ผนึกกำลังจัดอบรมหลักสูตรดูแลผู้สูงอายุ Care Giver

9 พ.ย. – เมืองไทยประกันชีวิต พร้อมด้วยมูลนิธิเมืองไทยยิ้ม ผนึกกำลังกรมกิจการผู้สูงอายุจัดการอบรมหลักสูตรดูแลผู้สูงอายุ Care Giver


เมืองไทยประกันชีวิต และมูลนิธิเมืองไทยยิ้ม จับมือกรมกิจการผู้สูงอายุ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จัดอบรมโครงการ การอบรมหลักสูตรดูแลผู้สูงอายุ Care Giver หลักสูตรการดูแลผู้สูงอายุขั้นเบื้องต้น จำนวน 18 ชั่วโมง เพื่อจัดฝึกอบรมให้กับประชาชนทั่วไปหรือผู้ที่สนใจให้มีทักษะความรู้ที่จำเป็นในการดูแลผู้สูงอายุ ตอบรับสถานการณ์การเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุของไทย

นายสาระ ล่ำซำ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “ปัจจุบันประเทศไทยก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุโดยสมบูรณ์ ซึ่งเป็นเรื่องที่มีความสำคัญอย่างยิ่งกับประเทศไทยที่จะต้องท้าทายในหลายด้าน อาทิ ปัญหาทางด้านเศรษฐกิจเกี่ยวกับการจัดการทางการเงินและการออม การจัดสวัสดิการสังคมที่เหมาะสม การเข้าถึงบริการด้านสุขภาพ และการปรับตัวให้เข้ากับสังคมที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ ประเทศไทยยังมีจำนวนบุคลากรที่มีความรู้และความเข้าใจในการดูแลผู้สูงอายุอย่างถูกต้องไม่เพียงพอต่อการดูแลผู้สูงอายุ ตลอดจนขาดการดูแลผู้สูงอายุอย่างมีคุณภาพในหลายชุมชนและหลายระดับในสังคม


บริษัทฯ เล็งเห็นถึงความสำคัญในประเด็นดังกล่าว จึงได้ร่วมมือกับมูลนิธิเมืองไทยยิ้ม และกรมกิจการผู้สูงอายุ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เพื่อสร้างสังคมแห่งการเรียนรู้และส่งเสริมสนับสนุนการพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้สูงอายุให้อยู่ดีมีสุขอย่างยั่งยืน โดยจัดโครงการสร้างผู้ดูแลผู้สูงอายุ (Care Giver) ซึ่งเป็นแนวคิดที่เน้นการจัดฝึกอบรมและพัฒนาศักยภาพบุคลากรให้มีทักษะความรู้ในการดูแลผู้สูงอายุอย่างมีมาตรฐาน เพื่อให้พวกเขาเหล่านั้นนำความรู้ที่ได้รับไปปรับใช้ในการดูแลผู้สูงอายุในครอบครัวและชุมชนได้อย่างมีคุณภาพ และป้องกันปัญหาการเข้าสู่ภาวะพึ่งพิงของผู้สูงอายุ ส่งผลให้สอดคล้องกับความต้องการของผู้สูงอายุที่มีจำนวนเพิ่มขึ้นในสังคมอยู่ในขณะนี้

สำหรับการอบรมหลักสูตรการดูแลผู้สูงอายุเบื้องต้น จำนวน 18 ชั่วโมง เป็นมาตรฐานหลักสูตรกลางของประเทศไทยในการจัดอบรมผู้ดูแลผู้สูงอายุสำหรับสมาชิกในครอบครัว อาสาสมัคร ประชาชนทั่วไป หรือผู้ที่สนใจ ซึ่งถูกกำหนดโดยคณะกรรมการผู้สูงอายุแห่งชาติ โดยหลักสูตรดังกล่าวมีกรมกิจการผู้สูงอายุ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เป็นหน่วยงานที่รับผิดชอบทำหน้าที่ในการกำกับดูแลหลักสูตร โดยเมื่ออบรมผ่านตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดในหลักสูตร ผู้เข้ารับการอบรมจะได้รับประกาศนียบัตร สำหรับการดูแลผู้สูงอายุในครอบครัวและชุมชน

