ผู้เลี้ยงหมูยินดีนายกฯ เข้มปราบหมูเถื่อน แต่ขอเร่งแก้หมูถูกด้วย

กรุงเทพฯ 13 พ.ย.- ผู้เลี้ยงหมูรายย่อยยินดีที่นายกฯ เอาจริงเรื่องแก้ปัญหา “หมูเถื่อน” แต่ขอให้เร่งแก้ปัญหา “หมูถูก” พ่อค้ากดราคาหน้าฟาร์ม ขายขาดทุนต่อเนื่อง ซ้ำถูกรายใหญ่ขยายสาขาทั่วประเทศ ตั้งข้อสงสัย เหตุใดรายใหญ่ขายชิ้นส่วนหมูถูกเท่าราคาหมูเป็น หลายปัจจัยส่งผลให้ผู้เลี้ยงรายย่อยล้มหายตายจากจากอาชีพ


นายเดือนเด่น ยิ้มแย้ม ประธานชมรมผู้เลี้ยงสุกรรายย่อยภาคตะวันออกเฉียงเหนือ กล่าวว่า ดีใจที่นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เอาจริงเอาจังกับการแก้ปัญหา “หมูเถื่อน” สั่งทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องปราบปรามให้เด็ดขาด โดยซัพพลายส่วนเกินจาก “หมูเถื่อน” ส่งผลกระทบต่อผู้เลี้ยงรายย่อยอย่างรุนแรง ทำให้ที่ผ่านมาถูกกดราคาขายหมูหน้าฟาร์มจนต่ำกว่าต้นทุน กลายเป็นปัญหา “หมูถูก” ที่ต้องการให้นายกรัฐมนตรีเร่งแก้ไขให้ด้วย

นอกจากนี้ ผู้เลี้ยงรายย่อยยังได้รับความเดือดร้อนจากการกระจายตัวและขยายตัวอย่างรวดเร็วของกลุ่มผู้ผลิตสุกรรายใหญ่ครบวงจรที่นำมาตรการด้านราคาต่ำมาใช้ ทำให้ทั้งผู้เลี้ยง ผู้ค้า และโรงเชือดต่างๆ ไม่สามารถแข่งขันได้ จึงได้นำเรื่องเสนอต่อคณะกรรมการการแข่งขันทางการค้าให้พิจารณาว่า เข้าข่ายเป็นการค้าเอาเปรียบหรือไม่ พร้อมตั้งข้อสงสัยว่า เหตุใดกลุ่มผู้เลี้ยงรายใหญ่จึงสามารถตั้งราคาจำหน่ายชิ้นส่วนหมูถูกเท่ากับราคาหมูหน้าฟาร์มได้ โดยส่งผลให้เกษตรกรผู้เลี้ยงสุกรรายย่อยได้รับความเดือดร้อน และผลกระทบทางกลไกการตลาด


พร้อมกันนี้ได้ยกตัวอย่างความเสียหายของการเลี้ยงสุกรทั้งระบบ จากปัญหาการขายหมูหน้าฟาร์มต่ำกว่าทุนในไตรมาส 2 และ 3 ของปี 2566 ดังนี้

• ไตรมาสที่ 2 ปี 2566 ต้นทุนการเลี้ยงสุกรชนิดซื้อลูก อยู่ที่ประมาณ 96 บาทต่อกิโลกรัม แต่เกษตรกรขายได้ที่ประมาณ 60 บาทต่อกิโลกรัม หรือขาดทุน 3,600 บาทต่อตัว ทั้งระบบ 50,000 บาทตัวต่อ หรือขาดทุนวันละ 150 ล้านบาท หรือ 4,500 ล้านบาทต่อเดือน

• ไตรมาสที่ 3 ปี 2566 ต้นทุนการเลี้ยงสุกรชนิดซื้อลูก อยู่ที่ประมาณ 80 บาทต่อกิโลกรัม แต่เกษตรกรขายได้ที่ประมาณ 60 บาทต่อกิโลกรัม หรือขาดทุน 2,000 บาทต่อตัว ทั้งระบบ 50,000 บาทตัวต่อ หรือขาดทุนวันละ 100 ล้านบาท หรือ 3,000 ล้านบาทต่อเดือน


