หุ้นไทยมีสภาพคล่องสูงสุดในอาเซียนนับตั้งแต่ปี 2555 

กรุงเทพฯ 5 ต.ค.-บทความ “ตลาดหลักทรัพย์ไทยกับบทบาทในเวทีโลก” โดยตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยตลาดทุนไทยมีความโดดเด่นหลายมิติ ทั้งเชิงปริมาณและคุณภาพเมื่อเทียบเคียงตลาดหลักทรัพย์ในภูมิภาค โดยมีสภาพคล่องสูงสุดในอาเซียนนับตั้งแต่ปี 2555 อีกทั้งมีมูลค่าเสนอขายหุ้น IPO สะสม 5 ปีย้อนหลังสูงที่สุดในอาเซียนและมีปริมาณการซื้อขายเฉลี่ยในตลาดอนุพันธ์เป็นอันดับที่ 2 ในอาเซียน


ทั้งนี้ ตลาดหลักทรัพย์ฯ ให้ความสำคัญต่อการพัฒนาเศรษฐกิจที่เชื่อมโยงในภูมิภาค อาทิ การพัฒนาผลิตภัณฑ์ข้ามตลาด (cross-border products) การขับเคลื่อนความยั่งยืน รวมทั้งการส่งเสริมภาพลักษณ์ของประเทศและเศรษฐกิจไทยสู่สายตานานาชาติอย่างต่อเนื่อง ผ่านหลากหลายบทบาทสำคัญในเวทีโลก เพื่อเพิ่มโอกาสการลงทุนสู่ตลาดทุนไทย อันจะเอื้อประโยชน์ต่อการพัฒนาประเทศต่อไป

นอกเหนือจากบทบาทหลักในการเป็นหนึ่งในเสาหลักเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ ผ่านการทำหน้าที่เป็นแหล่งระดมทุนให้กับภาคธุรกิจทุกขนาดทั้งภาครัฐและเอกชนที่ขยายไปสู่อุตสาหกรรมใหม่และระบบนิเวศดิจิทัล การส่งเสริมพัฒนาการด้านคุณภาพของบริษัทจดทะเบียน และการเป็นแหล่งการลงทุนและการออมให้กับผู้ลงทุนทุกประเภทเพื่อส่งเสริมตลาดทุนไทยให้เติบโตทั้งเชิงธุรกิจ อุตสาหกรรมตลาดทุน สังคม และประเทศอย่างยั่งยืนนั้นตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยยังให้ความสำคัญต่อการพัฒนาเศรษฐกิจที่เชื่อมโยงในภูมิภาค การส่งเสริมภาพลักษณ์ของประเทศและเศรษฐกิจไทยสู่สายตาของนานาชาติมาอย่างต่อเนื่อง ผ่านหลากหลายบทบาทสำคัญในเวทีโลก


ตลาดทุนไทยโดดเด่นเมื่อเทียบเคียงตลาดหลักทรัพย์ในภูมิภาค

ตลาดทุนไทยเติบโตอย่างแข็งแกร่งด้วยมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดสูงที่สุดเป็นอันดับที่ 24 ของโลกในปัจจุบันและได้รับการจัดอันดับอยู่ในกลุ่มตลาดเกิดใหม่ชั้นนำของโลก (advanced emerging market) โดย FTSE Russell

ตลาดทุนไทยมีความโดดเด่นหลายมิติ ทั้งเชิงปริมาณและคุณภาพเมื่อเทียบเคียงกับตลาดหลักทรัพย์อื่นในภูมิภาคโดยเป็นตลาดหลักทรัพย์ฯ ที่มีสภาพคล่องสูงที่สุดในอาเซียนนับตั้งแต่ปี 2555 อีกทั้งมีมูลค่าเสนอขายหุ้น IPO สะสม5 ปีย้อนหลังสูงที่สุดในอาเซียน และมีปริมาณการซื้อขายเฉลี่ยในตลาดอนุพันธ์เป็นอันดับที่ 2 ในอาเซียน


