เงินเฟ้อไทยต่ำหนุนติดโผประเทศน่าอยู่ของต่างชาติวัยเกษียณ

นนทบุรี 1 พ.ย.-สนค. ชี้เงินเฟ้อไทยต่ำ หนุนติดโผประเทศน่าอยู่ของต่างชาติวัยเกษียณ เห็นชัดตัวเลขอัตราเงินเฟ้อล่าสุด ก.ย.66 เทียบกับ ก.ย.65 สูงขึ้นเพียงร้อยละ 0.30 และเฉลี่ย 9 เดือนของปี 2566 เทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2565 สูงขึ้นเพียง 1.85 เท่านั้น

นายพูนพงษ์ นัยนาภากรณ์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) เปิดเผยถึงแนวโน้มสังคมสูงวัยที่กำลังเกิดขึ้นในหลายประเทศทั่วโลก ทำให้ความต้องการใช้ชีวิตหลังเกษียณในต่างประเทศได้รับความสนใจมากขึ้น โดยประเทศไทยเป็นอีกประเทศหนึ่งที่ได้รับการจัดอันดับประเทศน่าอยู่สำหรับชาวต่างชาติวัยเกษียณเนื่องจากค่าครองชีพไม่สูง และคาดว่าเงินเฟ้อในปีนี้จะชะลอตัวอย่างชัดเจนเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา โดยตัวเลขอัตราเงินเฟ้อล่าสุดเดือนกันยายน 2566 เทียบกับเดือนกันยายน 2565 สูงขึ้นเพียงร้อยละ 0.30 และเฉลี่ย 9 เดือน(มกราคม – กันยายน) ปี 2566 เทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2565 สูงขึ้นเพียง 1.85 ซึ่งอัตราเงินเฟ้อของไทยที่อยู่ระดับดังกล่าว จะเป็นจุดดึงดูดให้ชาวต่างชาติมาใช้ชีวิตวัยเกษียณที่ประเทศไทยมากขึ้น ซึ่งจะช่วยสร้างรายได้ให้ภาคธุรกิจที่เกี่ยวข้อง และสร้างมูลค่าเพิ่มในภาคบริการของไทยให้สามารถแข่งขันได้ในเวทีระดับโลกต่อไป 


จากรายงานขององค์การสหประชาชาติ (United Nations : UN) ปี 2565 พบว่า ประชากรในหลายประเทศทั่วโลกกำลังมีอายุสูงขึ้น โดยประชากรโลกที่มีอายุ 65 ปีขึ้นไป มีจำนวนกว่า 770 ล้านคน หรือคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 9.7 ของประชากรโลก และอีก 27 ปีข้างหน้า (พ.ศ. 2593) จะมีผู้สูงอายุเพิ่มขึ้นเกือบ 1,600 ล้านคน หรือมีสัดส่วนเพิ่มขึ้นร้อยละ 16.4 จากโครงสร้างประชากรที่เปลี่ยนไป ดังนั้นแนวคิดการใช้ชีวิตวัยเกษียณในต่างประเทศจึงได้รับความสนใจมากขึ้น 

ทั้งนี้ ประเทศไทยเป็นประเทศหนึ่งที่ได้รับความสนใจ และอยู่ในกลุ่มประเทศน่าอยู่สำหรับวัยเกษียณ ซึ่งมีการจัดอันดับจากองค์กรสื่อของต่างประเทศ โดยมีผลการจัดอันดับล่าสุดในปี 2566 อาทิ ดัชนีเกษียณอายุโลก (Annual Global Retirement Index 2023) ที่จัดทำและเผยแพร่ทุกปีโดย International Living ซึ่งเป็นสื่อสัญชาติสหรัฐอเมริกา พบว่า ประเทศไทย เป็นประเทศเดียวในทวีปเอเชียที่ได้รับการจัดอันดับ โดยอยู่อันดับ 9 ร่วมกับประเทศอิตาลี จาก 16 ประเทศ สำหรับประเทศที่เหมาะสำหรับการใช้ชีวิตวัยเกษียณมากที่สุด 5 อันดับแรก ได้แก่โปรตุเกส เม็กซิโก ปานามา เอกวาดอร์ และคอสตาริกา ทั้งนี้ ผลการจัดอันดับคะแนนด้านค่าครองชีพตั้งแต่ปี 2564 – 2566 ของไทย ปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง หรืออาจกล่าวได้ว่า ค่าครองชีพของไทยลดน้อยลง ในส่วนของการจัดทำดัชนีฯ ดังกล่าว พิจารณาจากปัจจัย 7 ด้าน ได้แก่ ที่พักอาศัย การขอวีซ่าและสิทธิประโยชน์ ค่าครองชีพ สภาพภูมิอากาศ สาธารณสุข การพัฒนา/หลักธรรมาภิบาล และความคิดเห็นจากกลุ่มลูกค้าและบุคลากรอาวุโสขององค์กร


