แจ้งปรับ-งด ขบวนรถไฟเส้นทางเหนือชั่วคราว

กรุงเทพฯ 30 ก.ย. – แจ้งปรับเปลี่ยน-งด ขบวนรถไฟเส้นทางเหนือชั่วคราว ระหว่างวันที่ 30 ก.ย.-1 ต.ค.66 หลังเกิดเหตุรถไฟตกราง และน้ำท่วมหลายพื้นที่


นายเอกรัช ศรีอาระยันพงษ์ หัวหน้าสำนักงานผู้ว่าการ การรถไฟแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ตามที่เกิดสถานการณ์ฝนตกหนักหลายจังหวัดในพื้นที่ภาคเหนือ ทำให้เกิดน้ำท่วมเฉียบพลันและน้ำป่าไหลหลาก อีกทั้งมีมวลน้ำไหลเข้าท่วมทางรถไฟระหว่างสถานีแก่งหลวง – บ้านปิน อำเภอลอง จังหวัดแพร่ ส่งผลให้ขบวนรถด่วนพิเศษที่ 13 สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ – เชียงใหม่ เกิดตกราง และขบวนรถอื่นในเส้นทางสายเหนือไม่สามารถเดินรถผ่านได้นั้น เบื้องต้น หลังเกิดเหตุนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ได้มอบหมายให้ นายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม สั่งการกำชับให้การรถไฟฯ เร่งดำเนินการช่วยเหลือผู้โดยสาร และจัดการดูแลผู้โดยสารให้เดินทางต่อถึงที่หมายให้รวดเร็ว เรียบร้อย ปลอดภัย พร้อมกับเข้าไปดำเนินการซ่อมแซมปรับปรุงทางรถไฟ เพื่อให้สามารถเปิดเดินรถได้ตามปกติโดยเร็ว

นอกจากนี้ ยังมอบหมายให้การรถไฟฯ ดำเนินการตรวจสอบพื้นที่และรายงานสาเหตุของความเสียหาย ตลอดจนแนวทางแก้ไขเพื่อป้องกันมิให้เกิดเหตุในลักษณะนี้ซ้ำขึ้นอีก พร้อมกันนี้ยังให้มีการติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และหากเกิดเหตุจำเป็นให้รายงานต่อรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคมเพื่อสั่งการโดยทันที


ทั้งนี้ ภายหลังได้รับการมอบหมาย นายนิรุฒ มณีพันธ์ ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย ได้สั่งการให้ผู้บริหารการรถไฟฯ ลงพื้นที่เกิดเหตุและสั่งการให้เจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการยกรถที่ตกรางอย่างเร่งด่วน โดยคาดว่าจะสามารถยกรถที่ตกรางแล้วเสร็จภายในวันนี้ ( 30 กันยายน 2566) ขณะที่การดูแลผู้โดยสาร ไม่พบผู้โดยสารได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด ซึ่งการรถไฟฯ ได้จัดรถอำนวยความสะดวกขนถ่ายผู้โดยสาร ให้เดินทางต่อไปยังจุดหมายปลายทางได้อย่างปลอดภัยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ส่วนการปรับปรุงเส้นทาง ขณะนี้เจ้าหน้าที่ได้ลงสำรวจพื้นที่แล้ว โดยพบว่าเส้นทางรถไฟช่วงระหว่างสถานีแก่งหลวง-บ้านปิน ระดับน้ำยังคงเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทางรถไฟได้รับความเสียหาย มีน้ำกัดเซาะหินบนทางรถไฟระยะทางประมาณ 20 เมตร ซึ่งจะเร่งดำเนินการซ่อมแซมให้เสร็จโดยเร็วที่สุด

ดังนั้น จากสถานการณ์ดังกล่าว การรถไฟฯ จึงมีเหตุจำเป็น ขอแจ้งปรับเปลี่ยนสถานีต้นทางปลายทางของขบวนรถในเส้นทางสายเหนือ เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับประชาชนที่ยังมีความจำเป็นในการเดินทาง พร้อมกับแจ้งงดเดินรถบางขบวน ให้มีความเหมาะสมต่อสถานการณ์และความปลอดภัยของผู้โดยสาร ระหว่างวันที่ 30 กันยายน – 1 ตุลาคม 2566 มีโดยรายละเอียด ดังนี้

