ไอแบงก์ จับสลากรางวัลแพ็กเกจเดินทางไปประกอบพิธีฮัจญ์

กรุงเทพฯ 7 ธ.ค. – ไอแบงก์ จับสลากรางวัลแพ็กเกจเดินทางไปประกอบพิธีฮัจญ์ ประจำปี 66 เดินหน้าออกผลิตภัณฑ์เงินฝากอัลฮัจญ์และอุมเราะห์ ขั้นต่ำ 500 บาท จ่ายผลตอบแทน 2 ครั้งต่อปี


นายชาดา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานในพิธีจัดพิธีจับสลากหาผู้ได้รับรางวัลแพ็กเกจเดินทางไปประกอบพิธีฮัจญ์ ประจำปี 2566 จำนวน 12 รางวัล พร้อมออกผลิตภัณฑ์เงินฝากอัลฮัจญ์และอุมเราะห์ ต่อยอดจากผลิตภัณฑ์เดิมคือบัญชีเงินฝากอัลฮัจญ์ และประกาศจับมือการบินไทย เพิ่มจำนวนรางวัลเป็น 45 รางวัล มูลค่ารวม 7.65 ล้านบาท

ดร.ทวีลาภ ฤทธาภิรมย์ กรรมการและผู้จัดการธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย กล่าวว่า บัญชีเงินรับฝากอัลฮัจญ์ เป็นบัญชีเงินฝากออมทรัพย์ กลุ่มเป้าหมายเฉพาะมุสลิม ที่มีความประสงค์วางแผนทางการเงินเพื่อเดินทางไปประกอบพิธีฮัจญ์ด้วยการเก็บออม เพื่อจับสลากเงินฝากอัลฮัจญ์ ลุ้นรับรางวัลแพ็กเกจเดินทางไปประกอบพิธีฮัจญ์ ต่อเนื่องจนถึงปัจจุบันนับเป็นปีที่ 9 สำหรับในปี 2566 มีบัญชีเงินรับฝากอัลฮัจญ์ ครบตามเงื่อนไขจึงได้จับสลากและมีสิทธิ์ลุ้นชิงรางวัลแพ็กเกจเดินทางไปประกอบพิธีฮัจญ์ ณ นครเมกกะ ประเทศซาอุดีอาระเบีย รวมทั้งสิ้น 12 รางวัล รวมมูลค่ารางวัลเป็นเงิน 3,000,000 บาท ได้รับการสนับสนุนรางวัลบัตรโดยสาร เส้นทาง กรุงเทพฯ-เจดดาห์ ไปกลับ จำนวน 12 ที่นั่ง จากการบินไทย


ไอแบงก์ยังเปิดตัวบัญชีเงินฝากอัลฮัจญ์และอุมเราะห์ อย่างเป็นทางการ เริ่มให้บริการตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2566 ที่ผ่านมา ผลิตภัณฑ์ดังกล่าวเป็นผลิตภัณฑ์บัญชีเงินฝากออมทรัพย์ เหมาะสำหรับบุคคลนับถือศาสนาอิสลามที่มีอายุตั้งแต่ 15 ปีขึ้นไป หรือนิติบุคคลที่มีบุคคลากรนับถือศาสนาอิสลาม เปิดบัญชีขั้นต่ำเพียง 500 บาท จ่ายผลตอบแทน 2 ครั้งต่อปี ทุกสิ้นเดือนมิถุนายนและธันวาคม เมื่อมียอดเงินฝากคงเหลือเฉลี่ยรายวันทุกๆ 2,000 บาทต่อเดือน ติดต่อกัน 3 เดือน ในช่วงเวลาใดเวลาหนึ่ง ธนาคารจะมอบสิทธิ์ลุ้นรับรางวัลแพ็กเกจเดินทางไปประกอบพิธีฮัจย์หรืออุมเราะห์ ณ นครเมกกะ ประเทศซาอุดีอาระเบีย จำนวน 1 สิทธิ์ โดยคำนวณสิทธิ์ให้ทุกเดือน ยิ่งฝากมากยิ่งได้รับสิทธิ์ลุ้นรับรางวัลมาก

