“สาระ ล่ำซำ” นักการเงินแห่งปี 2566 คว้ารางวัลเป็นครั้งที่ 2

กรุงเทพฯ 12 ธ.ค.-วารสารการเงินธนาคาร ฉบับ ธ.ค.66 ประกาศรางวัลเกียรติยศ “นักการเงินแห่งปี” เป็นของ “สาระ ล่ำซำ” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เมืองไทยประกันชีวิต ครองตำแหน่งเป็นครั้งที่ 2 ด้วยคุณสมบัติของการเป็นนักการเงินแห่งปีครบถ้วนตามหลักเกณฑ์การพิจารณาทั้ง 4 ด้าน ทั้งมีวิสัยทัศน์กว้างไกลและทันสมัย ซื่อสัตย์ต่อวิชาชีพ สร้างความเติบโตยั่งยืนให้องค์กร รับผิดชอบต่อสังคม

เป็นเวลา 41 ปีแล้วที่ วารสารการเงินธนาคาร ได้มอบรางวัลเกียรติยศ นักการเงินแห่งปี Financier of the Year เพื่อยกย่องผู้บริหารระดับสูงของธนาคาร สถาบันการเงิน บริษัทประกัน บริษัทหลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ที่มีผลงานโดดเด่น มีวิสัยทัศน์กว้างไกล ทันสมัย สามารถขับเคลื่อนองค์กรให้เติบโตก้าวหน้าและยั่งยืนในทุกสถานการณ์เศรษฐกิจ โดยคำนึงถึงประโยชน์ส่วนรวม


สำหรับปี 2566 คณะกรรมการตัดสินรางวัลนักการเงินแห่งปี ได้กลั่นกรองและพิจารณาอย่างเข้มข้น จึงลงมติอย่างเป็นเอกฉันท์มอบรางวัลเกียรติยศ นักการเงินแห่งปี 2566 Financier of the Year 2023 ให้กับ สาระ ล่ำซำ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) ด้วยผลงานที่โดดเด่นผ่านคุณสมบัติการเป็นนักการเงินแห่งปี ตามหลักเกณฑ์ทั้ง 4 ด้าน คือ 1.เป็นนักการเงินที่มีวิสัยทัศน์กว้างไกลและทันสมัย 2.เป็นนักการเงินมืออาชีพที่มีความซื่อสัตย์ต่อวิชาชีพ 3.เป็นนักการเงินที่สร้างความเจริญเติบโตและยั่งยืนให้กับองค์กร และ 4.เป็นนักการเงินที่มีความรับผิดชอบต่อสังคมและทำคุณประโยชน์ต่อส่วนรวม

1. เป็นนักการเงินที่มีวิสัยทัศน์กว้างไกลและทันสมัย


สาระ ล่ำซำ เป็นผู้บริหารบริษัทประกันชีวิตคนแรกที่ได้รับรางวัล “นักการเงินแห่งปี” เมื่อปี 2556 มาในปีนี้ สาระ ได้กลับมาครองตำแหน่ง “นักการเงินแห่งปี 2566” อีกครั้ง ด้วยผลงานโดดเด่น โดยเฉพาะในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ภาคธุรกิจประกันชีวิตได้เผชิญกับความท้าทายเป็นอย่างมาก สาระ ในฐานะที่ดำรงตำแหน่งนายกสมาคมประกันชีวิตไทย จึงมีบทบาทสำคัญในการทำงานร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) โดยเป็นผู้ริเริ่มให้มีกระบวนการเสนอขายประกันในรูปแบบ Digital Face to Face เพื่อรองรับกับมาตรการรักษาระยะห่าง (Social Distancing) ระหว่างลูกค้ากับผู้เสนอขาย ทำให้กระบวนการเสนอขายเป็นไปได้อย่างราบรื่นในช่วงโควิด-19

