กรุงเทพฯ 14 ก.ย.-“ธรรมนัส” รมว.เกษตรฯ เผยสั่งทุกหน่วยงานขับเคลื่อนภารกิจสำคัญของกระทรวงฯ ย้ำดูแลเกษตรกรให้อยู่ดีมีสุข มีรายได้มั่นคง ยกระดับสินค้าเกษตร เพิ่มมูลค่าและศักยภาพแข่งขัน ด้าน รมช.ทั้ง 2 คนย้ำร่วมผลักดันนโยบาย แม้ต่างพรรค ไม่เป็นปัญหา
ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์กล่าวว่า ได้ร่วมกับนายไชยา พรหมา รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และนายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มอบนโยบายขับเคลื่อนงานกระทรวงเกษตรและสหกรณ์แก่หน่วยงานในสังกัดกระทรวง
สำหรับภารกิจสำคัญคือ การดูแลเกษตรกรให้อยู่ดีมีสุข มีรายได้มั่นคง ยกระดับภาคเกษตรไทยให้แข็งแกร่ง มีศักยภาพการแข่งขันที่ทัดเทียมหรือดีกว่าสินค้าเกษตรต่างประเทศ
ส่วนแนวทางปฏิบัติที่จะเร่งดำเนินการได้แก่
1)การจัดตั้งศูนย์บริการประชาชนภาคการเกษตร โดยเป็นศูนย์บริการร่วม เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ประชาชน และพี่น้องเกษตรกร เพื่อให้สามารถติดต่อสอบถาม ขอทราบข้อมูล และรับเรื่องร้องเรียน คลายทุกข์ให้แก่เกษตรกร ณ ศูนย์บริการร่วมเพียงแห่งเดียว
2)สร้างครอบครัวเกษตร บูรณาการงานเข้มแข็ง เน้นการทำงานของทุกคนทุกหน่วยงาน ต้องทำงานเป็น Team Work ให้มีศักยภาพเพื่อการทำงานระบบทีม มีประสิทธิภาพ มุ่งมั่น ร่วมแรงร่วมใจบรรลุเป้าหมายให้สำเร็จ
3)ขับเคลื่อนภารกิจ ยกระดับ MR. สินค้าเกษตร โดยฟื้นฟู ยกระดับการทำงานของ MR. สินค้าเกษตร อีกครั้ง สินค้าเกษตรทุกชนิดต้องมีผู้รับผิดชอบ เน้นทำงานเชิงรุก สร้างกลไกการทำงานร่วมกันในทุกสินค้า แก้ปัญหาถูกจุด ทั้งด้านสินค้าล้นตลาด ราคาตกต่ำ การลักลอบนำเข้าแบบครบวงจร ตั้งแต่ต้นทาง กลางทาง และปลายทาง
นอกจากนี้กระทรวงเกษตรฯ ยังต้องเตรียมการรับมือภัยธรรมชาติ โดยปัญหาเร่งด่วนคือ ภัยแล้งซึ่งต้องวางแผนมาตรการต่างๆ อย่างชัดเจน ตั้งแต่การป้องกัน การแก้ไข และการฟื้นฟู ตลอดจนการปราบปรามการลักลอบนำเข้าสินค้าเกษตรผิดกฎหมาย โดยถือเป็นการประกาศสงครามสินค้าเกษตรเถื่อนอย่างจริงจัง เข้มงวดยิ่งขึ้น เพื่อไม่ให้กระทบต่อราคาผลผลิตในประเทศ เข้มงวดในการตรวจสอบสต็อกในประเทศเพื่อควบคุมในการนำเข้า การกักตุน และเก็งกำไร โดยเฉพาะช่วงก่อนที่ผลผลิตออกสู่ตลาด
ร้อยเอกธรรมนัส กล่าวเพิ่มเติมถึงมาตรการยกระดับสินค้าเกษตรและเสริมศักยภาพเกษตรกรว่า มีดังนี้
1)ผลักดันส่งเสริมการเพิ่มมูลค่าสินค้าเกษตร สร้าง 1 ท้องถิ่น 1 สินค้าเกษตรมูลค่าสูง เนื่องจากภาคเกษตรเป็นภาคเศรษฐกิจหลักสำคัญ มีประชากรอยู่ในภาคเกษตรจำนวนมาก แต่ยังขาดการพัฒนาที่เหมาะสม เกษตรกรบางส่วนยังทำเกษตรแบบดั้งเดิมที่จึงมีรายได้น้อย จึงเน้นแนวทางในการปรับเปลี่ยนไปสู่การปลูกพืชที่มีมูลค่าทางเศรษฐกิจสูงขึ้น
2)ส่งเสริมเกษตรกร/สถาบันเกษตรกรเป็นผู้ให้บริการทางการเกษตรครบวงจร (Agricultural Service Provider) โดยเกษตรกร สถาบันเกษตรกรสามารถเป็นเจ้าของเครื่องมือ เครื่องจักรกลของตนเอง พร้อมเป็นผู้ให้บริการด้านธุรกิจเกษตรด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่ทันสมัย ซึ่งตอบโจทย์กลุ่มประชากรภาคเกษตรยุคใหม่
สำหรับภาคเกษตรยุคใหม่ต้องมีระบบการจัดการทรัพยากรทางการเกษตรที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม (Go Green) ด้วย BCG / Carbon Credit จะต้องทำการเกษตรที่ลดภาระต่อสิ่งแวดล้อม เกษตรที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม การใส่ปุ๋ยที่เหมาะสม การกำจัดแมลงศัตรูพืช ที่ถูกต้อง การลดปริมาณปุ๋ยเคมีและยาฆ่าแมลง มีการผลิตสินค้าเกษตรที่ปลอดภัย
นายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์กล่าวว่า พร้อมร่วมผลักดันนโยบายต่างๆ ที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้มอบหมาย เพื่อสนองนโยบายรัฐบาล
นายไชยา พรหมา รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์กล่าวว่า แม้รัฐมนตรีกระทรวงเกษตรฯ จะมาจากต่างพรรค แต่มีเป้าหมายเดียวกัน จะทำงานร่วมกันแบบบูรณาการ มีเป้าหมายในการให้บริการเกษตรกรและประชาชน.-สำนักข่าวไทย