โครงการดังกล่าวได้จัดฝึกอบรมให้กับประชาชนทั่วไป หรือผู้ที่สนใจ รวมถึงพนักงานเจ้าหน้าที่ของบริษัทเมืองไทยประกันชีวิต โดยมุ่งหวังให้ผู้เข้ารับการอบรมได้รับทักษะความรู้ที่จำเป็นในการดูแลผู้สูงอายุ อาทิเช่น การจัดการเวลาและการวางแผนทางการเงินสำหรับผู้สูงอายุ ความรู้ทั่วไปของผู้สูงอายุ สิทธิสวัสดิการสำหรับผู้สูงอายุ จิตวิทยาการดูแลสุขภาพใจผู้สูงอายุ การส่งเสริมสุขภาพ การปฐมพยาบาลผู้สูงอายุเบื้องต้น โรคที่พบบ่อยและกลุ่มอาการผู้สูงอายุ อาหารและโภชนาการสำหรับผู้สูงอายุ รวมถึง ทักษะพื้นฐานในการดูแลผู้สูงอายุ ซึ่งหัวข้อการอบรมครอบคลุมในทุกมิติของการดูแลผู้สูงอายุ


ทั้งนี้ การจัดอบรมหลักสูตรการดูแลผู้สูงอายุดังกล่าว จะเป็นประโยชน์อย่างมากสำหรับตัวผู้สูงอายุเอง สมาชิกในครอบครัวผู้สูงอายุ ผู้ดูแลผู้สูงอายุ หรือแม้กระทั่งอาสาสมัครที่เป็นจิตอาสาดูแลผู้สูงอายุในชุมชนในด้านของการเพิ่มพูนทักษะความรู้และเป็นการเตรียมความพร้อมรองรับการดูแลผู้สูงอายุในสถานการณ์สังคมผู้สูงอายุ โดยหลักสูตรการดูแลผู้สูงอายุจะช่วยให้สามารถดูแลผู้สูงอายุได้อย่างถูกต้องและเหมาะสม ทั้งในด้านของการป้องกัน ส่งเสริม และดูแลสุขภาพผู้สูงอายุในภาวะปกติและฉุกเฉิน การเข้าใจการเปลี่ยนแปลงในผู้สูงอายุ การส่งเสริมการเข้าถึงสิทธิและสวัสดิการทางสังคม และการสร้างเจตคติที่ดีในการอยู่ร่วมกันกับผู้สูงอายุในสังคม เป็นต้น เพื่อช่วยให้ผู้สูงอายุมีสุขภาพร่างกายและจิตใจที่แข็งแรง ลดปัญหาการเข้าสู่ภาวะพึ่งพิงในระยะยาว และมีความสุขในการดำเนินชีวิต ตลอดจนช่วยส่งเสริมสนับสนุนให้ชุมชนเข้ามาร่วมรับผิดชอบในการดูแลผู้สูงอายุและสร้างสังคมที่น่าอยู่

การจัดอบรมฯ ที่ผ่านมา บริษัทฯ ได้รับเกียรติจาก นางสาวแรมรุ้ง วรวัธ อธิบดีกรมกิจการผู้สูงอายุ ให้เกียรติมาเป็นประธานในพิธีเปิดการอบรมหลักสูตรการดูแลผู้สูงอายุเบื้องต้น จำนวน 18 ชั่วโมง รุ่นที่ 1 ซึ่งกรมกิจการผู้สูงอายุ ในฐานะหน่วยงานหลักในการขับเคลื่อนมาตรฐานการดูแลผู้สูงอายุ และเล็งเห็นถึงความสำคัญของการพัฒนาคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุทุกกลุ่มเป้าหมายในสังคม มีความยินดีเป็นอย่างยิ่งในการสนับสนุนการสร้างความร่วมมือกับหน่วยงานภาคีเครือข่ายทุกภาคส่วนที่ช่วยส่งเสริมการจัดอบรม สร้างผู้ดูแลผู้สูงอายุในครอบครัวและชุมชน โดยมุ่งหวังให้เกิดประโยชน์สูงสุดให้กับผู้สูงอายุ

