“สาระ ล่ำซำ” นักการเงินแห่งปี 2566 คว้ารางวัลเป็นครั้งที่ 2

กรุงเทพฯ 12 ธ.ค.-วารสารการเงินธนาคาร ฉบับ ธ.ค.66 ประกาศรางวัลเกียรติยศ “นักการเงินแห่งปี” เป็นของ “สาระ ล่ำซำ” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เมืองไทยประกันชีวิต ครองตำแหน่งเป็นครั้งที่ 2 ด้วยคุณสมบัติของการเป็นนักการเงินแห่งปีครบถ้วนตามหลักเกณฑ์การพิจารณาทั้ง 4 ด้าน ทั้งมีวิสัยทัศน์กว้างไกลและทันสมัย ซื่อสัตย์ต่อวิชาชีพ สร้างความเติบโตยั่งยืนให้องค์กร รับผิดชอบต่อสังคม

เป็นเวลา 41 ปีแล้วที่ วารสารการเงินธนาคาร ได้มอบรางวัลเกียรติยศ นักการเงินแห่งปี Financier of the Year เพื่อยกย่องผู้บริหารระดับสูงของธนาคาร สถาบันการเงิน บริษัทประกัน บริษัทหลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ที่มีผลงานโดดเด่น มีวิสัยทัศน์กว้างไกล ทันสมัย สามารถขับเคลื่อนองค์กรให้เติบโตก้าวหน้าและยั่งยืนในทุกสถานการณ์เศรษฐกิจ โดยคำนึงถึงประโยชน์ส่วนรวม


สำหรับปี 2566 คณะกรรมการตัดสินรางวัลนักการเงินแห่งปี ได้กลั่นกรองและพิจารณาอย่างเข้มข้น จึงลงมติอย่างเป็นเอกฉันท์มอบรางวัลเกียรติยศ นักการเงินแห่งปี 2566 Financier of the Year 2023 ให้กับ สาระ ล่ำซำ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) ด้วยผลงานที่โดดเด่นผ่านคุณสมบัติการเป็นนักการเงินแห่งปี ตามหลักเกณฑ์ทั้ง 4 ด้าน คือ 1.เป็นนักการเงินที่มีวิสัยทัศน์กว้างไกลและทันสมัย 2.เป็นนักการเงินมืออาชีพที่มีความซื่อสัตย์ต่อวิชาชีพ 3.เป็นนักการเงินที่สร้างความเจริญเติบโตและยั่งยืนให้กับองค์กร และ 4.เป็นนักการเงินที่มีความรับผิดชอบต่อสังคมและทำคุณประโยชน์ต่อส่วนรวม

1. เป็นนักการเงินที่มีวิสัยทัศน์กว้างไกลและทันสมัย


สาระ ล่ำซำ เป็นผู้บริหารบริษัทประกันชีวิตคนแรกที่ได้รับรางวัล “นักการเงินแห่งปี” เมื่อปี 2556 มาในปีนี้ สาระ ได้กลับมาครองตำแหน่ง “นักการเงินแห่งปี 2566” อีกครั้ง ด้วยผลงานโดดเด่น โดยเฉพาะในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ภาคธุรกิจประกันชีวิตได้เผชิญกับความท้าทายเป็นอย่างมาก สาระ ในฐานะที่ดำรงตำแหน่งนายกสมาคมประกันชีวิตไทย จึงมีบทบาทสำคัญในการทำงานร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) โดยเป็นผู้ริเริ่มให้มีกระบวนการเสนอขายประกันในรูปแบบ Digital Face to Face เพื่อรองรับกับมาตรการรักษาระยะห่าง (Social Distancing) ระหว่างลูกค้ากับผู้เสนอขาย ทำให้กระบวนการเสนอขายเป็นไปได้อย่างราบรื่นในช่วงโควิด-19

