ส่งออก ต.ค.66 บวกต่อเนื่อง ขณะยอด 10 เดือนยังติดลบ

นนทบุรี 27 พ.ย.-ปลัดพาณิชย์ เผยยอดส่งออก ต.ค.66 เติบโตต่อเนื่องเดือนที่ 3 ขยายตัว 8% สูงสุดรอบ 13 เดือน มั่นใจอีก 2 เดือนยังเป็นบวก หวังทั้งปีติดลบเพียง 1% ปีหน้ามีหลายปัจจัยดี น่าจะดันส่งออกไทยบวก 1-2% แต่คงต้องติดตามสงครามตะวันออกกลาง

นายกีรติ รัชโน ปลัดกระทรวงพาณิชย์ กล่าวถึงยอดการค้าระหว่างประเทศของไทย เดือนตุลาคม 2566 และ 10 เดือนแรกของปี 2566 โดยยอดส่งออกของไทยในเดือนตุลาคม 2566 มีมูลค่า 23,578.8 ล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัวร้อยละ 8 สูงสุดรอบ 13 เดือน ส่งผลให้ยอดส่งออกรวม 10 เดือน ตั้งแต่มกราคม-ตุลาคม 66 ยอดส่งออกรวมอยู่ที่ 236,648.2 ล้านเหรียญสหรัฐ ติดลบร้อยละ 2.7 โดยคาดหวัง 2 เดือนที่เหลือหากยอดส่งออกเกินกว่า 23,950 ล้านเหรียญสหรัฐขึ้นไปโอกาสที่ตัวเลขการส่งออกของไทยในปี 66 น่าจะติดลบไม่มากแน่นอน


ทั้งนี้ หากตัวเลขการนำเข้าในเดือน ต.ค.66 อยู่ที่ 24,411.1 ล้านเหรียญสหรัฐ มีอัตราขยายตัวเป็นบวกร้อยละ 10 ทำให้ยอดการนำเข้า 10 เดือน ตั้งแต่เดือนมกราคม-ตุลาคม 66 อยู่ที่ 243,313.2 ล้านเหรียญสหรัฐ ติดลบรัอยละ 4.6 ส่งผลให้ไทยขาดดุลการค้าในเดือน ต.ค.66 อยู่ที่ 832.3 ล้านเหรียญสหรัฐ และ 10 เดือนไทยขาดดุลอยู่ที่ 6,665.0 ล้านเหรียญสหรัฐ เป็นต้น

อย่างไรก็ตาม หากดูทิศทางการส่งออกในช่วงเวลาที่เหลือของปีนี้ โดยภาพรวมเมื่อเทียบกับการส่งออกในปีเทศต่างๆ แล้ว ถือว่าไทยติดลบน้อยกว่าประเทศเพื่อนบ้านทั้งสิ้น ซึ่งมีสัญญาณที่ดีต่อการค้าและเศรษฐกิจโลกเริ่มกลับมาดีขึ้น ดังนั้น หากไทยลงผลักดันการส่งออกร่วมมือกับภาคเอกชนทุกกลุ่มอย่างใกล้ชิด ก็เชื่อว่าโอกาสการส่งออกไทยในปีนี้จะติดลบเพียงร้อยละ 1 เท่านั้น ประกอบกับสถานการณ์สงครามระหว่างอิสราเอลและฮามาสถือว่าไม่รุนแรง ดังนั้นในปีหน้าโอกาสที่การส่งออกของไทยจะขยายตัวเป็นบวกได้ร้อยละ 1-2 หรือมียอดมูลค่าการค้าได้มากถึงกว่า 280,000 ล้านเหรียญสหรัฐ ได้แน่นอน


