คลังเดินหน้าดิจิทัลวอลเล็ต 1 หมื่นบาท

กระทรวงการคลัง 9 ต.ค. – คลังเดินหน้าดิจิทัลวอลเล็ต 1 หมื่นบาท ย้ำแหล่งเงินใช้งบประมาณเป็นหลัก พร้อมรับฟังทุกความเห็น ปรับเงื่อนไขการใช้เงิน มุ่งสู่รัฐบาลดิจิทัล


นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า รัฐบาลยืนยันเดินหน้าผลักดันโครงการแจกเงินผ่าน Digital Wallet 10,000 บาทต่อราย สำหรับกลุ่มอายุ 16 ปีขึ้นไป กลุ่มเป้าหมาย 56 ล้านคน เป็นเพียงหนึ่งในอีกหลายนโยบาย เดินไปสู่รัฐบาลดิจิทัล ย้ำแหล่งทุน 5.6 แสนล้านบาท ใช้งบประมาณเป็นหลัก พร้อมรับฟังความเห็นจากทุกฝ่าย โดยเฉพาะอดีตผู้ว่าการแบงก์ชาติ เพื่อปรับเงื่อนไขการใช้เงินให้มากที่สุด นับว่าเป็นสิ่งดีที่มีการแสดงความเห็นในวงกว้างต่อการดำเนินการนโยบายดังกล่าว ทั้งนักวิชาการ นักเศรษฐศาสตร์ ภาคเอกชน ประชาชนรายย่อย ย้ำผู้ต้องการรับเงินดิจิทัลต้องลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการ ใครมีรายได้สูง หรือไม่ต้องการใช้เงินดังกล่าว ไม่ต้องลงทะเบียน ถือเป็นทางเลือกให้กับประชาชน จำเป็นต้องรีสตาร์ทชีวิตของประชาชน สร้างเม็ดเงินใหม่กระจายไปทั่วประเทศ

โครงการดิจิทัลวอลเล็ต แจกเงิน 10,000 บาท เป็นเงินอ้างอิงจากเงินบาทในปัจจุบัน ไม่ได้สร้างเม็ดเงินขึ้นมาใหม่ จึงต้องการจุดฉนวนขับเคลื่อนเศรษฐกิจครั้งใหญ่ เพื่อให้กระจายไปทุกที่ ยกระดับคุณภาพชีวิต การสร้างโอกาส การลงทุนเกิดขึ้นในชุมชน เกิดการจ้างงาน จากนั้นรัฐบาลจะมีรายได้กลับคืนมาในทางอ้อม รัฐบาลจึงต้องรักษาสัญญาแถลงไว้กับรัฐสภา เดินหน้าส่งเสริมการท่องเที่ยว การลดภาระค่าครองชีพผ่านค่าไฟฟ้า น้ำมันดีเซล การดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศ เมื่อเศรษฐกิจไทยยังไม่เติบโตอย่างเต็มศักยภาพ ไทยโตช้ากว่าหลายประเทศภูมิภาค ชีวิตประชาชนรายย่อยยังเปราะบาง รัฐบาลจึงต้องผลักดันจีดีพีเติบโตให้ได้ตามเป้าหมาย เศรษฐกิจขยายตัวเฉลี่ยปีร้อยละ 5 ในอีก 3-4 ปีข้างหน้า


นายจุลพันธ์ กล่าวย้ำว่า เงินดิจิทัลไม่ใช่เป็นการเสกเงินขึ้นมาใหม่ ไม่ได้เขียนโปรแกรมสร้างคริปโทฯ ใหม่ขึ้นมา ไม่ได้พิมพ์เงินเพิ่มเติม แหล่งเงินยังเป็นไปตามกรอบกฎหมาย ธปท. ภายใต้การรักษาวินัยการเงิน การคลัง ยืนยันใช้วิธีเกลี่ยงบประมาณโครงการที่ไม่จำเป็น โดยพร้อมปรับเปลี่ยนเงื่อนไขการใช้เงิน เช่น การกำหนดระยะเวลาใช้เงิน 6 เดือน รัศมีการใช้เงินในพื้นที่ 4 กม. อาจขยายเป็นระดับตำบล ระดับอำดภอ หรือระดับจังหวัด การกำหนดห้าม เช่น ห้ามนำดิจิทัลไปออม เพราะต้องการใช้จ่ายในเวลากำหนด การห้ามนำเงินไปชำระหนี้สิน ซื้อสินค้าอบายมุข เงื่อนไขเหล่านี้คณะอนุกรรมการหลายชุดจะเร่งประชุม เพื่อสรุปทุกด้านภายในสิ้นเดือนตุลาคม เพื่อเสนอบอร์ดดิจิทัล นายกรัฐมนตรีเป็นประธานพิจารณาในวันอังคารที่ 24 ต.ค. 66

นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า การบริโภคที่มีการขยายตัวสูงมากในรอบ 20 ปี เป็นการขยายตัวเพียงบางกลุ่ม โดยเฉพาะกลุ่มท่องเที่ยว ไม่ได้กระจายไปยังกลุ่มอื่น การส่งออกยังประสบปัญหาจากเศรษฐกิจโลกชะลอตัว การลงทุนภาครัฐ จากงบประมาณปี 67 ต้องใช้เวลาในต้นปีหน้ากว่าออกสู่ระบบได้ เครื่องยนต์ที่สำคัญช่วงนี้คือ กระตุ้นการบริโภคให้กระจายไปทุกส่วน เพราะรายได้ภาคเกษตร 8 เดือนแรกของปี ยังติดลบร้อยละ -2.3 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน เพราะการบริโภคกลุ่มฐานรากยังไม่เติบโต โดยพร้อมประสานนโยบายการคลัง กับนโบบายการเงินของแบงก์ชาติ ให้สอดประสานทำงานร่วมกัน

นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า การเดินหน้าโครงการแจกเงินผ่าน Digital Wallet 10,000 บาทต่อราย ประกอบด้วยประเด็นแรกคือ การเติมเงินดิจิทัล เป็นการเติมเงินไม่เหมือนครั้งที่ผ่านมา เพราะกำหนดเงื่อนไขการใช้เงิน ส่งผลไปหลายมิติผลกระทบทางเศรษฐกิจของประเทศ เงินดิจิทัลมีความสะดวก รวดเร็ว ปลอดภัยสูงกว่า เป็นข้อแตกต่างที่ไม่สวามารถใช้บทวิจัยในอดีตมาคำนวณผลกระทบกับโครงการใหม่ ซึ่งกำลังผลักดันอยู่


ในประเด็นที่ 2 การกระจายเงินดิจิทัล 10,000 บาทต่อราย ไม่ใช่กระตุ้นการบริโภคอย่างเดียว แต่เงินที่มีกำลังทำให้เกิดการการลงทุนขนาดเล็กในชุมชน ทำให้สร้างอาชีพใหม่ สร้างการลงทุนใหม่ ช่วยลดความเหลื่อมล้ำทางสังคม จึงเป็นผลบวกต่อเศรษฐกิจ ประเด็นที่ 3 เกิดการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัล ยกระดับไปสู่การเป็นซูเปอร์แอป ก้าวไปสู่การเป็นรัฐบาลดิจิทัล รองรับประเทศก้าวเข้าสู่สังคมดิจิทัลอีโคโนมี สร้างมูลค่ามหาศาล

ประเด็นที่ 4 โครงการแจกเงินผ่าน Digital Wallet 10,000 บาทต่อราย เป็นเพียง หนึ่งในอีกหลายมาตรการ รัฐบาลกำลังทยอยนำออกมาพัฒนาเศรษฐกิจ โดยจะเชื่อมโยงกันทั้งระบบ เตรียมก้าวไปสู่สังคมดิจิทัล ทั้งการรองรับนักท่องเที่ยว การลงทุน ภาคเกษตร ภาคอุตสาหกรรม ภาคบริการสมัยใหม่ เพื่อพัฒนาไปสู่เศรษฐกิจยุคใหม่ จึงต้องมีระบบบล็อกเชนมารองรับ ประเด็นสุดท้ายคือ ความแตกต่างของเสวถียรภาพและศักยภาพ ที่ผ่านมาไทยเติบโตแบบมีเสถียรภาพ แต่ไทยกลับเติบโตต่ำกว่าศักยภาพที่เป็นอยู่ จึงยังไม่เพียงพอ เมื่อไทยก้าวสู่สังคมผู้สูงอายุ จึงต้องหารายได้ทุกด้านเข้ามารองรับผ่านหลายโครงการ เพื่อผลักดันไปสู่รัฐสวัสดิการฯ