วันที่ 30 กันยายน 2566
ปรับเปลี่ยนสถานีต้นทางปลายทาง จำนวน 7 ขบวน ประกอบด้วย


  1. ขบวนรถด่วนพิเศษที่ 13 สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ – เชียงใหม่ ขนถ่ายผู้โดยสารทางรถยนต์จากสถานีเด่นชัยไปยังสถานีปลายทางตามตั๋วโดยสาร เริ่มจากบ้านปิน แม่เมาะ ลำปาง ลำพูน จนถึงปลายทางเชียงใหม่ เพื่อเป็นการดูแลผู้โดยสารที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ดังกล่าว
  2. ขบวนรถท้องถิ่นที่ 407 นครสวรรค์ – เชียงใหม่ มีเดินเฉพาะช่วง นครสวรรค์ – เด่นชัย และลำปาง-เชียงใหม่
  3. ขบวนรถท้องถิ่นที่ 408 เชียงใหม่ – นครสวรรค์ มีเดินเฉพาะช่วง เชียงใหม่ – ลำปาง – เชียงใหม่ และมีเดินเฉพาะช่วงเด่นชัย – นครสวรรค์
  4. ขบวนรถเร็วที่ 109 สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ – เชียงใหม่ มีเดินเฉพาะช่วงสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ – ศิลาอาสน์
  5. ขบวนรถด่วนพิเศษที่ 7 สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ – เชียงใหม่ มีเดินเฉพาะช่วงสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ – ศิลาอาสน์ จากนั้นขนถ่ายผู้โดยสารทางรถยนต์ไปยังสถานีปลายทาง
  6. ขบวนรถด่วนที่ 52 เชียงใหม่ – สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ มีเดินเฉพาะช่วงศิลาอาสน์ – สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์
  7. ขบวนรถด่วนพิเศษที่ 8 เชียงใหม่ – สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ มีเดินเฉพาะช่วงสถานีศิลาอาสน์ – สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์

งดเดินขบวนรถ จำนวน 6 ขบวน

  1. ขบวนรถเร็วที่ 51 สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ – เชียงใหม่
  2. ขบวนรถเร็วที่ 102 เชียงใหม่ – สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์
  3. ขบวนรถด่วนพิเศษที่ 13/14 สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ – เชียงใหม่ – สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์
  4. ขบวนรถด่วนพิเศษที่ 9/10 สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ – เชียงใหม่ – สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์

วันที่ 1 ตุลาคม 2566
ปรับเปลี่ยนสถานีต้นทางปลายทาง จำนวน 3 ขบวน

  1. ขบวนรถด่วนพิเศษที่ 7 สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ – เชียงใหม่ มีเดินเฉพาะช่วงสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ – ศิลาอาสน์
  2. ขบวนรถเร็วที่ 102 เชียงใหม่ – สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ มีเดินเฉพาะช่วงศิลาอาสน์ – สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์
  3. ขบวนรถด่วนพิเศษที่ 8 เชียงใหม่ – สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ มีเดินเฉพาะช่วงศิลาอาสน์ – สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์

งดเดินขบวนรถ จำนวน 2 ขบวน

  1. ขบวนรถด่วนที่ 52 เชียงใหม่ – สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์
  2. ขบวนรถด่วนพิเศษที่ 14 เชียงใหม่ – สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์

นายเอกรัชกล่าวต่อว่า ในช่วงฤดูฝนที่กำลังมาถึงนี้ ผู้ว่าการรถไฟฯ ยังได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องติดตามสถานการณ์น้ำและปริมาณฝนตกอย่างใกล้ชิด โดยให้ฝ่ายการช่างโยธา และนายสถานีในพื้นที่ได้เฝ้าระวังเพื่อประเมินและแก้ไขสถานการณ์อย่างเหมาะสม ตลอดจนให้จัดเตรียมกำลังเจ้าหน้าที่ มาตรการด้านความปลอดภัย อำนวยความสะดวกและดูแลความปลอดภัยในการเดินทางแก่ผู้โดยสารให้ได้รับผลกระทบน้อยที่สุด