นายเดือนเด่น กล่าวว่า ผู้เลี้ยงสุกรรายย่อยขอให้ภาครัฐแก้ปัญหาวิกฤติหมู ซึ่งมีต้นตอจาก “หมูเถื่อน” อย่างเร่งด่วน โดยขอให้ระงับการปล่อยสินค้าหมูแช่แข็งจากห้องเย็น หรือปิดห้องเย็นเป็นระยะเวลา 90 วัน หลังจากนั้นค่อยๆ ทยอยออก เริ่มจาก 5-10% และดูปริมาณซัพพลายในตลาดประกอบ เพื่อให้หมูในตลาดไม่ขาดแคลน โดยระยะเวลา 90 วันของการปิดห้องเย็น ขอให้กรมปศุสัตว์และกรมการค้าภายใน พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าตรวจเพื่อกวาดล้างกระบวนการนำเข้าสุกรที่ไม่ได้รับอนุญาตให้หมดสิ้นไป

นอกจากนี้ยังขอให้นายกรัฐมนตรีแก้ปัญหาเรื่องราคาวัตถุดิบอาหารสัตว์ ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ต้นทุนการผลิตหมูสูง รวมถึงให้ช่วยเร่งฟื้นฟูอาชีพของผู้เลี้ยงรายย่อยที่ต้องหยุดเลี้ยงไปเนื่องจากขาดทุน ด้วยการขอให้สามารถเข้าถึงแหล่งทุนได้ ก่อนที่จะล้มหายตายจากจากอาชีพเลี้ยงหมูกันหมด จนเหลือแต่รายใหญ่

นายอานัน ไตรเดชาพงศ์ เจ้าของลุงเท่งฟาร์ม จังหวัดนครสวรรค์ กล่าวว่า ผู้เลี้ยงหมูขาดทุนต่อเนื่องมานาน จึงขอให้รัฐบาลเร่งแก้ปัญหาหมูเถื่อน พร้อมกับที่ให้ใช้อำนาจตามพระราชบัญญัติว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ. 2542 มาตรา 25 (1)(2)(4) กำหนดราคาซื้อหน้าฟาร์มไม่ต่ำกว่าต้นทุนการผลิตทั่วราชอาณาจักร การใช้กฎหมายแก้วิกฤติหมู โดยให้กำหนดราคาหน้าฟาร์มตามโครงสร้างต้นทุน เป็นไปตามที่คณะกรรมการนโยบายพัฒนาสุกรและผลิตภัณฑ์ (Pig Board) มีมติเมื่อวันที่ 20 กันยายน 2566 แต่ล่วงเลยมาจนถึงขณะนี้ ยังไม่มีการดำเนินการใดๆ

นายสัตวแพทย์วิวัฒน์ พงษ์​วิวัฒนชัย​ ผู้​ทรงคุณวุฒิ​คณะกรรมการนโยบายพัฒนาสุกรและผลิตภัณฑ์ (Pig Board) กล่าวว่า​ เมื่อ​นายกรัฐมนตรี​ให้​ความสำคัญ​กับ​การ​ปราบปราม​หมู​เถื่อน​ โดยสั่งการ​ทุก​หน่วยงาน​ที่​เกี่ยวข้อง​ให้​ดำเนินการ​จริง​จัง จึง​เป็น​ความหวัง​ของ​เกษตรกร

นอกจาก​นี้​ กรมสอบสวน​คดี​พิเศษ​ (ดีเอส​ไอ)​ รับเป็น​คดีพิเศษ​ และ​ออกหมายจับ​ผู้​กระทำความผิด​บางรายแล้ว​ หากตามเส้นทาง​ทางการ​เงิน เชื่อ​ว่า​จะสาวไปถึง​ผู้​มีอิทธิพล​ซึ่ง​อยู่​เบื้องหลัง​ขบวนการ​ลักลอบ​นำเข้า​และ​ค้าหมู​เถื่อน ​เพื่อ​จับกุม​และใช้​กฎหมาย​ยึด​ทรัพ​ย์