รวมทั้ง ยังมีบทบาทในการออกข้อปฏิบัติ “เคลมประกันโควิด-19” สำหรับผู้ทำประกันภัยที่ติดเชื้อโควิด-19 ของบริษัทประกันชีวิต เพื่อเป็นแนวทางที่ชัดเจนให้ลูกค้ามีความเข้าใจในเรื่องการจ่ายเคลม เป็นการสร้างความอุ่นใจและความน่าเชื่อถือให้กับผู้เอาประกันภัยที่ถือกรมธรรม์ประกันชีวิตและประกันสุขภาพและติดเชื่อโควิด-19 หลังจากมีกระบวนการ Digital Face to Face และการออกประกาศข้อปฏิบัติ “เคลมประกันโควิด-19” ส่งผลให้ภาคธุรกิจประกันชีวิตไทยตั้งแต่ปี 2562 มีเบี้ยรับรวมและเบี้ยรับใหม่ของการประกันสุขภาพเติบโตสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องไม่ต่ำกว่า 10% สะท้อนถึงความรู้ความสามารถและวิสัยทัศน์ของ สาระ ที่ช่วยยกระดับให้ภาคธุรกิจประกันชีวิตเติบโตได้แม้ว่าจะประสบภาวะวิกฤติโควิด-19

สาระ ยังเป็นผู้นำที่มีวิสัยทัศน์ของภาคธุรกิจประกันชีวิต โดยประกาศบังคับใช้กฎหมายใหม่ให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบันและกฎหมายระดับสากล ซึ่งมีการทำงานร่วมกับสำนักงาน คปภ. เพื่อยกระดับมาตรฐานของภาคธุรกิจประกันชีวิตให้เติบโตได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน ระหว่างผู้ทำประกันภัยและบริษัทประกันชีวิต


 2. เป็นนักการเงินมืออาชีพที่มีความซื่อสัตย์ต่อวิชาชีพ

สาระ เป็นผู้ที่มีความรู้ ความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ด้านการบริหารการเงินและการลงทุนมากว่า 30 ปี โดยมุ่งหวังให้ประชาชนเข้าถึงการทำประกันชีวิตและส่งเสริมสนับสนุนให้ประชาชนทุกกลุ่มมีความรู้ทางการเงินและคุณภาพชีวิตที่ดี (Financial & Insurance Literacy) ในการสร้างความมั่นคงและคุณภาพชีวิตให้กับคนไทย และมุ่งหวังให้ตอบโจทย์ความต้องการและพฤติกรรมของลูกค้าเป็นสำคัญ (Outside In) แบบรายรายบุคคล (Personalization)

นอกจากนี้ ยังเป็นผู้นำที่บริหารองค์กรที่คำนึงถึงจริยธรรมและการดำเนินธุรกิจด้วยความโปร่งใสและตรวจสอบได้ ซึ่งเป็นผู้มีส่วนสำคัญที่ทำให้เมืองไทยประกันชีวิตได้รับรางวัลประกาศเกียรติคุณ “จรรยาบรรณดีเด่น” มาทั้งหมด 3 ครั้งจากหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทยในปี 2548 ปี 2562 และ ปี 2565 ส่งผลให้ สาระ ได้รับการยอมรับในความเป็นผู้นำที่มีความเป็นมืออาชีพ มีความรู้ความสามารถ และความซื่อสัตย์ต่อวิชาชีพ จนได้รับความไว้วางใจจากบริษัทสมาชิกคัดเลือกให้ดำรงตำแหน่งนายกสมาคมประกันชีวิตถึง 6 สมัย

ส่วนเวทีในระดับสากล สาระ ได้รับเกียรติจากผู้ประกอบการธุรกิจของแต่ละประเทศในการดำรงตำแหน่ง “the Chapter Chair of YPO Gold (Thailand)” หรือประธานกรรมการ YPO Gold (Thailand) สมาคมไทยแลนด์ แชปเตอร์ ยัง เพรสซิเดนท์ส ออร์แกนไนเซชั่น อิงค์ ซึ่งเป็นกลุ่มสังคมชุมชนระดับโลกที่เกิดจากการรวมตัวระหว่างเจ้าของผู้ประกอบกิจการในแต่ละประเทศในการแบ่งปันประสบการณ์ ความรู้ และนวัตกรรมขององค์กรที่ช่วยให้ธุรกิจสามารถเติบโตได้อย่างยั่งยืน