ส่วนประชาชนที่ซื้อตั๋วโดยสารไว้ล่วงหน้าในเส้นทางที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม หากไม่ประสงค์เดินทางสามารถติดต่อขอคืนเงินค่าตั๋วโดยสารได้เต็มจำนวน ที่สถานีรถไฟทุกแห่งทั่วประเทศ หรือสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ศูนย์บริการลูกค้าสัมพันธ์ หมายเลขโทรศัพท์ 1690 ตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมทั้ง ขอให้ผู้โดยสารที่ต้องการเดินทางกรุณาตรวจสอบรายละเอียดอีกครั้งก่อนเดินทาง ซึ่งการรถไฟฯ ต้องขออภัยในความไม่สะดวกมา ณ โอกาสนี้ .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พบศพ “ดีเจเตเต้” ถูกอุ้มมัดมือไพล่หลังทิ้งกลางไร่อ้อย

กาญจนบุรี 18 พ.ค. – พบแล้วศพ “ดีเจเตเต้” ถูกอุ้มมัดมือไพล่หลัง นำศพทิ้งกลางไร่อ้อย เมืองกาญจน์ หลังครอบครัวแจ้งช่วยตามหาตัวตั้งแต่คืนวันที่ 14 พ.ค. ตั้งปมสังหารเรื่องชู้สาว ความคืบหน้ากรณี “ดีเจเตเต้” ถูกขับรถตามประกบ ก่อนอุ้มขึ้นรถหายตัวไป เหตุเกิดเมื่อเวลา 03.53 น. ของวันที่ 14 พ.ค. ภายในหมู่บ้านแห่งหนึ่งริมถนนแสงชูโต ต.ท่ามะขาม อ.เมือง จ.กาญจนบุรี ซึ่งหลังเกิดเหตุพ่อของดีเจเตเต้ ได้ออกมาอัดคลิปลงเฟซ บุ๊กเพื่อขอความช่วยเหลือในการตามหาตัวลูกชายที่หายตัวไป ก่อนที่ล่าสุดจะพบว่า กลายเป็นศพอยู่กลางไร่อ้อยเชิงเขาบ้านทุ่งนานางหรอก โดยวันนี้เวลาประมาณ 10.30 น. นายธนพล เสือส่าน กำนันบ้านทุ่งนานางหรอก ได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่าพบศพอยู่บริเวณไร่อ้อย หมู่ 3 บ้านทุ่งนานางหรอก ต.ลาดหญ้า อ.เมือง จ.กาญจนบุรี คนที่ไปเจอ เป็นน้าชายของนายกอล์ฟคนในหมู่บ้าน ที่ออกไปหาของป่าแล้วไปเจอศพ ในสภาพนอนตะแคง ถูกมือถูกมัดไขว้หลัง แล้วมาบอกหลานชายคือนายกอล์ฟไปดูด้วยกัน แล้วนายกอล์ฟจึงแจ้งให้กำนันทราบ ทางกำนันก็แจ้งเรื่องต่อไปยังตำรวจ สภ.ลาดหญ้า ซึ่งเบื้องต้นศพสวมเสื้อผ้าตรงกับที่เป็นข่าว […]

