“อนุสรณ์”แนะทีมเศรษฐกิจรัฐบาลชุดใหม่  

กรุงเทพฯ 23 ส.ค. – “อนุสรณ์”แนะทีมเศรษฐกิจ เลื่อนเวลา เพิ่มเงินเดือน   เพิ่มค่าแรงโอนเงินดิจิทัล หวั่นกระทบขาดดุลงบประมาณ 


รศ.ดร.อนุสรณ์ ธรรมใจ อดีตผู้อำนวยการ สำนักงานพัฒนานโยบายสาธารณะ สำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า นโยบายการแจกกระเป๋าเงินดิจิทัลไม่มีความจำเป็นต้องรีบทำในช่วงนี้ ควรใช้นโยบายนี้ เมื่อเศรษฐกิจเกิดวิกฤติ หากยังเดินหน้างบประมาณปี  2567 ยังไม่สามารถรองรับได้ จึงหาแหล่ง กู้เงินเพิ่มอีกอย่างน้อย 5 แสนล้านบาท อาจทำให้การขาดดุลงบประมาณทะลุ 1 ล้านล้านบาท สำหรับ การผลักดันนโยบายสวัสดิการ และเพิ่มรายได้ให้ประชาชนผ่านการปรับเพิ่มค่าแรงขั้นต่ำเป็น 600 บาทในปี 2570 และเพิ่มเงินเดือนปริญญาตรี 25,000 บาท ต้องใช้เวลาอีกระยะหนึ่ง เมื่อเศรษฐกิจฟื้นตัว  

ส่วนนโยบายจัดสรรที่ดินให้เกษตรกรเป็นเรื่องที่ดี เพราะเป็นปัจจัยการผลิตสำคัญ ส่วนการเพิ่มราคาพืชผลเกษตรนั้นควรใช้วิธีเพิ่มผลผลิตต่อไร่ เพิ่มมูลค่าด้วยแปรรูปด้วยนวัตกรรมและการตลาด พยายามหลีกเลี่ยงการใช้มาตรการแทรกแซงราคา เพราะเป็นภาระทางงบประมาณ เกิดการรั่วไหลได้ง่ายและทำให้ภาคเกษตรกรรมอ่อนแอในระยะยาว  คาดว่า การขยายตัวทางเศรษฐกิจปี  2566  ร้อยละ 2.5-3  เป็นผลจากการฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยว การบริโภคกระเตื้องขึ้นบ้าง  ส่วนภาคการลงทุนจะฟื้นตัวชัดเจนขึ้นในไตรมาส 4 หลังจากจัดตั้งรัฐบาลได้แล้ว แม้ล่าช้ามามากกว่า 3 เดือน 


พรรคเพื่อไทย  เน้นนโยบายทางเศรษฐกิจ นักลงทุนและตลาดการเงิน จึงตอบสนองในทางบวกมากกว่า กลุ่มทุนขนาดใหญ่ที่อาศัยอำนาจผูกขาดย่อมได้รับผลกระทบ การเปิดประตูเปิดโอกาสให้กับทุนขนาดกลางขนาดเล็กมากกว่า รัฐบาลใหม่ จึงเน้นการทำงานกระตุ้นเศรษฐกิจ  ด้วยมาตรการประชานิยมและสวัสดิการต่าง ๆ เพื่อทำให้ประชาชนพอใจ ขณะนี้เศรษฐกิจไม่ได้มีปัญหาวิกฤติ  เพียงมีอัตราการขยายตัวต่ำกว่าศักยภาพ  การท่องเที่ยวเริ่มฟื้นตัว การบริโภค การลงทุนทยอยดีขึ้น แม้การส่งออกยังติดลบ คาดว่าครึ่งปีหลังจะดีขึ้น ความล่าช้าในการจัดตั้งรัฐบาล ยังเป็นปัญหาต่อเศรษฐกิจ เพราะการจัดทำงบประมาณปี 67 ล่าช้า

 มองว่า รัฐบาลใหม่ ไม่ควรเน้นการแจกเงินกระตุ้นเศรษฐกิจ แต่ควรให้น้ำหนักไป ยังการสร้างฐานรายได้ใหม่ให้กับประชาชน และระบบเศรษฐกิจด้วยการสร้างแหล่งรายได้ใหม่ จากนวัตกรรม ความคิดสร้างสรรค์ การแก้ปัญหาเชิงโครงสร้างของระบบเศรษฐกิจและสังคม รวมทั้งปัญหาเชิงโครงสร้างทางการเมือง รัฐบาลใหม่ต้องเดินหน้าแก้ไขทันที มีดังนี้  

