เอกชนขอให้รัฐเร่งขับเคลื่อนเศรษฐกิจหวังส่งออกพลิกเป็นบวก

นนทบุรี 27 ก.ย. – ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ขอให้กระทรวงพาณิชย์เร่งขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยครึ่งปีหลังทุกด้านอย่างเต็มที่ หวังตัวเลขส่งออกปีนี้พลิกเป็นบวก เชื่อเศรษฐกิจปีหน้ามีโอกาสโตได้ จากหลายมาตรการที่จะออกมา
 
นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า จากความชัดเจนของมาตรการต่าง ๆ ของรัฐบาลในช่วงที่ผ่านมา โดยเฉพาะมาตรการลดค่าครองชีพและต้นทุนให้กับประชาชนและผู้ประกอบการ ผ่านการลดค่าไฟฟ้าเหลือ 3.99 บาท และลดค่าน้ำมันดีเซลให้ต่ำกว่า 30 บาท ตลอดจนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้นควบคู่ไปด้วย เสริมกับนโยบาย Free Visa แก่นักท่องเที่ยวจีนและคาซัคสถานที่น่าจะช่วยกระตุ้นให้จำนวนนักท่องเที่ยวทั้งปีนี้ขยับขึ้นไปแตะที่ 28-30 ล้านคน โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจีน ที่น่าจะถึง 5 ล้านคนได้ ผ่านสัญญาณการจองเที่ยวบินและห้องพักที่เพิ่มขึ้นหลายเท่าตัว


ส่วนในระยะยาว รัฐบาลควรเน้นการสร้างความมั่นใจเรื่องความปลอดภัย การส่งเสริมการท่องเที่ยวเมืองรอง เพื่อให้นักท่องเที่ยวใช้จ่ายและอยู่ในประเทศไทยนานขึ้น ด้านประเด็นการส่งออกที่ชะลอตัวหลายเดือนและมีสัญญาณพลิกกลับมาเป็นบวกในเดือนสิงหาคม ถือเป็นสัญญาณที่ดีโดยหอการค้าฯ มองว่าหลังจากนี้ในไตรมาส 4 สถานการณ์น่าจะกลับมาเป็นบวกได้ และทำให้ภาพส่งออกปีนี้อาจไม่ติดลบหรือติดลบน้อยที่สุด

ส่วนการที่วันนี้ กนง. มีมติปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% สู่ระดับ 2.50% หอการค้าฯ ยังไม่มีความกังวลในประเด็นดังกล่าว เพราะไทยถือว่ามีอัตราดอกเบี้ยนโยบายต่ำหากเทียบกับประเทศเพื่อนบ้านในอาเซียน และมองว่าการปรับขึ้นดอกเบี้ยในครั้งนี้เพื่อให้อัตราดอกเบี้ยของไทยกับต่างประเทศไม่ห่างกันมากนัก และเป็นการรักษาเสถียรภาพทางการเงินของไทยซึ่งช่วงที่ผ่านมาเงินบาทมีการอ่อนค่ามากขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ            


ทั้งนี้ จากนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาลในช่วง 2-3 สัปดาห์ที่ผ่านมา หอการค้าฯ เชื่อว่าจะช่วยเพิ่มจีดีพี 0.6 – 0.8% และทำให้ภาพรวมจีดีพีทั้งปีโตได้ถึง 3% ตามที่ตั้งไว้

สำหรับการเยือนสหรัฐอเมริกาของท่านนายกรัฐมนตรีในการประชุม UNGA และการพบปะหารือกับภาคธุรกิจยักษ์ใหญ่ของโลกทั้งบริษัทที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า ธุรกิจด้านเทคโนโลยีดิจิทัล และสถาบันการเงินและกองทุนระดับโลก เอกชนมองว่าถือเป็นความสำเร็จและน่าชื่นชมรัฐบาลที่ได้ให้ความสำคัญกับการดึงดูดการลงทุนจากต่างชาติซึ่งจะเห็นได้ว่ารัฐบาลชุดนี้ ให้ความสำคัญกับการต่างประเทศ โดยเฉพาะการเจรจาการค้าเป็นอย่างมาก ซึ่งส่วนนี้จะช่วยสนับสนุนให้ภาคการส่งออกของไทยขยายตัวได้เนื่อง