สำหรับขั้นตอน​ต่อไป​ที่ผู้เลี้ยง​ต้อง​การ​ให้​แก้ไข​ปัญหา ​คือ​ เรื่อง​เสถียรภาพ​ราคา และแก้ไข​ปัญหาการขาดทุนของเกษตรกร เพื่อ​บรรเทา​ความเดือดร้อน​ให้​เร็ว​ที่สุด​

สมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติ แจ้งว่า ได้ขอให้คณะอนุกรรมการฟื้นฟูเกษตรกรผู้ประกอบอาชีพเลี้ยงสุกร เสนอต่อนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ผ่านคณะกรรมการร่วมเพื่อป้องกันและปราบปราม ตรวจสอบ ติดตาม และเร่งรัดการดำเนินคดีเกี่ยวกับการนำเข้าสินค้าประเภทสุกร เนื้อสุกร หรือชิ้นส่วนสุกร ที่ผิดกฎหมาย ที่ตั้งโดยนายกรัฐมนตรีโดยตรง เพื่อให้เร่งแก้ปัญหาความยืดเยื้อของการบังคับใช้กฎหมาย ซึ่งมีอำนาจโดยตรงของคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ แม้จะมีการเรียกร้องมาตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2566 เป็นต้นมา แต่กรมการค้าภายในยังไม่ดำเนินการ

พร้อมกันนี้ สมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติ ยังย้ำต่อที่ประชุมคณะอนุกรรมการฟื้นฟูเกษตรกรผู้ประกอบอาชีพเลี้ยงสุกรว่า การฟื้นฟูต้องเริ่มจากหยุดการขาดทุนเป็นอันดับแรก ให้ดำเนินการตามมติ Pig Board เมื่อมีการอ้างผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกรณีประกาศใช้อำนาจตามพระราชบัญญัติว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ. 2542 ของกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ ในที่ประชุม 9 พฤศจิกายน 2566 ทำให้ผู้แทนจากสมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติ ขอให้นำเสนอประเด็นดังกล่าวต่อนายกรัฐมนตรี โดยจะขอให้สั่งการให้กรมการค้าภายในเรียกผู้ที่เกี่ยวข้องตลอดห่วงโซ่มาหารือร่วมกัน เพื่อร่วมประชุมแก้ปัญหาวิกฤติสุกร ประกอบด้วย

  1. ตัวแทนเกษตรกรทั้ง 6 ภูมิภาค
  2. ผู้ประกอบการค้าสุกรหน้าฟาร์มที่กรมปศุสัตว์ได้รายงานไว้ก่อนหน้านี้ว่ามีการขึ้นทะเบียนแล้วกว่า 80 ราย
  3. ห้างค้าส่ง ค้าปลีก ที่จำหน่ายเนื้อสุกร
  4. สมาคมตลาดสด และตลาดสดชั้นนำต่างๆ
  5. สมาคมธนาคารไทย โดยสมาคมธนาคารไทยมอบหมายให้ธนาคารพาณิชย์ 2 แห่ง ได้แก่ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) เข้าร่วมเป็นคณะทำงานรักษาเสถียรภาพราคา ซึ่งรอรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ลงนามแต่งตั้ง

นอกจากนี้ สมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติ ยังเห็นว่า การขอให้ธนาคารของรัฐเข้ามาช่วยปล่อยสินเชื่อให้กับเกษตรกรผู้เลี้ยงว่า การปล่อยสินเชื่อในขณะที่ราคาสุกรยังไม่มีเสถียรภาพ เท่ากับเป็นการซ้ำเติมให้เกิดปัญหาหนี้เสียขึ้นมาอีก ซึ่งเชื่อว่า ธนาคารของรัฐอาจจะไม่ให้สินเชื่อ เนื่องจากสถานการณ์ราคาสุกรยังไม่ดีขึ้น.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เปิดเนื้อหาหนังสือแจง UNSC กัมพูชาวางทุ่นระเบิด-เริ่มยิงก่อน

