ตลาดหุ้นไทยส.ค.66 มีมูลค่าหลักทรัพย์ตามตลาดรวมกว่า 19.26 ล้านล้านบาท

กรุงเทพฯ 6 ต.ค.-ตลท.เผยถึงในตลาดหุ้นไทย ณ สิ้นเดือนสิงหาคม 2566 ของบริษัทจดทะเบียนจำนวน 795 บริษัทมีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดรวมกว่า 19.26 ล้านล้านบาท


ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเผยการศึกษาข้อมูลการถือครองหุ้นในตลาดหุ้นไทย ณ สิ้นเดือนสิงหาคม 2566 ของบริษัทจดทะเบียนจำนวน 795 บริษัท มีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดรวมกว่า 19.26 ล้านล้านบาท หรือ99.4% ของมูลค่าหลักทรัพย์รวมทั้งตลาด พบว่า ณ สิ้นเดือนสิงหาคม 2566 นักลงทุนต่างประเทศถือครองหุ้นในตลาดหุ้นไทย สูงสุดเป็นประวัติการณ์ด้วยมูลค่ารวมกว่า 5.87 ล้านล้านบาท โดยเพิ่มขึ้น 14.95% จากสิ้นเดือนกรกฎาคม 2565 โดยมูลค่าการถือครองหุ้นคิดเป็น 30.50% ของมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด ที่สำคัญจาก 1) การปรับเพิ่มขึ้นของราคาหุ้นของบริษัทจดทะเบียนในบางหมวดธุรกิจ และ 2)การถือครองหุ้นของบริษัทที่เข้าจดทะเบียนซื้อขายใหม่ (new listing companies)

อุตสาหกรรมที่นักลงทุนต่างประเทศมีมูลค่าการถือครองหุ้นสูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ กลุ่มเทคโนโลยี กลุ่มบริการและกลุ่มธุรกิจการเงิน มีมูลค่าถือครองหุ้นรวม 4.08 ล้านล้านบาท คิดเป็น 69.4% ของมูลค่าการถือครองหุ้นรวมของนักลงทุนต่างประเทศ


• หมวดธุรกิจที่นักลงทุนต่างประเทศมีมูลค่าการถือครองหุ้นสูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ หมวดชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์(ETRON) 1,384,202 ล้านบาท รองลงมา คือ หมวดพลังงานและสาธารณูปโภค (ENERG) 861,642 ล้านบาท และหมวดธนาคาร (BANK) 828,880 ล้านบาท โดย 3 หมวดธุรกิจนี้มีมูลค่าการถือครองหุ้นรวม 3.07 ล้านล้านบาท หรือ52.34% ของมูลค่าการถือครองหุ้นรวมของนักลงทุนต่างประเทศ

• 75.2% ของมูลค่าการถือครองหุ้นของนักลงทุนต่างประเทศเป็นการถือครองหุ้นที่อยู่ในองค์ประกอบของ MSCI Thailand Index เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่อยู่ที่ระดับ 72.3%

 นักลงทุนต่างประเทศที่มีมูลค่าการถือครองหุ้นสูงสุด 10 สัญชาติแรก พบว่า 9 ใน 10 สัญชาติ เป็นสัญชาติเดียวกันกับปีก่อน แต่มีสลับอันดับ โดย นักลงทุนจากสหราชอาณาจักรมีมูลค่าการถือครองหุ้นสูงสุด ตามมาด้วยนักลงทุนจากสิงคโปร์ ฮ่องกง สวิสเซอร์แลนด์ และสหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น เนเธอร์แลนด์ มอริเชียสไต้หวัน และฝรั่งเศส ตามอันดับ ขณะที่บริติช เวอร์จิน ไอส์แลนด์ อันดับลดลงไปอยู่ที่อันดับที่ 11 จากอันดับ 10 ในปีผ่านมา