  1. ปัญหาโครงสร้างระบบการเมืองที่บิดเบี้ยวและไม่เป็นประชาธิปไตยจากรัฐธรรมนูญปี 2560 ต้องร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ต้องทบทวนรื้อถอนปรับปรุง ยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศที่ขาดการมีส่วนร่วมของประชาชน ขาดพลวัตในการตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลง ต้องเดินหน้าปฏิรูประบบองค์กรอิสระ  ระบบวุฒิสภา  ผลักดันให้มีการแก้ไขความสงบในสามจังหวัดชายแดนใต้ด้วยมาตรการเมือง เศรษฐกิจ แทน มาตรการทางการทหาร ไทย ควร เป็นเจ้าภาพให้เกิดสันติธรรมประชาธิปไตยในเมียนมา เกิดความสงบเรียบร้อยตามแนวชายแดนไทยเมียนมา  
  2. ปัญหาโครงสร้างประชากรสังคมสูงวัย ประชากรในวัยทำงานลดลง ประสบปัญหาการขาดแคลนแรงงาน ฐานภาษีหดตัวลงจากประชากรวัยทำงานลดลง ประเทศไทยมีผู้สูงวัยอายุเกิน 60 ปีเกือบร้อยละ 20  ของประชากรในปีนี้  โดยประชากรผู้สูงวัยส่วนใหญ่มีเงินออมไม่พอต่อความจำเป็นในการดำรงชีพ การจ่ายเบี้ยยังชีพนั้นไม่เพียงพอ ต้องสร้างระบบบำนาญเพื่อผู้สูงวัยที่อยู่นอกระบบสวัสดิการแรงงานในระบบ อัตราการเกิดน้อยกว่าอัตราการตายในปี พ.ศ. 2564 อัตราการเจริญพันธุ์อยู่เพียง 1.16 (อัตราการเจริญพันธุ์ต่ำกว่า 2.1 ประชากรจะเริ่มหดตัว) มีอัตราเจริญพันธุ์ต่ำที่สุดเป็นอันดับที่ 6 ของโลก หากเป็นเช่นนี้ต่อไป จำนวนประชากรไทยจะลดลงเหลือครึ่งหนึ่งและส่วนใหญ่เป็นผู้สูงวัยในอีก 60-70 ปีข้างหน้า หากสังคมไทยเต็มไปด้วยผู้สูงอายุ แล้วใครจะจ่ายภาษี ใครจะทำงาน ใครจะดูแลรักษาพยาบาลผู้สูงวัย รัฐบาลใหม่ต้องมียุทธศาสตร์ นโยบายและแผนปฏิบัติการอย่างชัดจนในแก้ปัญหาโครงสร้างประชากรดังกล่าวตั้งแต่บัดนี้ 
  3. สัดส่วนหนี้ครัวเรือนต่อจีดีพีเกินกว่าร้อยละ 80 นานมากจะส่งผลต่อเสถียรภาพต่อระบบการเงินและข้อจำกัดในการเติบโตของเศรษฐกิจ ตัวเลขล่าสุดไตรมาสแรกปีนี้ สัดส่วนหนี้ครัวเรือนต่อจีดีพีขึ้นมาเกือบแตะร้อยละ 91  ลูกหนี้มีพฤติกรรมก่อหนี้ใหม่ไปชำระหนี้เก่ามากขึ้นกว่าเดิม สะท้อนว่า ภาวะหนี้สินล้นพ้นตัวและกับดักหนี้รุนแรงขึ้นและยิ่งเข้าสู่ภาวะดอกเบี้ยขาขึ้นการแก้ไขปัญหาหนี้สินก็ยากขึ้น เมื่อไม่ได้ก่อหนี้มาใช้จ่าย แต่ไปชำระหนี้เดิม ผลของการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคต่อเศรษฐกิจย่อมน้อยลง 