25 ก.ค.- เปิดเนื้อหาหนังสือจากผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติที่นิวยอร์ก เพื่อชี้แจงต่อประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา นายเชิดชาย ใช้ไววิทย์เอกอัครราชทูต ผู้แทนถาวรไทย ประจำสหประชาชาติ ณ นครนิวยอร์ก ส่งหนังสือชี้แจงต่อประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ระบุว่า ขอแจ้งให้ท่านและสมาชิกคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติทุกท่านทราบ ถึงสถานการณ์อันร้ายแรงที่ส่งผลกระทบต่ออธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนของไทย อันเป็นผลจากการรุกรานทางทหารของประเทศกัมพูชา โดยมีรายละเอียด ดังนี้ 1.     เมื่อวันที่ 16 และ 23 กรกฎาคม ค.ศ. 2025 ขณะที่เจ้าหน้าที่ทหารไทยกำลังลาดตระเวนตามเส้นทางปกติที่กำหนดไว้ ซึ่งอยู่ภายในอาณาเขตของประเทศไทย ทหารได้เหยียบทุ่นระเบิดชนิด PMN-2 ส่งผลให้ทหาร 2 นาย ได้รับบาดเจ็บอย่างสาหัสส่งผลถึงขั้นพิการถาวร ขณะที่ทหารนายอื่น ๆ ก็ได้รับบาดเจ็บสาหัส ทุ่นระเบิด PMN-2 ทั้งหมดที่พบอยู่ในสภาพใหม่ ยังมีเครื่องหมายที่มองเห็นได้ชัดเจน หลักฐานบ่งชี้ว่าทุ่นระเบิดเหล่านี้เพิ่งถูกวางใหม่ ในฐานะที่ประเทศไทยเป็นรัฐภาคีของอนุสัญญาห้ามทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ไทยได้ยื่นรายงานประจำปีเกี่ยวกับความโปร่งใสในการดำเนินการตามพันธกรณีในอนุสัญญาดังกล่าว ตามมาตรา 7 ของอนุสัญญาฯ อย่างต่อเนื่อง รายงานดังกล่าวระบุว่าประเทศไทยได้ทำลายทุ่นระเบิดในคลังทั้งหมดแล้วตั้งแต่ปี ค.ศ. 2003 และต่อมา ได้ทำลายทุ่นระเบิดทั้งหมดที่เก็บไว้เพื่อการฝึกอบรมและการวิจัยในปี ค.ศ. […]

“ภูมิธรรม” เชื่อประชาชนคิดเหมือน “ทักษิณ” ขอให้กองทัพลบเหลี่ยม “ฮุนเซน”