ธนาคารยังมอบสิทธิ์ให้แก่ลูกค้าที่ฝากครบเงื่อนไขธนาคาร เพิ่มขึ้นจากเดิม 12 รางวัล เป็น 45 รางวัล แบ่งเป็นแพ็กเกจเดินทางไปประกอบพิธีฮัจย์ 20 รางวัล ๆ ละ 270,000 บาท รวมเป็นเงิน 5,400,000 บาท และแพ็กเกจเดินทางไปประกอบพิธีอุมเราะห์ 25 รางวัล ๆ ละ 90,000 บาท รวมเป็นเงิน 2,250,000 บาท รวมมูลค่ารางวัลทั้งสิ้นเป็นเงิน 7,650,000 บาท ธนาคารยังได้ปรับปรุงเงื่อนไขในการรับรางวัลให้มีความยืดหยุ่นยิ่งขึ้น โดยการให้สิทธิ์ผู้ที่ได้รับรางวัลให้สามารถส่งมอบรางวัลนี้ต่อให้กับทายาทหรือผู้สืบสันดานตามกฎหมายกรณีไม่ประสงค์เดินทางเอง และในกรณีที่ผู้ได้รับรางวัลเป็นนิติบุคคลหรือหน่วยงาน สามารถโอนสิทธิ์ให้กับพนักงานในหน่วยงานได้”

สำหรับผู้โชคดีจำนวน 12 รางวัล มีรายชื่อดังต่อไปนี้
1 นางสาวนริศรา เฮมเบีย สาขาบิ๊กซีปัตตานี จ.ปัตตานี
2 บจก.สิริอรุณ อินเตอร์ฟู้ดส์ สาขาระนอง จ.ระนอง
3 นายเจ๊ะอับดุลเล๊าะ หะมิงมะ สาขาปัตตานี จ.ปัตตานี
4 นายหามะ หะยียูโซะ สาขาถนนวิจิตรไชยบูลย์ จ.นราธิวาส
5 นางสาว สิริมา เหร็นเส็บ สาขาระนอง จ.ระนอง
6 นายเจ๊ะอับดุลเล๊าะ หะมิงมะ สาขาปัตตานี จ.ปัตตานี
7 นายเจ๊ะอับดุลเล๊าะ หะมิงมะ สาขาปัตตานี จ.ปัตตานี
8 นางสุนันท์ ภักตร์เจริญ สาขา ทุ่งครุ จ.กรุงเทพ
9 นายหามะ หะยียุโซะ สาขาวิจิตรไชยบูลย์ จ.นราธิวาส
10 นางซาฮีดาห์ สาเมาะ สาขานราธิวาส จ.นราธิวาส
11 นางสาวฮาลีมะ ชายมัน สาขาโคกโพธิ์ปัตตานี จ.ปัตตานี
12 นายมูฮัมหมัดฟาดิ้ล มะมิง สาขายะลา จ.ยะลา


รางวัลสำรองอีก จำนวน 15 รางวัล มีรายชื่อดังต่อไปนี้
1 นายสมชาย ร่าหมาน สาขาชุมพร จ.ชุมพร
2 บจก.สิริอรุณ อินเตอร์ฟู้ดส์ สาขาระนอง จ.ระนอง
3 นางสาวรอกีเย๊าะ แมซา สาขาถนนวิจิตรไชยบูลย์ จ.นราธิวาส
4 นางเกษราภรณ์ จาเอาะ สาขาบันนังสตา จ.ยะลา
5 มัสยิด การาหมาด (บ้านหัวทะเล) สาขานครศรีธรรมราช จ.นครศรีธรรมราช
6 นางสาวอุไรด๊ะ โอกาศ สาขาอโศก จ.กรุงเทพ
7 นาย นรบดี แสงมณี สาขาคลองตัน จ.กรุงเทพ
8 นางไพเราะ รีรัตนชาติ สาขามีนบุรี จ.กรุงเทพ
9 นางแมะเดาะ อาลีมามะ สาขาบันนังสตา จ.ยะลา
10 นางอาตีกะห์ บองออาแซ สาขาตันหยงมัส จ.นราธิวาส
11 นางไพรินทร์ มะลิวัลย์ สาขามีนบุรี จ.กรุงเทพ
12 นายดุนยา จาเอาะ สาขาบันนังสตา จ.ยะลา
13 นางสาวสิริมา เหร็นเส็บ สาขาระนอง จ.ระนอง
14 นางนภาวรรณ วันอุสเซนต์ สาขาถนนวิจิตรไชยบูลย์ จ.นราธิวาส
15 นางฮาซานะห์ ยานยา สาขายะรัง จ.ปัตตานี.- 515 สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