นายลวรณ แสงสนิท ปลัดกระทรวงการคลัง กล่าวว่า กระทรวงการคลังพร้อมทำงานประสานนโยบายการคลัง กับนโยบายการเงินของ ธปท. เปรียบเสมือนการขับรถยนต์โดยกระทรวงคลังเป็นผู้เหยียบคันเร่ง นโยบายการเงินทำหน้าที่เบรก จึงต้องขับไปให้มีจังหวะผสมผสานกันด้วยกัน เพื่อให้ขับรถไปได้อย่างนุ่มนวล ปลอดภัย ไม่ใช่คลังขับรถ แต่แบงก์ชาติคอยเหยียเบรกอย่างเดียว รถจะไม่เกินหน้าไปได้ คลัง-แบงก์ชาติ จึงต้องหารือร่วมกันอย่างใกล้ชิด จึงขอให้เชื่อความเป็นมืออาชีพของคลัง ในการรักษาวินัยทางการเงินการคลัง.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ทั่วไทยฝนตกหนัก เตือน 5 จังหวัดเสี่ยงรับมือ

กทม. 23 ส.ค.- กรมอุตุฯ เผยทั่วไทยฝนตกหนัก เตือน 5 จังหวัดเสี่ยงรับมือ เฝ้าระวัง “พายุดีเปรสชัน” มีแนวโน้มทวีกำลังแรงเป็นพายุโซนร้อน กระทบไทย 24-27 ส.ค.นี้ กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่บริเวณภาคตะวันออก ขอให้ประชาชนโดยเฉพาะบริเวณจังหวัดตาก จันทบุรี ตราด ระนอง และพังงา ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมาก และฝนตกสะสมที่อาจเกิดขึ้นในระยะนี้ไว้ด้วย เนื่องจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศลาวตอนบน และเวียดนามตอนบน สำหรับบริเวณทะเลอันดามันตอนบนและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนล่างมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุดีเปรสชันบริเวณทะเลจีนใต้ตอนบนมีแนวโน้มจะทวีกำลังแรงขึ้นเป็นพายุโซนร้อน และจะขึ้นฝั่งบริเวณประเทศเวียดนามและประเทศลาวตอนบน ในช่วงวันที่ 25–26 ส.ค. 68 ทำให้ประเทศไทยมีฝนเพิ่มมากขึ้น กับมีฝนตกหนักถึงหนักมากหลายพื้นที่ กับมีลมแรงบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน และภาคเหนือ ในช่วงวันที่ 24–27 ส.ค. 68 -สำนักข่าวไทย

โปรดเกล้าฯ 6 บิ๊ก ขรก.มหาดไทย “ขจรเกียรติ” นั่งอธิบดีกรมที่ดิน

ทำเนียบ 23 ส.ค.- โปรดเกล้าฯ 6 บิ๊กข้าราชการมหาดไทย “ขจรเกียรติ” นั่งอธิบดีกรมที่ดิน ด้าน “เชษฐา” เป็นอธิบดี ปภ. ราชกิจจานุเบกษา ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่องแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดกระทรวงมหาดไทย พ้นจากตำแหน่ง และแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง จำนวน 6 ราย ดังนี้ ตั้งแต่วันที่ 21 ส.ค.2568 เป็นต้นไป ประกาศ ณ วันที่ 22 ส.ค.2568 ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี -สำนักข่าวไทย