3. เป็นนักการเงินที่สร้างความเจริญเติบโตให้กับองค์กร

สาระ เป็นผู้ริเริ่มในการปรับภาพลักษณ์องค์กร (Brightening the Brand) ให้มีความสดใส ทันสมัย และเป็นสากลมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม ภายใต้สโลแกน “Happiness Means Everything: เพราะความสุขคือทุกอย่าง” โดยมีการเปลี่ยนภาพลักษณ์ใหม่โลโก้ด้วยรูปลักษณ์โค้งมน สื่อสารผ่านสีที่หลากหลายสะท้อนถึงความสดใส เข้าถึงง่าย สร้างความใกล้ชิดของลูกค้า

ซึ่งหลังจากที่ สาระ ได้มุ่งมั่นพัฒนาขยายธุรกิจของเมืองไทยประกันชีวิตอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ อัตราการเติบโตเฉลี่ยของเบี้ยรับรวม (CAGR Growth) ตั้งแต่ปี 2547-2565 สูงถึง 13% จากเดิมที่เมืองไทยประกันชีวิตเป็นบริษัทประกันขนาดเล็ก เคยอยู่ในอันดับที่ 8 ของภาคธุรกิจในช่วงที่สาระเริ่มบริหารช่วงแรกๆ ปัจจุบันได้ก้าวเป็นบริษัทประกันขนาดใหญ่ระดับชั้นนำของประเทศ ที่มีผลงานเบี้ยรับรวมแตะระดับสูงสุดที่ 100,000 ล้านบาท สูงเป็นอันดับ 2 ของภาคธุรกิจประกันชีวิตไม่เพียงแต่ธุรกิจในประเทศ สาระ ยังเป็นผู้มีบทบาทสำคัญในการริเริ่มขยายธุรกิจประกันชีวิตไทยไปสู่กลุ่มประเทศ CLMV (Cambodia, Laos, Myanmar และ Vietnam) ซึ่งปัจจุบันมีส่วนอันดับทางการตลาดเป็นอันดับต้นๆ ของภาคธุรกิจในประเทศ Cambodia และ Laos

สำหรับผลการดำเนินงานในปี 2565 ที่ผ่านมา บริษัทมีสินทรัพย์รวมกว่า 600,000 ล้านบาท มีกำไรสุทธิสูงถึง 5,700 ล้านบาทเป็นอันดับต้นๆ ของภาคธุรกิจ มีอัตราส่วนความเพียงพอของเงินกองทุนมากกว่า 300% ซึ่งสูงกว่าที่ระดับเกณฑ์ขั้นต่ำที่ภาคธุรกิจกำหนดไว้ที่ 140% และมีจำนวนกรมธรรม์ที่มีผลบังคับและดูแลให้กับลูกค้าเมืองไทยประกันชีวิตเกือบ 3,000,000 กรมธรรม์

4. เป็นนักการเงินที่มีความรับผิดชอบต่อสังคม และทำคุณประโยชน์ต่อส่วนรวมภายใต้การนำของ สาระ ได้ให้ความสำคัญในการเสริมสร้างความมั่นคงทางการเงินและเติมเต็มชีวิตของลูกค้าได้อย่างสมบูรณ์ตลอดช่วงชีวิต นำไปสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืนตามหลักการ ESG ได้แก่ ด้านสิ่งแวดล้อม (Environment) ด้านสังคม (Social) และ ด้านบรรษัทภิบาลและเศรษฐกิจ (Governance & Economic)โดยมีการกำหนดกลยุทธ์ด้านการพัฒนาอย่างยั่งยืนที่ผสมผสานแนวคิด ESG กับการดำเนินธุรกิจ “Embedding Sustainability into Our Own Operation” เพื่อให้ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกฝ่ายมีความสุขอย่างยั่งยืนในทุกมิติ และเพื่อมุ่งเป็น “Leading Sustainable Insurer” ที่จะมีบทบาทสำคัญในการบรรลุความสำเร็จของเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน หรือ Sustainable Development Goals (SDGs) ขององค์การสหประชาชาติ

