กรุงเทพฯ 3 พ.ย.-นายกสมาคมชาวนาและเกษตรกรไทย เผยกลุ่มชาวนาทั่วประเทศสับสนมติ นบข.ออกมาไม่ตรงกับผลประชุมร่วมกับ ก.พาณิชย์ ต่อแนวทางช่วยเหลือชาวนา รับซื้อข้าวเปลือกเพื่อชะลอการขาย โดยเฉพาะดึงสหกรณ์เข้ามารับซื้อ เกรงมีปัญหาตามมา ชาวนาไม่ได้รับประโยชน์ใดๆ โดยตรง เสี่ยงการทุจริต และข้อความชัดเจนหน่วยงานไหนดูแลชาวนา
นายปราโมทย์ เจริญศิลป์ นายกสมาคมชาวนาและเกษตรกรไทยกล่าวว่า สมาชิกสมาคมชาวนาฯได้สอบถามกันมาเยอะมาก ว่าเกิดอะไรขึ้น จากการติดตามข่าวตามสื่อต่างๆ เห็นนายกรัฐมตรี ให้สัมภาษณ์ว่าจะช่วยชาวนาอย่างนั้นอย่างนี้ และเห็นรัฐมนตรีพาณิชย์ก็ออกมาให้ข่าว โดยหลังจากประชุมร่วมกันกับสมาคมชาวนาฯเมื่อวันที่ 30 ตุลาคม66 ได้แถลงข่าวว่ามี นโยบายมาตรการช่วยเหลือเกษตรกรต่างๆ แต่พอประชุม นบข. กลับหายเงียบไปเลยข่าวบอกว่ากลับไปพิจารณาใหม่ พิจารณาอะไรอื่นหรือจะมีอะไรออกมาก็ไม่รู้
“สรุปก็ยังงงว่าจะให้สหกรณ์จำนวน 400 หรือ 600 สหกรณ์ ออกมารับซื้อข้าวเปลือกเพื่อชะลอการขาย โดยที่ชาวนาก็งงว่ามายังไง สหกรณ์มี 4,000 สหกรณ์ แต่ แข็งแรงมีเพียง 600 สหกรณ์ ก็คิดเอาแล้วกันมีตั้ง 4,000 แข็งแรงแค่600 สหกรณ์ จะทำงานยังไง อยู่ในพื้นที่ๆข้าวออกหรือไม่ แล้วที่บอกว่าสหกรณ์เป็นของชาวนา ผมว่าอาจจะเข้าใจผิดเพราะเงินคนละกระเป๋ากัน ระมัดระวังเถอะ เพราะเดี๋ยวก็จะเกิดเรื่องแบบในอดีต เอาเข้าจริงๆสหกรณ์จะทำไหวหรือป่าว นี่ก็ได้ยินข่าวแว่วๆจริงเท็จประการใดยังไม่ยื่นยันว่าถ้าสหกรณ์ไม่ไหว อาจจะขอให้มีโรงสีเข้ามาร่วมรับเก็บข้าวเปลือกอีก ถ้าเป็นจริงมันก็วนกลับไปวงจรเดิม ”นายปราโมทย์กล่าว
อย่างไรก็ตาม จึงอยากออกมาบอกเตือนก่อน ว่าเรื่องแบบนี้อย่าหาทำเพราะชาวนาไม่ได้รับประโยชน์ใดๆโดยตรงเลย เสี่ยงกับการทุจริตและเสียค่าใช้จ่ายในการจัดการ แทนที่จะเอาค่าใช้จ่ายต่างๆนี้มาจ่ายให้กับเกษตรกรชาวนาไร่ละ 2,000 บาท หรือเพียงไร่ละ 1,000 บาทไม่เกิน 20 ไร่ ยังจะดีกว่า เกิดประโยชน์ต่อชาวนาโดยตรง และถึงมือชาวนาอย่างทั่วถึง ไม่ต้องไปยุ่งยากซับซ้อนเสียค่าใช้จ่ายรายทางจำนวนมาก ชาวนาจะได้เอาเงินส่วนนี้ไปเป็นค่าใช้จ่ายในการดูแลแปลงนา และค่าเก็บเกี่ยว รวมทั้งชาวนาก็ยังงงที่เห็นข่าวมีการประชุมที่กระทรวงเกษตร ว่าจะให้กระทรวงเกษตรฯดำเนินการเรื่องชะลอการขายแล้วที่ประชุมกระทรวงพาณิชย์และประชุม นบข.ที่ทำเนียบรัฐบาล ทำไมไม่คุยไม่ทำให้จบ แปลกจริงๆ ตามไม่ทันทั้งที่นั่งอยู่ใน คณะกรรมการ นบข.