ทั้งนี้ ดูภาพรวมการส่งออกสินค้าเกษตรและอุตสาหกรรมเกษตร มูลค่าการส่งออกสินค้าเกษตรและอุตสาหกรรมเกษตร ขยายตัวร้อยละ 9.3 ขยายตัวต่อเนื่อง 2 เดือน โดยสินค้าเกษตร ขยายตัวร้อยละ 12.3 ขยายตัวต่อเนื่อง 3 เดือน และสินค้าอุตสาหกรรมเกษตร ขยายตัวร้อยละ 5.9 ขยายตัวต่อเนื่อง 2 เดือน มีสินค้าสำคัญที่ขยายตัว ได้แก่ ข้าว ขยายตัวร้อยละ 37.7 ขยายตัวต่อเนื่อง 4 เดือน (ขยายตัวในตลาดอินโดนีเซีย สหรัฐฯ แอฟริกาใต้ มาเลเซีย และโกตดิวัวร์) ผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง ขยายตัวร้อยละ 4.8 ขยายตัวต่อเนื่อง 2 เดือน (ขยายตัวในตลาดจีน ญี่ปุ่น ไต้หวัน มาเลเซีย และสหรัฐฯ) ผลไม้สด แช่เย็น แช่แข็ง และแห้ง ขยายตัวร้อยละ 44.6 ขยายตัวต่อเนื่อง 5 เดือน (ขยายตัวในตลาดจีน สหรัฐฯ ฮ่องกง เวียดนาม และเกาหลีใต้) อาหารสุนัขและแมว ขยายตัวร้อยละ 5.5 กลับมาขยายตัวในรอบ 12 เดือน (ขยายตัวในตลาดญี่ปุ่น อิตาลี มาเลเซีย เยอรมนี และไต้หวัน) ไขมันและน้ำมันจากพืชและสัตว์ ขยายตัวร้อยละ 20.0 ขยายตัวต่อเนื่อง 2 เดือน (ขยายตัวในตลาดอินเดีย เกาหลีใต้ เมียนมา เนเธอร์แลนด์ และเวียดนาม) ไก่สดแช่เย็นแช่แข็ง ขยายตัวร้อยละ 9.6 กลับมาขยายตัวจากเดือนก่อนหน้า (ขยายตัวในตลาดจีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ฮ่องกง และเมียนมา) สิ่งปรุงรสอาหาร ขยายตัวร้อยละ 29.4 ขยายตัวต่อเนื่อง 4 เดือน (ขยายตัวในตลาดสหรัฐฯ ออสเตรเลีย ฟิลิปปินส์ เนเธอร์แลนด์ และมาเลเซีย) ผักกระป๋องและผักแปรรูป ขยายตัวร้อยละ 19.4 ขยายตัวต่อเนื่อง 9 เดือน (ขยายตัวในตลาดญี่ปุ่น สหรัฐฯ เกาหลีใต้ จีน และออสเตรเลีย)

ขณะที่สินค้าสำคัญที่หดตัว อาทิ ยางพารา หดตัวร้อยละ 5.4 หดตัวต่อเนื่อง 15 เดือน (หดตัวในตลาดมาเลเซีย ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ตุรกี และอินเดีย แต่ขยายตัวในตลาดจีน สหรัฐฯ เวียดนาม ปากีสถาน และอิตาลี) อาหารทะเลกระป๋องและแปรรูป หดตัวร้อยละ 5.6 หดตัวต่อเนื่อง 10 เดือน (หดตัวในตลาดญี่ปุ่น ออสเตรเลีย ซาอุดิอาระเบีย เกาหลีใต้ และอียิปต์ แต่ขยายตัวในตลาดสหรัฐฯ แคนาดา ลิเบีย สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และอิสราเอล) ไก่แปรรูป หดตัวร้อยละ 2.2 หดตัวต่อเนื่อง 11 เดือน (หดตัวในตลาดสหราชอาณาจักร เนเธอร์แลนด์ แคนาดา ฮ่องกง และออสเตรเลีย แต่ขยายตัวในตลาดญี่ปุ่น เกาหลีใต้ สิงคโปร์ ไอร์แลนด์ และฟิลิปปินส์) น้ำตาลทราย หดตัวร้อยละ 24.9 กลับมาหดตัวจากเดือนก่อนหน้า (หดตัวในตลาดลาว ฟิลิปปินส์ เกาหลีใต้ มาเลเซีย และปาปัวนิวกีนี แต่ขยายตัวในตลาดกัมพูชา อินโดนีเซีย เมียนมา จีน และไต้หวัน) ทั้งนี้ 10 เดือนแรกของปี 2566 การส่งออกสินค้าเกษตรและอุตสาหกรรมเกษตร หดตัวร้อยละ 1.0

