MEA ต้อนรับ มท.1 ตรวจเยี่ยมพร้อมมอบนโยบาย

กรุงเทพฯ 7 พ.ย. – MEA ต้อนรับ มท.1 ตรวจเยี่ยมพร้อมมอบนโยบายขับเคลื่อนภารกิจสำคัญกระทรวงมหาดไทย ยกระดับคุณภาพชีวิตของคนเมือง สู่เมืองมหานครแห่งอนาคตที่ทันสมัย


วันนี้ (7 พฤศจิกายน 2566) นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วย นายชาดา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ตรวจเยี่ยม MEA หรือการไฟฟ้านครหลวง โดยมี นายวิลาศ เฉลยสัตย์ ผู้ว่าการ MEA พร้อมด้วยคณะผู้บริหารระดับสูง และพนักงาน MEA ร่วมให้การต้อนรับพร้อมตอบรับนโยบายและภารกิจสำคัญของกระทรวงมหาดไทย นำมาขับเคลื่อนบทบาทสำคัญในการเสริมสร้างขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านระบบไฟฟ้า สนับสนุนการเติบโตของภาคธุรกิจและอุตสาหกรรม ยกระดับคุณภาพชีวิตของคนเมือง สู่เมืองมหานครแห่งอนาคตที่ทันสมัย ณ อาคารวัฒนวิภาส การไฟฟ้านครหลวง สำนักงานใหญ่ คลองเตย

MEA พร้อมขับเคลื่อนนโยบายของกระทรวงมหาดไทย ลดภาระและบรรเทาค่าใช้จ่ายแก่กลุ่มผู้ใช้ไฟฟ้าประเภทบ้านอยู่อาศัย ที่ใช้ไฟฟ้าไม่เกิน 300 บาท/เดือน สามารถค้างค่าไฟได้ ในจำนวนเดือนที่มากขึ้น เพื่อเป็นการบรรเทาภาระประชาชน โดยมีรายละเอียด ดังนี้


  • เป็นผู้ใช้ไฟฟ้าประเภทบ้านอยู่อาศัย ที่มียอดค่าไฟฟ้าไม่เกิน 300 บาทต่อเดือน
  • ขยายระยะเวลางดจ่ายกระแสไฟฟ้า เป็นไม่เกิน 3 เดือน
  • เริ่มโครงการตั้งแต่ พฤศจิกายน 2566 – พฤศจิกายน 2567

นอกจากนี้ MEA ได้ดำเนินโครงการสำคัญต่าง ๆ ได้แก่ โครงการ Smart Metro Grid ที่ดำเนินการติดตั้ง Smart Meter ที่เชื่อมโยงข้อมูลผ่านระบบ Online ช่วยในด้านการบริหารจัดการระบบไฟฟ้า โดยภายในปี 2570 จะติดตั้งครอบคลุมพื้นที่ดูแลทั้ง 18 การไฟฟ้านครหลวงเขต รวมเป็นจำนวนทั้งสิ้น 441,400 ชุด รวมถึงการประยุกต์ใช้กับหม้อแปลงจำหน่ายภายใต้โครงการ TLM (Transformer Load Monitoring) ช่วยในการวางแผนขยายหรือปรับปรุงโครงข่ายไฟฟ้า ครอบคลุมระบบจำหน่ายไฟฟ้าในระดับแรงดันกลาง เป็นการพัฒนาไปสู่ระบบ Fully Smart Metro Grid อย่างเต็มตัว