  4. ปัญหาความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจและปัญหากับดักความยากจนข้ามรุ่น ไทยมีปัญหาความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจติดอันดับต้นๆของโลกและรุนแรงมากขึ้นช่วงวิกฤติโรคระบาดโควิดเมื่อปี 2563-2564 เป็นปัญหาในเชิงโครงสร้างที่ต้องมีการปฏิรูปเศรษฐกิจครั้งใหญ่ นอกจากนี้ยังมีครัวเรือนยากจนข้ามรุ่น จำนวนมาก ครัวเรือนเหล่านี้ส่วนใหญ่ ไม่มีเงินออม การศึกษาต่ำ และอัตราการพึ่งพิงสูง โดยปัจจัยที่สำคัญที่สุด ที่ทำให้ครัวเรือนเข้าข่ายเป็นครัวเรือนยากจนข้ามรุ่น คือ การขาดความมั่นคงทางการเงินเนื่องจากไม่มีเงินออม (ร้อยละ 60.3) รองลงมาคือ ความขัดสนทางการศึกษา จากการที่เด็กอายุ 6-14 ปี ไม่ได้รับการศึกษาภาคบังคับครบ 9 ปี (ร้อยละ 36.4) โดยเด็กจำนวนมากต้องหลุดออกนอกระบบการศึกษา  
  5. ปัญหาการกระจายรายได้ที่เป็นธรรมและโอกาสทางการศึกษา การขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 600 บาทภายในปี พ.ศ. 2570 จะช่วยบรรเทาปัญหาได้บ้าง การสร้างโอกาสทางการศึกษา การพัฒนาทักษะฝีมือแรงงานและการเพิ่มผลิตภาพการผลิตของแรงงานเป็นคำตอบต่อความท้าทายระยะยาวมากกว่าเพียงขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ     
  6. ความถดถอยของขีดความสามารถในการแข่งขันและการไม่มีเครื่องยนต์ใหม่ในการขับเคลื่อนการเติบโตทางเศรษฐกิจ ความอ่อนแอของภาคส่งออกไทย  ธุรกิจอุตสาหกรรมของไทยส่วนใหญ่ไม่ใช่ธุรกิจอุตสาหกรรมแห่งอนาคต มีธุรกิจอุตสาหกรรม New S Curve น้อยมาก 
  7. ค่าใช้จ่ายทางด้านสวัสดิการที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะสวัสดิการทางด้านสุขภาพ รัฐมีข้อจำกัดรายได้ ต้องปฏิรูปกองทุนประกันสังคมครั้งใหญ่ รองรับมือกับสังคมผู้สูงวัย กองทุนประกันสังคม อาจประสบปัญหาสภาพคล่องได้ใน 30 ปีข้างหน้า หากไม่มีเพิ่มการจ่ายเงินสมทบหรือยืดอายุเกษียณเพื่อรับเงินบำนาญ  
  8. ปัญหาสิ่งแวดล้อมและความทรุดโทรมของทรัพยากรธรรมชาติเป็นปัญหาใหญ่ของสังคมไทย ทั้งปัญหามลพิษทางอากาศรุนแรง น้ำเน่าเสียรุนแรง ปัญหาขยะมีพิษ ดินเค็ม ขาดน้ำในหน้าแล้ง น้ำท่วมในหน้าฝน สิ่งที่รัฐบาลใหม่ต้องทุ่มเทงบประมาณแก้ไขปัญหาอย่างจริงจังเพราะกระทบต่อคุณภาพชีวิตของทุกคน    
  9. นโยบายกัญชา ควรจำกัดให้ใช้เฉพาะทางการแพทย์เท่านั้น และควรส่งเสริมให้เกิดการวิจัยเพื่อใช้ประโยชน์ทางการแพทย์ไม่ควรให้ใช้ในสันทนาการเพราะเป็นสิ่งเสพติด .-สำนักข่าวไทย 