การส่งออกสินค้าอุตสาหกรรมมูลค่าการส่งออกสินค้าอุตสาหกรรม กลับมาขยายตัว ร้อยละ 5.4 ซึ่งมีสินค้าสำคัญที่ขยายตัว อาทิ รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ ขยายตัวร้อยละ 9.0 ขยายตัวต่อเนื่อง 10 เดือน (ขยายตัวในตลาดออสเตรเลีย ฟิลิปปินส์ ญี่ปุ่น ซาอุดีอาระเบีย และมาเลเซีย) อัญมณีและเครื่องประดับ (ไม่รวมทองคำ) ขยายตัวร้อยละ 8.7 ขยายตัวต่อเนื่อง 2 เดือน (ขยายตัวในตลาดสหรัฐฯ ฮ่องกง อินเดีย เยอรมนี และสหราชอาณาจักร) เครื่องโทรศัพท์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ ขยายตัวร้อยละ 15.1 ขยายตัวต่อเนื่อง 5 เดือน (ขยายตัวในตลาดสหรัฐฯ ฮ่องกง เม็กซิโก จีน และแคนาดา) อุปกรณ์กึ่งตัวนำ ทรานซิสเตอร์ และไดโอด ขยายตัวร้อยละ 27.3 ขยายตัวต่อเนื่อง 16 เดือน (ขยายตัวในตลาดสหรัฐฯ จีน ญี่ปุ่น อินโดนีเซีย และเกาหลีใต้) หม้อแปลงไฟฟ้าและส่วนประกอบ ขยายตัวร้อยละ 38.5 ขยายตัวต่อเนื่อง 24 เดือน (ขยายตัวในตลาดสหรัฐฯ เนเธอร์แลนด์ ไต้หวัน อิตาลี และจีน)


ขณะที่สินค้าสำคัญที่หดตัว อาทิ เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ หดตัวร้อยละ 4.2 หดตัวต่อเนื่อง 13 เดือน (หดตัวในตลาดจีน ฮ่องกง เนเธอร์แลนด์ ญี่ปุ่น และมาเลเซีย แต่ขยายตัวในตลาดสหรัฐฯ สิงคโปร์ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ สาธารณรัฐเช็ก และฝรั่งเศส) แผงวงจรไฟฟ้า หดตัวร้อยละ 4.6 กลับมาหดตัวในรอบ 6 เดือน (หดตัวในตลาดสิงคโปร์ ไต้หวัน จีน มาเลเซีย และสหรัฐฯ แต่ขยายตัวในตลาดฮ่องกง ญี่ปุ่น เยอรมนี เกาหลีใต้ และเนเธอร์แลนด์) เครื่องปรับอากาศและส่วนประกอบ หดตัวร้อยละ 34.2 หดตัวต่อเนื่อง 5 เดือน (หดตัวในตลาดออสเตรเลีย สหรัฐฯ เวียดนาม ญี่ปุ่น และฟิลิปปินส์ แต่ขยายตัวในตลาดอินโดนีเซีย สิงคโปร์ เกาหลีใต้ สหราชอาณาจักร และตุรกี) รถจักรยานยนต์และส่วนประกอบ หดตัวร้อยละ 19.5 หดตัวต่อเนื่อง 3 เดือน (หดตัวในตลาดสหรัฐฯ จีน สหราชอาณาจักร กัมพูชา และออสเตรเลีย แต่ขยายตัวในตลาดญี่ปุ่น เบลเยี่ยม เนเธอร์แลนด์ บราซิล และอิตาลี) ทั้งนี้ 10 เดือนแรกของปี 2566 การส่งออกสินค้าอุตสาหกรรม หดตัวร้อยละ 2.8 เป็นต้น. -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดังเปิดใช้ชื่อวัดรับบริจาค แต่วัดเบิกไม่ได้