MEA ได้มุ่งเน้นการเพิ่มประสิทธิภาพพลังงานเพื่อวิถีชีวิตเมืองมหานคร เดินหน้าขับเคลื่อนนโยบายกระทรวงมหาดไทย และรัฐบาล เร่งดำเนินโครงการเปลี่ยนสายไฟฟ้าอากาศเป็นสายไฟฟ้าใต้ดิน มีระยะทางดำเนินโครงการทั้งสิ้น 313.5 กิโลเมตร มีเป้าหมายก่อสร้างให้แล้วเสร็จภายในปี 2572 โดยขณะนี้
สามารถดำเนินการได้แล้วเสร็จรวม 62 กิโลเมตร ครอบคลุมพื้นที่สำคัญ ขณะเดียวกันมีโครงการที่อยู่ระหว่างดำเนินการ 251.5 กิโลเมตร เช่น โครงการพระราม 3 โครงการรัชดาภิเษก และโครงการก่อสร้างตามแนวรถไฟฟ้าสายสีต่าง ๆ โดย MEA คาดว่า ภายในสิ้นปี 2566 จะมีระยะทางที่ดำเนินการก่อสร้างแล้วเสร็จเพิ่มขึ้นอีก 29.2 กิโลเมตร ทำให้มีระยะทางสายใต้ดินสะสมรวมทั้งสิ้น 91.2 กิโลเมตร รวมถึงการจัดระเบียบสายสื่อสารบนเสาไฟฟ้าตามข้อกำหนดเพื่อความมั่นคงระบบไฟฟ้า ทัศนียภาพที่สวยงาม ความปลอดภัยของประชาชน และการพัฒนาบริการดิจิทัล โดยยึดหลัก Triple Go for Goal 3 ด้าน ได้แก่ Go Smart คือการดำเนินโครงการที่ส่งเสริมศักยภาพด้านระบบไฟฟ้า ให้การบริหารจัดการระบบไฟฟ้าให้มีความมั่นคงเพียงพอ Go Digital คือ การยกระดับงานบริการขององค์กรให้ตอบโจทย์ Anywhere Service ซึ่งเป็นรูปแบบชีวิตของคนเมืองมหานคร มีการพัฒนาบริการ e-Service ต่าง ๆ เพื่อยกระดับไปสู่การเป็น Fully Digital Service และ Go Green คือ การส่งเสริมไปสู่การเป็นสังคมคาร์บอนต่ำ (Low Carbon Society) โดยจะต้องสนับสนุนให้เกิดระบบนิเวศยานยนต์ไฟฟ้า (EV Ecosystem) รองรับการใช้งาน EV ในพื้นที่ของ MEA ออกแบบระบบ Smart Charging สำหรับบ้านอยู่อาศัย และบริหารจัดการระบบจำหน่ายอย่างมีประสิทธิภาพ ภายใต้วิสัยทัศน์ Energy for city life, Energize smart living ในการขับเคลื่อนพลังงานเพื่อวิถีชีวิตเมืองมหานครอย่างยั่งยืน ยกระดับคุณภาพบริการ รองรับความต้องการผู้ใช้ไฟฟ้าในทุกมิติ .-สำนักข่าวไทย

MEA, มท.1, มอบนโยบาย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สมุทรปราการอ่วม! ปิด 25 โรงเรียนหนีน้ำท่วม

สมุทรปราการ 8 ก.ย.- สมุทรปราการอ่วม! ระดับน้ำยังท่วมสูง หลังฝนตกหนักทั้งคืน ด้าน สพท. สั่งปิดแล้ว 25 โรงเรียน ปรับให้สอนแบบออนไลน์ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา หรือ สพท. สั่งปิด 25 โรงเรียนจังหวัดสมุทรปราการ 1 วัน พร้อมปรับการเรียนเป็นแบบออนไลน์ เพื่อความปลอดภัยของนักเรียนและผู้ปกครอง หลังฝนตกหนักทั้งคืน ถนนสายสำคัญหลายเส้นถูกน้ำท่วม บางแห่งสูงกว่า 30 เซนติเมตร รวมถึงตรอกซอกซอยต่าง ๆ โดยบางพื้นที่น้ำได้ไหลเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน ขณะเดียวกันหลายจุดยังคงมีน้ำท่วมขัง ระบายออกไม่ได้ เนื่องจากระดับน้ำในคลองสายหลักสูง ประกอบกับน้ำทะเลหนุน เจ้าหน้าที่เร่งระบายน้ำ หากฝนไม่ตกลงมาซ้ำ คาดว่าบ่ายวันนี้สถานการณ์จะเข้าสู่สภาวะปกติ ทั้งนี้ มีรายงานว่าเกิดเหตุ หนุ่มวัย 17 ปี เข็นรถจักรยานยนต์ฝ่าน้ำ ถูกไฟรั่วจากแบริเออร์ก่อสร้างบนถนนแพรกษา ช็อตเสียชีวิตต่อหน้าเพื่อนบ้าน เจ้าหน้าที่เร่งสอบหาสาเหตุและป้องกันเหตุซ้ำ -สำนักข่าวไทย