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พบร่างพลทหารรัวยิงชาวบ้านแล้ว คาดจบชีวิตตัวเองในป่า

15 ส.ค.- พบร่างพลทหารที่ก่อเหตุยิงชาวบ้านแล้ว คาดใช้อาวุธปืนจบชีวิตตัวเอง ห่างจากที่เกิดเหตุประมาณ 200 เมตร อยู่ระหว่างเคลียร์พื้นที่ นำร่างผู้เสียชีวิตออกมา เมื่อเวลาประมาณ 10.30 น. พบร่างพลทหารที่ก่อเหตุยิงชาวบ้านแล้ว คาดใช้อาวุธปืนจบชีวิตตัวเอง ห่างจากที่เกิดเหตุประมาณ 200 เมตร ซึ่งเป็นป่าติดกับคลองส่งน้ำ เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างเคลียร์พื้นที่ นำร่างผู้เสียชีวิตออกมาส่งพิสูจน์ทราบต่อไป ด้านครอบครัวที่มาเฝ้ารอ ต่างเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น – สำนักข่าวไทย

ทบ.แจงเหตุทหารรัวยิงชาวบ้านกาบเชิง เจ็บ 2 ยังคุมตัวไม่ได้

15 ส.ค.- กองทัพบกแจงเหตุทหารหนีออกจากหน่วยพร้อมอาวุธปืน รัวยิงกลางดึก ชาวบ้านกาบเชิง เจ็บ 2 ราย จนท.เร่งล่า ยังไม่พบตัว หากประชาชนพบเห็นรีบแจ้งทันที กองทัพบกชี้แจงเหตุการณ์ใช้อาวุธปืนในพื้นที่อำเภอกาบเชิง จังหวัดสุรินทร์ เมื่อวันที่ 15 สิงหาคม 2568 เวลา 00.45 น. กำลังพลกองร้อยทหารราบที่ 1623 ได้ยินเสียงปืนดังเป็นชุด จำนวน 10 นัด บริเวณถนนข้างวัดบ้านเขื่อนแก้ว อำเภอกาบเชิง จังหวัดสุรินทร์ ต่อมาเวลา 00.54 น. ได้ยินเสียงปืนเพิ่มอีก 2 นัด จากการตรวจสอบกำลังพลและอาวุธประจำกาย พบว่า พลทหารรัฐภูมิ เทพศิริ สังกัดกองร้อยทหารราบที่ 1623 ได้ออกจากที่ตั้งโดยไม่ได้รับอนุญาต พร้อมอาวุธปืนเล็กยาวและกระสุนจำนวนหนึ่ง เจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 ราย ได้แก่ ผู้บาดเจ็บทั้งสองรายได้รับการปฐมพยาบาลเบื้องต้นและส่งโรงพยาบาลกาบเชิง ก่อนส่งต่อรักษาตามความเหมาะสม โดยขณะนี้พ้นขีดอันตรายแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจร่วมกับกำลังพลกองร้อยทหารราบที่ 1623 ได้ตรวจสอบพื้นที่และสอบถามพยาน เบื้องต้นคาดว่าพลทหารดังกล่าวอาจเป็นผู้ก่อเหตุ […]

แจ้งจับ “ภูมิธรรม” ปล่อยกัมพูชารุกราน ทำไทยเสียเปรียบ

ขอนแก่น 15 ส.ค. – องค์กรต่อต้านคอร์รัปชันภาคพลเมืองจังหวัดขอนแก่น แจ้งความเอาผิด “ภูมิธรรม” รักษาการนายกฯ ไม่ทำหน้าที่ตัวเอง ปล่อยกัมพูชารุกรานไทย องค์กรต่อต้านคอร์รัปชันภาคพลเมืองจังหวัดขอนแก่น เข้าแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวน เพื่อเอาผิด นายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย ในข้อหาหรือฐานความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา ม.119, ม.120, ม.124 ม.157 และมาตราอื่นที่เกี่ยวข้อง นายตุลย์ ประเสริฐศิลป์ ประธานองค์กรต่อต้านคอรัปชั่นภาคพลเมืองจังหวัดขอนแก่น กล่าวว่า การมาร้องทุกข์กล่าวโทษครั้งนี้ ด้วยเรื่องเอกราชและอธิปไตยของชาติเป็นสิ่งสำคัญสูงสุด แต่รักษาการนายกฯ ไม่ได้ทำหน้าที่ตัวเอง โดยปล่อยปละละเลยทำให้ต่างชาติรุกรานประเทศไทย ต้องปกป้องรักษาเอกราชและอธิปไตยของชาติให้มั่นคง แต่ที่ทหารขาขาด บาดเจ็บ ประชาชนล้มตายทรัพย์สินเสียหาย คือ ความร้ายแรงของของผู้รักษาการนายกรัฐมนตรีต้องทำและต้องปกป้องให้ได้ แต่ไม่มี มีแต่ไปเข้าข้างศัตรูโดยเฉพาะกัมพูชา เป็นโทษร้ายแรงมาก.-สำนักข่าวไทย

