางพื้นที่ มีผลทันที กองทัพเรือ โดย กองบัญชาการป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด “ประกาศใช้กฎอัยการศึก” บางพื้นที่ ดังนี้ ตามที่ได้มีประกาศคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ลงวันที่ 19 กันยายน 2549 ให้ใช้กฎอัยการศึกทั่วราชอาณาจักร ตั้งแต่วันที่ 19 กันยายน 2549 เวลา 21.05 นาฬิกา ซึ่งต่อมาได้มีพระบรมราชโองการเลิกใช้กฎอัยการศึกในบางเขตพื้นที่ และให้ใช้กฎอัยการศึกในบางเขตพื้นที่ ลงวันที่ 31 ธันวาคม 2550 นั้น โดยที่ปรากฏว่าประเทศกัมพูชาได้ใช้กำลังและอาวุธรุกรานเข้ามาในราชอาณาจักรไทยตลอดแนวชายแดน จึงมีความจำเป็นโดยมิอาจหลีกเลี่ยงได้ที่ต้องใช้กำลังทหาร ตำรวจ พลเรือน ตลอดจนประชาชนชาวไทยทุกคน เพื่อป้องกันประเทศให้พ้นจากภัยคุกคามอันมีที่มาจากภายนอกราชอาณาจักรดังกล่าว เพื่อรักษาไว้ซึ่งอธิปไตยของชาติและบูรณภาพแห่งดินแดน ตลอดจนชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนชาวไทย และจำเป็นต้องประกาศใช้กฎอัยการศึกในบางเขตพื้นที่เพิ่มเติม อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 176 วรรคสอง ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ประกอบกับมาตรา 4 แห่งพระราชบัญญัติกฎอัยการศึก พุทธศักราช 2457 จึงให้ใช้กฎอัยการศึกในบางเขตพื้นที่เพิ่มเติม ดังต่อไปนี้ ข้อ 1 จังหวัดจันทบุรี อำเภอเมืองจันทบุรี […]