ในโอกาสนี้ บริษัทฯ ยังมุ่งมั่นเดินหน้าสนับสนุนการจัดอบรมหลักสูตรการดูแลผู้สูงอายุขั้นเบื้องต้น จำนวน 18 ชั่วโมง ในรุ่นต่อไป ทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด เพื่อขยายโอกาสในการเสริมสร้างทักษะความรู้ในการดูแลผู้สูงอายุในครอบครัวและชุมชนต่าง ๆ และพร้อมสร้างความร่วมมือในการรับผิดชอบต่อสังคมร่วมกันของการดูแลผู้สูงอายุอย่างยั่งยืน

และนอกจากนี้บริษัทฯ ยังเล็งเห็นถึงความสำคัญของการจัดอบรมหลักสูตรการดูแลผู้สูงอายุ
ขั้นสูง จำนวน 420 ชั่วโมง ซึ่งเป็นหลักสูตรที่ช่วยสร้างผู้ดูแลผู้สูงอายุที่เป็นมาตรฐานทางวิชาชีพ ทำให้เกิดบุคลากรในสาขาอาชีพผู้ดูแลผู้สูงอายุให้มีจำนวนเพิ่มมากขึ้น เพื่อรองรับจำนวนผู้สูงอายุที่เพิ่มสูงขึ้นในอนาคต และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของสาขาอาชีพผู้ดูแลผู้สูงอายุ เพื่อสร้างโอกาสในการประกอบอาชีพและให้เกิดรายได้ที่เหมาะสมและเป็นธรรมสำหรับบุคลากรเหล่านี้ รวมทั้งส่งผลให้ผู้สูงอายุได้รับการดูแลที่มีถูกต้องและเหมาะสม โดยจะเป็นการช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุ มีหลักประกันคุณภาพและการได้รับบริการที่เป็นมาตรฐาน

“การจัดฝึกอบรมและการพัฒนาศักยภาพทักษะในด้านการดูแลผู้สูงอายุมีประโยชน์เป็นอย่างมาก ทั้งส่วนบุคคล ครอบครัว และสังคม สามารถช่วยให้ผู้สูงอายุได้รับการดูแลที่มีคุณภาพและสามารถดำเนินชีวิตได้อย่างมีความสุข สุขภาพร่างกายจิตใจแข็งแรง เสริมสร้างสังคมที่เข้มแข็ง และช่วยสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นสำหรับผู้สูงอายุ นับได้ว่าเป็นความร่วมมืออันดีระหว่างกรมกิจการผู้สูงอายุ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ร่วมกับบริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) และมูลนิธิเมืองไทยยิ้ม ในการร่วมกันสร้างสรรค์สังคมคุณภาพให้น่าอยู่อย่างยั่งยืนต่อไป” นายสาระ กล่าวสรุป. –

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ชูความสำเร็จทีมไทยแลนด์ ปิดดีลภาษีสหรัฐที่ 19%

ทำเนียบ 1 ส.ค.-โฆษกรัฐบาล เผย ปิดดีลภาษีนำเข้าสหรัฐสำเร็จที่ 19% เกาะกลุ่มระดับใกล้เคียงกับประเทศในภูมิภาค ชู เป็นอีกหนึ่งความสำเร็จสำคัญของทีมไทยแลนด์ ในแนวทาง Win-Win นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลไทยสามารถเจรจาและบรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับอัตราภาษีนำเข้าต่างตอบแทน (Reciprocal Tariffs) กับสหรัฐอเมริกาได้สำเร็จ โดยขณะนี้ รัฐบาลสหรัฐได้ประกาศแล้วว่าจะเรียกเก็บอัตราภาษีนำเข้าฯ จากสินค้าของไทยในอัตรา 19 % ซึ่งข้อตกลงดังกล่าวจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันนี้วันที่ 1 สิงหาคม 2568 เป็นต้นไป นายจิรายุ กล่าวว่า อัตราภาษีดังกล่าวที่ ต่ำกว่า อัตราเดิม 36 % และเกาะอยู่อยู่ในระดับใกล้เคียงกับประเทศในภูมิภาค อาทิ เวียดนาม ฟิลิปปินส์ และญี่ปุ่น สามารถรักษาการแข่งขันได้ เมื่อเทียบกับประเทศอื่นในภูมิภาคอาเซียน ซึ่งได้เจรจากับสหรัฐสำเร็จแล้วก่อนหน้านี้ “การปิดดีลครั้งนี้ของรัฐบาลไทย ในระดับภาษีนำเข้าฯ ไว้ที่ 19% ถือเป็นอีกหนึ่งความสำเร็จสำคัญของทีมไทยแลนด์ ในแนวทาง Win-Win เพื่อรักษาฐานการส่งออกและเสถียรภาพทางเศรษฐกิจของประเทศในระยะยาว ย้ำถึงศักยภาพของประเทศไทยในเวทีการค้าโลก ท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงในนโยบายการค้าระหว่างประเทศ” นายจิรายุกล่าว […]

