ชูทีมไทยแลนด์หนุนเอกชนทำการค้าเชิงรุก บุกจีนรายมณฑล

คุณหมิง 17 ธ.ค.-รัฐมนตรีพาณิชย์ ปาฐกถาพิเศษ ขยายความร่วมมือไทย-จีน ให้ผู้สำเร็จหลักสูตรผู้บริหารระดับสูงเพื่อรุกตลาดจีน ชู!ทีมไทยแลนด์หนุนเอกชนเป็นทัพหน้า ทำการค้าเชิงรุก บุกจีนรายมณฑล สร้างเงินเข้าประเทศ

นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ มอบประกาศนียบัตรและกล่าวปาฐกถาในหัวข้อ “แนวทางการขยายความร่วมมือทางเศรษฐกิจระหว่างไทย-จีน” ในพิธีสำเร็จการศึกษาหลักสูตรผู้บริหารระดับสูงเพื่อรุกตลาดจีน รุ่นที่ 1 China Wealth Institute ที่ห้องประชุม ชั้น 3 True Digital Park ช่วงค่ำวานนี้(16 ธ.ค. 66) โดยจีนเป็นหนึ่งในเป้าหมายการทูตเศรษฐกิจเชิงรุก ซึ่งตลาดเอเชียเป็นตลาดศักยภาพที่มีขนาดใหญ่มาก มีประชากรรวมกันมากกว่าครึ่งโลก และไทย-จีน ไม่ใช่อื่นไกลเป็นพี่น้องกัน ตนรู้สึกอย่างนั้น ในปี 2565 มูลค่าการค้าระหว่างประเทศไทยกับจีน มีมูลค่าถึง 3.69 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 1.53 เมื่อเทียบกับปี 2564 เป็นสัดส่วนร้อยละ 17.86 ของมูลค่าการค้าระหว่างประเทศทั้งหมดของไทย และในปี 2566 กระทรวงพาณิชย์ตั้งเป้าส่งออกสินค้าไปยังจีนให้เพิ่มขึ้น ร้อยละ 1 หรือคิดเป็น 1.2 ล้านล้านบาท ตนให้นโยบายกับกระทรวงพาณิชย์ขยับตัวเลขการส่งออกเปลี่ยนจากลบเป็นบวก ซึ่งตนให้ความสำคัญกับการส่งเสริม เร่งกระชับความสัมพันธ์การค้าและการลงทุนในหลายมิติ ให้ภาคเอกชนบุกตลาดจีน รัฐบาลพร้อมเป็นรัฐที่สนับสนุนเอกชน ไม่เป็นรัฐอุปสรรค กฎระเบียบ เงื่อนไขต่างๆ รัฐบาลนี้ให้ความสำคัญ รวมทั้งสร้างความทะเยอทะยานและคาดหวังในการบุกฝ่าอุปสรรคทางเศรษฐกิจ


อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ได้พบกับนายหลี่ เฉียง นายกรัฐมนตรีจีน โดยนายกฯจีนกล่าวย้ำวันนี้จีนไม่คิดว่าตนเองเป็นโรงงานของโลก แต่จะวางตัวเป็นตลาดของโลก โอกาสจะเกิดขึ้นกับทุกชาติในโลก ซึ่งตนเร่งกระชับความสัมพันธ์ทางการค้าและการลงทุนระหว่างไทยกับจีนในหลายมิติ ให้นโยบายยุทธศาสตร์การค้าเชิงรุกรายมณฑล และเข้าร่วมงานแสดงสินค้าสำคัญของจีน ทั้ง China – ASEAN EXPO (CAEXPO) และ China International Import Expo (CIIE) ตนขอเป็นสะพานสนับสนุนการเชื่อมโยงการสร้างเครือข่ายระหว่างผู้ประกอบการไทยและจีน โดยกระทรวงพาณิชย์จะขับเคลื่อนการค้าการลงทุนของไทย ผ่านความตกลงทางการค้าในทุกระดับ ทั้งเขตการค้าเสรีอาเซียน-จีน และความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค หรือ RCEP รวมทั้งสนับสนุนโครงการหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง (Belt and Road Initiative หรือ BRI) ขยายความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจและการค้าสู่มณฑลหรือเมืองรองที่มีศักยภาพของจีน ผ่านการจัดทำ MOU ทางการค้าอีก 6 ฉบับ กับเมืองเซี่ยเหมินในมณฑลฝูเจี้ยน เขตปกครองตนเองกว่างซีจ้วง มณฑลเจ้อเจียง มณฑลซานซี มณฑลเฮย์หลงเจียง และมณฑลเหอเป่ย เพิ่มเติมจาก 4 ฉบับที่ได้ดำเนินการไปแล้ว กับมณฑลไห่หนาน มณฑลกานซู่ มณฑลยูนนาน และเมืองเซินเจิ้น ตลอดจนเร่งเชื่อมโยงการเข้าเป็นส่วนร่วมในห่วงโซ่อุปทานในอุตสหากรรมแห่งอนาคตของจีน ซึ่งสอดคล้องกับ 10 อุตสาหกรรมเป้าหมายของ EEC ของไทย