“วีระ” เตือน รัฐบาลควรเลิกนโยบายกึ่งการคลัง หลังแบกหนี้ 1 ล้านล้านบาท

รัฐสภา 15 ส.ค.-“วีระ” เตือน รัฐบาลควรเลิกนโยบายกึ่งการคลัง ผ่านสถาบันการเงินเฉพาะกิจ หลังแบกหนี้ 1 ล้านล้านบาท ตั้งคำถามหลายรัฐวิสาหกิจมีผลกำไรดี จะมาตั้งของบอีกทำไม นายวีระ ธีระภัทรานนท์ ในฐานะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณางบประมาณรายจ่ายประจำปี 2569 ในเรื่องของรัฐวิสาหกิจ ว่า ในเอกสารงบประมาณที่เป็นงบประมาณรายจ่าย มาตรา 29 มีรัฐวิสาหกิจ 21 แห่งของบประมาณรวมกันทั้งสิ้น 79,298 ล้านบาท แต่ค่าใช้จ่ายของรัฐวิสาหกิจทั้งหมด 1.43 แสนล้านบาท ซึ่งในรัฐวิสาหกิจ 21 แห่งที่ของบประมาณมาตนไม่ค่อยติดใจ เพราะมีรัฐวิสาหกิจจำนวนหนึ่งไม่มีรายได้ อีกส่วนเป็นรัฐวิสาหกิจมีรายจ่ายมากกว่ารายได้ บางรัฐวิสาหกิจมีหนี้สินจำนวนมาก เช่น ขสมก. การรถไฟแห่งประเทศไทย นายวีระ ฝากไปถึงคนที่ต้องจัดการรัฐวิสาหกิจว่า รัฐวิสาหกิจที่มีปัญหารัฐบาลต้องตัดสินใจให้เด็ดขาดว่า รัฐวิสาหกิจเหล่านั้นคงอยู่ต่อไปในสภาพแบบนั้น หรือ จะดำเนินการแปรรูปให้เอกชนเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ เพื่อไม่ให้เกิดภาระการคลังในอนาคตอย่างที่เป็นอยู่ปัจจุบัน สำหรับกรณี บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ซึ่งประสบความสำเร็จในการฟื้นฟูกิจการ โดยที่รัฐบาลยังถือหุ้นใหญ่อยู่ประมาณ 40% แต่ไม่มีสถานะภาพเป็นรัฐวิสาหกิจอีกต่อไป […]

ข่าวแนะนำ

คณะทูตออตตาวา ลงพื้นที่ศรีสะเกษ

ศรีสะเกษ 16 ส.ค.-รมว.ต่างประเทศ นำคณะทูตภาคีอนุสัญญาออตตาวา ถึง จ.ศรีสะเกษ ลงพื้นที่สำรวจและตรวจการเก็บกู้ทุ่นระเบิด บริเวณภูมะเขือ ใกล้ปราสาทพระวิหาร หวังให้ประชาคมโลกเข้าใจถึงปัญหา และช่วยกดดันให้กัมพูชาแสดงความจริงใจ เมื่อช่วงใกล้เที่ยงที่ผ่านมา นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ได้นำคณะทูตจากประเทศภาคีอนุสัญญาออตตาวา และผู้แทนองค์การระหว่างประเทศ องค์กรภาคประชาสังคมด้านการเก็บกู้ทุ่นระเบิด รวม 36 คน จาก 33 ประเทศ พร้อมสื่อมวลชนไทยและต่างประเทศ เข้าฟังการบรรยายสรุปภาพรวมจังหวัดชายแดน ณ โรงเรียนภูมิซรอลวิทยา อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ โดยมีตัวแทนชาวบ้าน 5 คน ที่ได้รับผลกระทบมาร่วมให้การต้อนรับด้วย บริเวณด้านหน้าห้องประชุมได้ติดตั้งป้ายตัวอย่างความเสียหายบ้านเรือนประชาชนที่ได้รับความเสียหาย จากเหตุปะทะ โดยเสียหายหนักและเสียหายทั้งหลัง 36 หลังคาเรือน เสียหายบางส่วน 320 หลังคาเรือน พลเรือนเสียชีวิต 8 ราย บาดเจ็บ 18 ราย สถานที่ราชการ เสียหาย 14 แห่ง ตามกำหนดการเดิม 13.00 น.คณะทูตจะขึ้นไปยังภูมะเขือเพื่อสำรวจพื้นที่ทุ่นระเบิด […]

