ก.คลัง 16 พ.ย. – “จุลพันธ์” ระบุเดินหน้าผลักดันเงินดิจิทัลวอลเล็ต 1 หมื่นบาท ให้สุดซอย หวังลดภาระรายย่อย ฟื้นเศรษฐกิจ ดันจีดีพีร้อยละ 5 ต่อปี
นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่ากระกระทรวงการคลัง กล่าวว่า ยอมรับว่า การเสนอออกเป็น พ.ร.บ.เงินกู้ รองรับโครงการดิจิทัลวอลเล็ต 1 หมื่น มีอุปสรรค คณะกรรมการนโยบายโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่าน Digital Wallet จึงส่งเรื่องให้คณะกรรมการกฤษฎีกาพิจารณา จากนั้นเตรียมเสนอ ครม. และเสนอ สภาพิจารณาร่างกฎหมาย เพื่อเปิดทางให้ทุกฝ่ายแสดงความเห็น นับเป็นการเสนอออก พ.ร.บ.กู้เงิน ครั้งแรก ต้องดำเนินภายใต้ พ.ร.บ.วินัยการเงินการคลังฉบับใหม่
“รัฐบาลไม่ได้มีแนวคิด เดินมาแบบนี้ เพื่อให้ถึงทางตันแล้วยกเลิกโครงการ ในการเสนอออก พ.ร.บ.เงินกู้ แต่พยายามผลักดันให้ถึงที่สุด คณะกรรมการนโยบายเงินดิจิทัล จึงได้ยื่นเรื่องสอบถามกฤษฎีกา จากนั้นเสนอ ครม.ขั้นต่อไป เสนอสภาพิจารณาเพื่อให้รัฐสภาลงมติ บางฝ่ายไม่เห็นด้วย อาจส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความ รัฐบาลพร้อมชี้แจงกับทุกฝ่ายเพื่อผลักดันให้ถึงที่สุด เพราะหากเสนอออกเป็น พ.ร.ก.จะถูกมองว่าเป็นการรวบรัดอำนาจจากรัฐบาล แล้วไปขอความเห็นจากสภา”
นายจุลพันธ์ มองว่าการเสนอ พ.ร.บ.กู้เงิน ขั้นตอนอาจล่าช้าไปอีก 2-3 เดือน จากกำหนดเดิมใช้เงินในเดือนกุมภาพันธ์ 67 หากผลักดันออกมาได้ จะช่วยลดแรงกดดันต่อประชาชนรายย่อย ที่ขาดกำลังซื้อในขณะนี้ จึงต้องยกภาระเหล่านี้ออกไปให้ประชาชน เมื่อเริ่มใช้เงินดิจิทัล เงินดังกล่าวจะหมุนเวียนในเศรษฐกิจอีก 3 ปี ทั้งรัฐบาล และภาคเอกชน จะร่วมออกโปรโมชั่น ลด แลก แจกแถม เพื่อดึงดูดการใช้เงินดิจิทัลให้หมุนเวียนอีกหลายรอบ หวังช่วยผลักดันจีดีพีขยายตัวเฉลี่ยร้อยละ 5 ต่อปี ในอีก 3 ปีข้างหน้า อีกทั้งสภาพคล่องในระบบยังมีเพียงพอให้รัฐบาลกู้เงิน ด้วยการออกพันธบัตร หรือแนวทางต่าง ๆ มารองรับแจกเงินดิจิทัล. -สำนักข่าวไทย