กรุงเทพฯ 1 พ.ย.- ประธานชมรมผู้เลี้ยงสุกรรายย่อยภาคอีสาน ขอกรมการค้าภายใน เสนอ กกร. ใช้กฎหมายแก้วิกฤติราคาสุกร เรื่องขายตามโครงสร้างต้นทุนอย่างจริงจัง ตามมติ Pig Board พร้อมให้ปิดห้องเย็น เร่งตรวจซุก “หมูเถื่อน”
นายเดือนเด่น ยิ้มแย้ม ประธานชมรมผู้เลี้ยงสุกรรายย่อยภาคตะวันออกเฉียงเหนือกล่าวว่า ได้ส่งเบาะแสเส้นทางหนึ่งของการลักลอบขนย้ายสินค้าเนื้อสุกรตั้งแต่การตรวจปล่อยสู่จุดจำหน่าย ให้แก่พันตำรวจตรี ณฐพล ดิษยธรรม ผู้อำนวยการศูนย์สอบสวนคดีอาญาพิเศษ หัวหน้าคณะพนักงานสอบสวน คดีพิเศษเลขที่ 59/2566 ซึ่งประชุมร่วมกันที่สำนักงานการแข่งขันทางการค้า (กขค.) โดยเป็นเส้นทางขนย้ายสำคัญที่เป็นสัดส่วนที่ใหญ่พอๆ กับกลุ่มขายตรงร้านอาหารและตลาดสด
สำหรับการประชุมเพื่อบูรณาการกับหลายหน่วยงานมีนายวิษณุ วงศ์สินศิริกุล เลขาธิการคณะกรรมการการแข่งขันทางการค้า (กขค.) เป็นประธาน ซึ่งเป็นการประชุมเพื่อติดตามแนวทางแก้ปัญหากลุ่มผู้เลี้ยงรายย่อยร้องว่า ถูกบริษัทใหญ่ค้าเอาเปรียบ โดยชมรมผู้เลี้ยงสุกรรายย่อยภาคตะวันออกเฉียงเหนือและชมรมผู้เลี้ยงสุกรนครปฐมได้ยื่นหนังสือต่อประธานกรรมการการแข่งขันทางการค้าเมื่อ 20 กันยายน 2566 ขอความอนุเคราะห์พิจารณาสั่งการแก้ไขปัญหาราคาสุกรตกต่ำ เนื่องจากกลุ่มเกษตรกรผู้เลี้ยงสุกรรายย่อยประสบปัญหาราคาสุกรมีชีวิตตกต่ำกว่าต้นทุนการผลิตมาเป็นระยะเวลานาน อันมีสาเหตุมาจากบริษัทผู้เลี้ยงสุกรรายใหญ่หลายบริษัทมีการขยายการดำเนินธุรกิจ รวมถึงมีการกำหนดราคาขายเนื้อสุกรในราคาต่ำกว่าโครงสร้างต้นทุนจนส่งผลกระทบต่อผู้เลี้ยงสุกรรายย่อย ตลอดจนปัญหาการลักลอบนำเข้าเนื้อสุกรแช่แข็งผิดกฎหมายเข้ามาขายในราคาต่ำ ทำให้เกษตรกรผู้เลี้ยงสุกรรายย่อยได้รับผลกระทบในการประกอบอาชีพเป็นอย่างมาก
ทั้งนี้สำนักงานคณะกรรมการการแข่งขันทางการค้าได้เชิญผู้ร้อง พร้อมกับหน่วยงานภาครัฐ ประกอบด้วย กรมสอบสวนคดีพิเศษ กรมปศุสัตว์ และกรมการค้าภายในเข้าให้ข้อมูลในเบื้องต้น แต่ยังไม่มีการเรียกผู้ประกอบการครบวงจรมาหารือเพื่อบูรณาการความร่วมมืออันจะเป็นประโยชน์ในการดำเนินการต่อไปในชั้นสอบสวน
ที่ประชุมให้ พ.ต.ต. ณฐพล ดิษยธรรม หัวหน้าพนักงานสอบสวนคดีพิเศษที่ 59/2566 สรุปคดีซึ่งมีความคืบหน้าอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดได้เข้าตรวจดำเนินคดีผู้กระทำผิดที่เขตดอนเมือง กรุงเทพมหานคร โดยมีเป้าหมายต่ออีก 14 จุด โดยจะมีการดำเนินคดีตามกฎหมายฟอกเงินเพิ่มเติม
ผู้แทนกรมการค้าภายในได้ให้รายละเอียดเกี่ยวกับมาตรการการดูแลของกรมฯ โดยกำกับดูแลผู้บริโภคให้ได้รับความเป็นธรรม และจัดการความสมดุล ผู้ผลิต ผู้ประกอบการอย่างสมดุลและเป็นธรรม ซึ่งผู้เลี้ยงรายย่อยได้แย้งในกรณีที่ผู้เลี้ยงสุกรขายขาดทุนต่อเนื่องยาวนาน โดยไม่มีการออกมาแก้ไขอย่างเร่งด่วนเพื่อให้ความเป็นธรรมแต่ประการใด โดยสมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติได่ยื่นแนวทางแก้ไขโดยใช้อำนาจ กกร.ตั้งแต่มิถุนายน 2566 จากความเสียหายที่เกิดขึ้นได้แก่