อย่าวไรก็ตาม เอกชนเชื่อว่ารัฐบาลจะเดินหน้าสานต่อข้อตกลงทางการค้าระหว่างประเทศที่ไทยได้เริ่มดำเนินการกับหลายประเทศ เพื่อเร่งขยายตลาดใหม่ ๆ โดยเฉพาะ FTA ไทย – EU และอีกหลายฉบับ ไปพร้อมกับการจัด Road Show ขยายตลาดใหม่ ไปยังประเทศกลุ่มเป้าหมายที่มีศักยภาพ เช่น จีน ซาอุดิอาระเบียและตะวันออกกลาง อินเดีย และประเทศแถบแอฟริกา เพื่อดึงดูดการลงทุนใน EEC ในสาขาที่เกี่ยวข้องกับสิ่งแวดล้อมและความยั่งยืนทั้งกลุ่ม EV พลังงานสะอาด AI เกษตรสมัยใหม่ สุขภาพ และ FinTech ให้มากที่สุด เพื่อสร้างความได้เปรียบในการแข่งขันของไทยในเวทีโลกมากขึ้น โดยเอกชนหวังว่าโอเมนตั้มดังกล่าวจะส่งผลให้เกิดการลงทุนจริงในระยะต่อไป
 
นอกจากนี้ หอการค้าไทยมองจีดีพี ในปีหน้า ปี 67 ใกล้เคียงกับรัฐบาลที่ตั้งเป้าไว้ 5% แม้จะเป็นเรื่องท้ายทาย แต่หากได้รับการกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นนโยบายแจกเงินดิจิทัล ที่หากสามารถดำเนินการได้สำเร็จน่าจะช่วยเพิ่มจีดีพี 2-3% ภายใต้การส่งออกที่เติบโตที่มากกว่าปีนี้ ซึ่งหากสถานการณ์เศรษฐกิจโลกไม่มีปัจจัยแทรกซ้อน โดยเฉพาะปัญหาความขัดแย้งด้าน Geopolitics ก็มีความเป็นไปได้ที่จะเห็นตัวเลข 5% ในรอบหลายปี ซึ่งทุกฝ่ายคงต้องช่วยกันให้บรรลุเป้าหมาย


ในวันนี้ หอการค้าไทย โดยนายสนั่น อังอุบลกุล และดร.พจน์ อร่ามวัฒนานนท์ พร้อมคณะฯ ได้มีการเข้าพบและประชุมร่วมกับนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ในประเด็นการค้า การลงทุน และการส่งออก

ทั้งนี้ เพื่อเน้นย้ำว่าหอการค้าไทยและภาคธุรกิจพร้อมร่วมมือกับกระทรวงพาณิชย์และหน่วยงานทุกภาคส่วนอย่างใกล้ชิดในการขับเคลื่อนภาคการค้าให้เติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยหอการค้าฯ ได้มีการหยิบยกและนำเสนอประเด็นที่เกี่ยวข้องกับรองนายกฯ และ รมว.พาณิชย์ ใน 5 ประเด็น สำคัญ ได้แก่ 1) กฎระเบียบการค้าระหว่างประเทศ ซึ่งเน้นเรื่อง เร่งรัด FTA ที่กำลังเจรจาอยู่ให้แล้วเสร็จ รวมถึงเปิดการเจรจาเพิ่มในตลาดที่สำคัญเพื่อเป็นการยกระดับความสามารถในการแข่งขันของประเทศไทย เป็นต้น 2) การอำนวยความสะดวกในการดำเนินธุรกิจแก่ภาคเอกชน ให้สอดคล้องกับ e-Government  3) การนำเข้า-ส่งออก ซึ่งควรเน้นสินค้าและตลาดที่สำคัญ 4) การค้าปลีก และ 5) การยกระดับตัวเลขการค้าชายแดน ซึ่งส่วนใหญ่ข้อเสนอของภาคเอกชนนั้นสอดคล้องกับ 7 แนวนโยบายของกระทรวงพาณิชย์ที่รองนายกรัฐมนตรีและ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้มอบเป็นนโยบายหลัก ซึ่งกระทรวงพาณิชย์จะรับข้อเสนอของภาคเอกชนที่เสนอในวันนี้ และมอบให้กรมที่เกี่ยวข้องรับไปดำเนินการต่อ ซึ่งหากเรื่องใดแก้ไขได้ทันที ก็จะเร่งดำเนินการ แต่หากเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับหน่วยงานอื่นหรือแก้ทันทีไม่ได้ ก็จะมีการตั้งกลุ่มย่อย เชิญภาคเอกชนมาให้ข้อมูลและดูในรายละเอียดของแต่ละประเด็นก่อนที่จะมีมาตรการออกมา โดยกระทรวงพาณิชย์จะมุ่งเน้นเรื่องการดูแลค่าครองชีพให้กับประชาชนเป็นเรื่องเร่งด่วน เป็นต้น.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