เก๋งแต่งซิ่ง เสียหลักพุ่งชนยับ 10 คันรวดบนทางด่วน

กทม. 16 ส.ค.-เก๋งแต่งซิ่งประลองความเร็ว เสียหลักพุ่งชนกันยับ 10 คันรวดบนทางด่วนมุ่งหน้าบางปะอิน เจ้าของรถบีเอ็ม เล่านาทีถูกชน เกิดอุบัติเหตุรถยนต์ชนกันจำนวนหลายคัน บนทางด่วนช่วงทางขึ้นเมืองทองธานี มุ่งหน้าบางปะอิน โดยภาพจากกล้องหน้ารถยนต์คันหนึ่งบันทึกภาพเวลา 00.59 น.วันนี้ (16 ส.ค.68) รถเก๋งสีขาวจำนวน 3 คัน ขับตามกันมาด้วยความเร็วก่อนเกิดการชนกัน ทำให้รถเสียหลักหมุน ก่อนจะถูกรถเก๋งที่ขับตามมาพุ่งชนซ้ำอีกหลายคัน บางคันเกือบตกทางด่วน หลังตำรวจ สภ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี รับแจ้งเหตุ จึงประสานเจ้าหน้าที่กู้ภัยการทางพิเศษ เร่งตรวจสอบที่เกิดเหตุพบรถเก๋งแต่งซิ่งประมาณ 10 คัน บางคันเป็นรถหรูราคาแพง ได้รับความเสียหายยับเยิน กีดขวางทั้ง 2 ช่องจราจร มีเศษชิ้นส่วนของรถยนต์ที่แตกและหลุดกระจายเต็มพื้น เจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรปากเกร็ดและเจ้าหน้าที่กู้ภัยการทางพิเศษได้ประสานรถยกเร่งเคลื่อนย้ายรถที่เสียหายออกพร้อมทำความสะอาดคราบน้ำมันและชิ้นส่วนรถยนต์ เพื่อเปิดการจราจรใช้เวลากว่า 3 ชม. จากการสอบถาม นายอชิตพล อายุ 29 ปี เจ้าของรถยนต์บีเอ็ม ที่ถูกชนกล่าวว่า ตนขับรถไปรับแฟนมาจากที่ทำงาน เพื่อจะเดินทางกลับบ้านย่านธรรมศาสตร์รังสิต ขณะที่ขับรถอยู่ในช่องทางขวา เห็นรถเก๋งสีขาวที่ขับตามมาด้วยความเร็ว ตนจะเปลี่ยนเลนหลบไปในช่องทางซ้าย แต่ก็ถูกรถเก๋งคันดังกล่าวพุ่งชนท้ายก่อนที่รถจะเสียหลักหมุน เป็นจังหวะเดียวกันกับรถอีกคันที่ขับตามกันมาด้วยความเร็วพุ่งชนซ้ำอีกครั้ง […]