วันแม่แห่งชาติ ขึ้นทางด่วนฟรี 𝟯 สายทาง

กทม. 9 ส.ค.-วันแม่แห่งชาติ 12 สิงหาคม 2568 กทพ. แจ้งยกเว้นค่าผ่านทางพิเศษของทางพิเศษรวม 𝟯 สายทาง ดังนี้ ทางพิเศษเฉลิมมหานคร จำนวน 𝟮𝟭 ด่าน ทางพิเศษศรีรัช จำนวน 𝟯𝟮 ด่าน และทางพิเศษอุดรรัถยา จำนวน 𝟭𝟬 ด่าน นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ตามที่รัฐบาลประกาศให้วันจันทร์ ที่ 11 สิงหาคม 2568 เป็นวันหยุดพิเศษ ทำให้มีวันหยุดต่อเนื่องกันรวม 4 วัน (9-12 สิงหาคม 2568) เพื่อให้ประชาชนเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศ และช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศในภาพรวม โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) คาดการณ์สถานการณ์ “คนไทย” เดินทาง “ท่องเที่ยวภายในประเทศ” วันหยุดยาวช่วงวันแม่แห่งชาติ ระหว่างวันที่ 9-12 สิงหาคม 2568 จะสร้างรายได้สะพัดทั่วประเทศ 13,750 ล้านบาท […]

“มาริษ” แจงโทรเคลียร์ รมว.ต่างประเทศสิงคโปร์ ปมถูกบิดเบือนคำพูด

สุรินทร์ 9 ส.ค. – “มาริษ” แจงโทรเคลียร์ “วิเวียน” รมว.ต่างประเทศสิงคโปร์ ถูกบิดเบือนคำพูด ย้ำไม่ได้วิจารณ์เชิงลบ แต่ห่วงภาวะผู้นำทำงานได้ไม่เต็มที่เพราะมีอุปสรรคขัดขวาง นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่มีบางสื่อบิดเบือนคำพูดของนายวิเวียน บาลากริชนิน (Vivian Balakrishnan) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศสิงคโปร์ ซึ่งตนไม่สบายใจตั้งแต่ต้น และได้สะท้อนไปว่าการแสดงความคิดเห็นในเรื่องที่ละเอียดอ่อนเหล่านี้มักจะทำให้เกิดความเข้าใจผิด และจะมีคนเอาคำพูดท่านไปใช้ประโยชน์ในการโจมตีทางการเมือง นายมาริษ เปิดเผยว่า ได้คุยโทรศัพท์กับนายวิเวียน เพื่อแสดงความห่วงกังวล เขายอมรับแล้วอนุญาตให้ช่วยชี้แจง อธิบายกับสื่อมวลชนที่เป็นสื่อหลัก เพราะข้อความที่แปลผิดได้แพร่สะพัดอยู่ในโซเชียลมีเดีย “นายวิเวียนไม่ได้มีความประสงค์ที่จะไปตั้งคำถามในเรื่องภาวะผู้นำของใครทั้งสิ้น เขาเพียงแต่พูดว่าอยากเห็นการทูตทำงานอย่างเต็มที่ เพราะการทูตจะแก้ไขปัญหาได้หากอยู่ในจุดที่สมดุล และเมื่อไรที่ภาวะผู้นำถูกขัดขวาง ไม่ว่าจะด้วยปัจจัยอะไรก็ตาม มันจะมีผลกระทบให้การแก้ไขปัญหาซับซ้อนมากยิ่งขึ้น” นายมาริษ กล่าว นายมาริษ กล่าวย้ำว่า สิ่งที่นายวิเวียนพูด จะพยายามสื่อสารเพื่อให้ทุกคนได้ตระหนักว่าอยากเห็นผู้นำได้ทำงานอย่างเต็มที่ ไม่มีอุปสรรคขัดขวาง ซึ่งจะเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้การแก้ไขปัญหาลุล่วงไปได้อย่างสมบูรณ์.-319-สำนักข่าวไทย

ทบ.ชี้เหตุกำลังพล ร้อย.ร.111 เหยียบกับระเบิด สะท้อนกัมพูชาเริ่มใช้อาวุธก่อน

กรุงเทพฯ 9 ส.ค. – โฆษก ทบ. ชี้เหตุกำลังพล ร้อย.ร.111 เหยียบกับระเบิดขณะลาดตระเวนเส้นทาง พื้นที่รอยต่อบ้านโดนเอาว์-บ้านกฤษณา จ.ศรีสะเกษ บาดเจ็บ 3 นาย สะท้อนกัมพูชาเริ่มใช้อาวุธก่อน พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า วันที่ 9 สิงหาคม 2568 เวลา 10.00 น. กองทัพบกได้รับรายงานจากกองกำลังสุรนารี กองทัพภาคที่ 2 กรณีกำลังพลของหน่วยกองร้อยทหารราบที่ 111 เหยียบกับระเบิด ขณะทำการลาดตระเวนเส้นทาง เพื่อเสริมความมั่นคงในพื้นที่รอยต่อบ้านโดนเอาว์-บ้านกฤษณา จังหวัดศรีสะเกษ ส่งผลให้กำลังพลได้รับบาดเจ็บ 3 นาย ได้แก่ 1. จ่าสิบเอก ธานี พาหา ตำแหน่งผู้บังคับหมู่ป้องกัน บาดเจ็บรุนแรง ข้อเท้าซ้ายท่อนล่างขาด2. พลทหาร ภาคภูมิ ไชยสุระ ตำแหน่งพลปืนเล็ก บาดเจ็บบริเวณแขนและด้านหลัง3. พลทหาร ธนันชัย ไกรวงค์ […]