ในเชิงคุณภาพ ตลาดหลักทรัพย์ฯ เป็นประเทศแรกในอาเซียน ที่เข้าเป็นสมาชิก United Nations Sustainable Stock Exchanges (SSE) โดยให้ความสำคัญกับการพัฒนางานด้านความยั่งยืนของบริษัทจดทะเบียนที่เป็นตัวอย่างให้แก่ประเทศอื่นได้เรียนรู้ จะเห็นได้ว่า ประเทศไทยมีบริษัทจดทะเบียนที่ได้รับคัดเลือกเข้าสู่ดัชนีความยั่งยืนในระดับสากลสูงที่สุดในภูมิภาค ไม่ว่าจะเป็นดัชนี Dow Jones Sustainability Indices (DJSI) โดย S&P Global ที่มีบริษัทจดทะเบียนไทยที่ได้รับคัดเลือกเข้าสู่ดัชนีถึง 26 บริษัท สูงที่สุดในอาเซียนต่อเนื่องเป็นปีที่ 9 ในขณะที่ดัชนีFTSE4Good Index และ MSCI ESG Universal Index มีบริษัทจดทะเบียนไทยอยู่ 42 และ 41 บริษัท ซึ่งสูงที่สุดในอาเซียนเช่นเดียวกัน 

นอกจากนี้ จากการประกาศล่าสุดของ The Sustainability Yearbook 2023 โดย S&P Global บริษัทไทยได้รับการจัดอันดับในระดับ Gold Class 12 บริษัท มากที่สุดเป็นอันดับหนึ่งของโลก สะท้อนถึงความโดดเด่นของธุรกิจไทยเมื่อเทียบกับคู่แข่งในอุตสาหกรรมเดียวกันจากทั่วโลก และสะท้อนถึงการให้ความสำคัญต่อการดำเนินธุรกิจอย่างสมดุลทั้งธุรกิจและสังคม ซึ่งตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้เตรียมความพร้อมบริษัทมาอย่างต่อเนื่องเพื่อให้บริษัทก้าวสู่ดัชนีสากลเพื่อสร้างความเชื่อมั่นในสายตาผู้ลงทุนทั้งในและต่างประเทศ อันนำไปสู่ความน่าสนใจในการลงทุนสู่ประเทศไทย

บทบาทตลาดหลักทรัพย์ฯ ในระดับนานาชาติ ตลาดหลักทรัพย์ฯ เชื่อมโยงการลงทุนสู่ประเทศในกลุ่ม CLMVตลาดทุนไทยมีบทบาทในการเชื่อมโยงการลงทุนสู่ประเทศในกลุ่ม CLMV ได้แก่ กัมพูชา ลาว เมียนมา และเวียดนาม โดยสนับสนุนการพัฒนาตลาดทุน CLMV ที่เป็นกลุ่ม frontier market ในด้านการพัฒนาความรู้ทางการเงินและการปรับเกณฑ์เพื่อส่งเสริมให้บริษัทในกลุ่มประเทศ CLMV มาระดมทุนผ่านตลาดทุนไทย ทั้งนี้ ตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้เชื่อมโยงตลาดทุนไทยสู่กลุ่มประเทศ CLMV ผ่านการออกดัชนี SET CLMV Exposure ตั้งแต่ปี 2561 เพื่อสะท้อนความเคลื่อนไหวของหุ้นไทยที่ได้รับประโยชน์จากการขยายตัวทางเศรษฐกิจของประเทศในกลุ่ม CLMV โดยพิจารณาจากรายได้ของบริษัทจดทะเบียนจากกลุ่มประเทศ CLMV ซึ่งเติบโตมาอย่างต่อเนื่อง 

นอกจากนี้ ตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้เปิดซื้อขาย Depositary Receipt (DR) ตัวแรกเมื่อปี 2561 อ้างอิงกองทุนExchange Traded Fund (ETF) ที่ลงทุนในดัชนี VN30 ที่เป็นดัชนีหุ้นชั้นนำ 30 ตัว ของตลาดหลักทรัพย์โฮจิมินห์เพื่อเป็นทางเลือกให้ผู้ลงทุนไทยกระจายการลงทุนไปยังต่างประเทศได้สะดวก ผ่านการซื้อขาย DR ในรูปสกุลเงินบาทซึ่งประสบความสำเร็จอย่างมาก โดยปัจจุบันได้ขยายไปยังสินทรัพย์อ้างอิงของประเทศอื่นๆ อีกมากมาย รวมมี DR อ้างอิงหุ้นต่างประเทศถึง 19 รายการด้วยกัน