อย่างไรก็ตาม การจัดอันดับประเทศที่น่าอยู่ที่สุดสำหรับวัยเกษียณ (Best Countries for a Comfortable Retirement 2023) ที่จัดทำและเผยแพร่ทุกปีโดย U.S. News and World Report สื่อสัญชาติสหรัฐอเมริกา พบว่าประเทศไทย เป็นประเทศที่ได้รับการจัดอันดับสูงสุดในทวีปเอเชีย โดยอยู่อันดับที่ 18 จาก 87 ประเทศ สำหรับประเทศที่ได้รับการจัดอันดับสูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ สวิตเซอร์แลนด์ โปรตุเกส ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ และสเปน ทั้งนี้ ผลการจัดอันดับคะแนนด้านค่าครองชีพตั้งแต่ปี 2562 – 2566 ของไทย มีคะแนนอยู่ในระดับสูงอย่างต่อเนื่อง ในส่วนของการจัดอันดับฯ ดังกล่าว พิจารณาจากปัจจัย 7 ด้าน ได้แก่ ระดับค่าใช้จ่ายในการดำรงชีวิต นโยบายภาษี ความเป็นมิตร สภาพภูมิอากาศ การเคารพกรรมสิทธิ์ในทรัพย์สิน ระบบสาธารณสุข และความคิดเห็นของผู้ตอบแบบสำรวจเกี่ยวกับประเทศที่ตนเห็นว่าน่าอยู่อาศัย

นอกจากนี้ เมื่อพิจารณาคะแนนที่ประเทศไทยได้รับในปัจจัยคัดเลือกของทั้ง 2 องค์กร ชี้ว่า คุณสมบัติที่โดดเด่นที่สุดของประเทศไทยคือ “ระดับค่าใช้จ่ายในการดำเนินชีวิตที่ไม่สูงมากนักในทรรศนะของต่างชาติ” สะท้อนจากคะแนนหมวดค่าครองชีพของ International Living และหมวดระดับค่าใช้จ่ายในการดำรงชีวิตของ U.S. News and World Report ที่สูงที่สุดเมื่อเทียบกับเกณฑ์ทั้งหมด อีกทั้งยังเป็นหมวดที่ประเทศไทยได้รับคะแนนค่อนข้างสูงมากตลอด

ทั้งนี้ การจัดอับดับในช่วง 2 – 3 ปี ที่ผ่านมา ส่วนหนึ่งคาดว่าเป็นผลจากระดับราคาสินค้าและบริการ ซึ่งสะท้อนผ่านดัชนีราคาผู้บริโภคหรือเครื่องชี้วัดค่าครองชีพของไทย ที่การเคลื่อนไหวไม่ผันผวนมากนักเมื่อเทียบกับ 21 ประเทศ อาทิ โปรตุเกส สเปน อิตาลี ที่ได้รับการจัดอันดับกลุ่มประเทศน่าอยู่สำหรับวัยเกษียณเช่นกัน ทั้งนี้ ข้อมูลอัตราเงินเฟ้อของไทยเมื่อเทียบกับต่างประเทศ เดือนล่าสุด (สิงหาคม 2566) พบว่า ประเทศไทยยังอยู่ในกลุ่มประเทศที่มีอัตราเงินเฟ้ออยู่ในระดับต่ำ และยังคงต่ำที่สุดในอาเซียนต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 6 จาก 7 ประเทศที่ประกาศตัวเลข (ไทยมาเลเซีย เวียดนาม อินโดนีเซีย สิงคโปร์ ฟิลิปปินส์ และสปป.ลาว)