นอกจากนี้ จะผลักดันสินค้าและบริการไทยทั้งแบบออฟไลน์-ออนไลน์ และจะร่วมพัฒนาอุตสาหกรรมซอฟต์พาวเวอร์ โดยมุ่งเป้ารุกตลาดจีน ด้านอาหาร ผ่านร้านอาหารไทย Thai SELECT ซึ่งเป็นช่องทางจัดแสดงและสร้างการรับรู้ความเป็นไทย และตนได้จัดทีมพาณิชย์ ตั้งคณะอนุกรรมการเร่งขับเคลื่อนนโยบายสำคัญ เช่น คณะอนุกรรมการส่งเสริมและขับเคลื่อนการค้าและเศรษฐกิจเชิงรุกไทย-จีน อาเซียน คณะอนุกรรมการขับเคลื่อนการทำงานเพื่อบูรณาการตามยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์ คณะอนุกรรมการขับเคลื่อนนโยบายโลจิสติกส์ทางการค้า คณะอนุกรรมการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ Big Data และอินฟลูเอนเซอร์เพื่อการค้า ซึ่งกระทรวงพาณิชย์มีสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศในจีน จำนวน 9 แห่ง ได้แก่ เฉิงตู คุนหมิง หนานหนิง กวางโจว เซี่ยเหมิน เซี่ยงไฮ้ ชิงต่าว ฮ่องกง และไต้หวัน รวมทั้งสำนักงานพาณิชย์ ณ กรุงปักกิ่ง ซึ่งเป็นช่องทางสำคัญแลกเปลี่ยนข้อมูลทางเศรษฐกิจ นโยบายรัฐ ทั้งการค้าการลงทุน กฎระเบียบการนำเข้า มาตรการที่เกี่ยวข้อง พฤติกรรมและความต้องการผู้บริโภค ตลอดจนการพัฒนาด้านเศรษฐกิจสมัยใหม่ ทั้งอุตสาหกรรมดิจิทัลและอุตสาหกรรมสีเขียว
 
ทั้งนี้ ได้ให้สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศทั้ง 9 แห่ง ได้ผนึกกำลังกับพาณิชย์จังหวัดทำงานเชิงรุกและบูรณาการให้ใกล้ชิดยิ่งขึ้น เชื่อมโยงสินค้าจากท้องถิ่นไทยสู่ตลาดจีน เป็นทัพหน้าของกระทรวงพาณิชย์ในต่างแดน ทำงานกับเอกอัครราชทูตไทย และตัวแทนสำนักงานบีโอไอในต่างประเทศ ผลักดันการค้า และขยายการลงทุน ตามนโยบายการทูตเศรษฐกิจเชิงรุกของนายกรัฐมนตรี ซึ่งการทำธุรกิจต้องเปลี่ยนแปลงให้ทันโลก ถ้าไม่เปลี่ยนวันหนึ่งต้องถูกบังคับให้เปลี่ยน ถ้าเปลี่ยนก่อนจะได้เปรียบ ตนเชื่อว่าการดำเนินการของรัฐบาลนี้ รวมทั้งกระทรวงพาณิชย์ภายใต้การดูแลของตน ตลอดจนการศึกษาตลาดจีนอย่างรอบด้านภายใต้หลักสูตรนี้ จะทำให้ทุกท่านมีความรู้ มีช่องทางในการเข้าไปทำธุรกิจในจีน กระทรวงพาณิชย์และรัฐบาล รวมถึงกระทรวงต่างประเทศ สำนักงานส่งเสริมการลงทุน พร้อมสนับสนุนเอกชนในการบุกทำการค้าในตลาดจีน.-514.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