ณ สิ้นเดือนสิงหาคม 2566 นักลงทุนต่างประเทศถือครองหุ้นในตลาดหุ้นไทย สูงสุดเป็นประวัติการณ์ด้วยมูลค่ารวมกว่า 5.87 ล้านล้านบาท โดยเพิ่มขึ้น 14.95% จากสิ้นเดือนกรกฎาคม 2565 โดยมูลค่าการถือครองหุ้นคิดเป็น30.50% ของมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด

จากการศึกษาข้อมูลการถือครองหุ้นของนักลงทุนต่างประเทศ ในตลาดหุ้นไทยจาก 1) ข้อมูลการปิดสมุดทะเบียนเพื่อรวบรวมรายชื่อผู้ถือหุ้น 2) ข้อมูล Corporate Actions 3) ข้อมูลการระดมทุนผ่านตลาดรองของบริษัทจดทะเบียน795 บริษัท โดยใช้ข้อมูลล่าสุดถึงสิ้นเดือนสิงหาคม 2566 ซึ่งมีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดรวมกว่า 19.26 ล้านล้านบาท หรือคิดเป็น 99.40% ของมูลค่าหลักทรัพย์รวมทั้งตลาด

ณ สิ้นเดือนสิงหาคม 2566 นักลงทุนต่างประเทศมีมูลค่าการถือครองหุ้นในตลาดหุ้นไทยรวมกว่า 5.87 ล้านล้านบาททำสถิติใหม่สูงสุดเป็นประวัติการณ์ (ภาพที่ 1) โดยมูลค่าถือครองหุ้นฯ เพิ่มขึ้นกว่า 760,000 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น14.95% จากสิ้นเดือนกรกฎาคม 2565

จากการศึกษาข้อมูลการถือครองหุ้นของนักลงทุนต่างประเทศ ในตลาดหุ้นไทยจาก 1) ข้อมูลการปิดสมุดทะเบียนเพื่อรวบรวมรายชื่อผู้ถือหุ้น 2) ข้อมูล Corporate Actions 3) ข้อมูลการระดมทุนผ่านตลาดรองของบริษัทจดทะเบียน795 บริษัท โดยใช้ข้อมูลล่าสุดถึงสิ้นเดือนสิงหาคม 2566 ซึ่งมีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดรวมกว่า 19.26 ล้านล้านบาท หรือคิดเป็น 99.40% ของมูลค่าหลักทรัพย์รวมทั้งตลาด

ทั้งนี้ ปัจจัยที่มีผลให้มูลค่าการถือครองหุ้นของนักลงทุนต่างประเทศปรับเพิ่มขึ้น ส่วนหนึ่งมาจาก

1) การปรับเพิ่มขึ้นของราคาหุ้นของบริษัทจดทะเบียนในบางหมวดธุรกิจ สังเกตได้จากดัชนีราคารายหมวดธุรกิจ ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น (ตารางที่ 1)

2) การถือครองหุ้นของบริษัทที่เข้าจดทะเบียนซื้อขายใหม่ (new listing companies) ซึ่งเมื่อพิจารณาเปรียบเทียบมูลค่าการถือครองหุ้นของนักลงทุนต่างประเทศที่เปิดเผยในปีผ่านมา กับมูลค่าการถือครองหุ้นของนักลงทุนต่างประเทศ ณ สิ้นเดือนสิงหาคม 2566 พบว่า นักลงทุนต่างประเทศถือครองหุ้นเพิ่มเติมในกลุ่มบริษัทที่เข้าจดทะเบียนซื้อขายใหม่ จำนวน 45 บริษัท ซึ่งมีมูลค่าถือครองหุ้นรวม 69,528 ล้านบาท

