ประจวบคีรีขันธ์ 6 ธ.ค.-“สุรพงษ์” ลงพื้นที่ตรวจจุดเกิดอุบัติเหตุรถร่วมฯ ตกข้างทางที่ อ.ทับสะแก จ.ประจวบคีรีขันธ์ พร้อมเยี่ยมผู้บาดเจ็บ ย้ำดูแลเต็มที่ เตรียมกำหนดมาตรการความปลอดภัยเข้มข้น รองรับการเดินทางช่วงเทศกาลปีใหม่นี้
นายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม พร้อมด้วยนายสรพงศ์ ไพฑูรย์พงษ์ รองปลัดกระทรวงคมนาคม (หัวหน้ากลุ่มภารกิจด้านการขนส่ง) นายจิรุตม์ วิศาลจิตร อธิบดีกรมการขนส่งทางบก และ น.ส.ระพิพรรณ วรรณพินทุ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ฝ่ายบริหารการเดินรถ รักษาการแทนกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) เดินทางลงพื้นที่ตรวจสอบจุดเกิดเหตุรถโดยสารร่วมเอกชนของบริษัท ศรีสยาม เดินรถ จำกัด เสียหลักตกข้างทาง บริเวณถนนเพชรเกษม กม.331 ตำบลห้วยยาง อำเภอทับสะแก จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ พร้อมได้เข้าเยี่ยมและส่งมอบกำลังใจให้ผู้โดยสารที่ได้รับบาดเจ็บและพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลทับสะแก และโรงพยาบาลประจวบคีรีขันธ์
โดยนายสุรพงษ์ กล่าวว่า กระทรวงคมนาคม มีความห่วงใยต่อเหตุการณ์อุบัติเหตุที่เกิดขึ้น และได้กำชับให้กรมการขนส่งทางบก (ขบ.) และบริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) ร่วมกันดูแลให้ความช่วยเหลือผู้โดยสารอย่างเต็มที่ โดยผู้โดยสารที่ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตจะได้รับความคุ้มครองจากประกันภัยตามสิทธิ ซึ่งกรมการขนส่งทางบกได้จัดเจ้าหน้าที่เข้าประจำศูนย์ช่วยเหลือฯ อำนวยความสะดวกในการตรวจสอบการคุ้มครองของประกันภัย ให้กับผู้โดยสารที่ประสบอุบัติเหตุ ณ โรงพยาบาลทั้ง 2 แห่ง
นอกจากนี้ได้ให้ ขบ. และ บขส. ร่วมกับทางสภาวิศวกร สถาบันยานยนต์ และสถาบันเทคโนโลยีแห่งเอเชีย (AIT) ดำเนินการสอบสวนสาเหตุของอุบัติเหตุ โดยทาง AIT จะส่งทีมสอบสวนอุบัติเหตุในสัปดาห์นี้ ทั้งนี้ กระทรวงคมนาคม มีเป้าหมายในการลดอุบัติเหตุบนท้องถนน เพื่อลดความสูญเสียในชีวิตและทรัพย์สินของพี่น้องประชาชน การดำเนินการสอบสวนสาเหตุการเกิดอุบัติเหตุในครั้งนี้ เป็นการรวบรวมสถิติและอุบัติเหตุเคสสำคัญที่เกิดขึ้นในประเทศไทย เพื่อเป็นข้อเสนอแนะในการออกมาตรการและนโยบายของกระทรวงคมนาคม ซึ่งจะเป็นการถอดบทเรียน เพื่อหาแนวทางป้องกันไม่ให้เกิดอุบัติเหตุซ้ำอีกในอนาคต รวมทั้ง บขส.ได้เชิญ AIT เป็นที่ปรึกษา เพื่อประเมิน วิเคราะห์ ตรวจสอบ มาตรการเชิงปฏิบัติการ และความมั่นคงแข็งแรงของรถ Safety Audit ทั้งรถ บขส. และรถร่วมบริการทั้งหมด
รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวเพิ่มเติมว่า กระทรวงคมนาคมได้ให้ความสำคัญในเรื่องความปลอดภัย และตั้งเป้าลดปัญหาอุบัติเหตุบนท้องถนน จึงฝากให้ บขส. และผู้ประกอบการรถร่วมฯ ทุกราย หมั่นตรวจเช็กความพร้อมของรถโดยสารอยู่เสมอ ก่อนนำมาให้บริการ รถโดยสารทุกคันต้องมีอุปกรณ์ด้านความปลอดภัย เช่น เข็มขัดนิรภัย ถังดับเพลิง ทางออกฉุกเฉิน และค้อนทุบกระจก ติดตั้งเครื่องบันทึกข้อมูลการเดินทาง (GPS) เป็นต้น และแนะนำให้มีการตรวจสุขภาพพนักงานขับรถทุก ๆ 6 เดือน เพื่อประเมินความพร้อมและสมรรถนะทางร่างกายของพนักงานขับรถ และให้กรมการขนส่งทางบก พิจารณาปรับการทดสอบสมรรถนะทางด้านการขับขี่ของพนักงานขับรถโดยสารสาธารณะ จาก 3 ปี เป็น 1 ปี และให้เน้นย้ำผู้ขับขี่รถโดยสารปฏิบัติตามกฎจราจรอย่างเคร่งครัด อย่างไรก็ดี หลังจากนี้กระทรวงคมนาคมจะกำหนดมาตรการด้านความปลอดภัยในการขับขี่บนท้องถนนเพิ่มเติม โดยจะประชุมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อหารือแนวทางออกมาตรการด้านความปลอดภัยในการขับขี่บนท้องถนน และมีผลบังคับใช้ก่อนถึงเทศกาลปีใหม่นี้.-513-สำนักข่าวไทย