โปรดเกล้าฯ พล.ท.บุญสิน เป็นทหารราชองครักษ์พิเศษ

กทม. 27 ก.ย.-โปรดเกล้าฯ แต่งตั้งนายทหาร-นายตำรวจ เป็นราชองครักษ์พิเศษ 38 นาย พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 อยู่ในลำดับที่ 20 เมื่อวันที่ 27 ก.ย.2568 เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศให้นายทหารสัญญาบัตรและนายตำรวจชั้นสัญญาบัตร แต่งตั้งเป็นนายทหารราชองครักษ์พิเศษและนายตำรวจราชองครักษ์พิเศษ มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้นายทหารสัญญาบัตรและนายตำรวจชั้นสัญญาบัตร แต่งตั้งเป็นนายทหารราชองครักษ์พิเศษและนายตำรวจราชองครักษ์พิเศษ จำนวน 38 นาย อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 7 แห่งพระราชบัญญัติการถวายความปลอดภัย พ.ศ. 2560 มาตรา 6 มาตรา 7 และมาตรา 10 แห่งพระราชบัญญัติราชองครักษ์ พุทธศักราช 2480 มาตรา 4 มาตรา 5 และมาตรา 6 แห่งพระราชบัญญัตินายตำรวจราชสำนัก พ.ศ. 2495 และข้อ 6 ของระเบียบกระทรวงกลาโหมว่าด้วยการแต่งตั้งราชองครักษ์ พ.ศ.2559 .-313.-สำนักข่าวไทย

ไฟไหม้ จยย. ลามวอดทั้งลานจอด

กทม. 27 ก.ย.-วงจรปิดจับภาพวินาทีไฟไหม้รถจักรยานยนต์ที่ลานจอด ก่อนลุกลามระเบิดวอดรถจักรยานยนต์ 29 คัน รถยนต์ 3 คัน และจักรยาน 3 คัน วงจรปิดจับภาพวินาทีไฟเริ่มลุกไหม้รถจักรยานยนต์ที่จอดอยู่ด้านในสุด ก่อนจะลุกลามมาคันข้างๆ และระเบิด จนควันปกคลุมไปทั่ว แล้วไฟได้ลุกลามไปอย่างรวดเร็ว ทำให้รถจักรยายนต์ที่จอดอยู่เสียหายถึง 29 คัน รถยนต์ 2 คัน รถกระบะ 1 คัน และจักรยานอีก 3 คัน เหตุการณ์เกิดขึ้นเวลาประมาณ 01.40 น. เช้าวันนี้ (27 กย.68) ที่ลานจอดรถ ของพี.อาร์.เค แมนชั่น ใกล้ปากซอยสุขสวัสดิ์ 17 เเขวงบางปะกอก เขตราษฎร์บูรณะ กรุงเทพฯ ตำรวจพร้อมเจ้าหน้าที่ดับเพลิงเร่งเข้าช่วยเหลือฉีดน้ำสกัดท่ามกลางเปวดพลิงที่และกำลังลุกลามต่อเนื่องไปยังลานจอดรถยนต์ด้านในอาคาร โดยใช้เวลานานกว่า 20 นาที จึงควบคุมเพลิงเอาไว้ได้ ซึ่งรถจักรยานยนต์ที่จอดอยู่เสียหายทั้งหมด เบื้องต้นตำรวจยังไม่สรุปสาเหตุ ต้องรอให้เจ้าหน้าส่วนเกี่ยวข้องตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง แต่โชคดีที่ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต.-สำนักข่าวไทย