รวมทั้ง ยังมีบทบาทในการออกข้อปฏิบัติ “เคลมประกันโควิด-19” สำหรับผู้ทำประกันภัยที่ติดเชื้อโควิด-19 ของบริษัทประกันชีวิต เพื่อเป็นแนวทางที่ชัดเจนให้ลูกค้ามีความเข้าใจในเรื่องการจ่ายเคลม เป็นการสร้างความอุ่นใจและความน่าเชื่อถือให้กับผู้เอาประกันภัยที่ถือกรมธรรม์ประกันชีวิตและประกันสุขภาพและติดเชื่อโควิด-19 หลังจากมีกระบวนการ Digital Face to Face และการออกประกาศข้อปฏิบัติ “เคลมประกันโควิด-19” ส่งผลให้ภาคธุรกิจประกันชีวิตไทยตั้งแต่ปี 2562 มีเบี้ยรับรวมและเบี้ยรับใหม่ของการประกันสุขภาพเติบโตสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องไม่ต่ำกว่า 10% สะท้อนถึงความรู้ความสามารถและวิสัยทัศน์ของ สาระ ที่ช่วยยกระดับให้ภาคธุรกิจประกันชีวิตเติบโตได้แม้ว่าจะประสบภาวะวิกฤติโควิด-19

สาระ ยังเป็นผู้นำที่มีวิสัยทัศน์ของภาคธุรกิจประกันชีวิต โดยประกาศบังคับใช้กฎหมายใหม่ให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบันและกฎหมายระดับสากล ซึ่งมีการทำงานร่วมกับสำนักงาน คปภ. เพื่อยกระดับมาตรฐานของภาคธุรกิจประกันชีวิตให้เติบโตได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน ระหว่างผู้ทำประกันภัยและบริษัทประกันชีวิต


 2. เป็นนักการเงินมืออาชีพที่มีความซื่อสัตย์ต่อวิชาชีพ

สาระ เป็นผู้ที่มีความรู้ ความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ด้านการบริหารการเงินและการลงทุนมากว่า 30 ปี โดยมุ่งหวังให้ประชาชนเข้าถึงการทำประกันชีวิตและส่งเสริมสนับสนุนให้ประชาชนทุกกลุ่มมีความรู้ทางการเงินและคุณภาพชีวิตที่ดี (Financial & Insurance Literacy) ในการสร้างความมั่นคงและคุณภาพชีวิตให้กับคนไทย และมุ่งหวังให้ตอบโจทย์ความต้องการและพฤติกรรมของลูกค้าเป็นสำคัญ (Outside In) แบบรายรายบุคคล (Personalization)

นอกจากนี้ ยังเป็นผู้นำที่บริหารองค์กรที่คำนึงถึงจริยธรรมและการดำเนินธุรกิจด้วยความโปร่งใสและตรวจสอบได้ ซึ่งเป็นผู้มีส่วนสำคัญที่ทำให้เมืองไทยประกันชีวิตได้รับรางวัลประกาศเกียรติคุณ “จรรยาบรรณดีเด่น” มาทั้งหมด 3 ครั้งจากหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทยในปี 2548 ปี 2562 และ ปี 2565 ส่งผลให้ สาระ ได้รับการยอมรับในความเป็นผู้นำที่มีความเป็นมืออาชีพ มีความรู้ความสามารถ และความซื่อสัตย์ต่อวิชาชีพ จนได้รับความไว้วางใจจากบริษัทสมาชิกคัดเลือกให้ดำรงตำแหน่งนายกสมาคมประกันชีวิตถึง 6 สมัย

ส่วนเวทีในระดับสากล สาระ ได้รับเกียรติจากผู้ประกอบการธุรกิจของแต่ละประเทศในการดำรงตำแหน่ง “the Chapter Chair of YPO Gold (Thailand)” หรือประธานกรรมการ YPO Gold (Thailand) สมาคมไทยแลนด์ แชปเตอร์ ยัง เพรสซิเดนท์ส ออร์แกนไนเซชั่น อิงค์ ซึ่งเป็นกลุ่มสังคมชุมชนระดับโลกที่เกิดจากการรวมตัวระหว่างเจ้าของผู้ประกอบกิจการในแต่ละประเทศในการแบ่งปันประสบการณ์ ความรู้ และนวัตกรรมขององค์กรที่ช่วยให้ธุรกิจสามารถเติบโตได้อย่างยั่งยืน

3. เป็นนักการเงินที่สร้างความเจริญเติบโตให้กับองค์กร

สาระ เป็นผู้ริเริ่มในการปรับภาพลักษณ์องค์กร (Brightening the Brand) ให้มีความสดใส ทันสมัย และเป็นสากลมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม ภายใต้สโลแกน “Happiness Means Everything: เพราะความสุขคือทุกอย่าง” โดยมีการเปลี่ยนภาพลักษณ์ใหม่โลโก้ด้วยรูปลักษณ์โค้งมน สื่อสารผ่านสีที่หลากหลายสะท้อนถึงความสดใส เข้าถึงง่าย สร้างความใกล้ชิดของลูกค้า

