ส่งเจ้าหน้าที่ตรวจปั๊ม สร้างความมั่นใจเดินทางกลับบ้านท่องเที่ยวปีใหม่ 

กรุงเทพฯ 18 ธ.ค.-กรมการค้าภายในส่งเจ้าหน้าที่สายตรวจ ออกตรวจสอบมาตรวัดน้ำมันเชื้อเพลิงในปั๊มน้ำมัน ตามเส้นทางการเดินรถที่เป็นจังหวัดรอยต่อกรุงเทพฯ และปริมณฑล ออกไปต่างจังหวัด ทั้งก่อนและหลังปีใหม่ เพื่อดูแลประชาชนให้ได้รับความเป็นธรรมจากการเติมน้ำมัน ในช่วงที่เดินทางกลับภูมิลำเนาและท่องเที่ยว 


นายกรนิจ โนนจุ้ย รองอธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า กรมได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่สายตรวจ คุมเข้มการตรวจสอบมาตรวัดน้ำมันเชื้อเพลิงตามสถานีบริการ ตามเส้นทางการเดินรถที่เป็นรอยต่อของจังหวัดกรุงเทพฯ และปริมณฑล มุ่งหน้าออกสู่ต่างจังหวัด และในเขตพื้นที่จังหวัดต่าง ๆ ในทุกภูมิภาคทั่วประเทศ เพราะจะมีประชาชนจำนวนมากเดินทางกลับภูมิลำเนาหรือเดินทางท่องเที่ยวต่างจังหวัด ทั้งโดยพาหนะส่วนตัว และรถสาธารณะ จึงจำเป็นต้องใช้บริการสถานีบริการน้ำมันเพื่อเติมเชื้อเพลิงก่อนเดินทาง เพื่อกำกับดูแลและตรวจสอบความถูกต้องมาตรวัด สร้างความเชื่อมั่นใจให้กับประชาชนว่าได้รับน้ำมันเต็มลิตร ไม่ถูกเอารัดเอาเปรียบ 

ทั้งนี้ วันนี้ (18 ธ.ค.66) ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบความเที่ยงตรงมาตรวัดน้ำมันในสถานีบริการน้ำมันสายเหนือ และสายตะวันออกเฉียงเหนือ ได้แก่ ปตท. สาขาสายเอเชีย บ้านเกาะ (ใหม่) -อยุธยา พีที สาขาบางปะหัน 4 และเชลล์ สาขาวังน้อย โดยพบหัวจ่ายถูกต้องทุกหัวจ่าย ซึ่งกรมจะมีการลงพื้นที่ตรวจสอบอย่างต่อเนื่องต่อไป ทั้งก่อนเทศกาลปีใหม่ และหลังเทศกาลปีใหม่ ที่ประชาชนเดินทางกลับ 


อย่างไรก็ตาม ตั้งแต่เดือน ส.ค.2566 ที่ผ่านมา กรมได้ตรวจสอบสถานีบริการน้ำมันทั้งหมด 12,500 แห่ง  เป้าหมายการตรวจหัวจ่ายจำนวน 231,842 หัวจ่าย ซึ่งตรวจสอบแล้ว 174,793 หัวจ่าย พบว่า มีหัวจ่ายที่ไม่ถูกต้อง 279 หัวจ่าย ซึ่งได้มีการดำเนินคดีตามกฎหมายไปแล้ว โดยสถานีบริการใด ที่ถูกตรวจพบว่าใช้มาตรวัดที่ไม่ถูกต้อง มีโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และกรณีพบว่ามีการดัดแปลงมาตรวัดจะมีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี และปรับไม่เกิน 120,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ 

สำหรับการดำเนินการตรวจสอบสถานีบริการน้ำมัน กรมได้ร่วมกับสถานีบริการน้ำมันทั่วประเทศ และได้รับความร่วมมือจากผู้ประกอบการเป็นอย่างดี โดยในขั้นแรกจะเป็นการตรวจสอบโดยสถานีบริการน้ำมันนั้น ๆ และจะมีการตรวจสอบอีกครั้งโดยเจ้าหน้าที่กรมการค้าภายใน เพื่อให้ประชาชนมั่นใจว่าได้รับความเป็นธรรมในการเข้ารับบริการ