ล่าสุด สาระ เป็นผู้ที่ผลักดันแนวคิดการตอบแทนเพื่อสังคมของเมืองไทยประกันชีวิต ให้ก้าวสู่ “Creating Shared Value” (CSV) หรือ “การสร้างคุณค่าร่วมกันของสังคม” ผ่านแนวคิด “MTL Share” ที่มุ่งการสร้างคุณค่าของการดำเนินธุรกิจให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ที่นอกจากจะสร้างคุณค่าให้กับสังคมและสิ่งแวดล้อมแล้ว จะมีการสร้างกระบวนการใหม่ให้สามารถสร้างคุณค่าจากสินค้าหรือการบริการของธุรกิจให้กับสังคมร่วมด้วย

สาระ ยังเป็นผู้มีบทบาทสำคัญในการร่วมกำหนดและจัดทำกรอบการกำกับดูแลกิจการที่ดี (Corporate Governance Framework) ที่ใช้ในการกำกับดูแลการดำเนินธุรกิจให้มีความโปร่งใสและมีความน่าเชื่อถือ โดยจะมีแนวทางที่เป็นกลไกในการควบคุมภายใน การเปิดเผยข้อมูล และการตรวจสอบที่มีประสิทธิผล ผ่านการแบ่งแยกอำนาจหน้าที่ระหว่างฝ่ายกำกับดูแล และฝ่ายบริหารที่ชัดเจน ตลอดจนมีการแต่งตั้งคณะกรรมการชุดย่อย เพื่อช่วยทำหน้าที่ในการกลั่นกรองในมิติต่างๆ ของการประกอบของเมืองไทยประกันชีวิต.-511-าสำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.พล.7 ของเขมร โดนกระสุนปืนใหญ่ยิงดับ บนช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ

26 ก.ค. – พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ จากการปะทะแย่งชิงพื้นที่ระหว่างทหารไทย-กัมพูชา ตลอดวันนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การปะทะระหว่างทหารไทย กับทหารกัมพูชา บริเวณภูมะเขือ และช่องตาเฒ่า ตั้งแต่เช้ามืดวันนี้ ทหารไทยสามารถปกป้องพื้นที่ภูมะเขือ และกดดันทหารกัมพูชาออกจากพื้นที่ได้สำเร็จ ในขณะที่ทหารกัมพูชา พยายามกลับเข้ามาโจมตีกลับ เพื่อยึดภูมะเขือ ส่งผลให้มีทหารกัมพูชาเสียชีวิตหลายนาย หนึ่งในนั้นคือ พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ. – สำนักข่าวไทย

ทอ.ส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตีสกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา

26 ก.ค.- กองทัพอากาศส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตียุทธบริเวณ “ภูมะเขือ” สกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา อีกจุดปราสาทตาเมือนธม ผลปฏิบัติลุล่วงกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 กองทัพอากาศ ส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และเครื่องบินกริพเพน จำนวน 2 ลำ ออกปฏิบัติการโจมตี พื้นที่ยุทธบริเวณเป้าหมายทหาร ของทางทหารกัมพูชาบริเวณภูมะเขือ หลังทหารกัมพูชาเตรียมใช้อาวุธวิธีโค้งยิงใส่ฝ่ายไทยหวังยึดภูมะเขือ ส่วนอีกจุดบริเวณปราสาทตาเหมือนธม โดยเป็นจุดที่ทางทหารกัมพูชาได้ตั้งปืนใหญ่และกำลังพลยิงข้ามมายังฝั่งประเทศไทยโดยไร้ทิศทาง ทั้งนี้ผลการปฏิบัติการ ทำลายเป้าหมายได้ทั้งสองจุด ลุล่วงไปด้วยดี และได้บินกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การขึ้นบินกริพเพนของกองทัพ ในภารกิจสู้รบตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ครั้งนี้ ถือเป็น ‘ประวัติศาสตร์’ ของเครื่องบินขับไล่กริพเพนที่มีประจำการในหลายประเทศ ที่ใช้ในภารกิจสู้รบ-ใช้อาวุธจริงครั้งแรก ที่ผ่านมา กริพเพน ถูกใช้เพียงภารกิจบินรักษาอาณาเขต เช่น บริเวณทะเลบอลติกในทวีปยุโรป ในฐานะสมาชิก ‘นาโต้’ ผ่านเหตุการณ์สู้รบ ‘ยูเครน-รัสเซีย’ และภารกิจเฝ้าตรวจ-คุ้มกันน่านฟ้า ประเทศลิเบีย ที่กองทัพอากาศสวีเดนเข้าร่วมภารกิจ -สำนักข่าวไทย