จับผับรังสิต

สั่งเด้งผู้การปทุมธานี ขาดจากตำแหน่งเดิม เซ่นจับผับดังรังสิต

8 ส.ค. – โดนด้วย! สั่งเด้งผู้การปทุมธานี โดยให้ขาดจากตำแหน่งเดิม พร้อมพวกอีก 5 นาย เซ่นจับผับดังรังสิต พบฉี่ม่วงเพียบเฉียด 200 คน พล.ต.ต.ศิลปคมณ์ เอี่ยมวงศ์ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 ลงนามในคำสั่งตำรวจภูธรภาค 1 ที่ 209/2568 เรื่อง ข้าราชการตำรวจช่วยราชการ ใจความว่า ด้วย ตำรวจภูธรภาค 1 มีคำสั่งที่ 208/2568 ลงวันที่ 8 สิงหาคม 2568 แต่งตั้ง คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง ในกรณีเมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 2568 เวลา 01.00 น. ชุดปฏิบัติการ พิเศษกรมการปกครอง ได้มีการจัดระเบียบสังคม โดยเปิดปฏิบัติการ (Zero Drug) โดยนำกำลังเข้าทำการ ตรวจสอบและจับกุมสถานบริการ ชื่อ ร้าน “Skin […]

ข่าวแนะนำ

วิเคราะห์แนวทางดำเนินคดีกัมพูชา

10 ส.ค. – ฟังการวิเคราะห์ปมดำเนินคดีกัมพูชา กับ รศ.ดร. ดุลยภาค ปรีชารัชช อาจารย์ประจำสาขาวิชาเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ศึกษา คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ จากหลักฐานที่มีชัดเจน กระสุนกัมพูชายิงตกฝั่งไทย เกิดความเสียหายทั้งชีวิตและทรัพย์สินพลเรือน และมีกระสุนที่ต้องเก็บกู้มากกว่า 800 นัด ขณะที่หลังการเจรจา GBC ผ่านไป พบกัมพูชายังเสริมกำลังทหารต่อเนื่อง .-สำนักข่าวไทย

ชาวบ้านศรีสะเกษสุดช้ำ บ้านเรือนถูกกัมพูชายิงถล่มเหลือแต่ซาก

ศรีสะเกษ 10 ส.ค. – ชาวบ้าน ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ กลับจากศูนย์อพยพเจอสภาพบ้านเหลือแต่ซาก หลังถูกลูกปืนใหญ่กัมพูชายิงถล่ม ขณะที่พบหัวจรวด BM-21 กลางทุ่งนา อีก 2 จุด ใน อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี เจ้าหน้าที่ EOD ทำลายเรียบร้อย ปลัดอำเภอน้ำยืน เน้นย้ำหากชาวบ้านพบหลุมลึก-ปากหลุมแคบ ให้รีบแจ้งทันที ภาพจากกล้องวงจรปิดเผยให้เห็นนาทีกระสุนโจมตีของกัมพูชายิงตกใส่บ้านเรือนประชาชนอย่างรุนแรงจนฝุ่นฟุ้งกระจาย จากภาพจะเห็นว่ามีรถอีแต๋นคันหนึ่งวิ่งผ่านจุดที่กระสุนพุ่งตกลงมาเพียงเสี้ยววินาที เมื่อเวลา 10.00 น. ของวันที่ 24 ก.ค.ที่ผ่านมา ในพื้นที่บ้านภูมิซรอล ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ วันนี้ นายกุลนที อายุ 45 ปี เดินทางกลับมาบ้าน หลังอพยพออกจากพื้นที่ไปกว่า 2 สัปดาห์ ในช่วงเหตุปะทะแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ทันทีที่เห็นบ้าน นายกุลนทีถึงกับน้ำตาคลอ เพราะบ้านเสียหายอย่างหนัก ทั้งโครงสร้างไม้และปูนได้รับความเสียหายเกือบทั้งหมด ประตู หน้าต่าง กระจก และหลังคาถูกกระสุนถล่มจนแทบไม่เหลือสภาพเดิม […]

