รมช.คลัง กำชับอนุกรรมการ Digital Wallet รอบคอบ ยึดวินัยการเงินการคลัง

คลัง 12 ต.ค. – “จุลพันธ์” รมช.คลัง กำชับอนุกรรมการดิจิทัลวอลเล็ต รอบคอบ ยึดวินัยการเงินการคลัง มุ่งโอนเงินไตรมาสแรกปี 67 กระตุ้นเศรษฐกิจ พร้อมแจงและรับฟังความเห็น ป.ป.ช.


นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เป็นประธานประชุมอนุกรรมการขับเคลื่อนโครงการเติมเงิน 1 หมื่นบาท ผ่าน Digital Wallet เป็นการหารือครั้งแรก เพื่อปรับเงื่อนไขอีกหลายด้าน หลังมีข้อเสนอจากหลายฝ่าย ทั้งเห็นด้วยและคัดค้าน จากเดิมกำหนดเงื่อนไขเบื้องต้นโอนให้กับคนอายุ 16 ปีขึ้นไป กลุ่มเป้าหมาย 56 ล้านคน ใช้งบสูงถึง 5.6 แสนล้านบาท รัศมีการใช้เงินในชุมชนอาจขยายไปถึงระดับตำบล ระดับอำเภอ หรือจังหวัด และกรอบเวลาการใช้เงินในพื้นที่ โดยเตรียมเปิดลงทะเบียนร่วมโครงการ ทั้งผู้รับโอนเงิน และพ่อค้าแม่ค้า เพื่อเป็นทางเลือกให้กับประชาชน เพื่อให้เศรษฐกิจไทยขยายตัวร้อยละ 5 ตามเป้าหมายในช่วง 3-4 ปีข้างหน้า

“หลังทราบข่าวว่า ป.ป.ช. เตรียมตั้งคณะทำงานติดตามโครงการโอนเงินผ่าน Digital Wallet รัฐบาลพร้อมนัดเข้าไปชี้แจงทุกด้าน เพื่อแลกเปลี่ยนความเห็นและรับฟังข้อเสนอแนะ นำมาปรับใช้เพื่อให้กลไกเดินหน้าอย่างโปร่งใส สมบูรณ์ จึงขอให้คณะอนุกรรมการฯ ร่วมกับพิจารณาโครงการอย่างรอบคอบ ยึดมั่นรักษาวินัยการเงิน การคลัง” นายจุลพันธ์ กล่าว


การประชุมอนุกรรมการฯ ครั้งนี้มุ่งหารือแหล่งที่มาของเงิน 5.6 แสนล้านบาท หน่วยงานรับผิดชอบดำเนินโครงการ กลไกการทำงาน ระบบตรวจสอบ แนวทางป้องกันการทุจริต การประเมินผลก่อนและหลังดำเนินโครงการ เพราะการประเมินความคุ้มค่าของโครงการนับว่ามีความสำคัญมาก การเดินหน้าโครงการโอนเงินผ่านดิจิทัลวอลเล็ตจึงต้องยึดหลักกฎหมายทั้ง พ.ร.ฎ.การบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี พ.ร.บ.วินัยการเงินการคลัง และ พ.ร.บ.งบประมาณ และยึดให้เป็นไปตามรัฐธรรมนูญ การเดินหน้าโครงการโอนเงินดิจิทัล หวังให้เกิดการกระจายเงินไปถึงมือประชาชนโดยตรง

การโอนเงินครั้งนี้ส่งมือถือประชาชนโดยตรง จึงไม่เป็นห่วงเรื่องการทุจริต เงินทุกบาททุกสตางค์จะถูกกระจายไปยังชุมชน มีหลายหน่วยงานร่วมกันดูแล เมื่ออนุกรรมการฯ ทุกคณะหารือร่วมกันภายใต้กรอบเวลาจำกัด เตรียมสรุปข้อมูลทุกด้านเสนอคณะกรรมการชุดใหญ่ ที่มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน วันที่ 24 ตุลาคมนี้ จากนั้นเตรียมเสนอ ครม. พิจารณา ยอมรับว่าการทำงานมีเวลาจำกัด หวังให้เริ่มโอนเงินกับประชาชนได้ในช่วงไตรมาสแรกปี 67 เพื่อให้เม็ดเงินออกสู่ระบบ ในช่วงระหว่างรองบประมาณรายจ่ายปี 67 ยังล่าช้า คาดมีผลกลางเดือนเมษายน กว่าจะนำออกไปใช้จ่ายได้ในเดือนพฤษภาคม 67.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

แจ้งข้อหาเพิ่ม “ทนายตั้ม” คดี 39 ล้านบาท รวม 7 ข้อหา

แจ้งข้อหาเพิ่ม “ทนายตั้ม” คดี 39 ล้านบาท รวม 7 ข้อหา จ่อแจ้งข้อหา “นุ-แซน” เพิ่มเติม และเชื่อว่ามีบุคคลอื่นที่ต้องถูกดำเนินคดีอีก ส่วน “ฟิล์ม รัฐภูมิ” ยังไม่ประสานเข้าพบหลังออกหมายเรียก

วิสามัญมือยิงประธานสภา อบต.โพนจาน ยิงสู้ จนท.