จับอดีตหัวหน้าพรรคการเมืองโกงเงินอุดหนุน ก่อนหนีกบดานลาว

22 ส.ค. – ตำรวจภูธรภาค 1 จับอดีตหัวหน้าพรรคการเมือง โกงเงินอุดหนุน 17.6 ล้านบาท หนีกบดานลาว ก่อนจนมุมถูกจับกุมได้ พล.ต.ท.สุรพล เปรมบุตร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 (ผบช.ภ.1), พล.ต.ต.นราเดช ทิพย์รักษ์ รอง ผบช.ภ.1, พล.ต.ต.วรชาติ แสนคำ ผบก.สส.ภ.1, พล.ต.ต.ธรรมนูญ เชาวะวนิชย์ ผบก.ภ.จว.สระบุรี และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.พระพุทธบาท, ตม.จว.หนองคาย, กกต.จว.หนองคาย ร่วมกันจับกุม นายพีระวิทย์ อายุ 47 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับ สืบเนื่องจากเมื่อปี 2562 นายพีระวิทย์ เป็นหัวหน้าพรรคการเมือง รับเงินอุดหนุนพรรคการเมือง เพื่อพัฒนาพรรคการเมือง จำนวนประมาณ 17.6 ล้านบาท โดยไม่มีการทำหลักฐานการเบิกจ่าย ทำให้ กกต. เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับนายพีระวิทย์ และเหรัญญิกพรรค ต่อมาผู้ต้องหาทั้งสองเข้ามอบตัวต่อพนักงานสอบสวน สภ.พระพุทธบาท โดยเลื่อนการเข้าให้ปากคำและแสดงหลักฐานการเบิกจ่ายเงิน และต่อมาผู้ต้องหาทั้งสองได้หลบหนี เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงออกหมายจับในข้อหา […]

“ธีรรัตน์” สั่งผู้ว่าฯ ทั่วประเทศ สแตนด์บาย 24 ชม. รับพายุคาจิกิ

กทม. 22 ส.ค.- “ธีรรัตน์” สั่งการผู้ว่าฯ ทั่วประเทศ สแตนด์บายรับมือผลกระทบ “พายุคาจิกิ” ตลอด 24 ชั่วโมง ย้ำ ประชาสัมพันธ์ข้อมูลให้ประชาชนรับรู้และเตรียมพร้อมอย่างต่อเนื่อง นางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า กระทรวงมหาดไทยโดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ได้ติดตามสภาวะอากาศร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเกี่ยวกับผลกระทบพายุโซนร้อน “คาจิกิ” ซึ่งพบว่าพื้นที่บางส่วนมีความเสี่ยงต้องเฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ดินโคลนถล่ม น้ำท่วมขังในเขตชุมชนเมืองที่เกิดน้ำท่วมขังซ้ำซาก ระหว่างวันที่ 24 – 28 สิงหาคม 2568 ในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคใต้ 45 จังหวัด และกรุงเทพมหานคร นางสาวธีรรัตน์ ได้สั่งการผู้ว่าราชการจังหวัด 45 จังหวัด และศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต รวมถึงกรุงเทพมหานคร กำชับให้จัดเจ้าหน้าที่ติดตามสภาพอากาศ ปริมาณฝน และสถานการณ์น้ำในพื้นที่อย่างใกล้ชิด พร้อมกำชับให้จัดทีมปฏิบัติการพร้อมเครื่องจักรกลสาธารณภัยเข้าประจำพื้นที่เสี่ยง เพื่อเข้าเผชิญเหตุและให้การช่วยเหลือประชาชนได้อย่างทันท่วงทีตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมประกาศแจ้งเตือนและปิดกั้นพื้นที่ไม่ให้บุคคลใดเข้าพื้นที่หากพบว่ามีความเสี่ยง ในส่วนพื้นที่ชายฝั่ง ให้สั่งห้ามนักท่องเที่ยวเล่นน้ำและห้ามเดินเรือทุกชนิดหากสถานการณ์มีแนวโน้มรุนแรง “ให้ผู้ว่าฯ […]