ศาลสั่งจำคุก 2 ปี 8 เดือน ไม่รอลงอาญา “สส.ลูกเกด” คดี ม.112

กรุงเทพฯ 8 ก.ย. – ศาลสั่งจำคุก 4 ปี “ลูกเกด ชลธิชา” สส.ประชาชน คดี ม.112 คำให้การเป็นประโยชน์ลดโทษเหลือ 2 ปี 8 เดือน ส่าสุดศาลให้กันประกันตัวแล้ว กำหนดเงื่อนไขห้ามเดินทางออกนอกราชอาณาจักร เว้นแต่จะได้รับอนุญาต วันนี้ ( 8 ก.ย.) ที่ห้องพิจารณา 901 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลนัดฟังคำพิพากษาคดีดูหมิ่นสถาบัน หมายเลขดำ อ.595/65 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 4 เป็นโจทก์ ฟ้อง น.ส.ชลธิชา แจ้งเร็ว หรือลูกเกด สส.พรรคประชาชน จ.ปทุมธานี เป็นจำเลยในความผิด ดูหมิ่นสถาบัน ตามประมวลกฎหมายอาญา ม.112 , พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ฯ ม.4 (3) จากกรณีเมื่อวันที่ 8 พ.ย.63 จำเลยได้โพสต์ข้อความ ลงในเฟซบุ๊กตัวเอง เกี่ยวกับราษฎรสาส์น […]

รื้อทั้งยวง! โผ ครม.อนุทิน 1 เหตุ “ธรรมนัส” คุมท่องเที่ยว ภท.ต้องเกลี่ยใหม่

กรุงเทพฯ 7 ก.ย. – โผ ครม. “อนุทิน 1” รื้อทั้งยวง หลัง “ธรรมนัส” คุมท่องเที่ยว ทำภูมิใจไทยต้องเกลี่ยใหม่ “ไชยชนก” ดีอี “ซาบีดา” วัฒนธรรม รอเปิดคนนอก “กลาโหม-ยุติธรรม” แว่วพลตำรวจโท อดีตรองผู้การภาค 3 ติดโผ จับตา “ศักดิ์ดา” ร่วมด้วย​ ด้าน “นิพนธ์” จ่อดันลูกสาวเป็นรัฐมนตรีป้ายแดง เมื่อวันที่ 7 กันยายน 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับโผ ครม.ล่าสุด พรรคภูมิใจไทยจะได้เก้าอี้รัฐมนตรีส่วนใหญ่ประมาณ 12 ที่นั่ง โดยนายอนุทิน ชาญวีรกูล นั่งนายกรัฐมนตรี ควบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายทรงศักดิ์ ทองศรี นั่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย น.ส.ซาบีดา ไทยเศรษฐ์ นั่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม นายไชยชนก ชิดชอบ เลขาธิการพรรค จะนั่งตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ขณะที่นายสุรศักดิ์ พันธ์เจริญวรกุล […]