‘ทรัมป์’ – ‘ปูติน’ หารือไร้ข้อสรุปเรื่องยุติสงครามในยูเครน

แองเคอเรจ, อะแลสกา 15 ส.ค. – การประชุมสุดยอดระหว่างประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ และประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน แห่งรัสเซีย ซึ่งทั่วโลกต่างเฝ้ารอคอย ได้สิ้นสุดลงโดยไม่มีข้อตกลงใด ๆ เพื่อยุติหรือพักรบสงครามในยูเครน แม้ว่าผู้นำทั้งสองจะกล่าวว่าการพูดคุยเป็นไปอย่างสร้างสรรค์ก็ตาม หลังจากการประชุมยาวนานเกือบ 3 ชั่วโมง ในอะแลสกา ผู้นำทั้งสองได้ปรากฏตัวต่อหน้าสื่อเป็นช่วงระยะเวลาสั้น ๆ โดยระบุว่ามีความคืบหน้าในประเด็นต่าง ๆ ที่ไม่ได้ระบุรายละเอียด แต่ไม่ได้ให้ข้อมูลเพิ่มเติมใด ๆ และไม่เปิดโอกาสให้ตั้งคำถาม นายทรัมป์ซึ่งปกติเป็นคนช่างพูด กลับเพิกเฉยต่อคำถามที่นักข่าวตะโกนถาม นายทรัมป์กล่าวว่า มีความคืบหน้าบ้าง แต่จะยังไม่มีข้อตกลงใด ๆ จนกว่าจะมีการทำข้อตกลง ดูเหมือนว่าการพูดคุยครั้งนี้จะไม่ได้นำไปสู่การดำเนินการที่มีความหมายเพื่อหยุดยิงในความขัดแย้งที่นองเลือดที่สุดในยุโรปในรอบ 80 ปี ซึ่งเป็นเป้าหมายที่นายทรัมป์ได้ตั้งไว้ก่อนการประชุม แต่เพียงแค่การได้นั่งพูดคุยแบบตัวต่อตัวกับประธานาธิบดีสหรัฐ ก็ถือเป็นชัยชนะสำหรับนายปูตินแล้ว หลังจากเขาถูกผู้นำชาติตะวันตกกีดกันมาโดยตลอดนับตั้งแต่รัสเซียบุกยูเครนเต็มรูปแบบในปี 2022 หลังการประชุมสุดยอด นายทรัมป์ให้สัมภาษณ์กับฟอกซ์นิวส์ ว่าเขาจะชะลอการกำหนดภาษีนำเข้ากับจีนสำหรับการซื้อน้ำมันรัสเซีย หลังจากที่การเจรจากับนายปูตินมีความคืบหน้า นายทรัมป์ยังเคยขู่จะใช้มาตรการคว่ำบาตรต่อรัสเซีย แต่จนถึงขณะนี้เขายังไม่ได้ดำเนินการใด ๆ แม้ว่านายปูตินจะเพิกเฉยต่อเส้นตายหยุดยิงที่นายทรัมป์กำหนดไว้เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา ในการให้สัมภาษณ์กับฟอกซ์ นิวส์ นายทรัมป์ยังได้เสนอแนะว่าจะมีการจัดการประชุมระหว่างนายปูตินและประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกี […]

กต. นำคณะทูตรัฐภาคีอนุสัญญาออตตาวา 33 ประเทศ ลงพื้นที่ จ.ศรีสะเกษ

กทม. 16 ส.ค.-กต. นำคณะทูตรัฐภาคีอนุสัญญาออตตาวา 33 ประเทศ ลงพื้นที่ จ.ศรีสะเกษ สำรวจความเสียหายการใช้ทุ่นระเบิดของฝั่งกัมพูชา นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ พร้อมด้วยนายรัศม์ ชาลีจันทร์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงการต่างประเทศ นำคณะทูตจากประเทศสมาชิกอาเซียนรัฐภาคีอนุสัญญาออตตาวา ผู้แทนองค์การระหว่างประเทศ และองค์กรภาคประชาสังคมด้านการเก็บกู้ทุ่นระเบิด ลงพื้นที่จ.ศรีษะเกษ เพื่อชี้แจงข้อมูลและเหตุผลเกี่ยวกับการดำเนินการของไทย โดยมีคณะทูตและผู้แทน จำนวน 36 คน แบ่งเป็น 33 ประเทศ 1 องค์กร 2 องค์การระหว่างประเทศ สื่อมวลชนไทยและสื่อต่างประเทศ เข้าร่วม ทั้งนี้ ก่อนออกเดินทางกระทรวการต่างประเทศได้บรรยายข้อมูลเบื้องต้นให้คณะได้รับทราบ โดยนายมาริษ กล่าวกับคณะทูต ว่า ขอบคุณที่ร่วมเดินทาง และหวังว่าทุกท่านจะได้รับข้อมูลด้วยตาตัวเองถึงสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ก่อนที่จะเดินทางออกไปยัง จ.ศรีสะเกษ โดยจุดแรกจะนำคณะทูตจากประเทศสมาชิกอาเซียนรัฐภาคีอนุสัญญาออตตาวาเดินทางไปโรงเรียนภูมิซรอลวิทยา ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษณ์ เพื่อรับฟังบรรยายสรุปจากกองทัพบก กระทรวงการต่างประเทศ และกระทรวงมหาดไทย จากนั้นจะนำคณะทูตและสื่อมวลชนขึ้นไปภูมะเขือ และฐานปฏิบัติการ เพื่อดูภูมิประเทศ เยี่ยมชมการเก็บกู้ทุนระเบิดของหน่วยปฏิบัติการด้านทุ่นระเบิดเพื่อมนุษยธรรมในพื้นที่ภูมะเขือ สำรวจความเสียหายที่เกิดจากการใช้ทุ่นระเบิดของฝั่งกัมพูชา.-316.-สำนักข่าวไทย