ตลาดหลักทรัพย์ฯ กับบทบาทผู้นำการสร้างมาตรฐานและความร่วมมือในภูมิภาคอาเซียนตลาดหลักทรัพย์ฯ ให้ความสำคัญต่อการเชื่อมโยงกับตลาดหลักทรัพย์ในภูมิภาคอาเซียน โดยเป็นหนึ่งในกลุ่มประเทศผู้นำในอาเซียนที่ผลักดันนโยบายความร่วมมือ เพื่อสร้างความน่าสนใจให้กับตลาดหลักทรัพย์อาเซียน อาทิ การขับเคลื่อนความยั่งยืน การพัฒนาผลิตภัณฑ์ข้ามตลาด (cross-border products) เพื่อขยายโอกาสการลงทุน การยกระดับตลาดหลักทรัพย์อาเซียนและการลงทุนที่ยั่งยืน การขยายการรับรู้ถึงศักยภาพของตลาดหลักทรัพย์อาเซียนแก่ผู้ลงทุนนานาชาติผ่านการพัฒนาเว็บไซต์ตลาดหลักทรัพย์อาเซียนและการจัดโรดโชว์ เป็นต้น

ตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้ผลักดันให้จัดตั้งคณะทำงานด้านความยั่งยืน (ESG Working Group) ขึ้น เพื่อให้เกิดความร่วมมือที่เป็นรูปธรรมในอาเซียน ที่สนับสนุนให้การเปิดเผยข้อมูลด้าน ESG ของบริษัทจดทะเบียนอาเซียนมีความสอดคล้องกัน เพื่อเป็นข้อมูลให้ผู้ลงทุนทั่วโลกสามารถนำไปใช้ในการเปรียบเทียบและตัดสินใจลงทุน ซึ่งทำให้เกิดการขยายผล และนำไปสู่การจัดทำ ASEAN Exchanges Common ESG Metrics ที่เป็นมาตรฐานขึ้น และได้เผยแพร่เมื่อการประชุม ASEAN Exchanges CEOs ครั้งที่ 36 ในเดือนกันยายน 2566

(Link: https://www.aseanexchanges.org/content/common-esg-metrics/)

ตลาดหลักทรัพย์ฯ ส่งเสริมผู้ลงทุนต่างประเทศให้เข้าถึงบริษัทจดทะเบียนไทยโดยผ่าน DR ตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้ผลักดันการสร้างความร่วมมือด้านผลิตภัณฑ์ข้ามตลาดอาเซียน ด้วย DR ซึ่งนอกเหนือจากการพัฒนา DR เพื่อให้ผู้ลงทุนไทยกระจายการลงทุนไปยังหลักทรัพย์หรือกองทุนต่างประเทศแล้ว ยังเปิดโอกาสให้ผู้ลงทุนต่างประเทศได้เข้าถึงบริษัทจดทะเบียนไทยด้วยเช่นกัน เริ่มต้นด้วยความร่วมมือกับตลาดหลักทรัพย์สิงคโปร์ (Singapore Exchange: SGX) ซึ่งปัจจุบัน มี 3 หลักทรัพย์ไทยที่เข้าจดทะเบียนในรูปแบบ DR ใน SGX เริ่มตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2566 ทำให้ผู้ลงทุนต่างชาติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากสิงคโปร์ซึ่งเป็นศูนย์กลางทางการเงินของภูมิภาค ได้รู้จักหลักทรัพย์ไทยผ่านการประชาสัมพันธ์ การให้ความรู้ และบทวิเคราะห์ และสามารถเข้าถึงหุ้นไทยได้สะดวกมากขึ้น ทั้งนี้ ตลาดหลักทรัพย์ฯ จะขยายความร่วมมือด้าน DR นี้ กับตลาดหลักทรัพย์อื่นในอาเซียนต่อไป

ตลาดหลักทรัพย์ฯ เน้นสื่อสารข้อมูลตลาดทุนไทยไปยังผู้ลงทุนและองค์กรที่เกี่ยวข้องทั่วโลก ตลาดหลักทรัพย์ฯ เป็นพันธมิตรกับองค์กรในระดับนานาชาติและริเริ่มกิจกรรมเชิงรุกที่หลากหลาย เพื่อสื่อสารข้อมูลภาพรวมของประเทศไทย เศรษฐกิจและตลาดทุนไทย รวมถึงบริษัทจดทะเบียนไทยที่มีผลประกอบการที่โดดเด่นสู่สายตานานาชาติไม่ว่าจะเป็นกลุ่มผู้ลงทุนโดยตรง สื่อต่างประเทศ หรือองค์กรต่างประเทศ ซึ่งรวมถึงสถานเอกอัครราชทูตต่างประเทศในประเทศไทย หรือสถานเอกอัครราชทูตไทยในต่างประเทศ เพื่อส่งเสริมให้เกิดการลงทุนจากต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง

ตลาดหลักทรัพย์ฯ ร่วมมือกับพันธมิตรในตลาดทุน จัดงานโรดโชว์ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็นการจัดงาน Thailand Focus เป็นประจำทุกปี เพื่อชูศักยภาพเศรษฐกิจและตลาดทุนไทยแก่ผู้ลงทุนสถาบันทั่วโลก และสร้างโอกาสใหม่เพื่อเชื่อมโยงการลงทุน รวมถึงการจัดโรดโชว์ไปยังกลุ่มประเทศต่างๆ ทั้งที่เป็นการจัดโดยตลาดหลักทรัพย์ฯ เอง และการร่วมจัดกับตลาดหลักทรัพย์พันธมิตร อาทิ การร่วมมือกับกลุ่มตลาดหลักทรัพย์อาเซียน และFTSE Russell ส่งเสริมการลงทุนในกลุ่มหลักทรัพย์อาเซียน ในงาน ASEAN & FTSE Roadshow 2022 ให้แก่ผู้ลงทุนในกรุงนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา หรือการร่วมมือกับตลาดหลักทรัพย์เซินเจิ้น (Shenzhen Stock Exchange: SZSE) จัดโรดโชว์ผ่านแพลตฟอร์ม V-Next ของ SZSE เพื่อแสดงศักยภาพของบริษัทจดทะเบียนและสถาบันตัวกลางของทั้งสองประเทศให้แก่ผู้ลงทุนจีนและต่างชาติ มุ่งเน้นที่อุตสาหกรรมภาคการผลิต ยานพาหนะไฟฟ้า และพลังงานสะอาด

ไม่เพียงแต่การสื่อสารไปยังผู้ลงทุน ตลาดหลักทรัพย์ฯ ให้ความสำคัญต่อการสื่อสารไปยังองค์กรในระดับนานาชาติด้วย โดยได้ริเริ่มจัดงาน “Embassies @ SET” ตั้งแต่ปี 2562 เพื่อเชิญชวนเอกอัครราชทูต ทูตพาณิชย์ ทูตการค้าและเจ้าหน้าที่การทูต จากสถานเอกอัครราชทูตในประเทศไทย ซึ่งเป็นแกนสำคัญในการเชื่อมโยงและให้ข้อมูลด้านการค้าการลงทุนของแต่ละประเทศ  ให้ร่วมรับฟังข้อมูลศักยภาพตลาดทุนไทยและเศรษฐกิจของประเทศไทย ความโดดเด่นด้านการพัฒนาความยั่งยืนและความแข็งแกร่งของบริษัทจดทะเบียนไทย เพื่อเปิดมุมมองให้เห็นถึงโอกาสการลงทุนในประเทศไทย นับเป็นการขยายการรับรู้ พร้อมสร้างโอกาสและการเชื่อมโยงในการทำธุรกิจกับต่างประเทศมากขึ้น โดยได้รับการตอบรับอย่างดียิ่งจากคณะทูตประเทศต่างๆ มากกว่า 40 ประเทศทั่วโลก ซึ่งนับเป็นโอกาสที่ดีในการแลกเปลี่ยนมุมมองกับผู้แทนจากประเทศต่างๆ เพื่อการพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการของตลาดทุนไทย ให้ตอบโจทย์ผู้ระดมทุนและผู้ลงทุนต่างประเทศ นอกจากนี้ ยังได้ต่อยอดพัฒนาความร่วมมือทั้งกับสถานเอกอัครราชทูตและตลาดหลักทรัพย์ของประเทศนั้นๆ จากการจัดงานนี้ในหลายโครงการด้วยกัน

