“ธีระชัย” ไม่เชื่อข่าวลือปลด “ผู้ว่าการแบงก์ชาติ”

กรุงเทพฯ 19 ก.ย. – “ธีระชัย” ไม่เชื่อข่าวลือปลด “ผู้ว่าการ ธปท.” เพราะขัดนโยบายรัฐบาล ทำงานร่วมกันไม่ได้


นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล อดีต รมว.คลัง โพสต์เฟซบุ๊กกรณีมีกระแสข่าวในโซเชียลมีเดียระบุว่า รมว.คลัง จะปลดผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เพราะขัดนโยบายรัฐบาล ทำงานร่วมกันไม่ได้ ไม่เชื่อว่าข่าวลือนี้จะเป็นจริง เพราะตำแหน่งผู้ว่าการ ธปท. มีกฎหมายตีกรอบป้องกันเอาไว้

มีกระแสข่าวลือหลังจากนายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการ ธปท. กล่าวถึงการหารือกับนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐนตรีและ รมว.คลัง ในเรื่องนโยบายเงินดิจิทัลวอลเล็ต 1 หมื่นบาทว่า ต้องรอดูความชัดเจนของรูปแบบในการทำนโยบายนี้ก่อน ถ้าออกมาเป็น Digital Asset ทางแบงก์ชาติยืนยันมาตลอดว่าไม่สนับสนุน เพราะจะกลายเป็นตัวกลางชำระเงิน ไม่เอื้อต่อเสถียรภาพ แต่หากเป็น e-money ก็เป็นรูปแบบที่มีอยู่ในระบบปัจจุบัน ถ้าเป็นแบบนั้นต้องดูว่าไปเกิดอุปสงค์กระตุ้นเศรษฐกิจและผลกระทบการคลังอย่างไร รวมทั้งการดำเนินนโยบายต่างๆ ควรเป็นรูปแบบเฉพาะกลุ่ม ซึ่งจะช่วยประหยัดงบประมาณได้มากกว่า เพราะไม่ใช่ทุกคนที่จะต้องการเงิน 1 หมื่นบาท


นายธีระชัย ระบุว่า ไม่เชื่อว่าข่าวลือนี้จะเป็นความจริงได้ เพราะตำแหน่งผู้ว่าการ ธปท. มีกฎหมายตีกรอบป้องกันเอาไว้

พ.ร.บ.ธปท. ระบุว่านอกจากการพ้นจากตำแหน่งตามวาระแล้ว ผู้ว่าการ ธปท. จะพ้นจากตำแหน่งเมื่อ
(1) ตาย
(2) ลาออก
(3) ขาดคุณสมบัติหรือมีลักษณะต้องห้ามอย่างหนึ่งอย่างใดตามมาตรา 28/17
(4) คณะรัฐมนตรีมีมติให้ออกโดยคำแนะนำของรัฐมนตรี เพราะมีความประพฤติเสื่อมเสียอย่างร้ายแรงหรือทุจริตต่อหน้าที่
(5) คณะรัฐมนตรีมีมติให้ออก โดยคำแนะนำของรัฐมนตรีหรือการเสนอของรัฐมนตรี โดยคำแนะนำของคณะกรรมการ ธปท. เพราะบกพร่องในหน้าที่อย่างร้ายแรง หรือหย่อนความสามารถ

นายธีระชัย ระบุมติดังกล่าวต้องแสดงเหตุผลในการให้ออกอย่างชัดแจ้ง และตามข้อ (4) รัฐมนตรีคลังจะต้องพิสูจน์ให้คณะรัฐมนตรีเห็นว่า ผู้ว่าการ ธปท. มีความประพฤติเสื่อมเสียอย่างร้ายแรงหรือทุจริตต่อหน้าที่ ซึ่งไม่สามารถรวมถึงความเห็นขัดแย้งเรื่องนโยบาย


ส่วนตามข้อ (5) ต้องผ่านด่านคณะกรรมการ ธปท. ก่อน เฉพาะกรณีบกพร่องในหน้าที่อย่างร้ายแรง หรือหย่อนความสามารถ โดยมติดังกล่าวต้องแสดงเหตุผลในการให้ออกอย่างชัดแจ้ง ซึ่งยิ่งเป็นไปไม่ได้

