นนทบุรี 1 ธ.ค.-อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้าชวนสถานีบริการน้ำมันช่วย SME ไทย ดันผลิตภัณฑ์ชุมชนขึ้นหิ้งในปั๊มทั่วประเทศ พร้อมจัดทำข้อเสนอพิเศษเปิดทางธุรกิจเข้าใช้พื้นที่ กระตุ้นยอดขาย ขยายตลาดเพิ่ม
นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์เปิดเผยว่ากรมฯเตรียมแผนงานเพิ่มรายได้ ลดรายจ่ายให้ผู้ประกอบธุรกิจ โดยได้เชิญผู้ประกอบการสถานีบริการปั๊มน้ำมันรายใหญ่ เช่น ปตท. บางจาก และพีที เข้าร่วมหารือเรื่องหาพื้นที่ว่างราคาพิเศษให้แก่ผู้ประกอบการ SME สำหรับนำสินค้าไปวางจำหน่ายในสถานีบริการน้ำมัน เพื่อสร้างโอกาส เพิ่มรายได้อย่างมั่นคงและต่อเนื่อง
ทั้งนี้ สถานีบริการน้ำมันที่มีสาขากระจายอยู่ในกรุงเทพฯ และทุกจังหวัดทั่วประเทศอาจมีพื้นที่ว่าง ที่ต้องการพัฒนาเป็นพื้นที่ขายสินค้าและผลิตภัณฑ์ชุมชน ซึ่งความต้องการตรงกับกรมพัฒนาธุรกิจการค้าที่ได้รับมอบนโยบายจากกระทรวงพาณิชย์ให้หาพื้นที่ระบายสินค้าให้ผู้ประกอบการ SME ธุรกิจชุมชน และแฟรนไชส์ เพื่อกระจายสินค้า ถึงมือผู้บริโภคกลุ่มนักเดินทางและนักท่องเที่ยวโดยตรง ให้สามารถเลือกซื้อที่เป็นของเด่นพื้นที่ ของดีพื้นถิ่นในจังหวัดต่างๆ ได้โดยสะดวก เพิ่มโอกาสทั้งผู้ประกอบการให้ขายสินค้าได้มากขึ้น และผู้บริโภคได้มีทางเลือกในการซื้อสินค้าเพิ่มเติม
อย่างไรก็ตาม ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา กรมฯ ได้หารือร่วมกับผู้แทนสถานีบริการน้ำมัน เช่น ปตท. บางจาก และพีที ภายใต้แนวทาง ความร่วมมือ เช่น 1.เพิ่มช่องทางการจำหน่ายสินค้าชุมชนในร้านค้าในเครือข่ายสถานีบริการน้ำมัน 2.สนับสนุนจัดหาพื้นที่เช่า ห้องว่าง หรือ คีออส ในสถานีบริการน้ำมันที่เหมาะสม ราคาจูงใจให้กับผู้ประกอบการ SME แฟรนไชส์ และ ฟู้ดทรัคส์ (FOOD TRUCK) ที่อยู่ในการส่งเสริมของกรมพัฒนาธุรกิจการค้า “ซึ่งผลการหารือเป็นไปด้วยดี โดยสถานีบริการน้ำมันพร้อม ให้ความร่วมมือและเตรียมจัดกิจกรรมต่างๆ ร่วมกันเพื่อช่วยเหลือ SME และผลิตภัณฑ์ชุมชน” 3.ร่วมจัดแคมเปญพิเศษนำแต้มแลกส่วนลดร้านอาหาร Thai SELECT หรือ ผลิตภัณฑ์ชุมชน เป็นต้น
นอกจากนี้ การสนับสนุนช่องทางการจำหน่ายสินค้าชุมชนภายในสถานีบริการน้ำมันร่วมกับปั๊มน้ำมันทั่วไทย จะสามารถเพิ่มโอกาสทางการค้าให้แก่ผู้ประกอบธุรกิจ SME แฟรนไชส์ ตลอดจนฟู้ดทรัคส์ ที่อยู่ในการส่งเสริมของกรมพัฒนาธุรกิจการค้าที่มีหลากหลายได้เป็นอย่างดี โดยปัจจุบันมีผู้ประกอบการ SME ที่เคยผ่านการอบรมและเข้าร่วมกิจกรรมของกรมพัฒนาธุรกิจการค้ากว่า 100,000 รายแล้ว และมีธุรกิจแฟรนไชส์กว่า 530 ราย ที่ผ่านเกณฑ์มาตรฐานคุณภาพของกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ทั้งประเภทอาหาร เครื่องดื่ม ความงาม สุขภาพ และการศึกษา เป็นต้น
ที่อาจมีความสนใจใช้พื้นที่ในสถานีบริการน้ำมันเพื่อขยายธุรกิจ ขณะเดียวกันสถานีบริการน้ำมันก็สนใจที่จะเปิดให้ผู้ประกอบการแฟรนไชส์มาทำธุรกิจร่วมกัน โดยความร่วมมือเหล่านี้ถือเป็นการทำงานที่จะสามารถตอบสนองความต้องการของกันและกัน ซึ่งกรมฯ อยู่ระหว่างหารือถึงรายละเอียดกิจกรรมความร่วมมือที่จะจัดขึ้นในอนาคตต่อไป .-514-สำนักข่าวไทย