ก.มหาดไทย 25 ก.ค.-“ภูมิธรรม” เชื่อประชาชนคิดเหมือน “ทักษิณ” ขอให้กองทัพลบเหลี่ยม “ฮุนเซน” ชี้รับฟังทุกความไม่พอใจ แต่ทุกอย่างเป็นไปตามยุทธวิธี ให้ทหารมีอิสระในการทำงาน มอง “ก่อแก้ว” ขอศาล รธน. คืนอำนาจให้ “แพทองธาร” เป็นความเห็นเหมือนประชาชนจำนวนมาก แต่ให้เป็นตามกระบวนการยุติธรรม นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รักษาการนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความผ่านทวิตเตอร์ ระบุถึง อยากให้กองทัพสั่งสอนความเจ้าเล่ห์ของฮุนเซนก่อน ว่า ก็เหมือนประชาชนทั่วไป ที่เวลานี้มีความรู้สึกเช่นนั้น หลายคนแสดงความเห็นให้ทำแบบนู้นแบบนี้ เราก็รับฟังความห่วงใยความไม่พอใจที่เราถูกกระทำ ตนเข้าใจความรู้สึกเหล่านั้น และเห็นว่าเป็นจุดมุ่งหมายเดียวกัน เพราะเรื่องอธิปไตยของประเทศ การรุกล้ำเข้ามา กระทบประชาชนเรายอมไม่ได้ ซึ่งที่ผ่านมาทุกฝ่ายจะเห็นว่าเราประนีประนอม (Compromise) ให้มากที่สุด แต่เมื่อสิ่งดังกล่าวไม่เกิดขึ้น และเป็นปัญหา วันนี้จึงได้สั่งการให้ทหารมีอิสระในพื้นที่ โดยผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) เป็นผู้คุมยุทธการ ปฏิบัติได้ตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้น รวมถึงได้มีการทำความเข้าใจกับ พลเอก ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะรักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม มีการโทรคุยกับผู้บัญชาการทหารสูงสุด […]

เข้าสู่วันที่ 2 กัมพูชาเปิดฉากตั้งแต่เช้ามืด ที่ปราสาทตาเมือนธม

สุรินทร์ 25 ก.ค.-เข้าสู่วันที่ 2 เหตุปะทะไทย-กัมพูชา เริ่มเปิดฉากยิงกันตั้งแต่เช้ามืด บริเวณปราสาทตาเมือนธม และปราสาทตาควาย อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ ขณะนี้เสียงยังดังต่อเนื่อง ก่อนขยายการสู้รบไปตลอดแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ด้านอีสานใต้ อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ เป็นพื้นที่แรกที่ฝ่ายกัมพูชาเปิดฉากยิงก่อนด้านปราสาทตาเมือนครับ เช้ามืดวันนี้ ราวตี 5 ครึ่ง ก็เริ่มปะทะกันอีก ขณะนี้ก็มีเสียงดังอย่างต่อเนื่อง เส้นทางจากอำเภอปราสาท จังหวัดสุรินทร์ เข้าสู่อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ แม้สายแล้ว ก็มีรถสัญจรไปมาค่อนข้างน้อย เนื่องจากเป็นพื้นที่เสี่ยงภัยการสู้รบ โดยอำเภอพนมดงรักเป็นหนึ่งใน 4 อำเภอ ที่ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ ประกาศให้ผู้ที่ไม่มีความจำเป็นเข้าพื้นที่ร่วมกับอำเภอกาบเชิง บัวเชดและสังขะ โดยตลอดช่วงเช้าที่ผ่านมา ในพื้นที่ตามแนวชายแดนได้ยินเสียงการปะทะด้วยกระสุนปืนใหญ่ดังอย่างต่อเนื่อง ผู้นำหมู่บ้านบันทึกสถิติเฉพาะฝั่งไทยตอบโต้เกินกว่า 100 ลูกแล้ว บ้านหนองแรด ตำบลบักได อำเภอพนมดงรัก ที่จรวดหลายลำกล้อง BM 21 ตกเยอะสุด 10 ลูก วานนี้โดยรอบหมู่บ้าน โชคดีไม่ลงบ้านเรือน มีกระจกแตกเล็กน้อยจากแรงอัดลูกจรวดเท่านั้น วันนี้ ยังมีชาวบ้านอยู่นับร้อยคนหลบอยู่ในหลุมหลบภัย จากทั้งหมด […]

