คุมบัตรเครดิตลดการก่อหนี้กลุ่มเจนวาย

กรุงเทพ ฯ 10 ก.ค. – ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดมาตรการควบคุมบัตรเครดิตของธปท.ลดความร้อนแรงการก่อหนี้ของกลุ่มเจนวาย 


 นายเชาว์ เก่งชน กรรมการผู้จัดการ ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด กล่าวถึงกรณีที่มีข่าวว่าธนาคารแห่งประเทศไทย ( ธปท. ) เตรียมออกประกาศจำกัดเพดานวงเงินสินเชื่อที่ไม่มีหลักประกันทุกประเภท ว่า คงต้องรอรายละเอียดที่ชัดเจนจากธปท.  แต่เชื่อว่าการปรับเกณฑ์ดังกล่าว น่าจะช่วยให้การก่อหนี้ที่ไม่มีหลักประกัน เช่น บัตรเครดิต บัตรกดเงินสด ขยายตัวในอัตราที่ชะลอลง ไม่ร้อนแรงเกินไป โดยเฉพาะในกลุ่มคนรุ่นใหม่ หรือ เจนวาย ที่ธปท. ห่วงว่ากลุ่มคนรุ่นใหม่มีการใช้จ่ายเกินตัวอาจจะกลายเป็นหนี้เสียติดเครดิตบูโรตั้งแต่อายุยังน้อย 

“ ธปท. คงเห็นว่าสินเชื่อบัตรเครดิต สินเชื่อส่วนบุคคล เป็นสินเชื่อเพื่อการบริโภค ไม่ใช่สินเชื่อเพื่อธุรกิจ จึงไม่เป็นปัญหาต่อภาคธุรกิจ ดังนั้นผู้ปล่อยสินเชื่อควรคำนึงถึงปัญหาการก่อหนี้ของผู้บริโภคเป็นหลัก ขณะที่ผู้บริโภคก็ควรระมัดระวังการก่อหนี้มากขึ้น เพราะไม่ได้ห้ามไม่ให้ก่อหนี้เลย” นายเชาว์ กล่าวว่า


นายเชาว์ กล่าวว่า ที่ผ่านมาสถาบันการเงินมีหลักเกณฑ์การอนุมัติสินเชื่อบุคคล และ บัตรเครดิตแตกต่างกัน  ที่ส่วนใหญ่มีความเข้มงวดอยู่แล้ว เพราะไม่สนับสนุนการขอสินเชื่อฟุ่มเฟื่อย กรอบการอนุมัติสินเชื่อเป็นไปอย่างระมัดระวัง ดังนั้นเกณฑ์ที่ธปท.จะประกาศออกมาจึงไม่น่ามีผลกระทบกับสถาบันการเงินมากนัก 

ส่วนหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ หรือ เอ็นพีแอล นั้น คาดว่าเอ็นพีแอลจะสูงสุดในช่วงไตรมาส  3 ปีนี้ และจะเริ่มลดลงในไตรมาส 4  เนื่องจากแนวโน้มเศรษฐกิจในครึ่งปีหลังดีขึ้น และปลายปีนี้จะเห็นแบงก์ต่างๆขายหนี้เอ็นพีแอลออกมามากขึ้น