นอกจากภูมิทัศน์ของประเทศที่สวยงาม วัฒนธรรมที่สืบสานกันมายาวนาน ความเป็นมิตร และความมีน้ำใจของคนไทยแล้ว ระดับค่าครองชีพที่ไม่สูงมาก ยังเป็นจุดขายที่ชาวต่างชาติสนใจมาวางแผนเกษียณที่ประเทศไทยมากขึ้นและด้วยมาตรการช่วยเหลือดูแลค่าครองชีพของภาครัฐ ตลอดจนการดำเนินนโยบายการเงินของธนาคารแห่งประเทศไทยให้สอดรับกับภาวะเศรษฐกิจ ทำให้สถานการณ์เงินเฟ้อปีนี้ชะลอตัวอย่างชัดเจนเมื่อเทียบกับ

ปีที่ผ่านมา ซึ่งจะช่วยสนับสนุนและดึงดูดการเป็นหมุดหมายของกลุ่มผู้สูงวัยต่างชาติให้เข้ามาพำนักในประเทศระยะยาว และหากสามารถดึงกลุ่มที่มีกำลังซื้อสูงได้ จะเป็นโอกาสสำคัญในการสร้างรายได้ให้ภาคธุรกิจที่เกี่ยวข้อง อาทิธุรกิจสุขภาพ การแพทย์การท่องเที่ยว อาหาร และอสังหาริมทรัพย์ ตลอดจนช่วยสร้างมูลค่าเพิ่มในภาคบริการให้สูงขึ้น เพื่อรักษาความได้เปรียบทางการแข่งขันในเวทีโลกในระยะต่อไป.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

car blocked hydrant delaying Thai temple fire control in New York

เปิดภาพรถจอดขวางหัวจ่ายน้ำดับเพลิงในเหตุไฟไหม้วัดไทย

นิวยอร์ก 13 ก.พ. – หน่วยงานดับเพลิงในนครนิวยอร์กโพสต์ภาพรถยนต์ที่จอดกีดขวางหัวจ่ายน้ำดับเพลิง เป็นเหตุให้เกิดความล่าช้าในการดับไฟไหม้วัดไทยในเขตบรองซ์ของนครนิวยอร์ก ที่เกิดขึ้นเมื่อเช้าวานนี้ตามเวลาท้องถิ่น พร้อมกับเปิดเผยสาเหตุที่ทำให้เกิดไฟไหม้ นายโรเบิร์ต เอส. ทักเกอร์ ผู้อำนวยการสำนักงานดับเพลิงนิวยอร์กหรือเอฟดีเอ็นวาย (FDNY) โพสต์ในแพลตฟอร์มเอ็กซ์ (X) แสดงความเสียใจกับเหตุไฟไหม้ในเขตบรองซ์ และขอบคุณสภากาชาดและหน่วยงานฉุกเฉินที่ช่วยเหลือผู้ประสบภัย พร้อมกับโพสต์ภาพรถยนต์ที่จอดกีดขวางหัวจ่ายน้ำดับเพลิง โดยระบุว่า นับเป็นครั้งที่ 2 ในรอบ 3 วันที่เจ้าหน้าที่ดับเพลิงประสบปัญหาหัวจ่ายน้ำดับเพลิงถูกกีดขวาง และครั้งนี้เป็นหัวจ่ายน้ำดับเพลิงที่อยู่ตรงข้ามกับอาคารที่เกิดไฟไหม้ วินาทีที่มีค่าต้องสูญเปล่าเพราะยวดยานที่จอดกีดขวางหัวจ่ายน้ำดับเพลิงอย่างผิดกฎหมาย เรื่องนี้เป็นยิ่งกว่าการทำผิดกฎหมาย เพราะเป็นเรื่องของความเป็นความตาย ด้านเอฟดีเอ็นวายโพสต์เอ็กซ์ว่า เหตุไฟไหม้วัดอุษาพุฒยาราม เมื่อราว 06.00 น. วานนี้ตามเวลาท้องถิ่น ทวีความรุนแรงจากการเตือนภัยระดับ 2 เป็นระดับ 3 เจ้าหน้าที่มากกว่า 40 หน่วย รวม 150 นาย พยายามควบคุมไฟที่ไหม้ 2 อาคาร แต่น่าเสียใจที่มีผู้เสียชีวิต 2 คน มีรถยนต์คันหนึ่งจอดกีดขวางหัวจ่ายน้ำดับเพลิงซึ่งอยู่ใกล้ที่เกิดเหตุที่สุด และเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นหลายครั้งในช่วงไม่นานมานี้ เอฟดีเอ็นวายโพสต์ในเวลาต่อมาว่า เหตุไฟไหม้ดังกล่าวเป็นอุบัติเหตุที่เกิดจากเครื่องทำความร้อนแบบพกพาสัมผัสกับวัสดุที่ติดไฟง่าย พร้อมกับย้ำว่า […]