ชัยภูมิน้ำท่วมหนัก หลังฝนตกตลอดคืน

ชัยภูมิ 7 ก.ย.-น้ำท่วมหนักใน 3 อำเภอของจังหวัดชัยภูมิ หลังฝนตกหนักตลอดทั้งคืน สภาพภายในวัดดอนไผ่ ริมถนนชัยภูมิ-นครสวรรค์ อำเภอบ้านเขว้า จังหวัดชัยภูมิ เมื่อช่วงเช้าวันนี้ (7 ก.ย.) หลังพายุฝนกระหน่ำตลอดทั้งคืน ระดับน้ำท่วมสูง 50 เซนติเมตร พระสงฆ์ต้องอพยพหนีน้ำท่วมไปฉันอาหารอยู่บนที่สูง ขณะนี้ระดับน้ำยังไม่ลดลง นอกจากนี้ ยังเกิดน้ำท่วมใน 3 อำเภอ คือ อำเภอเมือง ย่านเศรษฐกิจในตัวอำเภอแก้งคร้อ และอำเภอบ้านเขว้า น้ำป่าสีแดงขุ่นไหลเข้าท่วมถนนสาย 225 ชัยภูมิ-นครสวรรค์ รวมถึงร้านค้า บ้านเรือนประชาชน โดยเฉพาะที่วัดกลางโนนแดง และวัดดอนไผ่ สาเหตุมาจากกรมทางหลวงก่อสร้างถนน 4 เลน ตัดผ่านบ้านโนนแดง ต.โนนแดง อ.บ้านเขว้า ทำให้น้ำป่าที่ไหลมาจากเขาภูแลนคา ไม่สามารถไหลไปลงแม่น้ำชีได้.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

“อนุทิน” ส่งรายชื่อ ครม. ตรวจประวัติครบแล้ว

พรรคภูมิใจไทย 9 ก.ย.-“อนุทิน” ส่งรายชื่อ ครม. ตรวจประวัติครบแล้ว ลั่นส่งเกินด้วย ย้ำใครไม่ผ่านก็แต่งตั้งไม่ได้ พร้อมแจงเหตุผลเลือก “บวรศักดิ์” นั่งรองนายกฯ ฝ่ายกฎหมาย เตรียมยกร่าง รธน. ไม่กดดัน มีเวลาทำงาน 4 เดือน บอกถนัดอยู่แล้ว แสวงจุดร่วมสงวนจุดต่าง เผยคุย “บิ๊กเล็ก” วันนี้ เตรียมข้อมูลประชุมจีบีซี พรุ่งนี้ พร้อมทลายหลายข้อจำกัด ย้ำจุดยืนแก้ปัญหาชายแดนทุกมิติ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี กล่าวว่าได้ส่งรายชื่อ บุคคลที่จะเสนอเป็นรัฐมนตรีให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบคุณสมบัติทุกครบทุกคนแล้ว โดยยังไม่ได้ระบุตำแหน่ง ส่วนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมก็ส่งไปแล้ว พร้อมหัวเราะ และบอกว่า “ส่งเกินด้วย” ซึ่งคุณสมบัติ ของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ก็ต้อง เป็นคนยุติธรรม พร้อมยอมรับว่าได้ทาบทามพลเอกณัฐพล นาคพาณิชย์ และได้เชิญมาพูดคุยที่พรรคภูมิใจไทย ว่าท่านมีแนวทางดำเนินการอย่างไร เพราะวันพรุ่งนี้จะต้องเดินทางไปประชุม จีบีซี ที่กาะกง ส่วนเหตุผลที่เลือกพลเอกณัฐพล นายอนุทินกล่าวว่าเพราะต้องการให้งานของกระทรวงกลาโหม สืบเนื่องต่อไป ผู้สื่อข่าวจึงถามว่าไม่เปลี่ยนม้ากลางศึกใช่หรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่ามีคำพังเพยอยู่ เรามองเรื่องประเทศชาติเป็นสำคัญ แต่เราอาจจะมีแนวทางใหม่ให้ท่าน […]