ซึ่งหลังจากที่ สาระ ได้มุ่งมั่นพัฒนาขยายธุรกิจของเมืองไทยประกันชีวิตอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ อัตราการเติบโตเฉลี่ยของเบี้ยรับรวม (CAGR Growth) ตั้งแต่ปี 2547-2565 สูงถึง 13% จากเดิมที่เมืองไทยประกันชีวิตเป็นบริษัทประกันขนาดเล็ก เคยอยู่ในอันดับที่ 8 ของภาคธุรกิจในช่วงที่สาระเริ่มบริหารช่วงแรกๆ ปัจจุบันได้ก้าวเป็นบริษัทประกันขนาดใหญ่ระดับชั้นนำของประเทศ ที่มีผลงานเบี้ยรับรวมแตะระดับสูงสุดที่ 100,000 ล้านบาท สูงเป็นอันดับ 2 ของภาคธุรกิจประกันชีวิตไม่เพียงแต่ธุรกิจในประเทศ สาระ ยังเป็นผู้มีบทบาทสำคัญในการริเริ่มขยายธุรกิจประกันชีวิตไทยไปสู่กลุ่มประเทศ CLMV (Cambodia, Laos, Myanmar และ Vietnam) ซึ่งปัจจุบันมีส่วนอันดับทางการตลาดเป็นอันดับต้นๆ ของภาคธุรกิจในประเทศ Cambodia และ Laos

สำหรับผลการดำเนินงานในปี 2565 ที่ผ่านมา บริษัทมีสินทรัพย์รวมกว่า 600,000 ล้านบาท มีกำไรสุทธิสูงถึง 5,700 ล้านบาทเป็นอันดับต้นๆ ของภาคธุรกิจ มีอัตราส่วนความเพียงพอของเงินกองทุนมากกว่า 300% ซึ่งสูงกว่าที่ระดับเกณฑ์ขั้นต่ำที่ภาคธุรกิจกำหนดไว้ที่ 140% และมีจำนวนกรมธรรม์ที่มีผลบังคับและดูแลให้กับลูกค้าเมืองไทยประกันชีวิตเกือบ 3,000,000 กรมธรรม์

4. เป็นนักการเงินที่มีความรับผิดชอบต่อสังคม และทำคุณประโยชน์ต่อส่วนรวมภายใต้การนำของ สาระ ได้ให้ความสำคัญในการเสริมสร้างความมั่นคงทางการเงินและเติมเต็มชีวิตของลูกค้าได้อย่างสมบูรณ์ตลอดช่วงชีวิต นำไปสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืนตามหลักการ ESG ได้แก่ ด้านสิ่งแวดล้อม (Environment) ด้านสังคม (Social) และ ด้านบรรษัทภิบาลและเศรษฐกิจ (Governance & Economic)โดยมีการกำหนดกลยุทธ์ด้านการพัฒนาอย่างยั่งยืนที่ผสมผสานแนวคิด ESG กับการดำเนินธุรกิจ “Embedding Sustainability into Our Own Operation” เพื่อให้ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกฝ่ายมีความสุขอย่างยั่งยืนในทุกมิติ และเพื่อมุ่งเป็น “Leading Sustainable Insurer” ที่จะมีบทบาทสำคัญในการบรรลุความสำเร็จของเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน หรือ Sustainable Development Goals (SDGs) ขององค์การสหประชาชาติ

ล่าสุด สาระ เป็นผู้ที่ผลักดันแนวคิดการตอบแทนเพื่อสังคมของเมืองไทยประกันชีวิต ให้ก้าวสู่ “Creating Shared Value” (CSV) หรือ “การสร้างคุณค่าร่วมกันของสังคม” ผ่านแนวคิด “MTL Share” ที่มุ่งการสร้างคุณค่าของการดำเนินธุรกิจให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ที่นอกจากจะสร้างคุณค่าให้กับสังคมและสิ่งแวดล้อมแล้ว จะมีการสร้างกระบวนการใหม่ให้สามารถสร้างคุณค่าจากสินค้าหรือการบริการของธุรกิจให้กับสังคมร่วมด้วย