ตลาดหลักทรัพย์ฯ เป็นสมาชิกที่มีบทบาทขององค์กรตลาดทุนนานาชาติตลาดหลักทรัพย์ฯ ตอกย้ำบทบาทในเวทีโลกผ่านการเข้าร่วมเป็นสมาชิกและมีบทบาทในองค์กรระดับสากลที่เกี่ยวข้องกับตลาดทุน อาทิ  สมาพันธ์ตลาดหลักทรัพย์โลก (World Federation of Exchanges: WFE) สหพันธ์ตลาดหลักทรัพย์ภาคพื้นเอเชียและโอเซียเนีย (Asian and Oceanian Stock Exchanges Federation: AOSEF) รวมถึง Association of National Numbering Agencies (ANNA), Association of Futures Market (AFM), Global Association of Central Counterparties (CCP12) เป็นต้น ผ่านการเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมประจำปี การเข้าร่วมเป็นวิทยากรคณะกรรมการและคณะทำงาน ตลอดจนการนำเสนอข้อมูล โครงการ และพัฒนาการสำคัญของตลาดทุนไทยผ่านสื่อและช่องทางต่างๆ ขององค์กรนานาชาติเหล่านี้อย่างต่อเนื่อง เพื่อผลักดันให้เกิดความร่วมมืออย่างเป็นรูปธรรมและเอื้อต่อพัฒนาการของตลาดทุนไทยและภูมิภาค โดยล่าสุด ตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้เข้าร่วมเป็นวิทยากรในสัมมนาออนไลน์ในหัวข้อ “SGX-SET Depositary Receipt (DR) Linkage” เพื่อแชร์ประสบการณ์พัฒนาผลิตภัณฑ์ข้ามตลาดให้แก่สมาชิก AOSEF ได้รับทราบข้อมูลและเพิ่มโอกาสความสนใจในการสร้างความร่วมมือระหว่างกันต่อไป

ตลาดหลักทรัพย์ฯ มุ่งมั่นเป็นตัวแทนที่ดีของภาคเศรษฐกิจและตลาดทุนไทยด้วยผลงานที่แข่งขันได้ในเวทีโลก โดยเป็นผู้นำของตลาดหลักทรัพย์ในภูมิภาคทั้งเชิงปริมาณและคุณภาพในหลายมิติ ที่ดำเนินการเชิงรุกเพื่อนำเสนอข้อมูลที่โดดเด่น ความน่าสนใจ และภาพลักษณ์ที่ดีของตลาดทุนไทย สู่นานาชาติอย่างสม่ำเสมอ พร้อมให้ความสำคัญต่อการเชื่อมโยงเศรษฐกิจในภูมิภาค เพื่อเพิ่มโอกาสการลงทุนสู่ตลาดทุนไทย อันจะเอื้อประโยชน์ต่อการพัฒนาประเทศต่อไป.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ค้น 17 จุดกรุงเทพฯ-ลพบุรี คุมตัว “หลวงพ่ออลงกต-หมอบี”

26 ส.ค.- ตำรวจสอบสวนกลาง ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด “กรุงเทพฯ-ลพบุรี” บุกรวบ “หลวงพ่ออลงกต” หลังพฤติกรรมชัดทุจริตยักยอกเงินบริจาค ขณะที่ “หมอบี” โดนด้วย หิ้วตัวเค้นสอบ เมื่อเวลา 01.00 น.วันที่ 26 ส.ค. มีรายงานว่าทางตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) นำโดย พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. สั่งการให้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รองผบช.ก. พล.ต.ต. วิทยา ศรีประเสิรฐภาพ ผบก.ป.พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปปพ.ต.อ.มนูญ แก้วก่ำ ผกก.1 บก.ป ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด ในพื้นที่กรุงเทพฯ-ลพบุรี เพื่อควบคุม หลวงพ่ออลงกต อดีตเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ จ.ลพบุรี และนายเสกสันน์ หรือหมอบี และพวก ตามหมายจับ ความผิด ม.147, 157 […]

ศาล รธน. สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก”

ศาล รธน. 25 ส.ค.-ศาลรัฐธรรมนูญ สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก” ชี้บิดเบือน-ทำเสียหาย ศาลรัฐธรรมนูญได้ออกเอกสารข่าว ระบุว่า ตามที่ศาลรัฐธรรมนูญออกนั่งพิจารณาคดี เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 21 สิงหาคม 2568 ไต่สวนพยานบุคคลที่ศาลรัฐธรรมนูญเรียกมาให้ถ้อยคำ จำนวน 2 ปาก ได้แก่ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ผู้ถูกร้อง และนายฉัตรชัย บางขวด เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ เรื่อง ประธานวุฒิสภา ส่งคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 82 ว่า ความเป็นรัฐมนตรีของนางสาวแพทองธาร นายกรัฐมนตรี สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160 (4) และ (5) หรือไม่ เมื่อเสร็จสิ้นการไต่สวนแล้ว ศาลมีคำสั่งห้ามมิให้ผู้เข้าฟังการไต่สวนนำข้อมูลการไต่สวนไปเผยแพร่ และห้ามไม่ให้บิดเบือนข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมายในลักษณะที่สร้างความเข้าใจผิดต่อสาธารณชน อันเป็นคำสั่งศาลตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561 […]