รพ.สรรพสิทธิประสงค์ แจ้งยกเลิกรับผู้ป่วยกัมพูชาชั่วคราว

อุบลราชธานี 31 ก.ค. – โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี ออกหนังสือขอยกเลิกการให้บริการผู้ป่วยชาวกัมพูชา และยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา เนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งส่งผลต่อความมั่นคงของประเทศ เมื่อวานนี้ (30 ก.ค.) พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ลงพื้นที่เยี่ยมให้กำลังใจผู้ได้รับบาดเจ็บจากสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา พร้อมทั้งให้กำลังใจแก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติ งานด้านการแพทย์และพยาบาล ณ โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี นายแพทย์ มนต์ชัย วิวัฒนาสิทธิพงศ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร ให้การต้อนรับและรายงานความคืบหน้าการดูแลรักษาผู้ได้รับบาดเจ็บ รวมถึงการเตรียมความพร้อมด้านการรักษาพยาบาลรองรับสถานการณ์ฉุกเฉินในพื้นที่ชายแดน รพ.สรรพสิทธิประสงค์ แจ้งยกเลิกรับผู้ป่วยกัมพูชาชั่วคราวขณะที่ในวันเดียวกัน โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ ได้ออกเอกสารขอยกเลิกการให้บริการผู้ป่วยชาวกัมพูชา และยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา ใจความในหนังสือว่า “โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ได้ให้การตรวจรักษาพยาบาลแก่ผู้ป่วยทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ รวมถึงผู้ป่วยชาวกัมพูชาที่เดินทางเข้ามารักษาอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งส่งผลต่อความมั่นคงของประเทศ และจากมติที่ประชุมคณะกรรมการคลินิกพิเศษนอกเวลาราชการ โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ มีมติดังนี้ 1.ยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา และจิตอาสาภาษาต่างประเทศ2.ปิดการให้บริการ SMC Premium ชั่วคราว3.ยกเลิกการรับยาแทน และงดรับเคสใหม่ผู้ป่วยชาวกัมพูชา4.ผู้ป่วยชาวกัมพูชาที่ยังนอนอยู่ในโรงพยาบาลให้จำกัดพื้นที่ชัดเจน ในการนี้ให้มีผลตั้งแต่วันที่ 31 กรกฎาคม 2568 ถึงวันที่ 10 […]

รมช.มท. โฟนอินผู้ว่าฯ อุบลฯ ตอบกลางสภา ยันไม่มีปัญหาเบิกจ่ายงบ

รัฐสภา 31 ก.ค.-สส.ศรีสะเกษ ภูมิใจไทย ทวงถามเงินช่วยเหลือเยียวยาจังหวัดชายแดนไทย-กัมพูชา ชี้ตั้งแต่วันแรกยังไม่ได้เงินรัฐบาลสักบาท ซัด “ผู้ว่าฯ อุบล” อ้างกลัวติดคุกไม่กล้าเบิกงบ ด้าน รมช.มหาดไทย ต่อสายโฟนอิน ผู้ว่าฯ ตอบกลางสภา ยืนยันไม่มีปัญหาเบิกจ่ายงบ ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ทำหน้าที่ประธานการประชุม พิจารณากระทู้ถามสดด้วยวาจา โดยนายธนา กิจไพบูลย์ชัย สส.ศรีสะเกษ พรรคภูมิใจไทย สอบถามกรณีเหตุปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งนายกรัฐมนตรี มอบหมาย นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย เป็นผู้ตอบกระทู้ แต่เนื่องจากนายภูมิธรรม ติดภารกิจจึงมอบหมายให้ น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย ชี้แจงแทน นายธนา กล่าวว่า จากเหตุปะทะบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ส่งผลกระทบต่อประชาชนในพื้นที่ 4 จังหวัดชายแดน ทั้งศรีสะเกษ สุรินทร์ บุรีรัมย์ และอุบลราชธานี ตั้งแต่เกิดเหตุจนถึงขณะนี้ ยังไม่มีงบประมาณจากส่วนกลางลงพื้นที่แม้แต่บาทเดียว ทุกวันนี้เราอาศัยเงินบริจาคเป็นหลัก และนำงบขององค์การปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) […]