สาระ ยังเป็นผู้มีบทบาทสำคัญในการร่วมกำหนดและจัดทำกรอบการกำกับดูแลกิจการที่ดี (Corporate Governance Framework) ที่ใช้ในการกำกับดูแลการดำเนินธุรกิจให้มีความโปร่งใสและมีความน่าเชื่อถือ โดยจะมีแนวทางที่เป็นกลไกในการควบคุมภายใน การเปิดเผยข้อมูล และการตรวจสอบที่มีประสิทธิผล ผ่านการแบ่งแยกอำนาจหน้าที่ระหว่างฝ่ายกำกับดูแล และฝ่ายบริหารที่ชัดเจน ตลอดจนมีการแต่งตั้งคณะกรรมการชุดย่อย เพื่อช่วยทำหน้าที่ในการกลั่นกรองในมิติต่างๆ ของการประกอบของเมืองไทยประกันชีวิต.-511-าสำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เปิดชื่อ “73 อรหันต์” ถกร่าง พ.ร.บ.งบฯ 69 ประชุมนัดแรก 9 มิ.ย.

รัฐสภา 31 พ.ค. – เปิดชื่อ “73 อรหันต์” ถกร่าง พ.ร.บ.งบฯ ปี 69 ประชุมนัดแรก 9 มิ.ย.นี้ เคาะประธาน-รองประธาน วางกรอบการทำงาน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับรายชื่อคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 จำนวน 73 คน ประกอบด้วย สัดส่วนคณะรัฐมนตรี (ครม.) จำนวน 18 คน คือ 1. นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.คลัง 2. นายจักรพงษ์ แสงมณี 3. นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง 4. นางมนพร เจริญศรี รมช.คมนาคม 5. นายสรวุฒิ เนื่องจำนงค์ 6. นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ […]

สภาวุ่น! งูเห่าไทยสร้างไทย เสนอชื่อ กมธ.งบฯ แข่ง

รัฐสภา 31 พ.ค.- สภาวุ่น! งูเห่าไทยสร้างไทย เสนอชื่อ กมธ.งบฯ แข่ง ประธานสั่งพักประชุม 5 นาที สุดท้ายงูเห่ายอมถอย ไปอยู่สัดส่วน ครม.แทน การประชุมสภาผู้แทนราษฎรหลังที่ประชุมมีมติรับหลักการร่างพระราชบัญญัติพิจารณางบประมาณรายจ่ายงบประมาณ 2569 ในขั้นตอนการเสนอชื่อกรรมาธิการวิสามัญฯ จำนวน 73 คน ในสัดส่วนของพรรคไทยสร้างไทย จำนวน 1 คน โดยนายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล ประธานวิปฝ่ายค้าน และ สส.พรรคประชาชน ได้เสนอชื่อ นายชัชวาล แพทยาไทย ขณะที่นางสุภาพร สลับศรี สส.พรรคไทยสร้างไทย นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ ทำให้เกิดการประท้วงกันเนื่องจากมีการเสนอชื่อ 2 คน แต่ปกรณ์วุฒิ ยืนยันว่าพรรคไทยสร้างไทยมีหนังจากกรรมการบริหารพรรคว่าจะเสนอชื่อนายชัชวาล เป็นตัวแทนของพรรคทำให้นายฐากูร ยืนยันว่าที่ผ่านมาการเสนอชื่อบุคคลเป็นกรรมาธิการวิสามัญจะต้องถูกเสนอโดยคนของพรรคตัวเอง ไม่ใช่พรรคอื่น ซึ่งวันนี้พรรคไทยสร้างไทยเสนอชื่อตน แต่พรรคการเมืองอื่นเป็นเสนอชื่ออีกคน ทำให้นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน ประธานในที่ประชุม วินิจฉัยว่า ใครจะเป็นผู้เสนอชื่อก็ได้ขอแค่มีผู้รับรอง ก่อนจะให้เวลาทั้ง 2 ฝ่ายหารือกัน […]