หาความจริง “แก๊งแม่ชีพันล้าน” ยันไม่ใช่เรื่องจริง

สมุทรสาคร 18 พ.ค. – วงการสงฆ์ยังไม่แผ่ว กระแสแก๊งแม่ชีพันล้านโผล่อีก สำนักพุทธลงตรวจสอบแล้ว แม่ชีที่ถูกกล่าวหา ตอบได้ทุกคำถาม ยืนยันไม่ใช่เรื่องจริง จากกระแสเมื่อวานนี้ (17 พ.ค.) มีเพจหนึ่งนำภาพกลุ่มแม่ชีหลายภาพพร้อมกองธนบัตร และภาพแม่ชีที่แอดมินระบุอ้างว่าเป็นการใส่วิกผม มาโพสต์ลงโซเชียล พร้อข้อความเขียนแจงอย่างละเอียดว่า กรณีมีเพจดังโพสต์ภาพแม่ชีพร้อมข้อความระบุข้อความเด็ดว่า ทำนองว่า “แก๊งแม่ชีพันล้านคุมวัดเบ็ดเสร็จไร้เงาพระ! 1. แม่ชี 2 พี่น้องบริหารวัดลำพังไม่มีไวยาวัจกร ไม่มีกรรมการ ไม่มีมัคทายก ครอบครองที่ดินนับพันไร่แต่ชื่อเจ้าของไม่ใช่วัด บางแปลงเป็นชื่อแม่ชี อาจเข้าข่าย “ถือครองแทน” หรือใช้วัดบังหน้า? ยอดกฐินปีละเกือบ 100 ล้าน! รายชื่อผู้บริจาคซ้ำๆ เดิมๆ ส่วนใหญ่เป็นแม่ชี-คนในวัด ไม่มีอาชีพ ไม่มีธุรกิจ แต่ “บริจาคเป็นล้านทุกปี” ระบบโบนัสแม่ชีสาวช่วยหาทุนได้มาก พาเที่ยวรีสอร์ตหรูปีละครั้ง ใส่วิกเต็มยศ นั้น วันนี้ผู้สื่อข่าวพร้อม นส.สวาท แซ่ตัน ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนา จ.สมุทรสาคร นายอิทธิธร สีเหลือง นักวิชาการศาสนาปฏิบัติการ เดินทางไปที่วัดที่แม่ชีในภาพบวชอยู่ ต.บางโทรัด […]

รวบแม่บ้านควบตำแหน่งกรรมการบริษัท เลี่ยงภาษีกว่า 180 ล้าน

กทม. 18 พ.ค.-ตำรวจสอบสวนกลาง รวบแม่บ้านควบตำแหน่งกรรมการบริษัทชิปปิ้ง เลี่ยงภาษีกว่า 180 ล้านบาท พบก่อเหตุคล้ายกันในบริษัทฯ อีก 2 แห่ง รวมรัฐเสียหายกว่า 430 ล้านบาท ตำรวจสอบสวนกลาง โดย กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) นำเจ้าหน้าเข้าจับกุม นางสมบุญ อายุ 54 ปี ตามหมายจับศาลอาญา ที่ 1051/2568 ลงวันที่ 18 กุมภาพันธ์2568 ในความผิดฐาน “ร่วมกันเจตนาหลีกเลี่ยงหรือพยายามหลีกเลี่ยงภาษีมูลค่าเพิ่มกระทำการใดๆ โดยความเท็จ โดยฉ้อโกงหรืออุบาย หรือโดยวิธีการอื่นใดทำนองเดียวกัน ที่ลานจอดรถหน้าอพาร์ทเมนต์ พื้นที่ ม.2 ต.สุรศักดิ์ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี พฤติการณ์ ของ น.ส.สมบุญ ผู้ต้องหา ตรวจสอบพบว่า เป็นหนึ่งในกรรมการ บริษัท แห่งหนึ่งประกอบกิจการเป็นตัวแทนนำเข้าสินค้าและดำเนินพิธีการศุลกากรเพื่อนำสินค้าออกจากท่าเรือ แต่จากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ พบว่าบริษัทฯดังกล่าวมีพฤติการณ์ปิดบังซ่อนเร้นที่มาของรายได้ รวมถึงค่าใช้จ่ายของบริษัทฯ โดย บริษัทมักจะไม่มีการออกใบกำกับภาษีขายและใบเสร็จรับเงินสำหรับค่าบริการให้แก่ลูกค้าแต่อย่างใด และการจ่ายเงินค่าจ้างให้แก่ลูกจ้างของบริษัทฯ มักจะจ่ายเป็นเงินสดให้ลูกจ้างเป็นรายสัปดาห์ […]