เปิดศูนย์พักพิงชั่วคราวรองรับประชาชนพื้นที่เสี่ยงภัยชายแดน

ศรีสะเกษ 24 ก.ค. – บรรยากาศคืนแรกที่ศูนย์อพยพฯ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ประชาชนต้องละทิ้งบ้านเรือนมาพักอาศัยชั่วคราว จากเหตุปะทะตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา นี่เป็นบรรยากาศค่ำคืนแรกที่ประชาชนในเขต อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ต้องออกมาพักอาศัยนอกบ้านเรือน ตั้งแต่เกิดเหตุกัมพูชายิงจรวดเข้าใส่เขตพักอาศัยของพลเรือน ซึ่งเป็นการละเมิดข้อตกลงระหว่างประเทศ ทำให้ตลอดทั้งวัน อ.กันทรลักษ์ มีการอพยพประชาชนแล้วมากกว่า 41,000 คน กระจายไปตามจุดต่างๆ โดยจุดนี้เป็นจุดที่น่าจะมีผู้อพยพมากที่สุด เพราะใกล้แนวชายแดนที่อยู่ในระยะปลอดภัยมากที่สุด คือ ประมาณ 40 กิโลเมตร จากแนวชายแดน มีประชาชนเข้ามาพักอาศัย 4,865 คน และยังมีจุดอื่นๆ ที่ใกล้เคียงกระจายกันไป ผลจากสถานการณ์ตึงเครียดและพลเรือนตกเป็นเป้าของการโจมตี ทำให้หลายคนอยู่ในอาการเครียดและกังวล เจ้าหน้าที่ต้องมีการประชาสัมพันธ์ให้กำลังใจเป็นระยะ รวมทั้งให้บริการยาและอุปกรณ์ต่างๆ ที่จำเป็นเบื้องต้น พร้อมกันนี้ได้ย้ำให้ปฏิบัติตามคำแนะนำของนายอนุพงศ์ สุขสมนิตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ ที่ได้ฝากแจ้งประชาชนที่ยังลังเลไม่ยอมอพยพออกจากพื้นที่ เนื่องจากเป็นห่วงทรัพย์สินหรือสัตว์เลี้ยง ว่า ขณะนี้มีชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) ผู้ใหญ่บ้าน และกำนัน ดูแลพื้นที่อย่างใกล้ชิดทุกหมู่บ้าน จึงขอให้ทุกคนให้ความร่วมมือ และออกมาจากพื้นที่เสี่ยงตามจุดนัดหมาย เพื่อความปลอดภัยของตนเองและครอบครัว. – สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

9 ทันโลก : แจงด่วน! คณะมนตรีความมั่นคง ไทยนี้รักสงบ

25 ก.ค. – นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ จะร่วมประชุมคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ตามที่กัมพูชาร้องขอไว้ รายงาน 9 ทันโลก พาไปติดตามบทบาทและโอกาสของไทยบนเวทีสำคัญนี้ ไทยในฐานะสมาชิกสหประชาชาตินานเกือบ 80 ปี จะได้แสดงบทบาทอีกครั้งในคณะมนตรีความมั่นคง ซึ่งเป็นโอกาสสำคัญในการสื่อสารกับประชาคมโลก ถึงการกระทำของกัมพูชา ซึ่งเป็นการละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศหลายด้าน รวมถึงกฎบัตรสหประชาชาติที่ไทยยึดมั่น ในห้องประชุมนี้ ไทยในฐานะสมาชิกสหประชาชาติ ลำดับที่ 55 จะทำหน้าที่อีกครั้งในภารกิจด้านสันติภาพ ตั้งแต่เข้าเป็นสมาชิกเมื่อปี 2489 ที่นี่ไทยเคยทำหน้าที่ประธานการประชุมคณะมนตรีความมั่นคง โดยพลอากาศเอก สิทธิ เศวตศิลา และหม่อมหลวง พีระพงศ์ เกษมศรี ทำหน้าที่สองวาระ ในปี 2528 และ 2529 ในเวลาที่สงครามเย็นคุกรุ่น มาในวันนี้ไทยกำลังจะมีโอกาสอันดีที่ได้ใช้ช่องทางการทูตสำคัญ เสาหลักความมั่นคงของสหประชาชาติ ในอีกบทบาทหนึ่งที่ยังคงอยู่บนพื้นฐานการแสวงหาสันติภาพตามกลไกนี้ เมื่อประเทศสมาชิก ในกรณีนี้คือกัมพูชา ร้องขอให้เปิดประชุมเร่งด่วน สมาชิกคณะมนตรีซึ่งมีสมาชิกถาวร 5 ประเทศ และสมาชิกไม่ถาวร 10 ประเทศ พิจารณากรณีที่เป็นภัยคุกคามใดต่อสันติภาพและความมั่นคงระหว่างประเทศ เช่น กรณีการปะทะระหว่างไทยกับกัมพูชา […]