“ชาดา” ปลุกรัฐบาล ถ้าไม่แจกเงินหมื่น “นายกฯ เท้ง” มาแน่

รัฐสภา 31 พ.ค.-“ชาดา” ปลุกรัฐบาล ถ้าไม่แจกเงินหมื่น “นายกฯ เท้ง” มาแน่ ลั่นถ้าทำให้นายกฯ ไม่ได้ ก็เปลี่ยนตัว เอาคนอื่นไปนั่งแทน นายชาดา ไทยเศรษฐ์ สส.อุทัยธานี พรรคภูมิใจไทย อภิปรายในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ครั้งที่ 1 (สมัยวิสามัญ) เป็นพิเศษ วาระร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 นายชาดา กล่าวว่าในฐานะที่อยู่ในสภาฯ มาพอสมควร ขอชื่นชมฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาลมีการพัฒนาในการอภิปรายอย่างมาก ปี 69 มีงบประมาณลงทุน 7 แสนล้านบาท คนพูดกันตลอดเวลาว่าทำไมช่องว่างระหว่างคนจนกับคนรวยในประเทศนี้จึงห่างขึ้นทุกวัน ยกตัวอย่าง ในงบลงทุนเป็นงบก่อสร้าง 4.75 แสนล้านบาท ซึ่งงบก่อสร้างไม่เหมือนในอดีตเพราะต้องถูกตัดไปให้ธนาคาร 5% จึงอยากให้ธนาคารแห่งประเทศไทยเข้ามาดูเพราะเป็นการเอาเปรียบประชาชน ในจำนวนนี้มีค่าธรรมเนียม 2.5% ต่อปี นอกจากนี้ยังมีเรื่องเร่งรัดการเบิกจ่ายอีก 15% ซึ่งธนาคารตัดไป 3% และคิดค่าธรรมเนียมอีกต่างหาก นายชาดา กล่าวว่างบก่อสร้าง มีเครื่องจักรเหล็กหินวัสดุที่เป็นปูน หากเป็นงานถนนมีแรงงานเพียง 15% เงินส่วนนี้ไม่ได้ไปสู่ระบบข้างล่าง […]

ฝากขังพระเอกลิเกฆ่าลูกเลี้ยงป่วยออทิสติก

นครราชสีมา 30 พ.ค. – ตำรวจคุมตัวพระเอกลิเกฆ่าลูกเลี้ยงป่วยออทิสติก และขืนใจลูกวัย 11 ขวบ ฝากขังศาลจังหวัดนครราชสีมา อ้างวันเกิดเหตุถูกผู้ตายด่าทอด้วยถ้อยคำหยาบคาย ด้วยความโมโหและมึนเมาสุรา จึงก่อเหตุ ความคืบหน้ากรณีพ่อเลี้ยงพระเอกลิเกสุดโหดใช้ค้อนสำหรับทุบหมู ทำร้ายลูกเลี้ยงนางเอกลิเกที่ป่วยเป็นโรคออทิสติก จนบาดเจ็บเลือดคั่งในสมอง ก่อนที่จะเสียชีวิตในเวลาต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.นครราชสีมาบุกรวบตัวผู้ต้องหาคือ นายกิติทัช อายุ 48 ปี พระเอกลิเกชื่อ “รักยิ้ม ทับทิมสยาม” พ่อเลี้ยง ได้ที่บ้านพักแห่งหนึ่งในพื้นที่ อ.ละหานทราย จ.บุรีรัมย์ เมื่อคืนที่ผ่านมา (29 พ.ค.) ขณะผู้ต้องหากำลังเตรียมหลบหนีไปประเทศกัมพูชา ก่อนจะควบคุมตัวมายังสถานีตำรวจภูธรเมืองนครราชสีมา เพื่อสอบปากคำ เช้าวันนี้ (30 พ.ค.) พนักงานสอบสวน สภ.เมืองนครราชสีมา คุมตัวผู้ต้องหามาสอบสวนขยายผล จนผู้ต้องหา ยอมให้การรับสารภาพว่าเป็นคนก่อเหตุจริง อ้างว่าในวันเกิดเหตุถูกผู้ตายด่าทอด้วยถ้อยคำหยาบคาย ด้วยความโมโห พร้อมกับมีอาการมึนเมาจากการดื่มสุรา จึงลงมือก่อเหตุดังกล่าว เบื้องต้นพนักงานสอบสวนแจ้งข้อกล่าวหา “ทำร้ายผู้อื่นจนถึงแก่ความตาย” ส่วนข้อหากระทำอนาจารต่อลูกสาววัย 11 ขวบ ทางเจ้าหน้าที่ยังไม่พบหลักฐาน หากตรวจพบหลักฐานที่ชัดเจนจะแจ้งข้อหาเพิ่มเติม ก่อนจะนำตัวผู้ต้องหาไปฝากขังศาลจังหวัดนครราชสีมา […]

