“จุลพันธ์” ลั่นพักหนี้ครั้งนี้ต้องดีกว่า 13 ครั้งที่ผ่านมา

เชียงใหม่ 14 ธ.ค. – ธ.ก.ส. เดินหน้ามาตรการพักชำระหนี้ลูกค้ารายย่อยตามนโยบายรัฐบาล ให้กับลูกค้าที่มีต้นเงินคงเป็นหนี้ทุกสัญญารวมกันไม่เกิน 300,000 บาท กว่า 2 ล้านรายทั่วประเทศ พร้อมเปิดบูธแนะนำบริการครบวงจร ที่ อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ “จุลพันธ์” ลั่นพักหนี้ครั้งนี้ต้องดีกว่า 13 ครั้งที่ผ่านมา ชวนลูกหนี้ NPL ร่วมมาตรการเพื่อให้สามารถกลับสู่ภาวะปกติทางการเงิน
 
นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลังและประธานกรรมการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) พร้อมด้วยนายฉัตรชัย ศิริไล ผู้จัดการ ธ.ก.ส. ร่วมพิธีรับเกษตรกรเข้าสู่มาตรการพักชำระหนี้ สำหรับลูกค้ารายย่อยที่มีต้นเงินคงเป็นหนี้ทุกสัญญารวมกันไม่เกิน 300,000 บาท ณ 30 กันยายน 2566 ที่ อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่


นายจุลพันธ์ กล่าวว่า มาตรการพักชำระหนี้ลูกค้ารายย่อยตามนโยบายรัฐบาล ครั้งนี้มีลูกค้า ธ.ก.ส. ที่ได้รับสิทธิ์ตามมาตรการ เข้าร่วมโครงการแล้ว 4 แสนกว่าราย จากทั้งหมดกว่า 2 ล้านราย ซึ่งตนได้ให้ ธ.ก.ส.เร่งประชาสัมพันธ์ เพราะลูกหนี้ที่เข้าโครงการขณะนี้ล้วนเป็นลูกหนี้ปกติ ยังขาดลูกหนี้ NPL ซึ่งเป็นลูกหนี้ที่เราต้องการให้กลับสู่สภาพปกติได้ โดยกลไกการช่วยเหลือจากรัฐ เพื่อให้สามารถกลับมาเดินได้ในภาวะปกติอีกครั้ง

นี่เป็นเพียงแค่เฟสแรก นโยบายของรัฐบาลที่ต้องการแก้ไขปัญหาให้เกษตรกร การพักหนี้เป็นจุดเริ่มต้น นอกจากนั้นยังมีกลไกเพิ่มผลผลิตต่อไร่ ลดค่าครองชีพ ทั้งน้ำมันเชื้อเพลิง ไฟฟ้า การนำนวัตกรรมเข้ามาผ่านทางองค์กร THACCA ผ่านซอร์ฟพาวเวอร์ นวัตรกรรมที่จะนำเข้ามาใช้ในภาคเกษตร เช่น โดรนพ่นปุ๋ยช่วยลดต้นทุนการผลิต สิ่งต่างๆเหล่านี้รัฐบาลให้ความสำคัญและจะเดินหน้านำความช่วยเหลือเข้ามาหาพี่น้องประชาชน


“วันนี้ผมได้ประกาศไว้บนเวทีว่า การพักหนี้ครั้งนี้ ต้องไม่เหมือน 13 ครั้งที่ผ่านมา เมื่อจบกระบวนการพักหนี้ครบ 3 ปีแล้ว ชีวิตของพี่น้องประชาชนจะต้องดีกว่าเดิม มูลหนี้ที่มีจะต้องลดน้อยลง ชีวิตพวกเขาต้องดีขึ้น” นายจุลพันธุ์ กล่าว

ด้านนายฉัตรชัย ศิริไล ผู้จัดการ ธ.ก.ส. เปิดเผยว่า ธ.ก.ส. พร้อมดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรีในการพักชำระหนี้ให้กับเกษตรกรและบุคคลที่มีสถานะเป็นหนี้ปกติและหนี้ค้างชำระ ที่มีต้นเงินคงเป็นหนี้ทุกสัญญารวมกัน ณ 30 กันยายน 2566 ไม่เกิน 300,000 บาท โดย ธ.ก.ส. ได้เปิดระบบการแจ้งความประสงค์และตรวจสอบสิทธิ์ผ่านแอปพลิเคชัน BAAC Mobile ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2566 – 31 มกราคม 2567

ปัจจุบันมีผู้แจ้งความประสงค์แล้วกว่า 246,078 คน (ณ 12 ตุลาคม 2566) ซึ่งในวันนี้ได้ลงพื้นที่พบปะเกษตรกรและลูกค้ารายย่อยที่เข้าร่วมมาตรการ เพื่อตรวจสอบขั้นตอนและกระบวนการทำงานว่ามีจุดใดที่มีปัญหา เพื่อปรับปรุงให้เกิดความสะดวกรวดเร็ว ทั้งการตรวจสอบสิทธิ์ การแจ้งความประสงค์ผ่านทางแอปพลิเคชัน BAAC Mobile ซึ่งระบบจะมีการประมวลข้อมูลตรวจสอบคุณสมบัติ การนัดหมาย เพื่อจัดทำข้อตกลงต่อท้ายสัญญาและการเข้ารับการประเมินศักยภาพในการชำระหนี้ก่อนเข้าร่วมมาตรการ