เมื่อพิจารณามูลค่าถือครองหุ้นของนักลงทุนต่างประเทศจำแนกตามกลุ่มอุตสาหกรรมในตลาดหุ้นไทย 9 อุตสาหกรรม (นับตลาดเอ็ม เอ ไอ เป็นอีกหนึ่งอุตสาหกรรม) พบว่า มูลค่าถือครองหุ้นของนักลงทุนต่างประเทศ ณ สิ้นเดือนสิงหาคม 2566 เพิ่มขึ้นในกลุ่มเทคโนโลยี กลุ่มบริการ กลุ่มธุรกิจการเงิน กลุ่มอสังหาริมทรัพย์และสิ่งก่อสร้างและบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ ขณะที่กลุ่มอุตสาหกรรมอื่นๆ มีมูลค่าการถือครองหุ้นลดลงเมื่อเทียบกับปีก่อน อุตสาหกรรมที่มีมูลค่าการถือครองหุ้นฯ สูงสุด 3 อันดับแรก มีการเปลี่ยนแปลงจากปีที่ผ่านมา (ตารางที่ 3) โดยอุตสาหกรรมที่มีการถือครองสูงสุดยังคงเป็นกลุ่มเทคโนโลยีเหมือนปีที่ผ่านมา อันดับที่ 2 คือ กลุ่มบริการ ที่ขยับมาจากอันดับ 4 โดยมีมูลค่าการถือครองหุ้น ขณะที่อันดับ 3 คือ กลุ่มธุรกิจการเงิน โดย 3 อุตสาหกรรมที่มีมูลค่าถือครองหุ้นสูงสุดในปีนี้ มีมูลค่าการถือครองหุ้นรวม 4.08 ล้านล้านบาท หรือคิดเป็น 69.4% ของมูลค่าการถือครองหุ้นรวมของนักลงทุนต่างประเทศ

กลุ่มเทคโนโลยี ยังคงเป็นกลุ่มอุตสาหกรรมที่นักลงทุนต่างประเทศถือครองหุ้นด้วยมูลค่าสูงสุดที่ระดับ 1,930,760 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 775,102 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 67.07% จากปีก่อน โดยปัจจัยสำคัญที่ทำให้มูลค่าการซื้อครองหุ้นในกลุ่มอุตสาหกรรมนี้ปรับตัวสูงขึ้นเป็นผลจาก 1) ราคาหลักทรัพย์ของบริษัทจดทะเบียนในหมวดชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น และ 2) การถือครองหุ้นเพิ่มขึ้นในบริษัทจดทะเบียนในหมวดชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์และบริษัทจดทะเบียนขนาดใหญ่ในหมวดเทคโนโลยีและการสื่อสารที่อยู่ในกลุ่มอุตสาหกรรมนี้

อันดับที่ 2 คือ กลุ่มบริการ ปรับขึ้นมาจากอันดับ 4 ในปีก่อน โดยมีมูลค่าการถือครองหุ้นรวม 1,086,482 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 194,638 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 21.82% จากปีก่อน 

โดยปัจจัยสำคัญที่ทำให้มูลค่าการซื้อครองหุ้นในกลุ่มอุตสาหกรรมนี้ปรับตัวสูงขึ้นเป็นผลจาก 1) การได้รับความสนใจเพิ่มขึ้นของนักลงทุนต่างประเทศและถือครองหุ้นเพิ่มขึ้นในบริษัทจดทะเบียนขนาดใหญ่ในหมวดการแพทย์ และ2) การปรับย้ายหมวดธุรกิจของบริษัทจดทะเบียนขนาดใหญ่ในหมวดอาหารและเครื่องดื่ม ภายใต้กลุ่มเกษตรและอุตสาหกรรมอาหาร ย้ายมาอยู่ในหมวดการท่องเที่ยวและสันทนาการ ภายใต้กลุ่มบริการ