กัมพูชาเปิดฉากยิงป่วน 2 พื้นที่ ปราสาทตาควาย-ช่องบก

26 ก.ย. – กัมพูชาเปิดฉากยิงไทยแล้ว 2 จุด บริเวณพื้นที่ปราสาทตาควาย จ.สุรินทร์ และเนิน 498 ช่องบก จ.อุบลราชธานี เวลาประมาณ 16.40 น. รับแจ้งจากหน่วยทหารในพื้นที่ ระบุว่า บริเวณเนิน 350 พื้นที่ประสาทตาควาย จังหวัดสุรินทร์ ได้ยินเสียงระเบิด 1 ครั้ง และพื้นที่ “จุ๊บอั่งกุย” ได้ยินเสียงปืนเล็ก 5-6 นัด คาดว่าเป็นการก่อเหตุยั่วยุจากทางฝั่งกัมพูชา ล่าสุดเหตุการณ์กลับสู่ภาวะปกติ อยู่ระหว่างตรวจสอบเพิ่มเติมจากหน่วยทหารในพื้นที่ ขณะที่บริเวณเนิน 498 ช่องบก จ.อุบลราชธานี พลโท บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ยอมรับว่า ไทยถูกกัมพูชายิงระเบิดใส่จริง ขณะนี้กำลังเร่งตรวจสอบ เก็บหลักฐานไปประท้วง พร้อมขอให้ประชาชนช่วยรักษาความลับราชการ ไม่เผยแพร่ภาพพิกัดยุทโธปกรณ์ของทหาร.-สำนักข่าวไทย

กรมการปกครอง ไม่อนุมัติ “ผู้กองแคท” โยกช่วยงานประธานรัฐสภา

กทม 26 ก.ย.- กรมการปกครอง ไม่อนุมัติ “ผู้กองแคท” โยกไปช่วยงานประธานรัฐสภา ชี้นโยบายชัด ปลัดอำเภอใหม่ต้องปฏิบัติงานในพื้นที่จริง เพื่อสั่งสมประสบการณ์ นายรณรงค์ ทิพย์ศิริ รองอธิบดี ปฏิบัติราชการแทน อธิบดีกรมการปกครอง ทำหนังที่ มท 302.13481 ถึงเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร เรื่องขอยืมตัวข้าราชการช่วยราชการ โดย อ้างถึง หนังสือสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ด่วนที่สุด ที่ สผ001.02/479 ลงวันที่ 25 กันยายน 2568 โดยมีรายละเอียดว่า ตามหนังสือที่อ้างถึง สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร แจ้งว่า มีความประสงค์ขอยืมตัวข้าราชการสังกัดกรมการปกครองราย ร้อยตำรวจเอกหญิง อาทิติยา เบ็ญจะปัก ตำแหน่ง นักประชาสัมพันธ์ปฏิบัติการ ส่วนประชาสัมพันธ์ สำนักงานเลขานุการกรม กรมการปกครอง มาช่วยราชการที่สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ในส่วนงานของประธานรัฐสภาและประธานสภาผู้แทนราษฎร เป็นกรณีพิเศษเฉพาะราย อีกหน้าที่หนึ่ง โดยไม่ขาดจากตำแหน่งหน้าที่เดิม ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่1ตุลาคม 2568 เป็นต้นไป นั้น กรมการปกครอง ขอเรียนว่า […]

ข่าวแนะนำ

กองทัพภาคที่ 2 ซัดเขมรใช้แผนยั่วยุซ้ำแล้วซ้ำเล่า

อุบลราชธานี 27 ก.ย.-กองทัพภาคที่2 ซัดเขมรใช้แผนยั่วยุซ้ำแล้วซ้ำเล่า ย้ำรู้ทันแผนโฆษณาชวนเชื่อต่อนานาชาติ เมื่อเวลา 14.40 น. วันที่ 27 ก.ย. 68 ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 2 ได้สรุปสถานการณ์ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ประจำวันที่ 27 ก.ย. ณ เวลา 14.00 น. ว่าสถานการณ์โดยรวมเมื่อเวลา 12.02 น. ฝ่ายกัมพูชาได้พยายามสร้างสถานการณ์ความตึงเครียด ขึ้นอีกครั้งบริเวณพื้นที่ช่องอานม้า อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี โดยใช้อาวุธสงครามยิงเข้ามายังพื้นที่ ของฝ่ายไทยจากบริเวณเนิน 677 มายังเนิน 600 และ เนิน 527 พร้อมทั้งใช้อาวุธปืนเล็กยิงปะทะเป็นระยะ ก่อนที่สถานการณ์จะยุติลง ทั้งนี้ การปะทะจำกัดวงอยู่เฉพาะบริเวณดังกล่าว แต่ทั้งสองฝ่ายยังคงตรึงกำลังควบคุมพื้นที่อย่างใกล้ชิด ต่อมาในช่วงบ่ายวันเดียวกัน ฝ่ายไทยได้รับแจ้งจากกัมพูชา ว่า คณะสังเกตการณ์ระหว่างประเทศ (IOT) ของกัมพูชา จะเดินทางเข้าพื้นที่ช่องอานม้า กองทัพภาคที่ 2 ประเมินว่าเป็นความพยายามของกัมพูชา ในการสร้างเงื่อนไขและยั่วยุให้เกิดสถานการณ์ เพื่อให้สอดคล้องกับช่วงเวลาที่คณะ IOT […]