รายงานข่าวระบุว่า ธปท. เตรียมออกประกาศถึงธนาคารพาณิชย์ และบริษัทที่ดำเนินธุรกิจบัตรเครดิตและสินเชื่อส่วนบุคคล  โดยจะกำหนดเกณฑ์ การอนุมัติสินเชื่อที่ไม่มีหลักประกันทุกประเภท อาทิ บัตรเครดิตและสินเชื่อส่วนบุคคล สำหรับผู้สมัครบัตรเครดิต สินเชื่อบุคคล บัตรกดเงินสด สินเชื่อผ่อนชำระ 0% ต่าง ๆ  1. ธุรกิจบัตรเครดิตกำหนดให้มีผู้รายได้ต่อเดือน 15,000-30,000 บาท ได้รับวงเงินบัตรเครดิตสูงสุดไม่เกิน 1.5 เท่าของรายได้ แต่ถ้ามีรายได้เดือนละ 30,000-50,000 บาท วงเงินไม่เกิน 3 เท่าของรายได้ และรายได้ต่อเดือน 50,000 บาทขึ้นไป 5 เท่าของรายได้ และไม่ได้ควบคุมจำนวนสถาบันการเงินออกบัตรเครดิต 2.          สำหรับสินเชื่อบุคคลกำหนดเงื่อนไขให้มีผู้มีรายได้ต่อเดือนไม่เกิน 30,000 บาท วงเงินสินเชื่อสูงสุดไม่เกิน 1.5 เท่าของรายได้ และสถาบันการเงินปล่อยกู้ได้สูงสุด 3 แห่ง หรือคิดเป็น 4.5 เท่าของรายได้ ขณะที่ผู้มีรายได้ต่อเดือนที่ 30,000 บาทขึ้นไปยังสามารถอนุมัติสินเชื่อได้ 5 เท่าของรายได้.- สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

มุกใหม่มิจฉาชีพ

มุกใหม่มิจฉาชีพ! ป่วนโทรแจ้ง ตร. เกิดเหตุร้ายที่บ้านเหยื่อ

อินฟลูฯ สาว สายทำอาหาร ถูกมิจฉาชีพอ้างเป็นตำรวจโทรหา แต่เธอไม่เชื่อ โดนท้าอีก 10 นาทีเจอกัน ปรากฏว่า มีตำรวจจาก 2 โรงพักบุกมาที่บ้านจริง

“วราวุธ” ระบุการแข่งขัน อบจ.-สุพรรณบุรี ไม่มีปัญหา

“วราวุธ” ระบุการแข่งขัน อบจ.-สุพรรณบุรี ไม่มีปัญหา บอกสนามใหญ่ ไม่เข้าไปก้าวก่ายสนามท้องถิ่น ซ้ายก็เพื่อน ขวาก็พวก

ครม.เคาะแจกเงินหมื่นเฟส 2 ผู้สูงอายุ 60 ปี

“จุลพันธ์” เผย ครม.เห็นชอบโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านกลุ่มผู้สูงอายุ วงเงิน 4 หมื่นล้านบาท คาดว่าจะดำเนินการทันก่อน 29 ม.ค.68 รวม 3 มาตรการ สร้างเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบ 1.4-1.5 แสนล้านบาท

ข่าวแนะนำ

คุมฝากขัง “เอ็ม เอกชาติ” คดี “แบงค์ เลสเตอร์”

ผบช.ภ.2 เผยคดี “แบงค์ เลสเตอร์” แจ้งข้อหา “เอ็ม” กระทำโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย มอบตัวรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา คุมฝากขังค้านประกันตัว

หยุดยาววันแรก การจราจรขาออก กทม. มุ่งสู่อีสานเริ่มแน่น

เริ่มหยุดยาววันแรก การจราจรบนท้องถนนขาออกกรุงเทพฯ มุ่งสู่อีสานเริ่มแน่นตั้งแต่เมื่อคืน เช้านี้ ถนนมิตรภาพ ช่วง ต.กลางดง อ.ปากช่อง ชะลอเคลื่อนตัวไปได้เรื่อยๆ ส่วนถนนพหลโยธิน ขาเข้าหนองแค รถเริ่มแน่น

วันแรก ตาย 52 อุบัติเหตุ 322 ครั้ง บาดเจ็บ 318 คน

สถิติวันแรก 10 วันอันตราย ตาย 52 อุบัติเหตุ 322 ครั้ง บาดเจ็บ 318 คน​ “เพิ่มพูน” เน้นทุกฝ่ายช่วยกันดูแลความปลอดภัย อำนวยความสะดวก เข้มเรื่องกฎหมาย