ทูตไทยตอบโต้กัมพูชา หลังยกกรณีปัญหาชายแดนที่ยูเอ็น

นิวยอร์ก 31 ก.ค. – เอกอัครราชทูตผู้แทนถาวรไทยประจำองค์การสหประชาชาติ โต้ผู้แทนกัมพูชา ซึ่งหยิบประเด็นชายแดนไทย-กัมพูชา ขึ้นพูดผิดกาลเทศะ ผิดวาระ ในที่ประชุมสหประชาชาติ วาระสำคัญของการประชุมระดับสูงระหว่างประเทศในเวทีสหประชาชาติ ที่นครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐ เมื่อวานนี้ คือการผลักดันเพื่อระงับข้อพิพาทปัญหาปาเลสไตน์โดยสันติวิธี แต่ปรากฏว่านาย เจีย แก้ว เอกอัครราชทูตกัมพูชาประจำสหประชาชาติ กลับพูดในประเด็นที่ไม่เกี่ยวข้องกับวาระการประชุม โดยพาดพิงถึงไทยเกี่ยวกับสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา นายเชิดชาย ใช้ไววิทย์ เอกอัครราชทูต ผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติ จึงกล่าวตอบโต้โดยชี้แจงข้อมูลความจริงในประเด็นที่กัมพูชาละเมิดข้อตกลงหยุดยิง โดยระบุว่า เป็นที่น่าเสียดายที่มีคณะผู้แทนหยิบยกประเด็นที่ไม่เกี่ยวข้องขึ้นมาในที่ประชุม ซึ่งเป็นเวทีที่หลายฝ่ายรอคอย และมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการสนับสนุนจากประชาคมระหว่างประเทศต่อการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลและปาเลสไตน์อย่างเป็นธรรม ถาวร และครอบคลุม ผ่านแนวทางสันติวิธีโดยการดำเนินการตามแนวทางสองรัฐ นายเชิดชาย กล่าวในที่ประชุมว่า ประเทศไทยไม่ได้มีเจตนาจะนำเรื่องทวิภาคีเข้าสู่เวทีสำคัญดังกล่าว แต่ต้องขอชี้แจงข้อเท็จจริงเพื่อป้องกันความเข้าใจผิด โดยย้ำว่าเมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม 2568 ไทยและกัมพูชา ได้บรรลุข้อตกลงหยุดยิง โดยได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ในฐานะประธานอาเซียน แต่หลังจากที่ข้อตกลงหยุดยิงมีผลบังคับใช้ในวันที่ 29 กรกฎาคม อีกฝ่ายกลับใช้อาวุธข้ามพรมแดน และบุกรุกเข้ามาในดินแดนของไทยอีกครั้ง ซึ่งถือเป็นการละเมิดข้อตกลงอย่างร้ายแรง ประเทศไทยจึงขอเรียกร้องให้ประเทศเพื่อนบ้านปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงอย่างเคร่งครัด และยืนยันความมุ่งมั่นของไทยที่จะใช้กลไกทวิภาคีที่มีอยู่ในการแก้ไขปัญหา หลีกเลี่ยงการเผยแพร่ข้อมูลที่เป็นเท็จหรือทำให้เข้าใจผิด และให้มีส่วนร่วมด้วยเจตนาดี.-810.-813.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