นายกฯ ลงพื้นที่ตรวจน้ำท่วมอยุธยาฯ

พระนครศรีอยุธยา 27 ก.ย.-นายกฯ ลงพื้นที่พระนครศรีอยุธยา ตรวจน้ำท่วม เร่งเยียวยาแก้ไขปัญหาอย่างยั่งยืน เดินหน้าบูรณาการหน่วยงานใช้งบแสนล้านบาท พัฒนาระบบชลประทานและการจัดการน้ำ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และ สส.ของพรรค ให้การต้อนรับ และในโอกาสนี้ นายทวิวงศ์ โตทวิวงศ์ สส.พรรคประชาชน เขต1 ที่มาร่วมงานด้วย ทันทีที่นายกรัฐมนตรีได้เดินทางมาถึงบริเวณวัดโคกหิรัญ มีประชาชนมารอให้การต้อนรับ มอบดอกกุหลาบให้กำลังใจ พร้อมร้องเพลง มาร์ช อสม.ต้อนรับนายกรัฐมนตรี พร้อมกับถ่ายรูปเซลฟี่ อย่างเป็นกันเอง ก่อนที่จะรับฟังการรายงานสถานการณ์น้ำในพื้นที่จากผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา โดยผู้ว่าราชการจังหวัดยืนยันว่า พื้นที่แห่งนี้เป็นพื้นที่ลุ่มต่ำ ไม่ใช่พื้นที่ทุ่งรับน้ำ พื้นที่มีโฉนดที่ดินทั้งหมด ไม่ใช่ที่สาธารณะ หรือแก้มลิง พร้อมขอให้มีการพิจารณาจ่ายเงินเยียวยาเพื่อบรรเทาปัญหาผู้ที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย เนื่องจากไม่ได้รับความสะดวกในการประกอบอาชีพ นายกรัฐมนตรี กล่าวขอบคุณที่ได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่น มาในสถานะนายกรัฐมนตรี ถือว่าสามารถที่จะมาตอบสนองความต้องการของประชาชนในทุกๆ มิติ รัฐบาลชุดนี้เป็นรัฐบาลที่ทำงานร่วมกันเป็นทีมเดียวกัน กับพรรคร่วมรัฐบาล เป้าหมายคือประโยชน์สูงสุดของประชาชน นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวว่า ทราบดีอยู่แล้วว่าจังหวัดพระนครศรีอยุธยาแห่งนี้ มีน้ำท่วมทุกปี น้ำท่วมซ้ำซาก […]