โคราชอ่วม! น้ำท่วมหลายจุด เร่งอพยพประชาชน

9 ก.ย. – โคราชอ่วม! น้ำท่วมหลายจุด บางพื้นที่ต้องอพยพประชาชนออกจากบ้านเรือน เพื่อความปลอดภัย ขณะที่พบแล้วศพหนุ่มพิมายขี่รถจักรยานยนต์ฝ่าน้ำป่าซัดตกท่อระบายน้ำข้างกำแพงโรงเรียน คลิปวิดีโอที่ชาวบ้านบันทึกไว้ได้เมื่อช่วงค่ำวานนี้ (8 ก.ย.) ขณะน้ำป่าไหลทะลักเข้าท่วมถนนในพื้นที่บ้านรังกาใหญ่ ต.รังกาใหญ่ อ.พิมาย จ.นครราชสีมา หลังจากมีฝนตกหนัก ระดับน้ำท่วมสูงและเชี่ยวกราก มีชายคนหนึ่งขี่รถจักรยานยนต์ฝ่ากระแสน้ำเชี่ยวกรากไปบริเวณสี่แยกกลางหมู่บ้าน บ้านตะปัน ต.รังกาใหญ่ แม้ชาวบ้านจะเตือนและพยายามตะโกนห้ามแล้วแต่ไม่ฟัง สุดท้ายถูกน้ำป่าซัดทั้งรถและคนลอยหายไปกับกระแสน้ำ กระทั่งช่วงเที่ยงคืนวันนี้ (9 ก.ย.) ระดับน้ำเริ่มลดลง ชาวบ้านพบรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้าเวฟ สีแดง มีกุญแจเสียบคาอยู่ พร้อมกับถังน้ำมัน ลอยมาติดกำแพงโรงเรียนพิมายสามัคคี 1 ใกล้กันพบร่างของผู้เสียชีวิต ชื่อนายสมชาย อายุ 35 ปี ถูกน้ำป่าซัดตกลงไปในท่อระบายน้ำข้างกำแพงโรงเรียน เจ้าหน้าที่กู้ภัยจึงช่วยกันนำร่างผู้เสียชีวิตออกมา ก่อนนำส่งโรงพยาบาลพิมาย เพื่อชันสูตรหาสาเหตุการเสียชีวิต นาทีน้ำป่าไหลซัดคนลอยออกจากบ้านคลิปนาทีน้ำป่าไหลเข้าท่วมบ้านเรือนชาวบ้าน บ้านตะปัน หมู่ 5 ต.รังกาใหญ่ อ.พิมาย จ.นครราชสีมา เมื่อช่วงเย็นวานนี้ (8 ก.ย.) โดยจะเห็นว่าน้ำป่าที่ไหลมาจากพื้นที่ อ.ห้วยแถลง หลังจากมีฝนตกติดต่อกันนานหลายชั่วโมง ทำให้น้ำไหลหลากเข้าท่วมบ้านเรือนชาวบ้าน […]

“แพทองธาร” เปิดใจหลังศาลพิพากษาคดีชั้น 14

ศาลฎีกา สนามหลวง 9 ก.ย.- “แพทองธาร” สำนึกในพระมหากรุณาธิคุณในหลวง ลดโทษ “ทักษิณ” เหลือ 1 ปี ครอบครัวยังห่วง-ภูมิใจในผลงานประวัติศาสตร์ รับเป็นนายกฯ คนแรกที่ต้องติดคุก แต่กำลังใจดี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ภายหลังเข้าฟังคำสั่งศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง คดีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่เข้ารักษาตัวที่ชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ ว่า ทางครอบครัวรู้สึกสำนึกในพระมหากรุณาที่คุณของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่อภัยโทษและลดโทษให้คุณพ่อ ซึ่งพวกเราทั้งครอบครัวสำนึกในพระมหากรุณาที่คุณอย่างหาที่สุดไม่ได้ เรารู้สึกเรื่องนี้ในทุกๆวัน และขอบคุณทุกท่านที่ส่งกำลังใจห่วงใยให้คุณพ่อและครอบครัวของเรา นางสาวแพทองธาร กล่าวว่า ที่ผ่านมา นายทักษิณเป็นผู้นำจิตวิญญาณในเรื่องการเมือง ที่ผ่านมาผลงานต่างๆที่ทำเพื่อบ้านเมืองท่านยังเป็นคนที่นึกถึงบ้านเมืองเสมอ ในการหวังเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ชีวิตของพี่น้องประชาชนกินดีอยู่ดี ตัวดิฉันเอง และครอบครัวมีความเป็นห่วงคุณพ่อ และภูมิใจที่คุณพ่อได้สร้างประวัติศาสตร์มากมายให้ประเทศไม่ว่าจะเป็นนโยบายที่มีประโยชน์อย่างมากสำหรับคนในประเทศ วันนี้ก็เป็นประวัติศาสตร์อีกเรื่องหนึ่งที่นายกรัฐมนตรีคนแรกที่ต้องจำคุกเรื่องนี้ก็อาจจะค่อนข้างหนักนิดหนึ่ง แต่กำลังใจดีทั้งคุณพ่อและครอบครัว ส่วนตัวดิฉันและพรรคเพื่อไทยยังมุ่งหน้าทำงานต่อเป็นฝ่ายค้านและทำงานเพื่อพี่น้องประชาชนตรวจสอบรัฐบาลต่อไปในส่วนของพรรคทุกคนมีกำลังใจดี ขอบคุณทุกภาคส่วนประชาชนทุกคนที่ให้ให้กำลังใจและคอยอยู่เคียงข้างกันตลอดที่ผ่านมา.-315 -สำนักข่าวไทย