น่านยังอ่วม บางจุดน้ำท่วมสูงเกือบ 2 เมตร

น่าน 25 ก.ค. – เข้าสู่วันที่ 3 น้ำท่วมใหญ่เป็นประวัติการณ์ของเมืองน่าน แม้ระดับน้ำลดลงบ้างแล้ว แต่ในตัวเมือง-เขตเศรษฐกิจยังท่วมสูง บางจุดระดับน้ำเกือบ 2 เมตร ขณะที่ “บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์” นำทีมกู้ภัยฝ่ากระแสน้ำเชี่ยวเข้าช่วยเหลือชาวบ้าน .-สำนักข่าวไทย

มีผลทันที! ประกาศกฎอัยการศึก 8 อำเภอ “จันทบุรี-ตราด”

25 ก.ค.- กองบัญชาการป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด ประกาศใช้กฎอัยการศึกบางพื้นที่ มีผลทันที กองทัพเรือ โดย กองบัญชาการป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด “ประกาศใช้กฎอัยการศึก” บางพื้นที่ ดังนี้ ตามที่ได้มีประกาศคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ลงวันที่ 19 กันยายน 2549 ให้ใช้กฎอัยการศึกทั่วราชอาณาจักร ตั้งแต่วันที่ 19 กันยายน 2549 เวลา 21.05 นาฬิกา ซึ่งต่อมาได้มีพระบรมราชโองการเลิกใช้กฎอัยการศึกในบางเขตพื้นที่ และให้ใช้กฎอัยการศึกในบางเขตพื้นที่ ลงวันที่ 31 ธันวาคม 2550 นั้น โดยที่ปรากฏว่าประเทศกัมพูชาได้ใช้กำลังและอาวุธรุกรานเข้ามาในราชอาณาจักรไทยตลอดแนวชายแดน จึงมีความจำเป็นโดยมิอาจหลีกเลี่ยงได้ที่ต้องใช้กำลังทหาร ตำรวจ พลเรือน ตลอดจนประชาชนชาวไทยทุกคน เพื่อป้องกันประเทศให้พ้นจากภัยคุกคามอันมีที่มาจากภายนอกราชอาณาจักรดังกล่าว เพื่อรักษาไว้ซึ่งอธิปไตยของชาติและบูรณภาพแห่งดินแดน ตลอดจนชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนชาวไทย และจำเป็นต้องประกาศใช้กฎอัยการศึกในบางเขตพื้นที่เพิ่มเติม อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 176 วรรคสอง ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ประกอบกับมาตรา 4 แห่งพระราชบัญญัติกฎอัยการศึก พุทธศักราช 2457 จึงให้ใช้กฎอัยการศึกในบางเขตพื้นที่เพิ่มเติม ดังต่อไปนี้ ข้อ 1 จังหวัดจันทบุรี อำเภอเมืองจันทบุรี […]

จรวด BM-21 ตกในพื้นที่สุรินทร์ 6 ลูก เร่งอพยพคนเพิ่ม

สุรินทร์ 25 ก.ค. – กระสุนของฝั่งกัมพูชามาตกไกลกว่าเหตุปะทะปี 2554 ตามที่เจ้าหน้าที่คาดการณ์ ล่าสุดมีจรวด BM-21 จำนวน 6 ลูก ตกในพื้นที่ อ.ปราสาท จ.สุรินทร์ เตรียมอพยพประชาชนไปยังที่ปลอดภัยกว่า .-สำนักข่าวไทย