กทม. 19 ส.ค.-MEA ชี้แจงเหตุหนุ่มเมาสุราขับขี่รถจักรยานยนต์ ตกบ่อพักบริเวณ แยกรัชดา-ลาดพร้าว ของ MEA ยันติดตั้งป้ายเตือนพร้อมสัญญาณไฟ รวมถึงมีเจ้าหน้าที่ Safety ควบคุมความปลอดภัยในจุดเกิดเหตุ
จากกรณีอุบัติเหตุผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ เมาสุราพลัดตกลงในบ่อพักท่อร้อยสายไฟฟ้าใต้ดิน บริเวณแยกรัชดา-ลาดพร้าว ได้รับบาดเจ็บ เมื่อวันที่ 19 สิงหาคม 2566 เวลาประมาณ 00.30 น. นั้น MEA หรือการไฟฟ้านครหลวง ในฐานะผู้ว่าจ้างงานโครงการก่อสร้างดังกล่าว ขอแสดงความเสียใจต่ออุบัติเหตุที่เกิดขึ้น โดยจุดเกิดเหตุอยู่ในระหว่างการก่อสร้างบ่อพักไฟฟ้าใต้ดินโครงการตามแนวรถไฟฟ้าสายสีเหลือง (ถนนลาดพร้าว) ซึ่ง MEA มีการติดตั้งป้ายเตือนพร้อมสัญญาณไฟ รวมถึงมีเจ้าหน้าที่ Safety ควบคุมความปลอดภัยในจุดเกิดเหตุ แต่เนื่องจากผู้ขับขี่เมาสุราจึงขับฝ่าแผงกั้นพื้นที่ก่อสร้างสะดุดเสียหลักตกบ่อพักได้รับบาดเจ็บดังกล่าว เจ้าหน้าที่ได้ประสานตำรวจ กู้ภัยและมูลนิธิร่วมกตัญญูช่วยเหลือขึ้นมา และนำส่งโรงพยาบาล
ทั้งนี้ MEA ได้ปฏิบัติงานตามมาตรฐานคู่มือก่อสร้างงานสาธารณูปโภค ตามมติคณะกรรมการประสานงานด้านสาธารณูปโภคในเขตกรุงเทพมหานคร ระดับอำนวยการ (ปสอ.) ซึ่งจัดทำโดย สำนักการโยธา กรุงเทพมหานคร รวมถึงข้อกำหนดของหน่วยงานเจ้าของพื้นที่อื่น ๆ ที่ MEA ดำเนินการก่อสร้างอย่างเคร่งครัด เพื่อให้เกิดความปลอดภัยต่อชีวิต และทรัพย์สินของประชาชน รวมถึงผู้ปฏิบัติงานในพื้นที่ก่อสร้าง ทั้งนี้ การดำเนินโครงการที่เกี่ยวข้องกับสายไฟฟ้าใต้ดินของ MEA จะมีการก่อสร้างในช่วงเวลากลางคืนเพื่อหลีกเลี่ยงผลกระทบด้านการจราจร ดังนั้นผู้ใช้ถนน โปรดระมัดระวังการขับขี่ในพื้นที่ใกล้เขตก่อสร้าง หมั่นสังเกตป้ายสัญญาณเตือนต่าง ๆ หลีกเลี่ยงการใช้ความเร็ว หรือการขับขี่ด้วยความประมาท โดยเฉพาะการขับขี่ในระหว่างการเมาสุรา ซึ่งนอกจากจะทำให้เกิดอันตรายแล้ว ยังมีความผิดทางกฎหมายอีกด้วย
สำหรับประชาชน หากพบว่ามีการดำเนินการก่อสร้างของ MEA ในลักษณะที่อาจก่อให้เกิดความไม่ปลอดภัย หรือพบเห็นสายไฟฟ้าหรืออุปกรณ์ไฟฟ้าชำรุดอยู่ในสภาพที่ไม่ปลอดภัย สามารถแจ้งเหตุได้ที่ MEA Smart Life Application ซึ่งเป็นแอปพลิเคชันบนสมาร์ตโฟนระบบ iOS และ Android ของ MEA ดาวน์โหลดฟรี คลิก https://onelink.to/measmartlife หรือช่องทางโซเชียลมีเดียทางการของ MEA ตลอด 24 ชั่วโมง ได้แก่ Facebook: การไฟฟ้านครหลวงMEA, Line: MEA Connect (@MEAthailand), Twitter: @mea_news.-สำนักข่าวไทย