สาวใจเด็ด โดดจยย.รับจ้าง วิ่งตามรถตัวเองหลังตามหา 1 ปี

กทม. 18 พ.ค. – สาวใจเด็ด โดดลงจากมอเตอร์ไซค์รับจ้าง วิ่งไล่รถตัวเอง หลังตามหาและผ่อนกุญแจเปล่ามานานกว่า 1 ปี พบเพื่อนสนิทนำรถไปค้ำประกันกับเจ้าหนี้ จากกรณีคลิปที่มีการแชร์ในโซเซียล ขณะผู้หญิงใส่เสื้อลายกำลังวิ่งไล่ตามรถเก๋งสีขาว พร้อมตะโกนให้คนช่วย จนพลเมืองดี ช่วยกันเข้ามารายล้อมรถและคนขับรถเก๋งต้องเลี้ยวเข้าซอย เพื่อลงมาเคลียร์ ก่อนเกิดเหตุชุลมุนขึ้น เมื่อวานนี้ (17 พ.ค.) ล่าสุดทีมข่าวเปิดใจ สาวที่ปรากฏในคลิป เล่าถึงสาเหตุที่ต้องเข้าไปขวางรถยนต์คันนี้ เพราะว่าเมื่อประมาณเดือนพฤษภาคม ปี 2567 ตนเองได้ซื้อรถเก๋งคันนี้ ทะเบียนขอนแก่น และนำรถไปฝากจอดไว้ที่คอนโดแห่งหนึ่งย่านห้วยขวาง ซึ่งเป็นห้องของแฟนเพื่อนสนิท แต่หลังจากที่นำรถไปฝาก ก็ไม่เคยได้พบรถตัวเองอีกเลย โดยเพื่อนสนิท อ้างว่าแฟนเอาไปขับ ทุกครั้งที่ทวงถามหารถ จะมีการบ่ายเบี่ยงต่างๆ นานา จนในที่สุด ตนเองก็เข้าแจ้งความ ลงบันทึกประจำวันไว้ที่ สน.ห้วยขวาง ตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม 2567 เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยตามหารถ เวลาผ่านไปประมาณ 1 ปี ก็ยังตามหาไม่ได้ ตนเองจึงต้องผ่อนกุญแจเปล่า มาเป็นระยะเวลา 1 ปีเต็ม […]

ข่าวแนะนำ

ครม. เคาะตั้ง “ชูศักดิ์” คุมดีเอสไอ แทน “ทวี”

ทำเนียบ 20 พ.ค.- ครม. เคาะ “ชูศักดิ์” คุมดีเอสไอ แทน “ทวี” หลังศาล รธน.สั่งหยุดทำหน้าที่ชั่วคราว คดีฮั้วเลือก สว. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่มีน.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน มีมติมอบหมายให้นายชูศักดิ์ ศิรินิล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี รักษาราชการแทนในการบริหารสั่งการกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) หลังจาก พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ถูกศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ในฐานะกำกับดูแลดีเอสไอ และรองประธานคณะกรรมการคดีพิเศษ จากกรณีที่สมาชิกวุฒิสภา (สว.) จำนวนหนึ่งเข้าชื่อเสนอคำร้องต่อประธานวุฒิสภา ว่า พ.ต.อ.ทวีใช้ดีเอสไอเป็นเครื่องมือแทรกแชงกระบวนการตรวจสอบการเลือกสมาชิกวุฒิสภา ส่วนกรณีของนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ซึ่งนายกรัฐมนตรี ได้เคยมอบหมายให้ดูแลรับผิดชอบกระทรวงยุติธรรมอยู่แล้ว สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา เห็นว่าได้รับมอบหมายให้ดูแลด้านความมั่นคง ซึ่งรวมถึงกรมสอบสวนคดีพิเศษอยู่แล้วจึงไม่จำเป็นต้องขอมติที่ประชุมคณะรัฐมนตรี ในการมอบหมายอีก .-316 -สำนักข่าวไทย