ข่าวแนะนำ

ขอหมายจับ 6 ผู้ต้องหาปล้นบุหรี่ไฟฟ้า ชน รปภ.ดับ

กทม. 2 มิ.ย. – ตำรวจรวบรวมพยานหลักฐานขอศาลออกหมายจับ 6 ผู้ต้องหาปล้นบุหรี่ไฟฟ้าในโกดังกรมศุลกากร ก่อนขับรถชน รปภ.ดับ ด้านพนักงานสอบสวนหิ้วนายเจ ทำหน้าที่รับของโจร ไปฝากขังศาล เจ้าตัวฝากถึงเพื่อนรัก “เจอที่ไหน ตายแน่” ความคืบหน้าล่าสุดที่ สน.ท่าเรือ มีรายงานว่าเมื่อวานนี้ (1 มิ.ย.) ตำรวจสามารถคุมตัวนายดิศรณ์ หรือ นายเจ อายุ 41 ปี ซึ่งมีหน้าที่รับฝากของจากกลุ่มผู้ก่อเหตุ 6 คนมาสอบปากคำ และแจ้งข้อหารับของโจร โดยจากการสอบปากคำนายเจ ทำให้สามารถขยายผลไปถึงผู้ก่อเหตุอีก 6 คนได้ ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังไปยื่นขอศาลออกหมายจับผู้ก่อเหตุทั้งหมด 6 คน ในข้อหาร่วมกันปล้นทรัพย์เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย, ร่วมกันทำให้เสียทรัพย์, ร่มกันบุกรุก และมีข้อหาอื่นๆ อีกที่ต้องพิจารณา ซึ่งตำรวจเชื่อว่าตัวผู้ก่อเหตุทั้ง 6 คน ยังอยู่ในกรุงเทพมหานคร ไม่ได้หลบหนีไปไหน โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามตัวผู้ก่อเหตุทั้ง 6 อยู่ หากหมายจับออกก็จะสามารถจับกุมบางรายได้ทันที ส่วนเรื่องกล้องวงจรปิดนั้นสามารถได้ภาพแค่ตอนที่ชนผู้ตาย แต่ไม่สามารถจับภาพขณะปล้นได้ ส่วนกรณีที่จะมีเจ้าหน้าที่กรมศุลกากรเข้ามามีส่วนเกี่ยวข้องด้วยหรือไม่นั้น มีรายงานว่าไม่มี […]

