สุวรรณภูมิ 25 ก.ย.-ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิพร้อมเปิด Soft Opening อาคารเทียบเครื่องบินรองหลังที่ 1 (SAT – 1) 28 ก.ย.นี้ ก่อนเปิดให้บริการเต็มรูปแบบ พ.ย.66 เพื่อรองรับการท่องเที่ยว คาดปี 67 นักท่องเที่ยวแตะ 150 ล้านคน
นายกีรติ กิจมานะวัฒน์ ผู้อำนวยการใหญ่บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (ทอท.) เปิดเผยว่า ขณะนี้อาคารเทียบเครื่องบินรองหลังที่ 1 หรือ SAT-1 ในสนามบินสุวรรณภูมิ มีความพร้อมให้บริการแล้ว 100% โดยคาดว่าจะช่วยรองรับผู้โดยสารที่เพิ่มมากขึ้น เนื่องจากอาคารนี้มีพื้นที่ประมาณ 250,000 ตารางเมตรมี 28 สะพานเทียบเครื่องบิน ขณะที่พื้นที่อาคารผู้โดยสารหลักมีประมาณ 500,000 ตารางเมตรซึ่งจะสามารถเพิ่มพื้นที่จากอาคารหลักได้ประมาณ 40% อาคารเทียบเครื่องบินรองหลังที่ 1 (SAT-1) พร้อมเปิดให้บริการแบบ Soft Opening ในวันพฤหัสบดีที่ 28 กันยายนนี้ โดยจะให้บริการควบคู่ไปกับอาคารผู้โดยสารหลังปัจจุบัน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการและลดความหนาแน่นบริเวณพื้นที่ให้บริการของอาคารผู้โดยสารหลัก ให้มีขีดความสามารถรองรับจำนวนผู้โดยสารและปริมาณเที่ยวบินที่เพิ่มขึ้น
โดยสายการบินที่จะเข้าทำการบินที่อาคาร SAT-1 ในระยะแรก มี 2 สายการบิน ได้แก่ สายการบินไทยแอร์เอเชียเอ็กซ์ และ สายการบินไทยเวียตเจ็ท โดยเที่ยวบินแรกที่จะทำการบินเข้ามาที่อาคาร SAT-1 เป็นเที่ยวบินของสายการบินไทยแอร์เอเชียเอ็กซ์ เที่ยวบินที่ XJ 0761 เดินทางจากเซี่ยงไฮ้ ถึง ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เวลา 10.15 น. โดยในสัปดาห์แรกที่เปิดให้บริการ สายการบินไทยแอร์เอเชียเอ็กซ์ จะให้บริการวันละประมาณ 14 เที่ยวบิน ส่วนสายการบินไทยเวียตเจ็ทจะให้บริการวันละประมาณ 4 เที่ยวบิน และจากนั้นจะพิจารณาจัดสายการบินอื่นเข้าให้บริการที่อาคาร SAT-1 เพิ่มเติมในระยะต่อไป
“ซึ่งขณะนี้มีสายการบินที่มีความสนใจมาเปิดให้บริการทีอาคาร SAT-1 ประมาณ10 สายการบิน ได้แก่ สายการบินเอมิเรตส์, เอทิฮัด, ออล นิปปอน แอร์เวย์ , กาตาร์แอร์เวย์ และการบินไทย และหลังเปิด Soft Opening ทดสอบการให้บริการ 1 เดือน และจะมาดูว่ามีอะไรติดขัดต้องแก้ไข จากนั้นก็จะพิจารณาเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการ เบื้องต้นคาดว่าจะเป็นเดือน พ.ย.นี้” นายกีรติกล่าว
สำหรับปริมาณผู้โดยสารระหว่างประเทศในขณะนี้อยู่ประมาณ 70% จากช่วงก่อนโควิด-19 ส่วนผู้โดยสารในประเทศกลับมา 100% แล้ว และปีงบประมาณ 2566 จะมีผู้โดยสารรวม 6 ท่าอากาศยานกว่า 100 ล้านคน และคาดว่าในปี 2567 จะเพิ่มมาอยู่ที่ 150 ล้านคน สูงกว่าช่วงก่อนโควิดที่มี 142 ล้านคน โดยเฉพาะท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ส่วนมาตรการวีซ่าฟรี สำหรับชาวจีนและคาซักสถาน ทำให้มีการจองเที่ยวบินมากขึ้นโดยเฉพาะเที่ยวบินจากจีน ในช่วงเดือนสิงหาคมถึงเดือนกันยายน ขณะนี้มีประมาณ 100-200 เที่ยวบิน และช่วงตุลาคมมีประมาณ 300 เที่ยวบิน ส่วนผู้โดยสารในช่วงเดือนสิงหาคมถึงเดือนกันยายนอยู่ที่ประมาณ 350,000 คนต่อเดือน แต่คาดว่าในเดือนตุลาคมจะเพิ่มขึ้น 620,000คนต่อเดือน และจะมีผู้โดยสารมาใช้บริการเพิ่มมากขึ้น
และนายกิตติพงศ์ กิตติขจร ผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ กล่าวว่า ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ได้ผ่านการทดลองปฏิบัติการเต็มรูปแบบอาคารเทียบเครื่องบินรองหลังที่ 1 (SAT-1 ) เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งได้ปฏิบัติการร่วมกับสายการบิน ผู้ประกอบการให้บริการภาคพื้น และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งหมด 3 ครั้ง ทั้งช่วงเวลากลางวัน และ ช่วงเวลากลางคืน เพื่อสร้างความมั่นใจในความพร้อมสำหรับการเปิดให้บริการแบบ Soft Opening ในวันที่ 28 กันยายน เป็นต้นไป ซึ่งจะช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการรองรับผู้โดยสารเพิ่มจาก 45 ล้านคนต่อปีเป็น 60 ล้านคนต่อปีต่อไป
สำหรับในช่วง Soft Opening การให้บริการเคาน์เตอร์ส่งมอบสินค้าปลอดอากร ร้านค้า Duty free ร้านอาหาร และห้องรับรองพิเศษผู้โดยสาร พร้อมเปิดให้บริการแล้วบางส่วน.-สำนักข่าวไทย