อันดับ 3 คือ กลุ่มธุรกิจการเงิน ที่ลดลงจากอันดับ 2 ในปีก่อน โดยมีมูลค่าการถือครองหุ้นรวม 1,057,987 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 51,237 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 5.09% จากปีก่อน สวนทางกับการเปลี่ยนแปลงดัชนีกลุ่มอุตสาหกรรมที่ลดลง0.97% จากปีก่อน ทั้งนี้เนื่องจาก 1) การเข้าจดทะเบียนของบริษัทจดทะเบียนขนาดใหญ่ในหมวดประกันภัยและประกันชีวิต และ 2) การถือครองหุ้นของบริษัทจดทะเบียนในหมวดธนาคารบางแห่งที่เพิ่มขึ้น โดยบางธนาคารเป็นผลจากราคาที่ปรับเพิ่มขึ้น ขณะที่บางธนาคารมีการถือครองด้วยจำนวนหุ้นที่เพิ่มขึ้น ขณะที่อันดับ 4 คือ กลุ่มทรัพยากร ที่ลดลงจากอันดับ 3 ในปีก่อน โดยมีมูลค่าการถือครองหุ้นรวม 861,642 ล้านบาท ลดลง 91,779 ล้านบาท หรือลดลง9.63% จากปีก่อน ใกล้เคียงดัชนีของกลุ่มอุตสาหกรรมที่ปรับตัวลดลง 8.94% จากปีก่อน

นักลงทุนต่างประเทศมีมูลค่าการถือครองหุ้นสูงสุดในหมวดหมวดชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ รองลงมา คือ พลังงานและสาธารณูปโภค และธนาคาร หมวดธุรกิจที่นักลงทุนต่างประเทศถือครองหุ้นสูงสุด 3 อันดับแรก (ตารางที่ 4) คือหมวดชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ หมวดพลังงานและสาธารณูปโภค และหมวดธนาคาร ซึ่งยังคงเป็นหมวดเดียวกันกับปีที่ผ่านมา แต่สลับอันดับ โดยหมวดชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ขยับขึ้นไปอยู่ในอันดับ 1 จากอันดับที่ 3 ในปีก่อน ขณะที่หมวดพลังงานและสาธารณูปโภค และหมวดธนาคาร ปรับลดลงมาอยู่ที่อันดับที่ 2 และ 3 จากอันดับที่ 1 และ 2 ในปีก่อนโดยในปีนี้ทั้ง 3 หมวดธุรกิจ มีมูลค่าถือครองหุ้นรวม 3.07 ล้านล้านบาท คิดเป็น 52.34% ของมูลค่าการถือครองหุ้นรวมของนักลงทุนต่างประเทศ

หมวดชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ (ETRON) มีมูลค่าการถือครองหุ้นสูงสุด 1,384,202 ล้านบาท คิดเป็น 23.56% ของมูลค่าการถือครองหุ้นรวมของนักลงทุนต่างประเทศ

รองลงมา คือ หมวดพลังงานและสาธารณูปโภค (ENERG) มีมูลค่าการถือครองหุ้นรวม 861,642 ล้านบาท คิดเป็น14.67% ของมูลค่าการถือครองหุ้นรวมของนักลงทุนต่างประเทศ และหมวดธนาคาร (BANK) มูลค่าการถือครองหุ้นรวม 828,880 ล้านบาท คิดเป็น 14.11% ของมูลค่าการถือครองหุ้นรวมของนักลงทุนต่างประเทศ  

จากรายชื่อหลักทรัพย์ที่นักลงทุนต่างประเทศถือครองหุ้น ณ สิ้นเดือนสิงหาคม 2566 เปรียบเทียบกับรายชื่อองค์ประกอบของ MSCI Thailand Index จำนวน 41 บริษัท พบว่า นักลงทุนต่างประเทศถือครองทุกหลักทรัพย์ที่เป็นองค์ประกอบดัชนีดังกล่าว โดยมีมูลค่าการถือครองหุ้นรวม 4.42 ล้านล้านบาท คิดเป็น 75.2% ของมูลค่าการถือครองหุ้นรวมของนักลงทุนต่างประเทศ (ภาพที่ 3) ซึ่งมีมูลค่าการถือครองหุ้นเพิ่มขึ้น 19.7% จากสิ้นเดือนกรกฎาคม 2565 ที่มีมูลค่าการถือครองหุ้นที่เป็นองค์ประกอบดัชนีรวม 3.69 ล้านล้านบาท

