ทำเนียบฯ 7 พ.ย. – นายกฯ สั่งคมนาคมเร่งพัฒนาท่าเรือน้ำลึกแหลมฉบังเฟส 3 จ้องหาผู้สัมปทานเหมืองโปรแตสเซียมรายใหม่
นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า หลังจากนายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่ตรวจความคืบหน้าพัฒนาเขตอีอีซี สัปดาห์ที่ผ่านมา พบหลายปัญหา โดยเฉพาะการพัฒนาท่าเรือน้ำลึกแหลมฉบังเฟส 3 มีปัญหาการถมทะเลล่าช้า ทำให้ผู้รับเหมาเข้าไปสร้างท่าเรือไม่ได้ ทำให้โครงการพัฒนาท่าเรือแหลมฉบังเฟส 3 มีปัญหาล่าช้า นายกรัฐมนตรียังได้แต่ตั้งคณะกรรมการเร่งรัดการพัฒนาเขตอีอีซี โดยมีนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมเป็นประธาน เลขาธิการอีอีซี เป็นเลขานุการ หวังให้ทุกโครงการในเขตอีอีซี มีความคืบหน้า เนื่องจากนายกรัฐมนตรี ต้องออกเดินทางไปโรดโชว์ดึงนักลงทุนทั่วโลก เข้ามาขยายการลงทุน จึงอยากมีความคืบหน้าในการพัฒนาเขตอีอีซี เพื่อชี้แจงกับนักลงทุน
นายกรัฐมนตรี ยังสั่งการให้กระทรวงอุตสาหกรรม ศึกษาแนวทางยกระดับหน่วยงานให้เป็นระดับกรม เพื่อผลักดันการส่งออกสินค้าอาหารฮาราล เนื่องจากเป็นตลาดใหญ่มาก จึงต้องการให้มีหน่วยงานผลักดันอย่างเต็มที่ ด้วยการยกระดับเป็นกรม ได้หรือไม่ และยังมอบหมายให้ นายปานปรีย์ พหิทธานุกร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เร่งสรุป การทำสัญญา FTA แบบทวิภาคีกับประเทศคู่ค้าหลายประเทศ เพื่อขยายการค้ากับกลุ่มประเทศต่างๆมากขึ้น
นายกรัฐมนตรี ยังสั่งการให้กระทรวงอุตสาหกรรม ตรวจสอบบริษัทเอกชนผู้รับสัมปทาน 3 ราย ในการพัฒนาเหมืองแร่โปรแตชในภาคอีสาน ระยะเวลา 8 ปี แต่มีความคืบหน้าน้อยมาก ยังไม่สามารถขุดแร่ขึ้นมาใช้ประโยชน์ได้ พบหลายปัญหา ทั้งการขาดแคลนเงินทุน ปัญหามวลชนคัดค้าน จึงอยากให้หาช่องทางเพื่อนำแร่โปรแตช ขึ้นมาใช้ประโยชน์ เนื่องจากไทยมีแหล่งแร่โปรแตชขนาดใหญ่อันดับ 2 รองจากแคนนาดา.-สำนักข่าวไทย