ทำเนียบฯ 22 พ.ย. – นายกรัฐมนตรี สั่ง ยกระดับอุตสาหกรรมการบินและการท่องเที่ยว รองรับนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ
นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลมีนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจและเพิ่มขีดความสามารถอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว เมื่อปัญหาโควิด-19 คลี่คลายลง ปริมาณจราจรทางอากาศของสนามบิน 6 แห่งของท่าอากาศยานไทย เริ่มดีขึ้น จำนวนเที่ยวบินเพิ่มขึ้นร้อยละ 62.22 เทียบกับปีก่อน 639,891 เที่ยวบิน และมีผู้โดยสารรวม 100 ล้านคน เพิ่มขึ้นร้อยละ 114.31 เทียบกับปีก่อน มีกำไรสุทธิ 8,790 ล้านบาท เทียบกับปีก่อนขาดทุนกว่า 1 หมื่นล้านบาท มาจากธุรกิจร้านค้าปลอดอากร ธุรกิจการบริหารกิจกรรมเชิงพาณิชย์ ธุรกิจจัดส่งอาหารและเครื่องดื่ม และธุรกิจบริการภาคพื้นและซ่อมบำรุง
เมื่อรัฐบาลมีนโยบายมาตรการ VISA Free ให้กับนักท่องเที่ยวชาวจีน คาซัคสถาน อินเดียและไต้หวัน เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวเพิ่มมากขึ้น หลังจาก นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธีเปิดให้บริการอาคารเทียบเครื่องบินรองหลังที่1 (Satellite 1: SAT-1) พร้อมระบบขนส่งผู้โดยสารอัตโนมัติเชื่อมต่อระหว่างอาคาร SAT-1 กับอาคารผู้โดยสารหลักทำให้สามารถรองรับผู้โดยสารได้เพิ่มขึ้นเป็น 60 ล้านคนต่อปี ส่งต่อผู้โดยสารไปยัง ท่าอากาศยานไทยทั้ง 6 แห่งได้แก่ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ท่าอากาศยานดอนเมือง ท่าอากาศยานเชียงใหม่ ท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวงเชียงราย ท่าอากาศยานภูเก็ต และท่าอากาศยานหาดใหญ่
“เพื่อรองรับการเติบโตของภาคการท่องเที่ยว นายกรัฐมนตรี จึงให้เร่งดำเนินการพัฒนาท่าอากาศยานอย่างครบวงจรเพิ่มขีดความสามารถในการรองรับเที่ยวบิน และผู้โดยสารได้อีกเป็นจำนวนมาก การดูแลความสะดวกสบาย ดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลก ช่วยเพิ่มศักยภาพอุตสาหกรรมการบิน และการท่องเที่ยวของไทย เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศ” นายชัยกล่าว.-สำนักข่าวไทย