 จากข้อมูลการถือครองหุ้นของนักลงทุนต่างประเทศ ณ สิ้นเดือนสิงหาคม 2566 พบว่า มีนักลงทุนต่างประเทศจำนวน122 สัญชาติถือครองหุ้นในตลาดหุ้นไทย ลดลงสุทธิ 1 สัญชาติ จากปีก่อน โดยนักลงทุนต่างประเทศที่มีมูลค่าการถือครองหุ้นสูงสุด 10 สัญชาติแรก มีมูลค่าถือครองหุ้นรวม 5.64 ล้านล้านบาท คิดเป็น 96.0% ของมูลค่าการถือครองหุ้นทั้งหมดของบ.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เปิดแชต “สีกากอล์ฟ” หลอกยืมเงิน “อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร” 4 แสน

18 ก.ค. – เปิดแชต “สีกากอล์ฟ” หลอกยืมเงิน “อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร” 400,000 บาท อ้างป่วย ต้องใช้เงินผ่าตัด และแลกหลักฐานกรณีอดีตเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร มีความสัมพันธ์กับสีกากอล์ฟ อดีตผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ จ.พิจิตร หลงกลเล่ห์เหลี่ยมของสีกากอล์ฟ โดยเมื่อปี 2559 อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร ส่งข้อความไปหาสีกากอล์ฟ ว่ามีเรื่องสำคัญของบ้านเมืองจะปรึกษา และหว่านล้อมว่าสีกากอล์ฟเป็นบุคคลสำคัญยิ่งที่จะเปลี่ยนแปลงการปกครองส่วนหนึ่งใน จ.พิจิตร ไปในทิศทางที่ดีขึ้น หากให้ความร่วมมือจะมีผู้ใหญ่ใจดีที่พร้อมจะดูแลสีกากอล์ฟและลูก แล้วทิ้งเบอร์โทรศัพท์ไว้ให้ติดต่อกลับ จากนั้นสีกากอล์ฟตอบกลับข้อความ ทำให้อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร เปิดเผยเป้าหมายทันทีว่าต้องการดำเนินการกับพระราชสิทธิเวที ในขณะนั้น (อดีตเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร และอดีตเจ้าอาวาสวัดท่าหลวง จ.พิจิตร ที่เพิ่งสึกไป) ซึ่งมีเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับการทุจริต เสพเมถุน และประพฤติตนไม่เหมาะสม อาจเชื่อมโยงมาถึงสีกากอล์ฟ พร้อมเสนอเงิน 1 ล้านบาท แต่สีกากอล์ฟชวนอดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร คุยเรื่องทั่วไป โดยเฉพาะอ้างว่ามีอาการป่วย ต้องใช้เงินผ่าตัดประมาณ 400,000 บาท […]

“ทักษิณ” ซัดผู้นำกัมพูชาไร้จริยธรรม แต่คนไทยกลับเชื่อ

17 ก.ค. – “ทักษิณ” ซัดผู้นำกัมพูชาไร้จริยธรรม แต่คนไทยกลับเชื่อ งงทำไมคนไทยไม่รักกัน ตอกพรรคที่เพิ่งหลุดร่วมรัฐบาลไป เป็นเขมรหรือไทย หลังติง “ลูกอิ๊งค์” ขายชาติ บอกปัจจุบันการเมืองไม่มีเสถียรภาพเหมือนสมัยรัฐบาล “คึกฤทธิ์” นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ปาฐกถาพิเศษ หัวข้อ “ปลดล็อกอนาคตประเทศไทย สู้วิกฤติโลก พลิกเกมเศรษฐกิจไทย” และ “พลิกเกมเศรษฐกิจไทย สู่อนาคต” จัดโดย บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) โดยมี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรมว.วัฒนธรรม พร้อมครม. อาทิ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกฯ และรมว.คมนาคม นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกฯ และรมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นายชูศักดิ์ ศิรินิล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายสุชาติ ตันเจริญ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี น.ส.จิราพร สินธุไพร รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ […]