น้ำเซาะใต้วิหารสมเด็จโต หวั่นทรุด

อ่างทอง 27 ก.ย.-น้ำแม่น้ำเจ้าพระยา เซาะเขื่อนทะลุใต้วิหารสมเด็จโต วัดดังอ่างทอง พระชาวบ้านหวั่นทรุด เร่งแก้ปัญหา ส่วนอุบลราชธานี เร่งสูบน้ำในชุมชนวารินชำราบ รักษาพื้นที่ชั้นใน บริเวณพื้นใต้วิหารสมเด็จพระพุฒาจารย์ โต พรหมรังสี วัดไชโยวรวิหาร อ.ไชโย จ.อ่างทอง ที่อยู่ติดกับเขื่อนริมแม่น้ำเจ้าพระยา พบว่ามีน้ำไหลเซาะแนวเขื่อนเข้ามาขังอยู่ด้านล่างความสูงกว่า 50 ซม. และเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ ทางวัดแก้ไขเบื้องต้น ด้วยการนำเครื่องสูบน้ำขนาดเล็กเร่งสูบน้ำออก เนื่องจากเกรงว่าจะทำให้โครงสร้างเกิดความเสียหาย หรือวิหารทรุดตัวลงได้ แม้ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาจะทรงตัวหลังเขื่อนเจ้าพระยาลดการระบายน้ำมาอยู่ที่ 2,100 ลบ.เมตร/วินาที เป็นวันที่ 3 แต่ยังคงมีระดับสูง จนทำให้ไหลทะลุแนวเขื่อนเข้ามาหลายจุด และเพิ่มปริมาณขึ้นเรื่อยๆ ส่วนที่จังหวัดอุบลราชธานี เพื่อเตรียมพร้อมรับมือกับพายุบัวลอย ประกอบกับ ระดับน้ำแม่น้ำมูลอยู่ในภาวะวิกฤต เจ้าหน้าที่เร่งระดมเดินเครื่องสูบน้ำ ระบายน้ำออกจากจากชุมชนริมแม่น้ำมูล ฝั่งอำเภอวารินชำราบ ทั้งอพยพประชาชนในพื้นที่ลุ่มต่ำกว่า 75 ครัวเรือน ให้ไปอยู่ในพื้นที่ที่จัดเตรียมไว้ ขณะที่เทศบาลเมือวารินชำราบได้ปิดประตูน้ำ ไม่ให้แม่น้ำมูลไหลเข้าสู่พื้นที่ชั้นใน ซึ่งปัจจุบันระดับน้ำยังอยู่ในภาวะที่บริหารจัดการได้ อย่างไรก็ตาม เทศบาลได้ประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องติดตั้งเครื่องสูบน้ำ 16 นิ้ว 2 เครื่อง เดินเครื่องสูบตั้งแต่ช่วงเช้าจนถึง 24.00 […]

กองทัพบก ย้ำกัมพูชาเจตนาสร้างปัญหาเพื่อผลประโยชน์

สุรินทร์ 27 ก.ย.-เกาะติดสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา หลังวานนี้ได้ยินเสียงระเบิดและเสียงปืน ด้านกองทัพบกย้ำ กัมพูชาเจตนาสร้างปัญหาเพื่อผลประโยชน์ สถานการณ์ล่าสุดหลังจากเมื่อวานนี้เวลาประมาณ 16.40 น. หน่วยทหารในพื้นที่ชายแดน จ.สุรินทร์ แจ้งว่า บริเวณเนิน 350 พื้นที่ประสาทตาควาย จังหวัดสุรินทร์ พบเสียงระเบิด 1 ครั้ง และพื้นที่ “จุ๊บอั่งกุย” ได้ยินเสียงปืนเล็ก 5-6 นัด เบื้องต้นคาดว่าเป็นการก่อเหตุยั่วยุจากทางฝั่งกัมพูชา แต่เหตุการณ์กลับสู่ภาวะปกติแล้ว ซึ่งหลังจากนั้น เพจกองทัพบก ทันกระแส ได้ออกมาโพสต์ว่า ยืนยันไม่มีการปะทะ เสียงระเบิดที่ได้ยิน เพราะกัมพูชาเหยียบกับระเบิดตัวเอง แต่ก็ยังอยู่ระหว่างตรวจสอบเพิ่มเติมจากหน่วยทหารในพื้นที่เตือนประชาชนอย่าเพิ่งตื่นตระหนก นอกจากสถานการณ์ในฝั่งไทยแล้ว กองทัพบกได้กล่าวถึงการที่ ฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ได้โพสต์ข้อความเกี่ยวกับการปักปันเขตแดนระหว่างไทย-กัมพูชา ในพื้นที่ จ.สระแก้ว โดยในหลายประเด็นพบว่ามีการกล่าวอ้างและตอบโต้ต่อคำชี้แจงของฝ่ายไทยด้วยข้อมูลที่ไม่ถูกต้องและอาจทำให้สาธารณชนเกิดความสับสน พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ได้ออกมาชี้แจงว่า ข้อมูลที่ ฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ออกมาเปิดเผยนั้น มีทั้งส่วนที่เป็นข้อเท็จจริงที่ถูกต้อง และก็มีอีกหลายส่วนที่ยังเป็นลักษณะของการกล่าวอ้างเฉพาะในมุมที่ต้องการของตัวเองฝ่ายเดียว […]