นอกจากนี้ ขอฝากให้ประชาชนผู้บริโภค สังเกตเบื้องต้นก่อนเข้ารับเติมน้ำมันเชื้อเพลิง ดังนี้ 1) ป้ายราคาน้ำมัน/ลิตรที่ระบุหน้าสถานีบริการน้ำมันตรงกับตู้จ่ายน้ำมัน 2) ตู้จ่ายน้ำมันตามสถานีบริการต้องมีสติ๊กเกอร์วงกลมของกรมการค้าภายใน (มีรูปครุฑสีแดง /ระบุว่าตรวจสอบแล้ว /แสดงปี พ.ศ. ปัจจุบันอยู่ด้านล่าง) หากมีสติ๊กเกอร์ดังกล่าวติดอยู่แสดงว่าได้มีการตรวจสอบแล้ว 3) ก่อนเติมยอดขายและจำนวนลิตร ต้องเป็นเลขศูนย์ 4) เมื่อเติมเสร็จให้ดูยอดขายและจำนวนลิตรให้ถูกต้อง 


“ขอเน้นย้ำให้ผู้ประกอบการปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด หากประชาชนไม่ได้รับความเป็นธรรมในการซื้อสินค้าและบริการ สามารถร้องเรียนได้ที่สายด่วนกรมการค้าภายใน 1569 หรือสำนักงานพาณิชย์จังหวัดทั่วประเทศ กรมจะจัดส่งเจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบ และหากพบการกระทำความผิดจะดำเนินการตามกฎหมายอย่างเคร่งครัดต่อไป”นายกรนิจกล่าว.-514-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

จำคุกสมรักษ์คำสิงห์

ศาลสั่งคุก 2 ปี 13 เดือน 10 วัน “สมรักษ์” พยายามข่มขืนสาววัย 17

ศาลจังหวัดขอนแก่น พิพากษาจำคุก “สมรักษ์ คำสิงห์” อดีตนักมวยฮีโร่เหรียญทองโอลิมปิก เป็นเวลา 2 ปี 13 เดือน 10 วัน พร้อมชดใช้ค่าสินไหมทดแทนรวม 170,000 บาท คดีพยายามข่มขืนเด็กสาววัย 17 ปี

Chinese foreign ministry in January 2025

ถอดบทเรียนจากจีน แก้ปัญหาฝุ่นพิษ PM 2.5 จริงจัง

ปักกิ่ง 23 ม.ค. – สถานการณ์ฝุ่นพิษ PM 2.5 ที่กำลังเป็นปัญหาใหญ่และเร่งด่วนในไทยอยู่ในขณะนี้ หลายฝ่ายกำลังหาทางแก้ไขด้วยการมุ่งไปที่ต้นตอที่ทำให้เกิดฝุ่น จากข้อมูลขององค์การอนามัยโลกระบุว่า ในปี พ.ศ. 2542 ประชากรโลกมากถึง 92% ได้รับฝุ่น PM2.5 ในระดับความเข้มข้นสูงกว่าที่องค์การอนามัยโลกกำหนด และถ้ารัฐบาลทุกประเทศไม่เร่งแก้ปัญหาอย่างเอาจริงเอาจัง ภายในอีก 7 ปีข้างหน้า หรือ พ.ศ. 2573 คุณภาพชีวิตคนทั่วโลกจะยิ่งเลวร้ายสุดขีด เพราะปริมาณ PM2.5 จะเพิ่มขึ้นจากเดิม 50% และประเทศที่สามารถพิสูจน์ให้เห็นเป็นตัวอย่างว่า หากรัฐบาลตั้งใจจริงจัง ทุ่มสรรพกำลังความพยายาม จะสามารถกำจัดปัญหาฝุ่นควันพิษได้อย่างแน่นอนนั่นก็คือ จีน   จีนเคยมีคนเสียชีวิตเพราะมลพิษในอากาศปีละหลายล้านคน แต่ทุกวันนี้แม้แต่ธนาคารโลกยังยกย่องจีนว่า เป็นแบบอย่างของความพยายาม สามารถพลิกฟ้าหม่นเพราะฝุ่น PM2.5 ให้กลับเป็นฟ้าใสได้สำเร็จ ความพยายามของเหมา เจ๋อตุง ผู้นำจีนที่มุ่งเปลี่ยนสังคมเกษตรกรรมเป็นสังคมอุตสาหกรรม ทำให้จำนวนโรงงานในจีนเพิ่มขึ้นทวีคูณภายใน พ.ศ. 2502 แน่นอนว่า นโยบายเศรษฐกิจของผู้นำจีนช่วยให้คนจีนหลายล้านหลุดพ้นจากขีดความยากจน แต่ก็ต้องแลกกับชีวิตและสุขภาพ เพราะควันพิษจากโรงงานทำให้ฝุ่น PM2.5 พุ่งในระดับเกินกว่าจะรับไหว กว่ารัฐบาลจะรู้ตัวว่าปัญหามาถึงขั้นวิกฤต […]