กริพเพน

ทอ. ส่ง F16 – กริพเพน ปฏิบัติการรอบ 2 ทิ้งบอมบ์พื้นที่ทางทหารเขมร

26 ก.ค. – ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และกริพเพน 2 ลำ ออกปฏิบัติการรอบสอง โจมตียุทธบริเวณทำลายพื้นที่ทหารกัมพูชา บริเวณปราสาทตาควาย อ.พนมดง จ.สุรินทร์ ภารกิจลุล่วง และกับฐานปฏิบัติโดยปลอดภัย สำหรับพื้นที่บริเวนนี้ ทหารไทยกับทหารกัมพูชา ปะทะกันดุเดือด โดยทหารไทยพยายามทำลายพื้นที่กัมพูชาวางกำลังไว้หลายระลอก ในขณะที่กัมพูชาโต้กลับและระดมกำลังทหารมาเพิ่มเติม ส่งผลให้พื้นที่บริเวนนี้มีการปะทะดุเดือดตั้งแต่วันที่ 24 ก.ค.ถึงวันนี้. – สำนักข่าวไทย

เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ”

26 ก.ค.- เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ” ทหารไทยยึดอาวุธปืน-โดรน 11 รายการ พร้อมมือถือ 7 เครื่อง ใช้ถ่ายคลิปยั่วยุทหารไทย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 รายงานข่าวจากกองทัพภาคที่ 2 ระบุว่า สำหรับปฏิบัติการ ของเจ้าที่ทหารกองทัพภาคที่ 2 บนภูมะเขือที่สามารถยึดกลับคืนมาได้ ทำให้ทหารกัมพูชาเสียชีวิต 10 นาย พร้อมทั้งตรวจพบและสามารถยึดอาวุธ ยุทโธปกรณ์ จำนวน 11 รายการ ประกอบด้วย นอกจากนี้ยังพบโทรศัพท์มือถือ 7 เครื่อง ที่ทางทหารกัมพูชาชอบถ่ายในเวลาทำคลิปเมื่อเจอกับทหารไทยบริเวณแนวชายแดน -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

บุรีรัมย์สั่งอพยพชาวบ้านเพิ่ม 3 อำเภอ

บุรีรัมย์ 27 ก.ค.-บุรีรัมย์ ประกาศให้ชาวบ้านอพยพเพิ่มอีก 3 อำเภอ หลังพื้นที่ปะทะและรัศมีอาวุธขยายไปไกลขึ้น ทั้งวัด โรงเรียน ศูนย์พักพิงชั่วคราว และ รพ.อีก 2 แห่ง ต้องอพยพผู้ป่วยด่วน เหลือเพียงหน่วยรับผู้ป่วยฉุกเฉิน ช่วงเวลาบ่าย 2-3 โมง เมื่อวานนี้ ในพื้นที่จังหวัดบุรีรัมย์ มีเสียงปืน เสียงระเบิดดังเป็นระยะ และมีกระสุนปืนใหญ่ ตกในพื้นที่ อ.ละหานทราย จ.บุรีรัมย์ จึงประกาศให้ชาวบ้านในพื้นที่ 3 อำเภอ คือ อ.ละหานทราย อ.เฉลิมพระเกียรติ และ อ.โนนดินแดง อพยพไปอยู่ตามบ้านญาติ หรือศูนย์พักพิงที่ห่างไกลจากรัศมีวิถีกระสุนปืนใหญ่ และอาวุธหนัก บางครัวเรือนก็มีลูกหลานมารับออกไปแล้ว ส่วนชาวบ้านที่ไม่มีรถยนต์ส่วนตัว ทางเจ้าหน้าที่จากหลายหน่วยงาน ก็ได้จัดรถไปช่วยอพยพชาวบ้านออกจากพื้นที่ด้วย ด้าน โรงพยาบาลในพื้นที่ 2 แห่ง คือ รพ.ละหานทราย และ รพ.เฉลิมพระเกียรติ ก็มีการอพยพผู้ป่วยออกจากโรงพยาบาลเช่นกัน รวมถึงให้แพทย์ พยาบาล และเจ้าหน้าที่ถอนกำลังออกจากพื้นที่ เหลือไว้แค่หน่วยที่จะรับผู้ป่วยฉุกเฉิน […]