กระเช้าหลุด ช่างทาสีร่วงตึก 5 ชั้น ตาย 1 สาหัส 1

พัทลุง 2 ส.ค. – เกิดเหตุสลด กระเช้าปลายบูมหลุดจากเครน ช่างทาสีร่วงจากตึก 5 ชั้น เสียชีวิต 1 เจ็บสาหัส 1 ที่ไซต์งานก่อสร้างอาคารเรียน จ.พัทลุง เกิดเหตุสลดกลางไซต์งานก่อสร้างอาคารเรียนแห่งหนึ่ง ในตำบลควนมะพร้าว อำเภอเมือง จังหวัดพัทลุง เมื่อกระเช้าที่ผูกติดกับหัวเครนเกิดหัก หลุดจากตึกสูง 5 ชั้น ส่งผลให้ช่างทาสี 2 คน ที่อยู่บนกระเช้าร่วงตกลงกระแทกพื้น เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตทันที 1 คน คือ นายธวัชชัย อายุ 36 ปี และนายชุติเดช อายุ 43 ปี บาดเจ็บสาหัส ขาทั้งสองข้างหักละเอียด แขนซ้ายหักผิดรูป เจ้าหน้าที่เร่งให้การช่วยเหลือก่อนนำตัวส่งโรงพยาบาลพัทลุงอย่างเร่งด่วน ผู้เห็นเหตุการณ์ เล่าว่า คนงานทั้ง 2 เป็นช่างทาสี ได้ขึ้นกระเช้าเหล็กเพื่อขึ้นไปทาสีบริเวณชั้น 5 ของอาคาร ซึ่งมีความสูงประมาณ 26 เมตร แต่ด้วยน้ำหนักของคนงานทั้งสองคน […]

รัฐบาลรุกหนักในทุกเวทีระดับโลก..เดินหน้าสื่อสารข้อเท็จจริง

ทำเนียบ 2 ส.ค.-รัฐบาลรุกหนักในทุกเวทีระดับโลก..เดินหน้าสื่อสารข้อเท็จจริง ด้วยพยานหลักฐานทุกมิติ ต่อประชาคมโลกผ่าน OSCE-เวทีระดับสูงด้านความมั่นคงของยุโรป ยืนยันหลักสันติวิธี ยึดกฎหมายระหว่างประเทศ และตอกย้ำว่าการปกป้องประชาชนจากการโจมตีของฝ่ายกัมพูชาเป็นสิทธิโดยชอบตามกฎหมายสากล พร้อมใช้โอกาสนี้ขยายความร่วมมือด้านความมั่นคงในระดับภูมิภาคอย่างเป็นรูปธรรม นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี คณะกรรมการ ศบ.ทก. เปิดเผยว่า รัฐบาลไทยและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเดินหน้าบทบาทของประเทศไทย ในเวทีระหว่างประเทศอย่างต่อเนื่อง เพื่อสื่อสารข้อเท็จจริงและแสดงท่าทีอย่างตรงไปตรงมาต่อสถานการณ์ชายแดนไทย–กัมพูชา โดยล่าสุดเมื่อวันที่ 31 กรกฎาคม ถึงวานนี้ (1 สิงหาคม 2568) ที่ผ่านมา ไทยได้เข้าร่วมการประชุม Helsinki+50 ในกรอบองค์การว่าด้วยความมั่นคงและความร่วมมือในยุโรป (Organization for Security and Co-operation in Europe: OSCE) ณ กรุงเฮลซิงกิ ประเทศฟินแลนด์ โดยมี นางครองขนิษฐ รักษ์เจริญ อธิบดีกรมยุโรป เป็นหัวหน้าคณะผู้แทนไทยเข้าร่วมการประชุม โดยในช่วงของการกล่าวถ้อยแถลง หัวหน้าคณะผู้แทนไทย ได้ย้ำท่าทีของไทยเกี่ยวกับสถานการณ์ชายแดนไทย–กัมพูชา ว่า “ไทยยึดมั่นในกฎบัตรสหประชาชาติ หลักมนุษยธรรมสากล และหลักการของ Helsinki Final […]