แม่ทัพภาค 2 เยี่ยมให้กำลังใจทหารบาดเจ็บเหยียบกับระเบิด

อุบลราชธานี 17 ก.ค.-แม่ทัพภาค 2 เยี่ยมให้กำลังใจทหารได้รับบาดเจ็บเหยียบกับระเบิด ซึ่งอาการโดยรวมดีขึ้น ที่โรงพยาบาลค่ายสรรพสิทธิประสงค์ มณฑลทหารบกที่ 22 อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ได้เข้าเยี่ยมให้กำลังใจกับทหารสังกัดกรมทหารราบที่ 6 ที่ได้รับบาดเจ็บจากการเหยียบกับระเบิดทั้ง 3 นาย ซึ่งมีอาการโดยรวมดีขึ้น สำหรับทหารที่ได้รับบาดเจ็บทั้ง 3 นายประกอบด้วย ส.อ.ปฏิพัทธ์ ศรีลาศักดิ์ มีบาดแผลฟกซ้ำบริเวณหน้าอกจากการถูกแรงอัดระเบิด ตอนแรกมีอาการเจ็บหน้า แต่ปัจจุบันดีขึ้น พลทหารณัฐวุฒิ ศรีเข้ม มีบาดแผลฟกซ้ำที่หน้าอกจากการอัดของระเบิด แน่นหน้าอก แต่ช่วยเหลือตัวเองได้ พลทหารธนพัฒน์ หุยวัน ต้องตัดขาซ้ายใต้เข่าจากแรงระเบิด มีอาการปวดแผล แต่กินอาหารได้ตามปกติ หลังเยี่ยมพูดคุยให้กำลังใจ แม่ทัพก็เดินทางกลับไป เพื่อไปติดตามสถานการณ์ชายแดนด้านจังหวัดสุรินทร์ต่อไป.-711.-สำนักข่าวไทย

จนท. เข้าพบพระพรหมบัณฑิต ขอตรวจสอบบัญชีเงินวัดประยูรฯ

กทม. 17 ก.ค. – ตำรวจ ปปป. ป.ป.ท. และเจ้าหน้าที่สำนักพุทธฯ บุกวัดประยุรวงศาวาส เข้าตรวจสอบบัญชีเงินวัด เบื้องต้น  ยืนยันไม่ใช่การบุกค้นกุฏิ พระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาส พ.ต.ท.สิริพงษ์ ศรีตุลา รักษาราชการแทนรองเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.), พ.ต.อ.สถาปนา จุณณวัตต์ ผู้กำกับการกองกำกับการ 6 กองบังคับการปราบปราม พร้อมเจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธแห่งชาติแห่งชาติ เดินทางเข้าพบพระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร เพื่อพูดคุยและขอข้อมูลเกี่ยวกับเอกสารการเงินภายในวัด หลังอดีตเจ้าคุณประสิทธิ์ อดีตผู้ช่วยเจ้าอาวาส เข้าไปพัวพันกับสีกากอล์ฟ และตรวจสอบข้อเท็จจริงจากคำให้การของพยาน ที่พบเงินถูกพับในลักษณะถูกนำออกมาจากตู้บริจาคในบ้านของสีกากอล์ฟ ซึ่งการตรวจสอบในวันนี้จะเน้นเรื่องเส้นทางการเงินของวัดทั้งหมด ที่ต้องสงสัยว่าอาจมีบางส่วนถูกยักยอก หลังการตรวจสอบ ผู้กำกับการ 6 บก.ปปป. กล่าวว่า ไม่สามารถที่จะเปิดเผยข้อมูลได้ ผู้บังคับบัญชาจะเป็นผู้ชี้แจง หลังจากนี้จะนำข้อมูลต่างๆ กลับไปเรียนให้ผู้บังคับบัญชาได้ทราบ แต่ยืนยันว่า วันนี้เป็นเพียงแค่การเข้ามาขอข้อมูลเท่านั้น ด้านเจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติระบุว่า เป็นเพียงการบูรณาการของหน่วยงาน ที่เกี่ยวข้อง และในการตรวจสอบเรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับ พระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวาสวรวิหารแต่อย่างใด มีรายงานเพิ่มเติมว่าเจ้าหน้าที่ทั้ง 3 หน่วยงาน ได้นำกำลังส่วนหนึ่งเข้าไปตรวจสอบที่มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณ์ราชวิทยาลัย หรือ […]