การดำเนินมาตรการในครั้งนี้ รัฐบาลให้ความสำคัญกับการสร้างความเข้มแข็งในการประกอบอาชีพ เพื่อให้เกษตรกรมีรายได้เพียงพอและสามารถชำระหนี้ได้ ธ.ก.ส. จึงเสริมความรู้ฟื้นฟูทักษะในการประกอบอาชีพให้เหมาะสมกับลูกค้าแต่ละรายภายใต้แนวทาง “ตลาดนำ นวัตกรรมเสริม เพิ่มรายได้ใหม่” โดยเริ่มจากการปรับวิธีคิด เช่น ก่อนลงมือผลิต ตั้งคำถาม ขายอะไร? ขายใคร? ขายเมื่อไหร่? ขายที่ไหน? ขายปริมาณ? ขายราคา? โดยเชื่อมโยงตลาด ตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำและปลายน้ำ รวบรวมข้อมูลและวิเคราะห์ความต้องการตลาด การปรับเปลี่ยนการผลิตเป็นแบบทำน้อยได้มาก ทำผลผลิตให้มีคุณภาพสูงและสามารถจำหน่ายได้ในตลาดที่มีมูลค่าสูง วางแผนการผลิตโดยใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรม ภูมิปัญญา การสร้างอาชีพเสริม เพิ่มรายได้ ด้วยการปลูกพืชระยะสั้น พืชหลังนา สัตว์โตไว ที่มีมูลค่าสูง การให้บริการหรือสร้างรายได้จากกิจกรรมใหม่ ๆ การพัฒนาอาชีพเดิม โดยการเพิ่มผลผลิต ลดความสูญเสีย ลดต้นทุนการผลิต เพิ่มมาตรฐาน และการเติมความรู้ทางการเงิน รู้เท่าทันเทคโนโลยีดิจิทัล โดยวางแผนในการบริหารเงินก่อนการตัดสินใจกู้เงิน รู้การออม การขับเคลื่อนโครงการแก้หนี้ แก้จน ภายใต้แนวทาง D&MBA : Design & Manage by Area พร้อมจัดหาตลาดให้กับลูกค้าผ่านบริษัทฯ เอกชนที่ต้องการรับซื้อผลผลิตจากเกษตรกร เพื่อนำไปแปรรูปสินค้าจำหน่ายยังผู้บริโภค ซึ่งเป็นการสร้างรายได้เพิ่มขึ้นให้กับเกษตรกรในระหว่างการพักชำระหนี้

นอกจากนี้ ธ.ก.ส. ยังพร้อมสนับสนุนเงินทุนอัตราดอกเบี้ยผ่อนปรนผ่านผลิตภัณฑ์สินเชื่อที่เหมาะสมในการฟื้นฟูการประกอบอาชีพ วงเงินสูงสุดไม่เกิน 100,000 บาท เพื่อใช้ในการจัดหาปัจจัยการผลิตและเทคโนโลยีการผลิต ช่วยให้เกษตรกรสามารถลดต้นทุนและเพิ่มศักยภาพในการผลิตอันนำไปสู่การสร้างรายได้อย่างยั่งยืน-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ป.ป.ส. รวบ 3 นักค้ายาเสพติดต่างชาติ ที่สนามบินสุวรรณภูมิ

ป.ป.ส. รวบนักค้ายาเสพติดต่างชาติ 3 ราย ที่สนามบินสุวรรณภูมิ ส่งออกไปอิตาลี-อังกฤษ เลขาฯ ป.ป.ส. เผยความสำเร็จครั้งนี้เป็นผลจากการประสานงานใกล้ชิดระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

ตรวจสอบตลาดปาล์มน้ำมัน หลังราคาพุ่ง

ช่วงนี้น้ำมันปาล์มตามท้องตลาดปรับราคาแพงขึ้น จากเดิมขวดละราว 10 บาท ทำให้ผู้บริโภคถึงกับโอดครวญ ขณะที่เกษตรกรชาวสวนปาล์มน้ำมัน ระบุแม้ช่วงนี้ราคาปาล์มน้ำมันขายได้ราคาดีที่สุดในรอบหลายปี แต่เกษตรกรกลับไม่มีปาล์มขาย

ข่าวแนะนำ

ทนายตั้ม

“ทนายตั้ม” ปรากฏตัวแล้ว บอกไม่สบายใจมี ตร.เฝ้าหน้าบ้าน

ปรากฏตัวแล้ว “ทนายตั้ม” พบตำรวจเหตุมีเจ้าหน้าที่ไปเฝ้าที่บ้าน พร้อมแจงปมเงิน 39 ล้านบาท ค่าศิลปินจีน ที่แท้เป็นมิจฉาชีพหลอก “เจ๊อ้อย” ปฏิเสธพบคู่กรณี บอกยังไม่พร้อมคุย

US election

ทรัมป์-แฮร์ริส หาเสียงวันสุดท้าย ก่อนหย่อนบัตรวันนี้

ขณะนี้เหลือไม่ถึง 24 ชั่วโมงก็จะถึงวันเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ 5 พฤศจิกายน ผลสำรวจความเห็นประชาชนต่างชี้ว่านายโดนัลด์ ทรัมป์ และนางคอมมาลา แฮร์ริส

อุตุฯ เผยอีสาน อุณหภูมิลดลงเล็กน้อย-ใต้ตอนบน ฝนตกหนัก

กรมอุตุฯ เผยภาคใต้ตอนบน มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมาก ส่วนประเทศไทยตอนบนมีอากาศเย็นในตอนเช้า อุณหภูมิจะลดลงเล็กน้อยในภาคอีสาน โดยมีฝนฟ้าคะนองบางแห่งในภาคตะวันออก และภาคกลางตอนล่าง