วิสามัญมือยิงประธานสภา อบต.โพนจาน จ.นครพนม หลังหนีข้ามมา จ.ขอนแก่น เจ้าหน้าที่ปิดล้อมเกลี้ยกล่อมให้วางอาวุธ แต่ไม่สำเร็จ คนร้ายยิงต่อสู้

ขู่ยื่นเอาผิด รมว.ดีอี ปล่อยโฆษณาหลอกหลวง ปชช.

รัฐสภา 3 ธ.ค. – กมธ.ไอซีที สว. ขู่ ยื่น ม.157 เอาผิด รมว.ดีอี ฉุนเกียร์ว่าง ปล่อยโฆษณาหลอกหลวง ประชาชน – ปล่อย “หมอบุญ” หนีลอยนวล จี้รัฐยกปราบหลอกลวงออนไลน์เป็นวาระแห่งชาติ นพ.เปรมศักดิ์ เพียยุระ สว. ฐานะรองประธานคณะกรรมาธิการเทคโนโลยีสารสนเทศ การสื่อสาร และการโทรคมนาคม คนที่หก วุฒิสภา แถลงผลการประชุมกมธ. เมื่อวันที่ 2 ธ.ค. ซึ่งตรวจสอบกรณีการโฆษณาผ่านสื่อสังคมออนไลน์ให้ลงทุนในสินทรัพย์ ซึ่งก่อให้เกิดความเสียหายต่อความมั่นคงทางเศรษฐกิจของประเทศ ซึ่งได้เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าชี้แจงอาทิ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กรณีของนพ.บุญ วนาสิน ผู้ก่อตั้งโรงพยาบาลธนบุรี ที่พบกรณีฉ้อโกงและฟอกเงิน เป็นมูลค่าสูงกว่า 7,500 ล้านบาท อย่างไรก็ดีในคดีดังกล่าวถูกแจ้งความดำเนินคดีที่ สน.ห้วยขวาง แล้วปี 2566 แต่ไม่มีการดำเนินการใดๆ จนกระทั่งนพ.บุญเดินทางออกไปนอกประเทศและไม่มีการอายัดทรัพย์ ทั้งนี้ในการหลอกหลวงผ่านโฆษณาชวนเชื่อนั้น ทำผ่านโบรกเกอร์ที่หลอกลงทุน ทั้งนี้เชื่อว่าจะเป็นนักลงทุนที่เคยลงทุนที่คุ้นเคยกับเครือโรงพยาบาลธนบุรี “จากการชี้แจงกรณี นพ.บุญของหน่วยงานที่ชี้แจง พบเป็นการโยนกลองกันไปมา ไม่มีหน่วยงานใดที่รับผิดชอบจริงจัง […]

ข่าวแนะนำ

ยูเนสโก ประกาศรับรอง ‘เคบายา’ มรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้

วธ.เผย ยูเนสโก ประกาศรับรอง ‘เคบายา’ มรดกวัฒนธรรมร่วม 5 ประเทศ บรูไน อินโดนีเซีย มาเลเซีย สิงคโปร์ และไทย ขึ้นทะเบียนมรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติ ประจำปี 2567

รัฐบาลจัดพิธีอัญเชิญพระเขี้ยวแก้ว อย่างยิ่งใหญ่

พระบรมสารีริกธาตุพระเขี้ยวแก้ว จากสาธารณรัฐประชาชนจีน อัญเชิญมาประดิษฐานเป็นการชั่วคราว ณ มณฑลพิธีท้องสนามหลวงแล้ววันนี้ พร้อมริ้วขบวนอัญเชิญอย่างยิ่งใหญ่ ก่อนเปิดให้ประชาชนสักการะ พรุ่งนี้ (5 ธ.ค.) วันแรก

เปิดนาทีระทึก! เรือบรรทุก ชนเรือนำเที่ยวกลางเจ้าพระยา

ระทึก เรือพ่วงบรรทุก เฉี่ยวชนเรือนำเที่ยว จอดเทียบริมตลิ่งแม่น้ำเจ้าพระยา ใกล้สะพานกรุงเทพฯ ทำให้เรือนำเที่ยวขนาดใหญ่เสียหาย 5 ลำ เรือเล็กจมอีก 1 ลำ