fbpx

ผู้ส่งออกข้าวประเมินข้าวไทยส่งออกดีถึงต้นปีหน้า

กรุงเทพฯ 31 ต.ค.-สมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย ยังมั่นใจความต้องการข้าวไทยในตลาดโลกยังสูงต่อเนื่องไปจนถึงต้นปีหน้า หลังอินเดียยังประกาศใช้นโยบายจำกัดการส่งออกข้าวอยู่ มั่นใจปีนี้ตัวเลขส่งออกข้าวไทยพุ่งถึง 8 ล้านตัน


สมาคมผู้ส่งออกข้าวไทยได้รายงานถึงตัวเลขการส่งออกข้าวในเดือนกันยายน 2566 มีปริมาณ 807,776 ตัน มูลค่า17,220 ล้านบาท โดยปริมาณเพิ่มขึ้น 26.5% และมูลค่าเพิ่มขึ้น 48.1% เมื่อเทียบกับเดือนสิงหาคม 2566 ที่มีปริมาณ630,567 ตัน มูลค่า 12,953 ล้านบาท เนื่องจากในเดือนกันยายน 2566 การส่งออกข้าวนึ่งและกลุ่มปลายข้าวมีปริมาณเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน 

เนื่องจากผู้นำเข้ายังคงเร่งนำเข้าข้าวเพื่อชดเชยสตอกในประเทศที่ลดลงและสำรองไว้ใช้ในช่วงเทศกาลปลายปีนี้ท่ามกลางภาวะอุปทานข้าวในตลาดโลกที่ยังตึงตัวจากมาตรการจำกัดการส่งออกข้าวของอินเดียที่คาดว่าจะยังคงมีผลไปจนถึงต้นปี 2567 เป็นอย่างน้อย ทำให้ผู้ซื้อต้องหันมาซื้อข้าวไทยมากขึ้น โดยการส่งออกข้าวนึ่งมีปริมาณ236,120 ตัน เพิ่มขึ้น 190.5 เมื่อเทียบกับเดือนก่อน โดยส่งไปยังตลาดหลัก เช่น แอฟริกาใต้ เบนิน เยเมน เป็นต้น 


ขณะที่การส่งออกข้าวขาวมีปริมาณ 349,709 ตัน ลดลง 7.5% เมื่อเทียบกับเดือนก่อน โดยยังคงส่งไปยังตลาดหลักเช่น อินโดนีเชีย มาเลเชีย อิรัก แองโกล่า ญี่ปุ่น ซิมบับเว แอฟริกาใต้ เบนิน โมชัมบิก เป็นต้น ส่วนการส่งออกข้าวหอมมะลิ (ต้นข้าว) ปริมาณ 107.678 ตัน ลดลง 0.4% เมื่อเทียบกับเดือนก่อน โดยส่งไปยังตลาดหลัก เช่น สหรัฐฯแคนาดา ฮ่องกง สิงคโปร์ จีน เป็นต้น

สมาคมฯคาดว่าในเดือนตุลาคม 2566 ปริมาณส่งออกข้าวจะอยู่ที่ระดับประมาณ 800,000 ตัน เนื่องจากผู้ส่งอกมีสัญญาส่งมอบข้าวที่ยังค้างอยู่เป็นจำนวนมาก ประกอบกับผู้นำเข้าที่สำคัญในกลุ่มอาเชียน เช่น อิน โดนีเชีย มาเลเชียรวมทั้งตลาดประจำในภูมิภาคแอฟริกา ตะวันออกกลาง และอเมริกา ยังคงเร่งนำเข้าข้าวอย่างต่อเนื่องทั้งข้าวขาว ข้าวนึ่ง และข้าวหอม เพื่อบรรเทาภาวะอุปทานข้าวในประเทศที่ลดลง และปัญหาขาดแคลนข้าวที่ส่งผลกระทบต่อราคาข้าวในประเทศที่สูงขึ้นรวมทั้งมีการเก็บสำรองไว้ใช้ในช่วงเทศกาลปลายปี ในขณะที่อุปทานข้าวในตลาดโลกยังอยู่ในภาวะตึงตัว ประกอบกับวงการค้าคาดว่ารัฐบาลอินเดียจะยังคงมาตรการควบคุมการส่งออกข้าวต่อไปจนถึงช่วงเลือกตั้งทั่วไปที่จะเกิดขึ้นในปี 2567 ทำให้ผู้ซื้อต้องหันไปชื่อข้าวจากแหล่ง

ทั้งนี้ ราคาข้าวไทยในช่วงนี้มีแนว โน้มอ่อนตัวลงตามภาวะตลาดที่อุปทานข้าวฤดูใหม่เริ่มออกสู่ตลาดมากขึ้นประกอบกับค่าเงินบาทที่ยังอยู่ในระดับที่เอื้ออำนวยต่อการส่งออกส่งผลให้ข้าวไทยสามารถแข่งขันได้ โดยข้าวขาว 5% ของไทย ณ วันที่ 25 ตุลาคม 2566 อยู่ที่ 586 เหรียญสหรัฐฯต่อตัน ขณะที่ราคาของเวียดนาม และปากีสถานอยู่ที่ 643-647 และ 563-567เหรียญสหรัฐฯต่อตัน ตามลำดับ ส่วนราคาข้าวนึ่งไทยอยู่ที่ 586 เหรียญสหรัฐฯต่อต้น ขณะที่ข้าวนึ่งอินเดีย และปากีสถานอยู่ที่ 508-512 และ 536-540 เหรียญสหรัฐฯต่อต้นอื่นแทน