ปลอดภัยแล้ว นร.ถูกเก๋งฝ่าไฟแดงพุ่งชนขณะข้ามทางม้าลาย

รถเก๋งฝ่าไฟแดงชนนักเรียนขณะข้ามทางม้าลายหน้าโรงเรียนดัง คนขับอ้างไม่ใช่คนพื้นที่ มัวมองดู GPS ส่วนน้องนักเรียนปลอดภัยแล้ว

ภูมิใจไทยวอล์กเอาต์

ประชุมร่วมรัฐสภา วุ่นตั้งแต่เริ่ม “ภท.” วอล์กเอาต์ยกพรรค

“ภูมิใจไทย” วอล์กเอาต์ยกพรรคตั้งแต่เริ่มถกแก้ รธน. “ไชยชนก” บอกขัดต่อคำวินิจฉัยศาล ด้าน “หมอเปรม” โร่เสนอญัตติด่วนขอให้ศาล รธน.ตีความก่อน ลั่น เป็นคนมีวุฒิภาวะ-ทำอะไรรอบคอบ บรรจงเขียนอย่างสุดยอดในชีวิต ทำ “ณัฐวุฒิ” โวยยังไม่เห็นเอกสาร สุดท้ายประธาน “วันนอร์” สั่งพักประชุม 15 นาที

ข่าวแนะนำ

มือฆ่า 3 ศพ ขอโทษในสิ่งที่ทำลงไป ยันไม่ได้ยิงเด็ก แต่ปืนลั่น

มือฆ่า 3 ศพ เปิดปากครั้งแรก ขอโทษในสิ่งที่ทำลงไป รู้ว่าไม่สมควร ยืนยันไม่ได้ยิงเด็ก แต่ปืนลั่นเพราะแม่เด็กยื้อแย่งปืน

จับแล้วหนุ่มใช้ค้อนทุบหัวเพื่อนรุ่นพี่เสียชีวิต

ตำรวจ สภ.พระนครศรีอยุธยา รวบตัว “นายก๊อง” ได้แล้ว หลังก่อเหตุใช้ค้อนทุบหัวเพื่อนรุ่นพี่จนเสียชีวิต เมื่อกลางดึกคืนที่ผ่านมา

ตร.ออกหมายจับชายชาวจีน คดีสาวเอ็นฯ ดับปริศนา

ตำรวจออกหมายจับชายชาวจีน คดีสาวเอ็นฯ เสียชีวิตปริศนาในโรงแรม พบเข้าไทยถูกกฎหมาย ชุดสืบฯ เตรียมรวบตัวเร็วๆ นี้ หลังพบพิกัดยังอยู่ในพื้นที่ กทม. เบื้องต้นทราบว่าเจ้าตัวไม่พร้อมเข้าสู่กระบวนการทางกฎหมาย

ผู้ช่วย รมต.จีน บินลงพื้นที่แม่สอด เตรียมรับคนจีนกลับประเทศ

นายหลิว จงอี ผู้ช่วยรัฐมนตรีจีน บินลงพื้นที่ อ.แม่สอด จ.ตาก เตรียมข้ามฝั่งพบ รมต.มหาดไทยของเมียนมา รับคนจีนกลับประเทศจีน