มุกใหม่มิจฉาชีพ

มุกใหม่มิจฉาชีพ! ป่วนโทรแจ้ง ตร. เกิดเหตุร้ายที่บ้านเหยื่อ

อินฟลูฯ สาว สายทำอาหาร ถูกมิจฉาชีพอ้างเป็นตำรวจโทรหา แต่เธอไม่เชื่อ โดนท้าอีก 10 นาทีเจอกัน ปรากฏว่า มีตำรวจจาก 2 โรงพักบุกมาที่บ้านจริง

“วราวุธ” ระบุการแข่งขัน อบจ.-สุพรรณบุรี ไม่มีปัญหา

“วราวุธ” ระบุการแข่งขัน อบจ.-สุพรรณบุรี ไม่มีปัญหา บอกสนามใหญ่ ไม่เข้าไปก้าวก่ายสนามท้องถิ่น ซ้ายก็เพื่อน ขวาก็พวก

ครม.เคาะแจกเงินหมื่นเฟส 2 ผู้สูงอายุ 60 ปี

“จุลพันธ์” เผย ครม.เห็นชอบโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านกลุ่มผู้สูงอายุ วงเงิน 4 หมื่นล้านบาท คาดว่าจะดำเนินการทันก่อน 29 ม.ค.68 รวม 3 มาตรการ สร้างเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบ 1.4-1.5 แสนล้านบาท

ข่าวแนะนำ

จุดเทียนรำลึก 20 ปี สึนามิ

ค่ำคืนนี้ ที่อนุสรณ์สถานสึนามิบ้านน้ำเค็ม ต.บางม่วง อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา สว่างไสวจากแสงเทียนนับพันเล่มที่ถูกจุดขึ้นเพื่อรำลึกถึงบุคคลที่รักซึ่งจากไปในเหตุการณ์สึนามิ เมื่อปี 2547 จากวันนั้นถึงวันนี้ ครบ 20 ปีเต็ม

สอบแล้ว 5 ปาก คลี่ปม “แบงค์ เลสเตอร์” ยังปฏิเสธจ้างดื่มโชว์

ผบช.ภ.2 เผย สอบแล้ว 5 ปาก พยานสำคัญ คลี่ปม “แบงค์ เลสเตอร์” ยังปฏิเสธจ้างดื่มโชว์ พร้อมไล่ไทม์ไลน์ เปิดผลชันสูตรเบื้องต้นหัวใจล้มเหลวเฉียบพลัน ส่งชิ้นเนื้อ สารคัดหลั่ง เลือด และเศษอาหารในกระเพาะตรวจแล็บ หาสาเหตุที่แท้จริง

นายกฯ ตรวจความพร้อมหมอชิต 2 ให้บริการ ปชช.เดินทางช่วงปีใหม่

นายกฯ ตรวจความพร้อมหมอชิต 2 ให้บริการประชาชนเดินทางกลับภูมิลำเนาช่วงเทศกาลปีใหม่ โดยไม่แจ้งล่วงหน้า กำชับ บขส. อำนวยความสะดวกเตรียมพร้อมรถ สั่งเข้มตรวจแอลกอฮอล์-ยาเสพติดพนักงานขับรถ ป้องกันอุบัติเหตุ