บช.ก. 6 ส.ค. – “บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดัง เปิดรับบริจาค ใช้บัญชีชื่อวัด แต่หมอดูเบิกได้คนเดียว ตามกฎหมายทำไม่ได้ ต้องนำบัญชีมาตรวจสอบเส้นเงิน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกรณีที่มีหมอดูชื่อดังได้เปิดรับบริจาคเงินโดยใช้บัญชี ชื่อวัดพระบาทน้ำพุ แต่คนที่สามารถถอนเงินออกจากบัญชีได้คือหมอดูคนดังกล่าว ทำให้ประชาชนเกิดข้อสงสัยว่า ทำไมเปิดรับบริจาคใช้ชื่อวัดแต่วัดถอนเงินไม่ได้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่า ตอนนี้มีผู้เสียหายได้มาร้องขอความเป็นธรรมที่ กองกำกับการ 1 กองบังคับการปราบปราม เรื่องหมอดูคนดังกล่าว และได้มีการพูดคุยกับผู้กำกับกอง 1 ซึ่งกำลังตรวจสอบอยู่ มีการอ้างว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาส อยู่ระหว่างการตรวจสอบ และจะต้องมีการเช็คว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และเจ้าอาวาสนำเงินไปใช้อะไร เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่ากรณีนี้จะเข้าข่ายคดีฉ้อโกงหรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่า คิดว่าน่าจะเข้าข่ายคดีฉ้อโกง แต่ก็ต้องตรวจสอบดูว่าเงินที่รับบริจาคมาเอาไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และถ้าเอาไปให้จริง เจ้าอาวาสนำเงินไปใช้จ่ายอะไรบ้าง ผู้สื่อข่าวถามอีกว่ากรณีที่หมอดูคนดังกล่าว นำชื่อวัดมารับบริจาคเงินแต่หมอดูคนดังกล่าวกับเบิกเงินได้คนเดียว ทั้งที่ชื่อในบัญชีที่รับบริจาคเป็นชื่อวัดกระทำได้หรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่าทำไม่ได้ ถ้าใช้ชื่อบัญชีรับบริจาคเป็นชื่อวัดก็ต้องนำเงินไปให้วัดแล้วคนที่เบิกได้ก็ต้องเป็นวัดเท่านั้น เพราะเป็นเงินวัด เดี๋ยวจะต้องมีการนำบัญชีดังกล่าวมาตรวจสอบว่าเงินที่เข้าในบัญชีเท่าไหร่และวัดได้เท่าไหร่ และการรับบริจาคในลักษณะนี้ ต้องมีกรรมการวัดในการตรวจสอบบัญชี ให้ละเอียด ไม่ใช่อยากรับบริจาคก็จะทำได้เลย. -415-สำนักข่าวไทย

บุกค้นบริษัท ยึดโดรน-อุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น

กทม. 6 ส.ค.-ตำรวจกองปราบ ร่วมกับ กสทช. บุกค้นบริษัทใน จ.สมุทรปราการ ยึดโดรน และอุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น ตำรวจกองบังคับการปราบปราม ร่วมกับเจ้าหน้าที่ กสทช. และพนักงานสืบสวนจังหวัดสมุทรปราการ เข้าตรวจค้นบริษัทแห่งหนึ่ง ในอำเภอเมืองสมุทรปราการ หลังพบขัอมูลว่ามีบริษัทแห่งนี้ผลิตอุปกรณ์ และมีอากาศยานไร้คนขับโดรนไว้จำนวนมาก ต่อมาเมื่อแสดงหมายเพื่อขอตรวจค้น นายกฤษนันท์ ได้แสดงตัวเป็นกรรมการผู้จัดการของบริษัทดังกล่าว เป็นผู้นำตรวจค้น จากการตรวจค้นพบอากาศยานไร้คนขับ หรือโดรน 29 เครื่อง, กระเป๋าตรวจจับสัญญาณ 38 อัน, ปืนรบกวนสัญญาณ 129 กระบอก, เครื่องรบกวนสัญญาณ 16 เครื่อง, รถตู้สำหรับตรวจจับและรบกวนสัญญาณ 1 คัน และอุปกรณ์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องอีก 50 รายการ โดยของกลางทั้งหมดจะถูกนำไปเก็บไว้ที่กองบังคับการตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อนำไปตรวจสอบความถี่ และเอกสารที่เกี่ยวข้อง สำหรับบริษัทดังกล่าว ตำรวจให้ข้อมูลว่า มีเจ้าของโรงงานเป็นคนสัญชาติสิงคโปร์ และมีกรรมการเป็นชาวไทยร่วมด้วย ประกอบกิจการผลิตอุปกรณ์ และอากาศยานไร้คนขับโดรน.-สำนักข่าวไทย

มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงิน

กทม 5 ส.ค.-มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงินอีก “ขจรเกียรติ” ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา ผงาดคุมที่ดิน “เชษฐา” คุม ปภ. โยก “ภาสกร” นั่งผู้ว่าฯ ระยอง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ กระทรวงมหาดไทย เตรียมเสนอให้ ครม.พิจารณาเห็นชอบรวม 5 ตำแหน่ง ประกอบด้วย นายพรพจน์ เพ็ญพาส อธิบดีกรมที่ดิน เป็นรองปลัดกระทรวงมหาดไทย นายเชษฐา โมสิกรัตน์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย นายขจรเกียรติ รักพานิชมณี ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา เป็นอธิบดีกรมที่ดิน นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เป็นผู้ว่าฯ ระยอง และนายไตรภพ วงศ์ไตรรัตน์ ผู้ว่าฯ ระยอง เป็นผู้ว่าฯ เพชรบุรี.-319.-สำนักข่าวไทย