ข่าวแนะนำ

ทีมทนายวัดพระบาทน้ำพุแจงปม “หลวงพ่ออลงกต” สวมบัตร ปชช. คนตาย

ลพบุรี 24 ส.ค. – วัดพระบาทน้ำพุ ตั้งโต๊ะแถลง ยืนยันเลขบัตรประชาชนของ “หลวงพ่ออลงกต” ไม่ซ้ำกับ “อลงกต พลมุข” ปัดตอบปมเลขบัตรประชาชนผู้เสียชีวิต ผูกพร้อมเพย์บัญชีมูลนิธิฯ ขอไปตรวจสอบก่อน ส่วนทางคดี จับตาสัปดาห์หน้า จะมีผู้ถูกดำเนินคดีมากกว่า 1 คน วันนี้ ที่วัดพระบาทน้ำพุ จ.ลพบุรี นายศุภชัย สิงคาลวานิช หัวหน้าทีมทนายความของวัดพระบาทน้ำพุ พร้อมตัวแทนมูลนิธิต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับวัดพระบาทน้ำพุ ร่วมกันแถลงข่าวชี้แจงข้อเท็จจริงต่างๆ เป็นครั้งแรก โดยบอกว่าวันนี้ หลวงพ่ออลงกตไม่ได้หลีกเลี่ยงที่จะมาให้สัมภาษณ์ แต่ครั้งนี้มีข้อมูลมาก มีปัญหาเรื่องข้อกฎหมายและปัญหาที่ซับซ้อนหลายอย่าง หากตอบไปอาจกระทบต่อคดี และยืนยันว่า หลวงพ่อมีเจตนาบริสุทธิ์ในการช่วยเหลือผู้ป่วย เด็กกำพร้า ผู้สูงอายุ ผู้ด้อยโอกาส กลุ่มเปราะบางในสังคม ซึ่งขณะนี้สังคมเข้าใจผิดในหลายเรื่อง เพราะเกิดการชี้นำของหลายเพจ กลุ่มผู้มีอิทธิพลในบางสื่อ นำเรื่องมาปะติดปะต่อจนสร้างความเสียหาย ส่วนประเด็นที่กำลังเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์ เรื่องที่หลวงพ่ออลงกต สวมชื่อและเลขบัตรประชาชน “อลงกล พลมุข” ข้าราชการที่เสียชีวิตไปแล้วนั้น ทีมทนาย เปิดเผยว่า หลวงพ่ออลงกต มีบัตรประชาชนของท่านเอง และนามสกุลของท่าน […]

สกัดจับขบวนการค้ามนุษย์ ลอบขนคนไทยไปเขมร

สระแก้ว 24 ส.ค. – ทหารพรานลาดตระเวนชายแดนไทย-กัมพูชา บ้านกุดหิน ต.คลองน้ำใส อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว สกัดจับคนไทย 10 คน ขณะลักลอบเข้ากัมพูชา เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นขณะเจ้าหน้าที่กำลังลาดตระเวนตามแนวชาย เพื่อสกัดกั้นสิ่งผิดกฎหมายที่จะแอบลักลอบขนข้ามแดน ซึ่งเจ้าหน้าที่ตรวจพบรถยนต์ต้องสงสัย 2 คัน ประกอบด้วย รถยนต์ โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์สีขาว (ไม่ทราบทะเบียน) และ รถยนต์เก๋ง สีดำ ทะเบียนกรุงเทพมหานคร ซึ่งทั้งขับผ่านเข้ามาในพื้นที่ล่อแหลม โดยรถยนต์ โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์สีขาว ได้จอดให้คนเดินลงมาจากรถ และเดินเข้าป่าไป จำนวน 6 คน ประกอบด้วย คนนำพา 1 คน และผู้ลักลอบ 5 คน โดยทั้งหมดเป็นคนไทย ซึ่งเจ้าหน้าที่สามารถควบคุมตัวไว้ได้ ส่วนรถยนต์เก๋งสีดำที่ขับตามมา เมื่อเห็นเจ้าหน้าที่ จึงขับหลบหนี แต่เจ้าหน้าที่สามารถสกัดจับไว้ได้ (ห่างจากจุดแรกประมาณ 200 เมตร) จากการตรวจสอบภายในรถพบคนไทย 4 คน […]

