กรุงเทพฯ 18 ก.ย.-“ดร.ยุ้ย เกษรา” ผู้พัฒนาอสังหาฯ รอประเมินนโยบายเศรษฐกิจรัฐบาลใหม่ หนุนสร้างกำลังซื้อที่อยู่อาศัย บนปัจจัยที่ยังเป็นอุปสรรค ทั้งดอกเบี้ย รายได้ และภาระหนี้ครัวเรือน เพื่อให้คนไทยมีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเอง ปี 2567 เล็งเพิ่มกลยุทธ์ เน้นการนำนวัตกรรมการเงิน เพื่อให้เข้าถึงที่อยู่อาศัยในรูปแบบใหม่
ดร.เกษรา ธัญลักษณ์ภาคย์ กรรมการบริษัท เสนาดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ SENA เปิดเผยว่า การเดินหน้าของภาคธุรกิจอสังหาริมทรัพย์หลังจากนี้ รัฐบาล ต้องหามาตรการช่วยกระตุ้นกำลังซื้อ โดยต้องคำนึงถึงภาระหนี้ของครัวเรือน อัตราดอกเบี้ย และเงินกู้เป็นองค์ประกอบสำคัญ ซึ่งเชื่อว่าทุกคนอยากเป็นเจ้าของในที่อยู่อาศัยอยู่แล้ว แต่ขณะที่กำลังซื้อยังอยู่ในภาวะที่ชะลอตัว ซึ่งเป็นผลมาจากการสร้างรายได้ไม่เพียงพอต่อภาระต่างๆ ที่จะเกิดขึ้น ทำให้เกิดความไม่มั่นใจในการตัดสินใจซื้อที่อยู่อาศัย ขณะเดียวกันยังมีปัจจัยในเรื่องของราคาที่อยู่อาศัยสูงเกินกว่ารายได้ และยังเผชิญกับแนวโน้มดอกเบี้ยที่สูง ดังนั้นต้องดูปัจจัยเหล่านี้เป็นองค์ประกอบในทิศทางการกระตุ้นภาคอสังหาฯ
ทั้งนี้ แม้ว่าสถานการณ์อัตราดอกเบี้ยอาจจะเป็นขาลงแล้วก็ตาม แต่ก็ต้องพิจารณาแผนการกระตุ้นให้เกิดการสร้างรายได้ของประชาชนด้วย ดังนั้นการมีรัฐบาลใหม่จะเป็นจุดเริ่มต้นต่อการสร้างความมั่นใจมากขึ้น ต่อนโยบายที่รัฐบาลจะมาช่วยผลักดันและกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างเป็นรูปธรรม ซึ่งจะส่งผลดีต่อการลงทุนในระยะยาวด้วย แต่ต้องใช้เวลาเพื่อให้เกิดผลจากการกระตุ้นในรูปแบบต่างๆ ของรัฐบาล ยกเว้นแต่ว่ารัฐบาลมีนโยบาย หรือมาตรการกระตุ้นระยะสั้นประกาศใช้ออกมา ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการลดภาษี หรือการอุดหนุน (Subsidy) ที่จะมาช่วยให้เกิดกำลังซื้อที่อยู่อาศัย แต่ก็จะเห็นผลทางบวกในระยะสั้นเท่านั้น
อย่างไรก็ตามหากรัฐบาลต้องการให้ประชาชนมีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเองในระยะยาว คงต้องมีกลไก (Mechanism) ในเรื่องมาตรการดูแลด้านภาระหนี้ในระยะ 30 ปี โดยหามาตรการคิดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้คงที่ จะเป็นได้หรือไม่ เชื่อว่าจะสามารถแก้ไขปัญหาระยะยาวได้ สำหรับทิศทางของอสังหาฯในปี 2567 เสนาฯ ต้องเริ่มออกกลยุทธ์ใหม่ๆ ให้สอดคล้องกับเทรนด์ เพราะด้วยความสามารถในการซื้อที่อยู่อาศัยที่ยากขึ้น โดยจะให้ความสำคัญพัฒนาโครงการที่ตอบโจทย์กับความต้องการของผู้บริโภคที่มีความสามารถในการเป็นเจ้าของลดลง ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการศึกษาความเป็นไปได้ในการทำโครงการ เพื่อการขาย มาเป็นรูปแบบใหม่ ใช้อินโนเวชั่นทางการเงินมากขึ้น เรื่องนี้กำลังอยู่ระหว่างการหารือกับสถาบันในการดำเนินการตามแผนกลยุทธ์การพัฒนาธุรกิจของเสนาฯ
ส่วนนโยบายรัฐบาลที่จะประกาศลดราคาดีเซล มีผลต่อค่าขนส่งให้ลดลง เชื่อว่าเป็นผลต่อราคาสินค้าให้ลดลงมาในระยะหนึ่ง ซึ่งสวนทางกับค่าแรงที่ทุกคนคาดว่าจะปรับ จึงต้องนำมาคำนวณดูเหมือนกันว่า สิ่งที่เกิดขึ้นอาจจะไม่ได้ส่งผลให้ราคาสินค้าลดลง เพราะการปรับค่าแรงขั้นต่ำนั้นจะส่งผลไปยังตลาดแรงงานทุกพื้นที่อยู่แล้ว.-สำนักข่าวไทย