Trump says he is seeking a ceasefire between Thailand, Cambodia

“ทรัมป์” โยงเรื่องการค้ากับหยุดยิงไทย-กัมพูชา

เอดินบะระ 27 ก.ค.-  ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐ พูดคุยกับผู้นำของทางการไทยและกัมพูชา โดยโยงเรื่องการเจรจาทางการค้ากับสหรัฐกับเรื่องหยุดยิงของทั้ง 2 ประเทศ ด้านนายกรัฐมนตรีมาเลเซียจะผลักดันข้อเสนอหยุดยิงระหว่างไทยและกัมพูชา ในระหว่างการเยือนสกอตแลนด์เมื่อวันเสาร์ตามเวลาท้องถิ่น ประธานาธิบดีทรัมป์ได้โพสต์ในทรูธโซเชียลที่เป็นสื่อสังคมออนไลน์ของเขาเกี่ยวกับสถานการณ์ไทยและกัมพูชา 3 โพสต์ติดต่อกัน โพสต์แรกระบุว่า ได้หารือทางโทรศัพท์กับนายกรัฐมนตรี มาเนตกัมพูชาและนายภูมิธรรม เวชยชัย รักษานายกรัฐมนตรีของไทย เรื่องการหยุดยิงและยุติสงครามที่กำลังดำเนินอยู่ สหรัฐซึ่งกำลังหารือทางการค้ากับทั้ง 2 ประเทศอยู่ในขณะนี้ไม่ต้องการทำข้อตกลงกับประเทศใดประเทศหนึ่งหากยังมีการสู้รบกันอยู่ กัมพูชาจะแสดงท่าทีเรื่องหยุดยิงหลังจากที่เขาได้คำตอบจากไทยในเรื่องนี้ นายทรัมป์ระบุด้วยว่า สถานการณ์ระหว่างไทยกับกัมพูชาทำให้เขานึกถึงสถานการณ์ความตึงเครียดระหว่างปากีสถานกับอินเดียที่ได้รับการยับยั้งเป็นผลสำเร็จ หลังจากนั้นราว 1 ชั่วโมง ประธานาธิบดีทรัมได้โพสต์ข้อความใหม่ว่า ได้สนทนากับรักษาการนายกรัฐมนตรีของไทย ฝ่ายไทยต้องการหยุดยิงและสันติภาพเช่นเดียวกับกัมพูชา และหลังจากนั้นไม่นานผู้นำสหรัฐโพสต์ข้อความที่ 3 ว่า เพิ่งเสร็จสิ้นการสนทนากับนายกรัฐมนตรีกัมพูชาและแจ้งเรื่องที่ได้หารือกับทางการไทย ทั้ง 2 ฝ่ายต้องการหยุดยิงและสันติภาพ และต้องการกลับมาเจรจาทางการค้ากับสหรัฐ โดยตกลงจะพบหารือและหาทางหยุดยิงโดยทันที ด้านนายกรัฐมนตรีอันวาร์ อิบราฮิมของมาเลเซีย เปิดเผยกับสื่อที่เมืองปุตราจายาเมื่อวานนี้ว่า จะเดินหน้าผลักดันข้อเสนอหยุดยิงระหว่างไทยและกัมพูชา ซึ่งยังคงมีการยิงปะทะกันอยู่ เขาได้ขอให้รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศของมาเลเซียประสานงานกับรัฐมนตรีต่างประเทศของไทยและกัมพูชา และหากเป็นไปได้ เขาจะเข้าไปประสานงานด้วยตัวเองเพื่อหยุดยั้งการสู้รบ รอยเตอร์รายงานว่า กัมพูชาสนับสนุนข้อเสนอของนายอันวาร์ ส่วนไทยระบุว่า เห็นชอบในหลักการ.-820(814).-สำนักข่าวไทย