ข่าวแนะนำ

รวบแล้ว “เสือปุ่น” หัวหน้าแก๊งปล้นเงิน 3.4 ล้าน กลางห้างดัง

กรุงเทพฯ 18 ก.ค. – สืบนครบาลจับ “เสือปุ่น” หัวหน้าแก๊งปล้นเงิน 3.4 ล้าน กลางห้างดัง พร้อมสมุน หลังหนีซุกบ้านเช่าย่านลำลูกกา จ.ปทุมธานี เร่งล่าอีก 1 ยังหลบหนี กรณีคนร้าย 7 คน แก๊งเสือปุ่น ใช้อาวุธปืนและมีด ก่อเหตุปล้นเงินสด 3.4 ล้านบาท จากผู้มาซื้อคริปโตฯ เหตุเกิดที่ลานจอดรถชั้น 1 ห้างสรรพสินค้าชื่อดังแห่งหนึ่ง เมื่อคืนวันที่ 30 มิ.ย.ที่ผ่านมา ความคืบหน้าล่าสุด พล.ต.ต.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล (ผบก.สส.บช.น.) พร้อมด้วย พ.ต.อ.สิทธิศักดิ์ นาคามาตย์ ผู้กำกับการสืบสวนสอบสวน 2 กองบังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล (ผกก.สส.2 บก.สส.บช.น.) และตำรวจ บก.สส.บช.น. ร่วมกันจับกุม นายวรวัฒน์ หรือ เสือปุ่น อายุ 43 ปี […]

เดินหน้าเอาผิดหญิงกัมพูชาชี้หน้าด่าไล่ทหารไทย

18 ก.ค. – ปกติคดีทำร้ายร่างกายและจิตใจ ไม่ใช่คดีใหญ่ แต่เมื่อเป็นคู่กรณีไทย-กัมพูชา ในสถานการณ์ความตึงเครียดตามแนวชายแดน จึงกลายเป็นคดีระดับประเทศที่ผู้บังคับบัญชาให้ความสำคัญ และดำเนินการอย่างรัดกุม ทั้งคดีอดีตทหารพรานทำร้ายร่างกายทหารกัมพูชา และคดีหญิงกัมพูชา ชี้หน้าด่าไล่ทหารไทยบริเวณปราสาทตาเมือนธม จังหวัดสุรินทร์.-สำนักข่าวไทย