อย่างไรก็ตาม สมาคมฯขอแจ้งให้พี่น้องชาวนาทราบว่าสมาคมชาวนาและเกษตรกรไทย ได้ทำอย่างเต็มที่แล้ว ซึ่งก็งงว่าทำไมไม่ออกมาตามที่หารือกันก่อนน่าที่จะมีการประชุม นบข. หวังว่าคงจะมีใครออกมาให้ความชัดเจนในเรื่องการให้ความช่วยเหลือเกษตรกรตามมาตรการที่กระทรวงพาณิชย์ได้หารือไว้กับสมาคมชาวนาและเกษตรกรไทย อย่าปล่อยให้ชาวนางง และที่งงขึ้นไปอีกคือกระทรวงไหนดูแล เห็นประชุมที่กระทรวงพานิชย์ที ประชุม นบข.ที นี่มาประชุมกระทรวงเกษตรอีก ยังไงเพราะอะไรที่เรื่องเดียวกันทำไมประชุมหลายที่มาก ไม่เข้าใจมากๆ ชะลอการขายคือข้าวหมดจากมือชาวนาไปแล้ว ข้าวหอมมะลิกลางเดือนธันวานี้ก็เกี่ยวจะหมดแล้ว สุดท้ายข้าวของชาวนาต้องไปอยู่กับคนอื่น ได้แค่ 500 บาท แถมไถ่ถอนก็ไม่ได้ ราคาดีจะขายก็ไม่ได้
“ข้าวก็เป็นของเรา สิทธิ์ก็เป็นของเรา กำไรกลับเป็นของคนอื่น ท่านช่วยชาวนาตรงไหน อย่าบอกนะว่ากำไรที่สหกรณ์ได้ ชาวนาก็ได้ด้วย จะได้ตรงไหนหรือ อย่าบอกนะได้จากกำไรปันผล นั่นมันของสหกรณ์ก็เรื่องของสหกรณ์ เงินมันคนละกระเป๋ากัน เวลาชาวนาขาดทุนใครช่วยชาวนา ทุกคนต่างกินดอกเบี้ยจากชาวนา ได้ผลกำไรก็จากชาวนา ถึงแม้ว่าจะเป็นแหล่งเงินกู้ แต่ชาวนาเราก็เสียดอกเบี้ยอยู่ดี การชะลอการขายชาวนาไม่ได้อะไรเลย เพราะข้าวไม่ได้อยู่ในยุ้งฉางของชาวนาเอง ผมในฐานะนายกสมาคมชาวนาและเกษตรกรไทย จึงจำเป็นจริงๆที่ต้องออกมาพูด ถามจริงเถอะความหวังต่างๆที่ท่านทั้งหลาย บอกกล่าวให้ชาวนาฟัง มันมีอยู่จริง จะเกิดขึ้นจริง ตามที่ท่านทั้งหลายพูดหรือไม่ ฉะนั้นอย่าเอาชาวนาเป็นทางผ่าน แล้วให้ประโยชน์ไปตกที่คนอื่น ที่ไม่ได้ทำนาเพื่อหาเลี้ยงชีพจริงๆอย่างพวกเราชาวนา“นายปราโมทย์กล่าว.-สำนักข่าวไทย