ทำเนียบฯ 24 ต.ค. – นายกฯ กำชับทุกหน่วยงานถอนรากถอนโคนลักลอบนำเข้าหมูเถื่อน ทำลายระบบเลี้ยงในประเทศ ขู่ยึดทรัพย์ด้วยกฎหมาย ปปง. เอาผิดเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้อง
นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายกรัฐมนตรี ประชุมกับหลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในช่วงวันหยุด ทั้งกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กรมปศุสัตว์ กรมศุลกากร ธ.ก.ส. กำชับการปราบปรามการลักลอบและหลีกเลี่ยงนำเข้าหมูเถื่อน ตามแนวชายแดนและท่าเรือขนาดใหญ่ นับว่าทุกหน่วยงานให้ความร่วมมืออย่างดี หากหน่วยงานใดไม่สนองนโยบายรัฐบาล คงมีแนวทางปรับเปลี่ยนโยกย้าย เพื่อให้ทุกหน่วยงานแก้ปัญหาอย่างจริงจัง
“บทลงโทษตามกฎหมายของกรมศุลกากร ไม่หนักเท่าที่ควร ทำให้ผู้กระทำผิดไม่เกรงกลัวกฎหมาย จึงอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งรัดดำเนินคดีกับผู้นำเข้าสุกรสำแดงนำเข้าเป็นเท็จ เมื่อรู้ตัวการนำเข้าเป็นตู้คอนเทนเนอร์ขนาดใหญ่ ทำไมจึงจับกุมได้ล่าช้า และอยากให้ใช้กฎหมายอื่นเข้าลงโทษ โดยเฉพาะการนำกฎหมาย ปปง. มาใช้ยึดทรัพย์ผู้กระทำผิด” นายชัย กล่าว
นายพันธ์ทอง ลอยกุลนันท์ โฆษกกรมศุลกากร เปิดเผยว่า นายกรัฐมนตรี สั่งการให้กรมศุลกากร เร่งจัดส่งเนื้อและชิ้นส่วนสุกรที่เป็นของกลาง 161 ตู้ ส่งมอบให้กรมปศุสัตว์นำไปทำลาย และปราบปรามการลักลอบหลีกเลี่ยงนำเข้าเนื้อสุกรเชิงรุก ขณะนี้ตู้เก็บความเย็นอายัดไว้ในท่าเรือแหลมฉบัง 92 ตู้ ได้เปิดสำรวจเรียบร้อยแล้ว พบเป็นเนื้อและเครื่องในสุกรจากประเทศบราซิล เนเธอแลนด์ และเกาหลีใต้ 13 ตู้ น้ำหนักรวม 343,070 กิโลกรัม และสินค้าเกษตรอื่นๆ เช่น ชิ้นส่วนไก่ เนื้อและเครื่องในโคกระบือ 79 ตู้ น้ำหนักรวม 2.216 ล้านกิโลกรัม ได้ประสานกับกรมปศุสัตว์ เพื่อส่งมอบและนำไปทำลายตามนโยบายของนายกรัฐมนตรี
ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งรัดการดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิด และให้พนักงานสอบสวนส่งให้สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) เพื่ออายัดทรัพย์สินผู้กระทำความผิด หากมีข้อมูลเชื่อมโยงการนำเข้าซากสุกรมาจากการสำแดงเท็จในใบขนสินค้าฉบับใด ผู้ใดเป็นผู้นำของเข้า กรมศุลกากรจะระงับการปฏิบัติพิธีการศุลกากรผู้นำเข้ารายนั้นทันที และเอาผิดเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดตามกฎหมายอย่างถึงที่สุด.-สำนักข่าวไทย