“ทักษิณ” โพสต์น้อมรับคำพิพากษา

กรุงเทพฯ 9 ก.ย. – “ทักษิณ” โพสต์น้อมรับคำพิพากษา สำนึกในพระมหากรุณาธิคุณแห่งองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานอภัยลดโทษจำคุกคงเหลือเวลา 1 ปี พร้อมขอบคุณประชาชนที่ให้การสนับสนุน ทักษิณโพสต์ X ระบุ “พี่น้องประชาชนที่เคารพด้วยความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณแห่งองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ได้พระราชทานอภัยลดโทษจำคุกแก่ผมคงเหลือเวลา 1 ปี นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดไม่ได้ ต่อทั้งตัวผม และครอบครัว ผมขอน้อมรับและพร้อมเข้าสู่กระบวนการตามคำพิพากษาในวันนี้ ตลอดระยะเวลาของการทำหน้าที่นายกรัฐมนตรีตั้งแต่ปี 2544-2549 ผมพยายามผลักดันทุกนโยบายเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชน เปลี่ยนภูมิทัศน์ทางการเมืองของประเทศไทย ให้พรรคการเมืองแข่งขันกันด้วยนโยบาย สร้างประชาธิปไตยที่กินได้จากผลงานของรัฐบาลที่ทำได้จริง ซึ่งเป็นความภาคภูมิใจอย่างที่สุดในฐานะนักการเมืองจากการเลือกตั้งของประชาชน แม้ว่าทุกคดีจะเกิดขึ้นหลังการรัฐประหารรัฐบาลของผมเมื่อปี 2549 แต่วันนี้ผมขอมองไปข้างหน้า ให้ทุกอย่างที่ผ่านมามีข้อยุติ ทั้งการต่อสู้คดีตามกฎหมาย และความขัดแย้งใดๆ อันเกิดขึ้นหรือเกี่ยวข้องกับตัวผม ขอขอบคุณพี่น้องประชาชนที่ให้การสนับสนุนตลอดมา ขอบคุณนักการเมือง สมาชิกพรรคเพื่อไทย และเพื่อนมิตรทั้งหลายที่เคียงข้างกันทั้งในยามสุขและยามยาก ผมตัดสินใจเลือกทางเดินนี้ เพื่อส่งกำลังใจให้ทุกคนเดินไปข้างหน้า ทำงานเพื่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และประชาชน ด้วยอุดมการณ์และจิตวิญญาณที่เรามีร่วมกันมา จนกว่าจะถึงวันที่เราได้เดินร่วมทางกันอีกครั้ง จากวันนี้แม้ผมจะไร้อิสรภาพ แต่ยังมีเสรีภาพทางความคิดเพื่อประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชน ผมจะรักษาความเข้มแข็งทั้งร่างกายและจิตใจ เพื่อใช้เวลาในชีวิตที่เหลืออยู่ รับใช้สถาบันพระมหากษัตริย์ แผ่นดินไทย และประชาชนคนไทย […]