ไทยเตรียมประท้วง UN หากทุ่นระเบิดเป็นของใหม่

18 ก.ค. – แม่ทัพภาค 2 ลั่นรอผลตรวจสอบกับระเบิดทำทหารไทยขาขาด หากเป็นของใหม่ จะเสนอประท้วงไปยังยูเอ็น ขอให้มีมาตรการคว่ำบาตรกัมพูชา ทำผิดอนุสัญญาออตตาวา กรณีทหารเหยียบกับระเบิด บนเนินช่องบก จ.อุบลราชธานี คาดว่าไม่เกิน 2 วัน จะชัดเจนว่าเป็นทุ่นระเบิดใหม่หรือของเก่า แต่มีคำยืนยันว่าไทยไม่เพิกเฉยเรื่องนี้แน่นอน พลโทบุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 บอกว่า หากผลพิสูจน์ชัดเจนว่า ทุ่นระเบิดเป็นของใหม่ จะใช้กลไกกองทัพบกประสานต่อกระทรวงต่างประเทศ ให้ยื่นประท้วงกัมพูชาต่อองค์การสหประชาชาติ เพื่อดำเนินการคว่ำบาตรกัมพูชา ตามสนธิสัญญาออตตาวา ห้ามใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ซึ่งไทยและกัมพูชาก็เป็นสมาชิกที่มีเกือบ 200 ประเทศทั่วโลก ส่วนมาตรการตอบโต้อย่างอื่น ยังบอกไม่ได้ สำหรับบริเวณช่องบก จุดเกิดเหตุระเบิดจนทำให้กำลังพลบาดเจ็บ 3 นาย จุดนั้น เป็นพื้นที่สู้รบเก่าที่สามารถพบทุ่นระเบิดเก่าได้ ซึ่งวันนี้ ทางชุดเก็บกู้ทุ่นระเบิดแห่งชาติ ที่มีผู้เชี่ยวชาญด้านกับระเบิดซึ่งทั่วโลกยอมรับ ได้ลงพื้นที่พิสูจน์ มีแนวโน้มเป็นไปได้ทั้งนำมาวางไว้ก่อน หรือหลังเหตุปะทะที่ช่องบก เมื่อวันที่ 28 พฤษภาคมที่ผ่านมา ส่วนในพื้นที่ ได้กำชับกำลังพลทุกนายให้เฝ้าระวังมากยิ่งขึ้น แม่ทัพภาคที่ 2 ยังพูดถึงประเด็นดราม่า […]

บ้านดอนตัน กว่า 100 หลังคาเรือน ยังจมน้ำ

น่าน 18 ก.ค. – “บ้านดอนตัน” จ.น่าน กว่า 100 หลังคาเรือน ยังคงจมน้ำ น้ำใจหลั่งไหลเข้าช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย รวมทั้งเยาวชนฝีพายเรือแข่งอำเภอท่าวังผา ขนน้ำดื่มลงเรือแจกจ่ายช่วยชาวบ้าน สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ จ.น่าน ยังน่าเป็นห่วง โดยเฉพาะที่บ้านดอนตัน หมู่ 4 ต.ศรีภูมิ อ.ท่าวังผา ชาวบ้านกว่าร้อยหลังคาเรือนยังอาศัยอยู่ท่ามกลางน้ำท่วมขัง ระดับน้ำในพื้นที่สูงกว่า 1 เมตร ประชาชนต้องย้ายสิ่งของขึ้นชั้น 2 เพื่อความปลอดภัย ส่วนผู้อาศัยอยู่ในบ้านชั้นเดียว ต้องอพยพไปพักอยู่กับญาติในพื้นที่ใกล้เคียง หลายหน่วยงานทั้งภาครัฐ เอกชนและจิตอาสา ระดมกำลังเข้าช่วยเหลือประชาชนอย่างเร่งด่วน โดยจัดส่งอาหาร น้ำดื่มและสิ่งของจำเป็น โดยเฉพาะเยาวชนฝีพายเรือแข่งจากบ้านสบหนอง อำเภอท่าวังผา นำเรือออกให้ความช่วยเหลือในการขนส่งน้ำดื่มและอาหารไปยังบ้านที่ถูกน้ำล้อม เพื่อส่งต่อถึงผู้ประสบภัยที่ยังติดอยู่ในบ้าน ผู้ใหญ่บ้านดอนตัน เปิดเผยว่า ขณะนี้ระดับน้ำเริ่มทรงตัวและ มีแนวโน้มลดลง แต่บริเวณท้ายหมู่บ้าน ซึ่งเป็นพื้นที่ลุ่มต่ำและอยู่ติดแม่น้ำยังคงมีน้ำท่วมสูง โดยเฉพาะในพื้นที่การเกษตรที่ได้รับผลกระทบอย่างรุนแรง ทั้งไร่ข้าวโพดและลำไย รวมกว่า 2,000 ไร่ ถูกน้ำท่วมเสียหายทั้งหมด ขณะที่หมู่บ้านใกล้เคียงในพื้นที่ ต.ป่าคา อ.ท่าวังผา ได้แก่ […]