มทภ.2 กำชับกำลังพลเพิ่มความระมัดระวัง หลังทหาร 3 นาย เหยียบกับระเบิด

10 ส.ค. – แม่ทัพภาคที่ 2 กำชับกำลังพลเพิ่มความระมัดระวัง หลังทหาร 3 นาย เหยียบกับระเบิด ขณะลาดตระเวนแนวชายแดน จ.ศรีสะเกษ จากการตรวจสอบพบเป็นทุ่นใหม่ ถูกวางไว้ช่วงทหารกัมพูชาเข้ามาตั้งฐานป้องกันการเข้าโจมตีของไทย ไม่ใช่การลอบนำมาวางใหม่หลังถอนกำลัง พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 เปิดเผยภายหลังการรับมอบสิ่งของช่วยเหลือทหารและเจ้าหน้าที่ตามแนวชายแดน จากภาครัฐและเอกชน ถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา หลังเจ้าหน้าที่ทหาร 3 นาย เหยียบกับระเบิด ขณะลาดตระเวนแนวชายแดน จ.ศรีสะเกษ เมื่อวานว่า จากการตรวจสอบพบว่าเป็นทุ่นใหม่ที่ถูกวางไว้ช่วงทหารกัมพูชาเข้ามาตั้งฐานเพื่อป้องกันการเข้าโจมตีของไทย ก่อนที่จะถอนกำลังออกไป ไม่ใช่การลอบนำมาวางใหม่หลังถอนกำลัง จึงสั่งการให้ทุกหน่วยเพิ่มความระมัดระวัง พร้อมใช้เทคโนโลยีและเครื่องจักร เช่น รถไถ รถตักในการเคลียร์เส้นทางและค้นหาทุ่นระเบิดบุคคล เพื่อป้องกันไม่ให้กำลังพลได้รับอันตรายซ้ำ สำหรับพื้นที่แนวปะทะที่มีการวางกำลังของทหารกัมพูชายังถือว่าไม่ปลอดภัยสำหรับทหาร เนื่องจากมีการวางระเบิดไว้มาก ส่วนพื้นที่ชาวบ้านซึ่งอยู่นอกแนวชายแดนลึกเข้ามา ไม่น่าเป็นห่วงจากทุ่นระเบิดบุคคล แต่ยังมีความเสี่ยงจากจรวดที่ยิงเข้ามาแล้วไม่ระเบิด หากประชาชนพบเห็นให้แจ้งเจ้าหน้าที่ทันที ห้ามเข้าไปจับ ดึง หรือเก็บเอง อย่างไรก็ตาม พื้นที่ส่วนใหญ่ เช่น ภูมะเขือ อานม้า ซำแปร และตาเมือนธม ไทยสามารถครอบครองได้ […]

นิด้าโพล เผยประชาชนไว้วางใจกองทัพ ปกป้องชาติมากถึง 75%

กทม. 10 ส.ค.-นิด้าโพล เผยประชาชนไว้วางใจกองทัพ ปกป้องผลประโยชน์ชาติ จากสถานการณ์ไทย-กัมพูชา มากถึง 75% แนะเปิดเจรจาทางการทูตสองฝ่ายจริงจัง รวมทั้งเห็นว่าไม่ควรรับผู้ป่วยชาวกัมพูชาทุกคน ศูนย์สำรวจความคิดเห็น “นิด้าโพล” สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) เปิดเผยผลการสำรวจ เรื่อง “สถานการณ์ไทย-กัมพูชา ไปต่อแบบไหนดี” ทำการสำรวจระหว่างวันที่ 4-5 สิงหาคม 2568 จากประชาชนที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป เกี่ยวกับความไว้วางใจและความพอใจต่อบทบาทของภาคส่วนต่างๆ ในการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งระหว่างไทย-กัมพูชา พบว่า -กองทัพ ตัวอย่าง ร้อยละ 75.73 ระบุว่า ไว้วางใจมาก รองลงมา ร้อยละ 19.31 ระบุว่า ค่อนข้างไว้วางใจ ร้อยละ 3.66 ระบุว่า ไม่ค่อยไว้วางใจ ร้อยละ 1.07 ระบุว่า ไม่ไว้วางใจเลย และร้อยละ 0.23 ระบุว่า ไม่ตอบ/ไม่สนใจ -กระทรวงการต่างประเทศ ตัวอย่าง ร้อยละ 41.76 […]