นนทบุรี 14 พ.ย. – กกร.ยกเลิกประกาศฉบับเดิม ที่กำหนดคุมราคาขายหน้าโรงงานและราคาขายปลีกน้ำตาลทราย แต่หลัง ครม.มีมติให้ปรับขึ้นราคา กก.ละ 2 บาท จึงออกประกาศฉบับใหม่ โดยคุมราคาแค่หน้าโรงงาน น้ำตาลทรายขาว กก.ละ 21 บาท น้ำตาลทรายขาวบริสุทธิ์ กก.ละ 22 บาท ส่วนราคาขายปลีกไม่กำหนด แต่ผู้ค้าต้องขายให้สอดคล้องกับต้นทุน ในห้างกรุงเทพฯ และปริมณฑล ไม่ควรเกิน กก.ละ 26-27 บาท พร้อมยกเลิกคุมส่งออกเกิน 1,000 กก. ต้องขอ เป็นแค่แจ้งปริมาณส่งออกและสตอกคงเหลือ ดีเดย์บังคับใช้ 15 พ.ย.เป็นต้นไป
นายวัฒนศักย์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวว่า คณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ (กกร.) ได้เรียกประชุม กกร. เป็นการเร่งด่วน และมอบหมายให้นายกีรติ รัชโน ปลัดกระทรวงพาณิชย์ ทำหน้าที่ประธานการประชุม หลังจากที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติให้ปรับขึ้นราคาน้ำตาลทราย กิโลกรัม (กก.) ละ 2 บาท โดย กกร. มีมติให้ยกเลิกประกาศ กกร.ฉบับเดิม ที่กำหนดราคาหน้าโรงงาน น้ำตาลทรายขาว กก.ละ 19 บาท น้ำตาลทรายขาวบริสุทธิ์ กก.ละ 20 บาท และราคาขายปลีก น้ำตาลทรายขาว กก.ละ 24 บาท และน้ำตาลทรายขาวบริสุทธิ์ กก.ละ 25 บาท และจะออกประกาศ กกร.ฉบับใหม่ กำหนดราคาน้ำตาลทรายขาวและน้ำตาลทรายขาวบริสุทธิ์แค่หน้าโรงงานเท่านั้น ที่ กก.ละ 21 บาท และ 22 บาท ส่วนราคาขายปลีกไม่ได้กำหนด แต่ผู้ค้าจะต้องขายในราคาที่สอดคล้องกับต้นทุน โดยห้างค้าปลีก ค้าส่ง ในกรุงเทพฯ และปริมณฑล ควรขายไม่เกิน กก.ละ 26-27 บาท ส่วนร้านโชห่วย ร้านค้าทั่วไป ร้านค้าในตลาดสด ราคาขายปลีกขึ้นอยู่กับช่วงของการรับซื้อ ถ้ารับมาหลายต่อ ราคาก็อาจจะสูงขึ้น หรือขึ้นอยู่กับระยะทางใกล้ไกลสำหรับการขนส่ง หากอยู่ในพื้นที่ห่างไกล ราคาขายปลีกก็อาจสูงขึ้น
ขณะที่การส่งออก เดิมกำหนดให้การส่งออกตั้งแต่ 1,000 กก.ขึ้นไป จะต้องขออนุญาตจากกรมการค้าภายในก่อน ปรับเป็นไม่ต้องขออนุญาตกรมการค้าภายใน แต่ให้แจ้งปริมาณส่งออกและปริมาณน้ำตาลคงเหลือในสตอก เพื่อให้สามารถติดตามดูแลปริมาณน้ำตาลในประเทศ ไม่ให้เกิดการขาดแคลน โดยจะประสานงานกับสำนักงานคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย (สอน.) อย่างใกล้ชิด เพื่อให้มีน้ำตาลเพียงพอในการใช้ในประเทศ โดยคาดว่าประกาศฉบับใหม่จะมีผลบังคับใช้วันที่ 15 พ.ย.66 เป็นต้นไป อย่างไรก็ตาม ในที่ประชุม สอน. ยืนยันว่า น้ำตาลทรายในประเทศไม่ขาดแคลนแน่นอน และสถานการณ์จะกลับเข้าสู่ภาวะปกติหลังจากนี้ ส่วนกระทรวงพาณิชย์จะส่งเจ้าหน้าที่ ทั้งจากกรมการค้าภายใน และสำนักงานพาณิชย์จังหวัดทั่วประเทศ ออกตรวจสอบสถานการณ์การค้าอย่างใกล้ชิดและต่อเนื่อง เพื่อป้องกันการเอาเปรียบผู้บริโภค และการกักตุน หรือปฏิเสธการขาย โดยหากพบผู้ค้ารายใดกักตุน หรือปฏิเสธการขาย หรือขายราคาสูงเกินสมควร จะมีโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี หรือปรับไม่เกิน 140,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ.-สำนักข่าวไทย