โฆษก ทบ.ลั่น หยุดยิงไม่ได้ “กัมพูชา” เปิดฉากยิงทหารไทยแต่เช้าตรู่

กทม. 27 ก.ค.-โฆษก ทบ.ลั่น หยุดยิงไม่ได้ กัมพูชาโจมตีทหารไทยแต่เช้าตรู่ หลัง “ทรัมป์” ขอให้หยุดยิง พบบ้านเรือนประชาชนเสียหายจากจรวดBM-21 เมื่อวันที่ 27 ก.ค.68 ที่กองบัญชาการกองทัพบก (บก.ทบ.) พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก กล่าวถึงกรณี โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ หารือ นายกฯ กัมพูชา และนายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการนายกฯ หากไม่หยุดยิงจะไม่เจรจาเรื่องภาษีสหรัฐนั้น ว่า กัมพูชายังไม่หยุดยิง และยังตอบโต้มาอยู่ตั้งแต่เช้าตรู่ของวันนี้ มีจรวดตกนอกเขตปฏิบัติการทางทหารในพื้นที่จังหวัดสุรินทร์ ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์ เมื่อเวลา 04.30 น. ทหารกัมพูชาได้เปิดฉากยิงทหารไทย ด้วยเครื่องยิงจรวดบีเอ็ม-21 แต่ด้วยเป้าหมายของทางกัมพูชาไม่ใช่พื้นที่ทางทหาร แต่เป็นบ้านเรือนประชาชน รวมถึงสถานพยาบาล และชุมชน โดยเมื่อ เวลา 06.30 น. กระสุนปืนใหญ่ (ไม่ทราบชนิด) ตกบริเวณพื้นที่ บ้านตาโสร์ ม.10 ต.บ้านพลวง อ.ปราสาท จ.สรินทร์ […]

“ภูมิธรรม” เผยเห็นชอบข้อเสนอ “ทรัมป์” แต่กัมพูชาต้องจริงใจหยุดยิง

กรุงเทพฯ 27 ก.ค.-“ภูมิธรรม” เผยคุย “ทรัมป์” เห็นชอบข้อเสนอหยุดยิง แต่ต้องการเห็นความตั้งใจจริงของกัมพูชาและเร่งหารือทวิภาคี นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ได้โพสต์ข้อความผ่านfacebook Phumtham Wechayachai เมื่อคืนวานนี้ (27 ก.ค.) ว่า ได้สนทนาทางโทรศัพท์กับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐอเมริกา ซึ่งได้เสนอให้ประเทศไทยและกัมพูชาดำเนินการหยุดยิงโดยทันที เพื่อยุติความขัดแย้งที่กำลังเกิดขึ้นบริเวณชายแดน ฝ่ายไทยได้แสดงความขอบคุณต่อความห่วงใยและความปรารถนาดีจากสหรัฐฯ พร้อมยืนยันว่า “ในหลักการ ฝ่ายไทยเห็นชอบต่อการหยุดยิง” อย่างไรก็ดี ไทยยังต้องการเห็น “ความตั้งใจจริงของฝ่ายกัมพูชาในเรื่องดังกล่าว” ไทยจึงได้ขอให้สหรัฐฯ ช่วยถ่ายทอดจุดยืนนี้ไปยังกัมพูชา โดยเสนอให้มีการหารือแบบทวิภาคีโดยเร็วที่สุด และให้กัมพูชาแสดงความจริงจังและจริงใจ เพื่อกำหนดมาตรการและกระบวนการที่ชัดเจนในการหยุดยิง ซึ่งจะนำไปสู่การยุติข้อพิพาทอย่างสันติและยั่งยืนในระยะยาว การเจรจาดังกล่าวเกิดขึ้นท่ามกลางความพยายามของนานาชาติในการไกล่เกลี่ยความขัดแย้งชายแดนไทย-กัมพูชา ที่ส่งผลกระทบต่อประชาชนทั้งสองประเทศอย่างรุนแรงในช่วงที่ผ่านมา สำหรับข้อความที่นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Phumtham Wechayachai ระบุว่า “เมื่อครู่ที่ผ่านมา ผมได้สนทนาทางโทรศัพท์กับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งได้เสนอให้ประเทศไทยและกัมพูชาดำเนินการหยุดยิงโดยทันที ผมได้กล่าวขอบคุณต่อความห่วงใยและความปรารถนาดีของฝ่ายสหรัฐฯ และยืนยันว่า […]