“แพทองธาร” รีโพสต์โต้คลิปบิดเบือน ยันศาลบอก “นั่งลงครับ”

กรุงเทพฯ 25 ส.ค.- “แพทองธาร” รีโพสต์สตอรี่ไอจี โต้ดรามาคลิปบิดเบือน ยันศาล รธน. บอก “นั่งลงครับ” นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม รีโพสต์สตอรี่ในอินสตราแกรมของสำนักข่าว VOICE TV ยืนยันไม่เป็นความจริง ต่อกระแสดรามาปล่อยคลิปเสียงตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ พูดว่า “นั่งลงลูก” ภายหลัง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวคําปฏิญาณ ในระหว่างที่ศาลรัฐธรรมนูญไต่สวนพยาน คดีคลิปสนทนากับ ฮุน เซน เมื่อวันที่ 21 สิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งในคลิปดังกล่าวมีข้อความระบุว่า ฟังชัดๆๆ ศาลบอกว่า “นั่งลงครับ” ไม่ใช่ “นั่งลงลูก” อย่างที่มีคนปั่น!! อย่ามั่ว อย่าบิดเบือนข่าว อย่างไรก็ตาม คาดว่าในช่วงเช้าวันนี้ (25 ส.ค.) นางสาวแพทองธาร จะดำเนินการเรื่องการส่งคำแถลงปิดคดีต่อศาลรัฐธรรมนูญ เนื่องจากศาลนัดยื่นคำแถลงปิดคดีภายในวันนี้ ก่อนจะนัดฟังคำวินิจฉัยในวันที่ 29 สิงหาคม เวลา 15.00 น.-316 -สำนักข่าวไทย

ปลัด มท. สั่งสอบด่วน ปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ

ไอคอนสยาม 25 ส.ค.- ปลัด มท. เผยยังไม่ได้รับรายงานปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ สั่งกรมการปกครองสอบด่วน นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงกรณีที่มีรายงานว่า มีกลุ่มบุคคลสแกนม่านตาประชาชนและชักชวนให้เข้าไปใช้แอปพลิเคชันเพื่อแลกกับเงินหรือเหรียญในระบบ ว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงาน แต่หากเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง กระทรวงมหาดไทยจะสั่งการให้กรมการปกครองดำเนินการแก้ไขและจัดการอย่างถูกต้องทั่วประเทศอย่างไรก็ตาม หากประชาชนพบเห็นพฤติกรรมที่ไม่ถูกต้อง สามารถแจ้งเรื่องมายังกระทรวงมหาดไทย เพื่อให้ทุกจังหวัดดำเนินการตรวจสอบตามข้อเท็จจริง ส่วนกรณีที่มีรายงานว่ายังมีการดำเนินการในจังหวัดสุราษฎร์ธานี ปลัดกระทรวงมหาดไทยยืนยันว่าจะเร่งตรวจสอบทั้งที่สุราษฎร์ธานีและทุกจังหวัดที่ได้รับเรื่องร้องเรียน ทั้งนี้ การตรวจสอบจะพิจารณาว่าความผิดปกติเกิดจากเจ้าหน้าที่ของรัฐหรือบุคคลอื่น หากพบว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ กระทรวงมหาดไทยจะดำเนินการตามระเบียบอย่างเคร่งครัด โดยย้ำให้ประชาชนมั่นใจว่า กระทรวงพร้อมตรวจสอบอย่างโปร่งใส.-319 -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