• ไตรมาสที่ 2 ปี 2566 ต้นทุนการเลี้ยงสุกรชนิดซื้อลูกอยู่ที่ประมาณ 96 บาทต่อกิโลกรัม แต่เกษตรกรขายได้ที่ประมาณ 60 บาทต่อกิโลกรัม หรือขาดทุน 3,600 บาทต่อตัว ทั้งระบบ 50,000 ตัวต่อ หรือขาดทุนวันละ 150 ล้านบาท หรือ 4,500 ล้านบาทต่อเดือน
• ไตรมาสที่ 3 ปี 2566 ต้นทุนการเลี้ยงสุกรชนิดซื้อลูกอยู่ที่ประมาณ 80 บาทต่อกิโลกรัม แต่เกษตรกรขายได้ที่ประมาณ 60 บาทต่อกิโลกรัม หรือขาดทุน 2,000 บาทต่อตัว ทั้งระบบ 50,000 ตัวต่อ หรือขาดทุนวันละ 100 ล้านบาท หรือ 3,000 ล้านบาทต่อเดือน
กลุ่มผู้เลี้ยงสุกรรายย่อยได้เปรียบเทียบแนวทางแก้ปัญหาราคาสุกรที่ตกต่ำ กับการแก้ปัญหาราคาข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ตกต่ำซึ่งปรากฏว่า เมื่อ 26 ตุลาคม 2566 ที่คณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ หรือ นบขพ. เร่งออกมาแก้ปัญหาราคาข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ตลอดจนกระทรวงพาณิชย์ออกหลายมาตรการทันที ช่วยพยุงราคาข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ให้อยู่ในระดับประมาณ 8.50-9.50 บาทต่อกิโลกรัม โดยปัจจุบันการเพาะปลูกข้าวโพดของชาวไร่ช้าวโพดมีต้นทุนต่อไร่ประมาณ 4,500-5,000 บาท ผลผลิตต่อไร่เฉลี่ย 720 กิโลกรัม หรือ 6.25-6.94 บาทต่อกิโลกรัม กระทรวงพาณิชย์อาจต้องพิจารณามาตรการอื่น ๆ เพิ่มเติม เช่น การให้เงินช่วยเหลือเกษตรกรโดยตรง หรือการกำหนดราคารับซื้อ ซึ่งการเป็นสินค้าควบคุมตามพระราชบัญญัติว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ.2542 เช่นเดียวกับสุกรและเนื้อสุกร ควรได้รับการกำกับดูแลให้เหมือนกัน
สำหรับมาตรการแก้ปัญหาที่กลุ่มผู้เลี้ยงสุกรรายย่อยเสนอตามมติ Pig Board เพื่อใช้แก้ปัญหาอย่างเร่งด่วนประกอบด้วย
1. ให้ใช้อำนาจตาม พระราชบัญญัติว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ 2542 มาตรา 25 (1) (2) (4) กำหนดราคาซื้อหน้าฟาร์มไม่ต่ำกว่าต้นทุนการผลิตที่ 80 บาทต่อกิโลกรัม ทั่วราชอาณาจักร เป็นระยะเวลา 90 วัน เพื่อลดการขาดสภาพคล่องกระแสเงินสด กับฟาร์มสุกรทั่วประเทศ
2. ระงับการปล่อยสินค้าหมูแช่แข็งจากห้องเย็นเป็นระยะเวลา 90 วัน หลังจากนั้นค่อยๆ ทะยอยออกเริ่มจาก 5-10% และดูปริมาณซับพลายในตลาดประกอบ
3. ระยะเวลา 90 วันของการปิดห้องเย็นขอให้ กรมปศุสัตว์และกรมการค้าภายในพร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าตรวจเพื่อกวาดล้างกระบวนการนำเข้าสุกรที่ไม่ได้รับอนุญาตให้หมดสิ้นไป
ที่ประชุมร่วมได้มอบหมายให้ชมรมผู้เลี้ยงสุกรรายย่อยภาคตะวันออกเฉียงเหนือทำรายละเอียดให้กรมการค้าภายในเพื่อเสนอต่อที่ประชุมที่กรมปศุสัตว์ในวันที่ 3 พฤศจิกายน 2566 ขอให้กรมการค้าภายในใช้อำนาจ กกร. เพื่อแก้ไขวิกฤติราคาให้ผู้เลี้ยงสุกรทั้งประเทศอย่างเร่งด่วน.-สำนักข่าวไทย