ปศุสัตว์สระแก้วร่วมสอบสวนโรค “แอนแทรกซ์” หลังพบผู้ป่วยยืนยันรายแรกของจังหวัด

สระแก้ว 2 มิ.ย.​ – สำนักงานปศุสัตว์จังหวัดสระแก้ว เตรียมลงพื้นที่ร่วมกับสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด เร่งสอบสวนโรคแอนแทรกซ์ หลังได้รับแจ้งพบผู้ป่วยรายแรกของจังหวัด​ เบื้องต้นยังไม่พบสัตว์ป่วยตายผิดปกติในพื้นที่ แต่วางมาตรการควบคุมเข้มงวดป้องกันและควบคุม​โรคในสัตว์ นายสัตวแพทย์สมชวน รัตนมังคลานนท์ อธิบดีกรมปศุสัตว์ เปิดเผยว่า ได้รับรายงานจากสำนักงานปศุสัตว์จังหวัดสระแก้วว่า วันนี้ (2 มิถุนายน 2568) ได้บูรณาการร่วมกับสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสระแก้วและสำนักงานปศุสัตว์เขต 2 ลงพื้นที่สอบสวนโรค หลังพบชายอายุ 53 ปี ซึ่งอาศัยอยู่ในอำเภอเมืองสระแก้ว เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลพัทยาปัทมคุณ จังหวัดชลบุรี เมื่อวันที่ 30 พฤษภาคม ด้วยอาการตุ่มแผลตามร่างกาย และได้รับการวินิจฉัยยืนยันว่าติดเชื้อ Bacillus anthracis สาเหตุของโรคแอนแทรกซ์ จากข้อมูลเบื้องต้น ผู้ป่วยมีพฤติกรรมชอบบริโภคเนื้อดิบเป็นประจำ เช่น ลาบ ก้อย ซอยจุ๊ ซึ่งเป็นเนื้อที่ซื้อจากชาวบ้านในพื้นที่เพื่อแบ่งกันรับประทานร่วมกับเพื่อนบ้าน และมีพฤติกรรมดื่มสุราเป็นประจำ โดยไม่มีประวัติเลี้ยงสัตว์เคี้ยวเอื้อง ไม่มีประวัติสัมผัสสัตว์ป่วยหรือตายผิดปกติ และไม่ได้เดินทางไปยังพื้นที่ที่มีการระบาดของโรค แม้ในพื้นที่จะยังไม่พบรายงานสัตว์ป่วยหรือตายผิดปกติ แต่เพื่อความไม่ประมาท สำนักงานปศุสัตว์จังหวัดสระแก้วได้วางมาตรการควบคุมเข้มงวด โดยร่วมสอบสวนโรคในพื้นที่เสี่ยง เก็บตัวอย่างสัตว์และสิ่งแวดล้อมเพื่อส่งตรวจทางห้องปฏิบัติการ พร้อมทั้งประชาสัมพันธ์สร้างความเข้าใจแก่ประชาชนเรื่องอันตรายของการบริโภคเนื้อดิบ ขณะเดียวกัน ได้ประสานด่านกักกันสัตว์จังหวัดสระแก้วเตรียมน้ำยาฆ่าเชื้อและรถพ่นน้ำยาทำลายเชื้อโรค […]

Cambodia PM Hun Manet in military uniform

กัมพูชาเสนอศาลโลกตัดสินดินแดนพิพาทกับไทย

พนมเปญ 2 มิ.ย.- ผู้นำกัมพูชาเสนอให้นำข้อพิพาททางดินแดนกับไทยให้ศาลโลกตัดสิน และได้สั่งการให้เจบีซีเร่งจัดการหารือกับไทยเรื่องปักปันเขตแดน ด้านกระทรวงต่างประเทศกัมพูชาได้ยื่นหนังสือประท้วงไทยเรื่องเหตุปะทะที่มีทหารกัมพูชาเสียชีวิต เว็บไซต์หนังสือพิมพ์ขแมร์ไทมส์ของกัมพูชารายงานวันนี้ว่า นายกรัฐมนตรีฮุน มาเนตได้โพสต์ถ้อยแถลงในสื่อสังคมออนไลน์เมื่อเย็นวันอาทิตย์ว่า เขาได้ตัดสินใจตามที่รับฟังรายงานสรุปจากนายทหารที่ประจำการตามแนวชายแดนไทย หลังจากที่เขากลับจากการปฏิบัติภารกิจในต่างประเทศ โดยได้สั่งการให้คณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมกัมพูชา-ไทยหรือเจบีซี (JBC) เร่งจัดการประชุมกับฝ่ายไทยเพื่อเดินหน้าการสำรวจและปักปันเขตแดนระหว่าง 2 ประเทศ ถ้อยแถลงระบุด้วยว่า กัมพูชากำลังเตรียมบรรจุประเด็นใหม่ไว้ในวาระการประชุมเจบีซี คือ การเสนอให้นำข้อพิพาทยาวนานเรื่องปราสาทตาเมือนธม ตาเมือนโต๊ด ตาเมือนควาย และพื้นที่มอมเบ เข้าสู่การตัดสินชี้ขาดของศาลยุติธรรมระหว่างประเทศหรือศาลโลกที่กรุงเฮกในเนเธอร์แลนด์ นายกรัฐมนตรีกัมพูชาเตือนว่า การยั่วยุเมื่อไม่นานมานี้ของกลุ่มสุดโต่งเล็ก ๆ ได้จุดชนวนความตึงเครียดและโหมกระพือกระแสรักชาติขึ้นใน 2 ประเทศ เขาหวังว่าทั้ง 2 ฝ่ายจะสามารถทำงานร่วมกันเพื่อบรรลุทางออกสุดท้ายให้แก่พื้นที่พิพาทอ่อนไหวเหล่านี้ กัมพูชายังคงมุ่งมั่นที่จะแก้ปัญหาชายแดนด้วยกลไกทางเทคนิคและหลักการทางกฎหมาย แต่ก็สงวนสิทธิที่จะปกป้องบูรณภาพทางดินแดนด้วยทุกวิถีทาง รวมถึงการใช้อาวุธ หากมีความพยายามใช้กำลังทหารรุกรานดินแดนของกัมพูชา ด้านกระทรวงกิจการต่างประเทศและความร่วมมือสากลของกัมพูชาได้ยื่นหนังสือทางการทูตประท้วงไทย ซึ่งมีการเปิดเผยเนื้อหาเมื่อเย็นวันอาทิตย์ว่า กองทัพไทยเปิดฉากยิงทั้งที่ไม่มีการยั่วยุจากที่ตั้งทางทหารของกัมพูชาในหมู่บ้านเตโชมรกต อำเภอจอมกระสานต์ จังหวัดพระวิหารเมื่อราวเวลา 05.30 น.วันที่ 28 มีนาคม ส่งผลให้ทหารกัมพูชาถูกสังหารอย่างไม่เป็นธรรม 1 นาย และเป็นการละเมิดอธิปไตยและบูรณภาพทางดินแดนของกัมพูชา กระทรวงต่างประเทศของกัมพูชาขอประณามอย่างรุนแรงต่อการกระทำดังกล่าวว่า ผิดกฎหมาย รัฐบาลกัมพูชาเรียกร้องให้สอบสวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นโดยทันทีและถี่ถ้วน และต้องนำตัวผู้กระทำผิดมารับโทษ.-814.-สำนักข่าวไทย