คนงานตกหลุม

เร่งช่วยคนงานตกหลุมเสาเข็ม เปิดหน้าดินค้นหา

20 พ.ค.- เร่งช่วยคนงานตกหลุมเสาเข็ม ไซต์งานก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีส้ม สถานีหลานหลวง เจ้าหน้าที่ทำการเปิดหน้าดินค้นหาต่อเนื่อง เบื้องต้นยังไม่พบ สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกรุงเทพมหานคร (สปภ.กทม.) เปิดเผยว่า จากเหตุคนงานตกหลุมเสาเข็มขณะก่อสร้างรถไฟฟ้าปฏิบัติการช่วยเหลือตั้งแต่ช่วงค่ำวานนี้ (19 พ.ค. 2568) มีการปักเหล็กชีทไพล์ (Sheet Pile) เพื่อป้องกันการสไลด์ของหน้าดิน ทำระบบค้ำยันเบรสซิ่ง (Bracing) ป้องกันเหล็กชีทไพล์พังทลายจากแรงอัดมวลดิน ควบคู่กับการใช้รถแบ็กโฮเปิดหน้างานเพื่อค้นหาร่างผู้สูญหาย เวลา 07.00 น. วันนี้ (20 พ.ค.2568) ทีมช่างของผู้รับเหมาได้ทำเวลเลอร์ที่ระดับความลึก 6 เมตร เพื่อป้องกันเหล็กชีทไพล์ (Sheet Pile) พังทลาย เนื่องจากพื้นที่ทำงานจำกัดจึงใช้อุปกรณ์ Auger ทำการเปิดหน้าดินหลุมดินด้านข้างเพื่อให้ดินสไลด์ออกด้านข้างแทน .-สำนักข่าวไทย

อุตุฯ เผยทั่วไทยฝนตกหนักบางแห่ง กทม.ฟ้าคะนอง 60%

กรุงเทพฯ 20 พ.ค. – กรมอุตุฯ เผยภาคเหนือ ภาคอีสาน ภาคกลาง ภาคตะวันออก ภาคใต้ฝั่งตะวันตก มีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนระวังอันตรายจากฝนตกหนัก ส่วนกรุงเทพฯ-ปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง 60% และมีฝนตกหนักบางแห่ง กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า บริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก ยังคงมีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่มไว้ด้วย ทั้งนี้ เนื่องจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้พัดปกคลุมทะเลอันดามัน และด้านตะวันตกของประเทศไทย ในขณะที่ลมตะวันออกเฉียงใต้และลมใต้ที่พัดปกคลุมภาคเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนล่าง และภาคตะวันออก มีกำลังอ่อนลง สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังอ่อน โดยทะเลอันดามันมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ส่วนอ่าวไทยมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามัน ควรเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย กรุงเทพฯ และปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 […]

ออกหมายจับผู้ร่วมขบวนการอุ้มฆ่า “ดีเจเตเต้”

กาญจนบุรี 19 พ.ค. – ออกหมายจับผู้ร่วมขบวนการแล้ว 4 ราย อุ้มฆ่า “ดีเจเตเต้” ตั้งข้อหาหนักหลายกระทง ล่าสุด ครอบครัวรับศพแล้ว เผยผลชันสูตร กระสุนเจาะศีรษะ 2 นัด เป็นเหตุเสียชีวิต พล.ต.ท.นัยวัฒน์ ผะเดิมชิต ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 เดินทางลงพื้นที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดกาญจนบุรี เพื่อร่วมประชุมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนคลี่คลายคดีล่าตัวแก๊งอุ้มฆ่า นายวราพงษ์ ขุนศรีจตุรงค์ หรือ ดีเจเตเต้ อายุ 33 ปี โดยภายหลังการประชุม พล.ต.ต.พรชัย ชลอเดช ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดกาญจนบุรี เปิดเผยว่า ขณะนี้จับกุม นายธนเดช หนึ่งในผู้ร่วมขบวนการอุ้มฆ่า ดีเจเตเต้ แล้ว ส่วนอีก 4 คน ศาลอนุมัติหมายจับ ประกอบด้วย นายณรงค์เดช, นายภคณัท, นายนพพิจิตร และนายธราเทพ ทั้งหมดมีภูมิลำเนาอยู่ในเขตอำเภอเมือง จังหวัดกาญจนบุรี ใน 5 ข้อหาหนัก ร่วมกันข่มขืนใจผู้อื่น […]