แต่ยิ่งหนักกว่านั้นคือกระแสสังคมที่จะประณาม รมว.คลังผู้นั้น จะเข้าข่ายเป็นการลุแก่อำนาจ abuse of power และจะกระทบกระเทือนความเชื่อมั่นของสังคมโลกอย่างรุนแรง จึงขอให้ผู้ว่าการ ธปท. สบายใจได้ และขอให้ปฏิบัติหน้าที่ตรงไปตรงมาอย่างเต็มที่

พร้อมขอแนะนำนายกรัฐมนตรีและ รมว.คลัง ควรรับฟังความเห็นของผู้ว่าการ ธปท. ซึ่งเป็นการให้ข้อมูลเชิงวิชาการ ไม่มีอคติทางการเมืองแอบแฝง.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ใบประกอบวิชาชีพครู

เตือนคุณครูเปิดเทอมนี้ ต้องมี “ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู”

เตือนคุณครูเปิดเทอมนี้ ต้องมี “ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู” แนะรีบต่ออายุใบอนุญาต หลังคุรุสภาออกมาตรการ 5 ต. คุมเข้มทุกโรงเรียนทั่วไทย

เริ่ม 1 พ.ค.นี้ นักท่องเที่ยวเข้าไทย ต้องลงทะเบียนบัตร ตม.6 แบบดิจิทัล

เริ่ม 1 พ.ค.นี้ นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเดินทางเข้าไทย ต้องลงทะเบียนบัตร ตม.6 แบบดิจิทัล หรือ TDAC ล่วงหน้า อย่างน้อย 3 วันก่อนเดินทาง ตามกฎใหม่ ตม.

พีชเรียกอาต่าย

ผบ.ตร.ไม่ปลื้ม “พีช” โอ้อวดเรียก “อาต่าย” ลั่นไม่ใช่ญาติ

ผบ.ตร.ไม่ปลื้ม “พีช” คู่กรณีรถกระบะ โอ้อวดเรียก “อาต่าย” รู้จักคนในรัฐบาล หวังผลคดี ลั่นไม่ใช่ญาติ สอนลูกเสมออย่าทำตัวเป็นขยะสังคม บอกประชาชนใช้วิจารณญาณเลือกตั้ง

“นายกเบี้ยว” ยอมรับลูกขับรถหวาดเสียว พร้อมชดใช้-ดูแลลุงคู่กรณี

“นายกเบี้ยว” รับจบแทนลูก ยอมรับลูกขับรถหวาดเสียว พร้อมชดใช้ ดูแลลุงคู่กรณี ระบุสอนลูกไม่ดี ไม่มีเวลาให้ลูก ปฏิเสธไม่สนิทกับ ผบ.ตร. อย่าเอาท่านมาแปดเปื้อน ส่วนที่ลูกชายยังไม่ไปเยี่ยมลุงคู่กรณี เนื่องจากกลัวโดนถูกโวยวาย

ข่าวแนะนำ

นักธรณีคาดดินยุบตัว เพราะเป็นจุดทางน้ำไหลผ่านจนเกิดโพรง

นักธรณีวิทยาลงพื้นที่ตรวจสอบเหตุดินยุบตัว กินพื้นที่กว่า 4 ไร่ เบื้องต้นคาดเป็นจุดทางน้ำไหลผ่านจนเกิดโพรง ทำให้ดินยุบตัวเป็นวงกว้าง

ก.อุตฯ เตรียมส่งตรวจเหล็กตึก สตง. เพิ่ม 21 เม.ย.

ก.อุตสาหกรรม กางผลตรวจเหล็กตึก สตง.ถล่ม รอบแรก ก่อนส่งตรวจเพิ่มอีก 40 ท่อน 21 เม.ย. ย้ำผิดคือผิด! ผู้ผลิต-จนท.มีเอี่ยว เตรียมปิดเทอม

พายุฝนพัดต้นยางอายุร่วม 100 ปี ทับโรงครัววัดพังราบ

พายุฝนลมกระโชกแรง ซัดต้นยางอายุร่วม 100 ปี วัดนางเหลียว ล้มทับโรงครัวพังเสียหาย ชาวบ้านในงานศพตื่นตระหนก วิ่งหนีกระเจิง

ลุยรื้อถอนต่อเนื่องเข้าวันที่ 24 จนท.ทำงานหนักตลอด 24 ชม.

เดินหน้ารื้อถอนอาคาร สตง.ถล่ม เข้าสู่วันที่ 24 เจ้าหน้าที่ทำงานตลอด 24 ชม. เพื่อให้เสร็จตามแผน ขณะที่ภารกิจค้นหาผู้ติดค้างยังคงดำเนินต่อเนื่อง