สระแก้วพบผู้ป่วยติดเชื้อแอนแทรกซ์รายแรก

สระแก้ว 2 มิ.ย.- สระแก้วพบผู้ป่วยแอนแทรกซ์รายแรก ซักประวัติชอบกินก้อย-ซอยจุ๊-เนื้อดิบ จนท.เตรียมลงพื้นที่สอบสวนโรคเฝ้าระวังกลุ่มเสี่ยงและผู้สัมผัสเชื้อ นายแพทย์ธราพงษ์ กัปโก นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสระแก้ว เปิดเผยว่า พบผู้ป่วยโรคแอนแทรกซ์รายแรกของจังหวัด เป็นชาย อายุ 53 ปี อาชีพรับจ้างตัดไม้ อยู่ที่ตำบลท่าแยก อำเภอเมืองสระแก้ว เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลพัทยาปัทมคุณ จังหวัดชลบุรี ด้วยอาการตุ่มแผลบริเวณศีรษะ ด้านหลังคอ แขน และขา การตรวจทางห้องปฏิบัติการยืนยันพบเชื้อแอนแทรกซ์ จากการซักประวัติพบว่า ผู้ป่วยมีพฤติกรรมเสี่ยง คือ ดื่มสุราทุกวัน และชอบบริโภคก้อย ซอยจุ๊ เนื้อดิบเป็นประจำ ล่าสุดได้รับประทานเนื้อดิบเมื่อประมาณ 1 สัปดาห์ที่ผ่านมา คาดว่าผู้ป่วยติดเชื้อจากการบริโภคเนื้อสัตว์ป่วยที่ไม่ได้รับการปรุงสุก วันนี้ (2 มิถุนายน 2568) จะลงสอบสวนโรคเพื่อเฝ้าระวังกลุ่มเสี่ยงและผู้สัมผัสเชื้อ เน้นย้ำให้ประชาชน โดยเฉพาะในพื้นที่อำเภอเมืองสระแก้วและพื้นที่ใกล้เคียง ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคอย่างเคร่งครัด หลีกเลี่ยงการสัมผัสโค กระบือ แพะ แกะ ที่ป่วยหรือตายผิดปกติ ล้างมือและชำระล้างร่างกายหลังสัมผัสสัตว์ เลือกบริโภคเนื้อสัตว์ที่ได้รับการรับรองความปลอดภัย บริโภคอาหารที่ปรุงสุก ร้อน และสะอาดเท่านั้น หากพบสัตว์ป่วยหรือตายผิดปกติ […]