คึกคัก คู่รักจูงมือกันไปจดทะเบียนวันแรกกฎหมายสมรสเท่าเทียมมีผล

วันนี้กฎหมายสมรสเท่าเทียมมีผลใช้บังคับอย่างเป็นทางการ หลายคู่รักควงแขนไปจดทะเบียนสมรสกันชื่นมื่น ที่สยามพารากอน มีคู่รักที่ลงทะเบียนมาจดทะเบียนสมรสที่นี่กว่า 300 คู่

ผู้ป่วยเสียชีวิต

รพ.สิรินธร ยืนยันไม่มีผู้ป่วยช็อก-เสียชีวิต จากเหตุชายผิวสีคลุ้มคลั่ง

ผอ.รพ.สิรินธร ยืนยันไม่มีผู้ป่วยช็อก หรือเสียชีวิต จากเหตุต่างชาติผิวสีคลุ้มคลั่ง มีเพียงเจ้าหน้าที่ รพ.บาดเจ็บจากการถูกต่อยเล็กน้อย

ข่าวแนะนำ

เปิดรับการลงทุน

นายกฯ ย้ำบทบาทของไทยในเวทีโลก ที่ดาวอส พร้อมเปิดรับการลงทุน

นายกฯ ย้ำบทบาทของไทยในเวทีโลก ที่ดาวอส พร้อมเปิดรับการลงทุนสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจ ด้วยจุดแข็งด้านเกษตรกรรม Soft Power และอุตสาหกรรมที่มีความยั่งยืน มุ่งมั่นพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัลและการค้าเสรี เร่งสร้างสภาพแวดล้อมทางการค้าที่เสรี เปิดกว้าง และยั่งยืน

ช้างหลุดเดินถนน

ระทึก! ช้างหลุดจากปางช้างเดินบนถนน รถเสียหาย 1 คัน

ระทึก! ควาญช้างและตำรวจเร่งติดตามช้างหลุดจากปาง เดินบนถนน ชนกระจกมองข้างรถยนต์เสียหาย 1 คัน สุดท้ายไปเจอเล่นน้ำอยู่ในลำธารอย่างสบายใจ

ฝุ่น กทม.

แดงเกือบทั้งกรุง คุณภาพอากาศวิกฤติ ฝุ่น PM 2.5 กระทบต่อสุขภาพ

คุณภาพอากาศกรุงเทพฯ วิกฤติต่อเนื่อง เช้านี้ฝุ่น PM 2.5 อยู่ระดับสีแดง ผลกระทบต่อสุขภาพ 67 พื้นที่ คุณภาพอากาศจะแย่แบบนี้ไปถึงสัปดาห์หน้า

วันประวัติศาสตร์ สมรสเท่าเทียมวันแรก

วันนี้เป็นวันแรกที่กฎหมายสมรสเท่าเทียม มีผลใช้บังคับอย่างเป็นทางการ ใน กทม. มีการจัดงานวันสมรสเท่าเทียมอย่างยิ่งใหญ่ เฉลิมฉลองให้กับเส้นทางการต่อสู้อันยาวนานกว่าที่กฎหมายจะมีผลบังคับใช้ ไม่ว่าเพศใดก็จะได้รับสิทธิการสมรสอย่างเท่าเทียมกัน