เปิดปฏิบัติการค้น 200 จุด ล่าพระทำผิดกฎหมาย

กทม. 5 ส.ค.-ตำรวจสอบสวนกลาง เปิดปฏิบัติการทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา ลุยค้น 200 จุดทั่วประเทศ ไล่ล่าจับพระทำผิดกฎหมาย 181 เป้าหมาย ล่าสุดจับพระวัดดังย่านคลอง 6 ปทุมธานี พบเอี่ยวองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ในฐานะหัวหน้าศูนย์ป้องกันปราบปรามภัยคุกคามและเสริมสร้างความมั่นคงทางพระพุทธศาสนา สั่งการ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. นำกำลังเจ้าหน้าที่หน่วยงานในสังกัด บช.ก. เปิดปฏิบัติการกวาดลานวัด เข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย กว่า 200 จุด เพื่อจับกุมผู้ต้องหาคดีต่างๆ อาทิ ยักยอกทรัพย์ ฟอกเงิน เมาแล้วขับ หรือ มีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการยาเสพติด รวมไปถึงองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ที่หลบหนีมาบวชเป็นพระซ่อนตัวตามวัดต่างๆ ทั่วประเทศ โดยกลุ่มผู้ต้องหาที่เป็นเป้าหมายหลักของปฏิบัติการครั้งนี้ มีด้วยกันทั้งหมด 181 ราย แบ่งเป็น ผู้ต้องหาที่ยังมีสถานะเป็นพระ 154 ราย ในจำนวนนี้มีพระตำแหน่งสูงสุดเป็นระดับเจ้าอาวาส ส่วนผู้ต้องหาที่เคยเป็นพระแต่สึกไปแล้วมีทั้งหมด 27 ราย ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการเข้าดำเนินการจับกุม อย่างไรก็ตามขณะนี้มีรายงานว่า จากปฏิบัติการดังกล่าวขณะนี้เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาคนสำคัญได้รายหนึ่งแล้ว […]

ข่าวแนะนำ

ชาวบ้าน อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี กลับบ้านพร้อมหน้า

อุบลราชธานี 8 ส.ค. – ฝนชะล้างความเศร้า ชาวบ้าน อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี กลับเข้าบ้านเรือนเกือบหมดแล้ว ครอบครัวได้อยู่พร้อมหน้าพร้อมตาอีกครั้งในรอบกว่า 2 สัปดาห์ นับตั้งแต่เกิดเหตุไม่สงบชายแดนไทย-กัมพูชา .-สำนักข่าวไทย

จับผับรังสิต

สั่งเด้งผู้การปทุมธานี ขาดจากตำแหน่งเดิม เซ่นจับผับดังรังสิต

8 ส.ค. – โดนด้วย! สั่งเด้งผู้การปทุมธานี โดยให้ขาดจากตำแหน่งเดิม พร้อมพวกอีก 5 นาย เซ่นจับผับดังรังสิต พบฉี่ม่วงเพียบเฉียด 200 คน พล.ต.ต.ศิลปคมณ์ เอี่ยมวงศ์ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 ลงนามในคำสั่งตำรวจภูธรภาค 1 ที่ 209/2568 เรื่อง ข้าราชการตำรวจช่วยราชการ ใจความว่า ด้วย ตำรวจภูธรภาค 1 มีคำสั่งที่ 208/2568 ลงวันที่ 8 สิงหาคม 2568 แต่งตั้ง คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง ในกรณีเมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 2568 เวลา 01.00 น. ชุดปฏิบัติการ พิเศษกรมการปกครอง ได้มีการจัดระเบียบสังคม โดยเปิดปฏิบัติการ (Zero Drug) โดยนำกำลังเข้าทำการ ตรวจสอบและจับกุมสถานบริการ ชื่อ ร้าน “Skin […]