EOD เก็บกู้ระเบิดฝังอยู่ใกล้ปั๊มที่ถูกกัมพูชายิงใส่

ศรีสะเกษ 2 ส.ค. – เจ้าหน้าที่ EOD ทำลายหัวระเบิด HE ของจรวด BM 21 ที่ฝังอยู่บนถนนกันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ใกล้กับปั๊มน้ำมันที่ถูกกัมพูชายิงใส่ร้านสะดวกซื้อ ตั้งแต่เวลา 14.00 น. ที่ผ่านมา ชุดเก็บกู้วัตถุระเบิด หรือ EOD เริ่มเตรียมความพร้อมเพื่อทำลายระเบิดที่ฝังอยู่ในถนน บ้านน้ำเย็น-บ้านผือ ฝั่งมุ่งหน้าเขาพระวิหาร ในพื้นที่ อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ เป็นระเบิดที่ฝั่งกัมพูชายิงใส่พื้นที่พลเรือน โดยจุดที่ระเบิดถูกฝังบนถนนอยู่ห่างจากปั๊ม ปตท. บ้านผือ ไม่ถึง 1 กิโลเมตร เป็นระเบิดที่ถูกยิงมาในวันที่ 24 กรกฎาคม พร้อมกับเหตุการณ์ยิงกัมพูชายิงจรวดใส่ร้านสะดวกซื้อภายในปั๊ม จนมีผู้เสียชีวิต 8 ราย เจ้าหน้าที่ได้นำกระสอบทรายมาทำเป็นบังเกอร์ล้อมรอบจุดที่ระเบิดฝังอยู่ในถนน เจ้าหน้าที่ชุดจากตำรวจภูธรจังหวัดศรีสะเกษ ตำรวจ ตชด.ที่ 22 อุบลราชธานี และเจ้าหน้าที่จากศูนย์ปฏิบัติการทุ่นระเบิดแห่งชาติ ศูนย์บัญชาการทางทหาร กองบัญชาการกองทัพไทย หรือ TMAC โดยมีการปิดถนนรัศมี 1 กิโลเมตร […]

กองทัพภาคที่ 2 แชร์ข้อมูลอาวุธไฮเทคสำหรับยิงโดรน

นครราชสีมา 2 ส.ค.-กองทัพภาคที่ 2 แชร์ข้อมูลอาวุธสำหรับกำจัดโดรนโดยเฉพาะ ซึ่งล่าสุดได้ทดสอบระบบ ณ กองบิน 1 ศูนย์ทดสอบอาวุธทางอากาศ เรียบร้อยแล้ว ด้านชาวอุดรธานี แห่บริจาคหนังสติ๊กพร้อมลูกแก้ว ตามที่ทหารขอมาจำนวนมาก หลังทหารกัมพูชายังก่อกวน ยั่วยุ ทั้งขว้างก้อนหินใส่ และมีโดรนปริศนามาบินอีก จากกรณีที่ช่วงนี้ มีการตรวจพบโดรนไม่ทราบฝ่าย เข้ามาบินตรวจการณ์ในพื้นที่ที่ตั้งทางทหาร ทำให้หลายฝ่ายมีความกังวล และสงสัยว่าอาจเป็นภัยคุกคามร้ายแรงจากประเทศเพื่อบ้าน ที่กำลังมีปัญหาระหว่างประเทศกับประเทศไทย ทำให้เมื่อวานเพจกองทัพภาคที่ 2 ได้แชร์ข้อมูลอาวุธสำหรับกำจัดโดรนโดยเฉพาะ ซึ่งล่าสุดได้มีการทดสอบระบบ ณ กองบิน 1 ศูนย์ทดสอบอาวุธทางอากาศ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยเมื่อวานนี้ (1 ส.ค.68) เฟซบุ๊กเพจ กองทัพภาคที่2 ได้แชร์ข้อมูลเพจ SMART Soldiers Strong ARMY พร้อมระบุข้อความว่า “หากศัตรูซ่อนตัวในเงามืด เราจะเป็นแสงที่มองเห็นมันก่อนใคร”เลเซอร์พร้อมยิง — ทหารไทยพร้อมรบโดยอาวุธชนิดนี้ คือ Directed Energy Weapon หรือ (DEW) เป็นอาวุธยุคใหม่ที่กองทัพอากาศไทยพัฒนาขีดความสามารถอย่างต่อเนื่อง […]