พบหลุมจรวด BM-21 ที่ยังไม่ระเบิด ใกล้ศูนย์เด็กเล็ก

อุบลราชธานี 24 ส.ค. – พบหลุมจรวด BM-21 ที่ยังไม่ระเบิด ใน อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี อยู่ริมสระน้ำใกล้ศูนย์เด็กเล็ก เพียง 100 เมตร จากกรณีที่กัมพูชา ยิงจรวด BM–21 เข้าใส่ชุมชน บ้านเรือนประชาชน ในฝั่งไทย จนนำไปสู่การสูญเสียชีวิต และทรัพย์สิน ของประชาชนคนไทย เมื่อช่วงปลายเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ซึ่งปัจจุบันผลกระทบจากจรวด BM–21 ต่อประชาชน คนไทย ยังคงมีอยู่ ภาพจากกล้องวงจรปิดที่บันทึกไว้ได้จากบ้านหลังหนึ่ง ในอำเภอน้ำยืน จ.อุบลราชธานี เมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม ที่ผ่านมา ซึ่งขณะนั้นกัมพูชาได้ยิงจรวด BM-21 เข้ามาตกในเขตชุมชนฝั่งไทย โดยเหตุการณ์ครั้งนั้น มีจรวด BM-21 ตกมาทั้งหมด 11 ลูก 2 ใน 11 ลูก ตกใส่บ้านประชาชน จนบ้านพังเสียหายทั้งหมด 2 หลัง และมี 1 […]

“มาริษ” จ่อบินเจนีวา แจงประเทศกลุ่มสัญญาอนุภาคี

สวีเดน 24 ส.ค.-“มาริษ” เตรียมบินเจนีวาต่อ แจงประเทศกลุ่มสัญญาอนุภาคี-องค์การสิทธิมนุษยชน-กาชาด ย้ำไทยรักสันติ ทำตามกฎหมายระหว่างประเทศ ฟ้องเขมรใช้ทุ่นระเบิด-โจมตีพลเรือนไทย นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เปิดเผยว่าหลังการเยือนสวีเดนอย่างเป็นทางการแล้วจะเดินทางไปเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ในวันที่ 26 ส.ค.นี้ โดยมีเป้าหมายหลัก 3 ประการคือ ไปชี้แจงให้กับประเทศกลุ่มสัญญาอนุภาคีให้เข้าใจสถานการณ์ไทย-กัมพูชา ซึ่งกัมพูชาใช้ยุทธศาสตรฺของการใช้ วัตถุระเบิดสังหารบุคคน ที่ขัดต่อกฎหมายระหว่างประเทศ และอนุสัญญาออตตาวาและในโอกาสนี้จะพบกับสำนักงานข้าหลวงใหญ่สืทธิมนุษยชน ซึ่งเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการใช้ทุ่นระเบิดสังหาร การละเมิดสิทธิมนุษยชนด้วยการโจมตีเป้าหมายพลเรือน ของกัมพูชา รวมทั้งการใช้โซเชียลมีเดีย ซึ่งเมื่อ 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา คณะกรรมการกาชาดระหว่างประเทศ (icrc )ก็ได้ออกมาพูดชัดเจนว่าไม่เห็นด้วยอย่างมาก และไม่สนับสนุนให้มีการใช้สงครามข่าวสารในการต่อสู้ โดยใช้พลเรือนเป็นตัวกระทำให้เกิดความเข้าใจผิดระหว่างกัน ซึ่งในโอกาสนี้ตนจะได้พบปะกับประธาน crc พอดี ซึ่งเคยพบกันที่กรุงเทพมหานครแล้ว และทางประธานทราบว่าตนจะมาเจนีวาก็สามารถมาพูดคุยกันต่อได้ ซึ่งจะได้อธิบายทั้ง 2 ประการเหล่านี้เพราะ icrc เป็นองค์กรหลักที่ดูกฎหมายระหว่างประเทศ ซึ่งทั้งสามองค์กรที่เราวางกลยุทธ์ จะเข้ามาพูดคุย ชี้แจงก็เพื่อยืนยัน ใน ท่าทีบทบาท ของประเทศไทยที่ชัดเจนว่าเราเป็นประเทศ ที่รักสันติ เราต้องการ แก้ไขปัญหาระหว่างกันอย่างสันติวิธี แต่ต้องมีความจริงใจ […]