นอกจากนี้ จากข้อมูลของกรมศุลกากร การส่งออกข้าวในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2566 (มกราคม-กันยายน 2566) มีปริมาณ 6,082,136 ตัน มูลค่า 117,589.6 ล้านบาท (3443.2 ล้านเหรียญสหรัฐฯ) โดยปริมาณเพิ่มขึ้น 12.3% และมูลค่าเพิ่มขึ้น 23.3% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2565 ที่ส่งออกปริมาณ 5,418,237 ตัน มูลค่า 95,358.5 ล้านบาท (2,799.9 ล้านเหรียญสหรัฐฯ) ดังนั้น เวลาที่เหลือของปีนี้ คาดว่าตัวเลขการส่งวออกข้าวไทยจะเกินกว่า 8 ล้านตันได้แน่นอน.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ตั้ง กก.สอบปมโรงพักมีบริการเหมือนห้องพักโรงแรม

สั่งตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริง ปมโรงพักให้ผู้ต้องขังใช้โทรศัพท์-WiFi เพียงจ่ายให้ตำรวจ 100 บาท ชาร์จแบตชั่วโมงละ 30 บาท พร้อมบริการอื่นเหมือนโรงแรม

“เสรีพิศุทธ์” ถอนตัวร่วมรัฐบาลเพื่อไทย รับน้อยใจ “ทักษิณ” ไม่เห็นหัว

“เสรีพิศุทธ์” ทิ้งบอมบ์ แถลงถอนตัวร่วมรัฐบาลเพื่อไทย รับน้อยใจ “ทักษิณ” ไม่เห็นหัว ทั้งที่รับปากตอบแทนบุญคุณเป็นพันครั้ง ประกาศเปิดศึกงัดหลักฐานแชทไลน์มัดตัว ยันเดินทางไปพบที่ชั้น 14 รพ.ตำรวจ 2 ครั้ง พร้อมให้ข้อมูล ป.ป.ช. เอาผิดกระบวนการอุ้ม “แม้ว”

ข่าวแนะนำ

ซูเปอร์ไต้ฝุ่น “ยางิ” ทำเวียดนามเสียชีวิตแล้ว 4 ราย

ฮานอย 8 ก.ย.- ซูเปอร์ไต้ฝุ่นยางิ (Yagi) ซึ่งเป็นพายุที่มีความรุนแรงที่สุดในเอเชียในปีนี้ ได้ก่อให้เกิดความเสียหายอย่างร้ายแรงในเวียดนามตอนเหนือเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา โดยมีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 4 ราย และได้รับบาดเจ็บอีก 78 ราย ทางการเวียดนามแจ้งว่า เมื่อวลา 17:00 น. วันเสาร์ตามเวลาท้องถิ่น มีผู้เสียชีวิตแล้ว 4 ราย และได้รับบาดเจ็บ 78 ราย  นอกจากนี้ยังมีผู้สูญหายในทะเลอีกอย่างน้อย 12 คน หลังจากคร่าชีวิตผู้คนไปแล้วอย่างน้อย 2 รายในมณฑลไห่หนาน หรือไหหลำของจีน และ 16 รายในฟิลิปปินส์ ซึ่งเป็นประเทศแรกที่ได้รับผลกระทบ หลังจากไต้ฝุ่นก่อตัวขึ้นทางตะวันออกของฟิลิปปินส์เมื่อไม่กี่วันก่อน ซูเปอร์ไต้ฝุ่นยางิขึ้นฝั่งทางตอนเหนือของเวียดนามประมาณ 13:00 น. วันเสาร์ตามเวลาท้องถิ่น โดยมีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางที่ 160 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ลดลงจากที่สูงสุดที่ 234 กิโลเมตรต่อชั่วโมงขณะกระหน่ำไหหลำเมื่อวันก่อน ไต้ฝุ่นยางิเป็นคำภาษาญี่ปุ่น แปลว่า แพะและกลุ่มดาวราศีมังกร เมืองไฮฟอง ซึ่งเป็นเมืองชายฝั่งและศูนย์กลางอุตสาหกรรมที่มีประชากร 2 ล้านคน และมีโรงงานจากบริษัทต่างชาติและผู้ผลิตรถยนต์ท้องถิ่นวินฟาสต์ (VinFast) […]

ภาคเหนือ-อีสาน-ใต้ฝั่งตะวันตก ฝนหนักมากบางแห่ง

กรมอุตุฯ เตือนฝนตกหนักมากบางแห่ง บริเวณภาคเหนือ อีสาน และภาคใต้ฝั่งตะวันตก ระวังน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก ส่วนกรุงเทพฯ และปริมณฑล ฝนฟ้าคะนอง60% ของพื้นที่

ผลกระทบพายุยางิ

ทิศทางพายุ “ยางิ” กับผลกระทบไทย

หลังจากพายุ “ยางิ” ที่คาดว่าจะขึ้นฝั่งเวียดนามที่เมืองไฮฟองในวันนี้ ส่งผลกระทบรุนแรง มีทั้งสภาพฝนตกหนักลมแรง ส่วนจะเกิดผลกระทบกับไทยอย่างไรบ้าง พูดคุยกับว่าที่ร้อยตรี ธนะสิทธิ์ เอี่ยมอนันชัย รองอธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา

เตือนเตรียมรับน้ำล้นตลิ่ง

สทนช.เตือนเตรียมรับมือแม่น้ำโขงล้นตลิ่ง 7-12 ก.ย.นี้

สทนช. เตือนน้ำในแม่น้ำโขงอาจจะเพิ่มสูงขึ้นอีก ช่วง 7-12 ก.ย.นี้ เนื่องจากฝนตกหนักในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคอีสานตอนบน และ สปป ลาว ขอให้เตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์น้ำล้นตลิ่งและท่วมขังในพื้นที่ลุ่มต่ำ