“ภูมิธรรม” ยันไทยทำถูกต้องปมรั้วลวดหนามบ้านหนองจาน

ทำเนียบ 26 ส.ค.- “ภูมิธรรม” ยันกรณีล้อมรั้วลวดหนาม พื้นที่บ้านหนองจาน ไทยทำถูกต้องภายใต้ข้อตกลงหยุดยิง บอกโฆษก ทบ. แจงรายละเอียด นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่กัมพูชาใช้มวลชนมากดดัน เพื่อให้ไทยรื้อลวดหนามบริเวณพื้นที่บ้านหนองจาน ต.โนนหมากมุ่น อ.โคกสูง จ.สระแก้ว รัฐบาลจะมีแนวทางอย่างไร ว่า พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ได้ชี้แจงแล้ว ก็เป็นไปตามนั้น ส่วนจะมีการเพิ่มมาตรการอะไรหรือไม่ นายภูมิธรรม ย้ำว่าเป็นไปตามที่โฆษกกองทัพบกได้ชี้แจงไปแล้ว เพราะเรื่องนี้เป็นปัญหาที่ยังกระทบกันอยู่ ก็แก้ไขปัญหาไปตามสภาพการณ์ เรายืนยันว่าสิ่งที่เราทำถูกต้องแล้ว และทำทุกอย่างภายใต้ข้อตกลงหยุดยิงที่ประเทศมาเลเซีย .-315 -สำนักข่าวไทย

ค้น 17 จุดกรุงเทพฯ-ลพบุรี คุมตัว “หลวงพ่ออลงกต-หมอบี”

26 ส.ค.- ตำรวจสอบสวนกลาง ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด “กรุงเทพฯ-ลพบุรี” บุกรวบ “หลวงพ่ออลงกต” หลังพฤติกรรมชัดทุจริตยักยอกเงินบริจาค ขณะที่ “หมอบี” โดนด้วย หิ้วตัวเค้นสอบ เมื่อเวลา 01.00 น.วันที่ 26 ส.ค. มีรายงานว่าทางตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) นำโดย พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. สั่งการให้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รองผบช.ก. พล.ต.ต. วิทยา ศรีประเสิรฐภาพ ผบก.ป.พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปปพ.ต.อ.มนูญ แก้วก่ำ ผกก.1 บก.ป ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด ในพื้นที่กรุงเทพฯ-ลพบุรี เพื่อควบคุม หลวงพ่ออลงกต อดีตเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ จ.ลพบุรี และนายเสกสันน์ หรือหมอบี และพวก ตามหมายจับ ความผิด ม.147, 157 […]

อุตุฯ เตือนเหนือ-อีสานตอนบน-ใต้ฝั่งตะวันตก ฝนตกหนัก-ลมแรง

กรุงเทพฯ 26 ส.ค. – กรมอุตุฯ เตือนบริเวณ จ.เชียงราย พะเยา น่าน หนองคาย บึงกาฬ สกลนคร นครพนม ตราด และระนอง ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและลมแรง ส่วนพายุโซนร้อน “คาจิกิ” คาดอ่อนกำลังลงเป็นพายุดีเปรสชันและหย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรง ก่อนเคลื่อนเข้าปกคลุมภาคเหนือ บริเวณ จ.น่าน เย็นวันนี้ กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า บริเวณภาคเหนือตอนบน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางพื้นที่ ส่วนภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชน โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดเชียงราย พะเยา น่าน หนองคาย บึงกาฬ สกลนคร นครพนม ตราด และระนอง ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมาก ลมแรง และฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม เนื่องจากพายุโซนร้อน “คาจิกิ” ปกคลุมบริเวณประเทศลาว ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย […]

จับตา “คาจิกิ” หลายจังหวัดภาคเหนือเตรียมรับมือน้ำท่วมดินถล่ม

25 ส.ค. – หลายจังหวัดทางภาคเหนือ โดยเฉพาะพื้นที่ซึ่งเคยเผชิญน้ำท่วมครั้งใหญ่ทั้งน่าน ชายแดนแม่สาย เชียงราย และเชียงใหม่ ต่างเร่งเตรียมรับมือพายุคาจิกิ ซึ่งคาดว่าจะส่งผลกระทบชัดเจนตั้งแต่พรุ่งนี้ นอกจากเสี่ยงจะเกิดน้ำท่วมฉับพลันน้ำป่าไหลหลากแล้ว บางพื้นที่ยังเสี่ยงดินโคลนถล่มด้วย โดยเฉพาะหมู่บ้านใกล้เชิงเขาที่จังหวัดน่าน ซึ่งเกิดดินสไลด์จนกระทบบ้านเรือนนับสิบหลังก่อนหน้านี้ ตอนนี้ต้องอพยพชาวบ้านกว่า 20 ครอบครัวออกจากพื้นที่เพื่อความปลอดภัยแล้ว .-สำนักข่าวไทย