ศบ.ทก. ย้ำ 13 ข้อตกลงไทย-กัมพูชา เป็นประโยชน์พื้นที่ชายแดน

ทำเนียบ 8 ส.ค.- ศบ.ทก. ย้ำ 13 ข้อตกลงไทย-กัมพูชา เป็นประโยชน์ต่อประชาชนในพื้นที่ชายแดน โดยเฉพาะการหยุดยิง ประเมินสถานการณ์ใกล้ชิด เผยผู้ช่วยทูตทหารมาเลเซียประจำแต่ละประเทศจะประสานพื้นที่ นำอาเซียนลงติดตามเป็นระยะ ชี้การพูดคุยระดับ RBC เริ่มปลายเดือนนี้ หากเหตุการณ์ปะทุอีก เรียกประชุม GBC สมัยวิสามัญได้ทันที พลเรือตรี สุรสันต์ คงสิริ โฆษกกระทรวงกลาโหม ในฐานะโฆษกศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา (ศบ.ทก.) แถลงสรุปภาพรวมสถานการณ์ชายแดนไทยกัมพูชาที่ผ่านมาตรวจพบว่า ฝ่ายกัมพูชา ตรึงกำลังทหารบริเวณชายแดนพื้นที่สำคัญ พร้อมมีการเคลื่อนไหวด้านยุทโธปกรณ์ และยานพาหนะในบางพื้นที่ ซึ่งฝ่ายไทยจะต้องมีการตรวจตราและติดตามอย่างใกล้ชิด นอกเหนือจากนั้นยังมีการตรวจพบการบินของอากาศยานไร้คนขับ หรือโดรน ในบางพื้นที่เช่นเดียวกัน ซึ่งการกระทำดังกล่าวเข้าข่ายยั่วยุในบางจุด ทางทหารไทยไม่ได้นิ่งนอนใจ โดยได้ดำเนินการควบคุมสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง พร้อมเพิ่มการตรวจตราตามแนวชายแดน โดยเฉพาะพื้นที่เสี่ยง โฆษก ศบ.ทก. ยังกล่าวถึงการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไปไทย-กัมพูชา สมัยวิสามัญ หรือ GBC เมื่อวันที่ 7 สิงหาคมที่ประเทศมาเลเซียเป็นเจ้าภาพ ว่า ได้มีการลงนามข้อตกลง 13 ข้อ โดยเป็นข้อตกลงที่สำคัญและเป็นประโยชน์ โดยเฉพาะรายละเอียดข้อที่ 1 […]

เด้งนายอำเภอธัญบุรี-5 เสือ สภ.ประตูน้ำจุฬาฯ เซ่นจับผับ

ก.มหาดไทย 8 ส.ค.-“ภูมิธรรม” เผยผลปฏิบัติการ “ZERO DRUG” เด้ง นายอำเภอธัญบุรี-5 เสือ สภ.ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ เซ่นจับผับ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยในฐานะรักษาการนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงปฏิบัติการ “ZERO DRUG” 8เดือน 8ลุย ที่นำกำลังชุดปฏิบัติการพิเศษกรมการปกครองเข้าตรวจค้นผับย่านรังสิต อำเภอธัญบุรี จังหวัดปทุมธานี พบนักท่องเที่ยวอายุต่ำกว่า 20 ปี และตรวจปัสสาวะพบเป็นสีม่วง 179 คนว่า จะมีการเด้ง 5เสือ สภ. ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ ซึ่งเป็นเจ้าของพื้นที่ ส่วนรายละเอียดผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติจะแถลงอีกครั้ง โดยตามระเบียบของตำรวจถ้ามีการจับกุม ในพื้นที่5 เสือสถานีตำรวจ จะต้องรับผิดชอบ จะมีการย้ายมาประจำที่ กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 ขณะที่ในส่วนของกระทรวงมหาดไทยอยู่ระหว่างการตรวจสอบว่าเป็นการแจ้งข่าวจากฝ่ายปกครองหรือไม่ หากไม่มีการแจ้ง กระบวนการของปกครองก็จะต้องมีการย้ายเช่นกัน เมื่อถามว่าปฏิบัติการเมื่อคืนนี้เป็นกำลังร่วมระหว่างฝ่ายปกครอง กับตำรวจหรือเฉพาะฝ่ายปกครอง นายภูมิธรรมกล่าวว่า ไม่แน่ใจ และเมื่อผู้สื่อข่าวถามต่อว่า ถ้าเป็นกองกำลังร่วม ที่ผ่านมาตามธรรมเนียมปฏิบัติ ตำรวจจะไม่ถูกเด้ง นายภูมิธรรมกล่าวว่า คงจะเอาผิดคนที่เกี่ยวข้อง ก็คงมีการจัดการตามระเบียบ […]