กรุงเทพฯ 18 ส.ค.- KGI คาดเศรษฐกิจไทย GDP ไตรมาสที่ 2/66 จะขยายตัว 2.4% ลดลงจาก 2.7% ในไตรมาสที่ 1/66
นายปรากรม ปฐมบูรณ์ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายวิจัย บล.เคจีไอ (KGI) คาดสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช) รายงาน GDP ไตรมาสที่ 2/66 ในวันจันทร์ที่ 21 สิงหาคม 2566 คาด GDP ไตรมาสที่ 2/66 จะขยายตัว 2.4% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ลดลงจาก 2.7% ในไตรมาสที่ 1/66 จากภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวลง สะท้อนจากดัชนีเศรษฐกิจหลักเทียบกับช่วงไตรมาสที่ 2/65 ที่ชะลอตัว หรือ หดตัว ยกเว้นดัชนีการบริโภคภาคเอกชนและภาคบริการที่ดีขึ้น
ปัจจัยบวกที่ช่วยให้ GDP ไตรมาสที่ 2/66 ขยายตัว คือ
1)ดัชนีบริการบริโภคภาคเอกชนขยายตัวในระดับที่สูงมากขึ้นต่อเนื่องเทียบกับหลายไตรมาสก่อนหน้า ทั้งจากนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้ามามากขึ้น และ การใช้จ่ายในช่วงการรณรงค์เลือกตั้งทั่วไปวันที่ 14 พฤษภาคม
2)นักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าประเทศมากขึ้นต่อเนื่องเพิ่มขึ้น 374% เป็น 6.437 ล้านคน ในไตรมาสที่ 2/66 จาก 1.583 ล้านคน ในไตรมาสที่ 2/65 แต่ลดลงเล็กน้อยจาก 6.477 ล้านคน ในไตรมาสที่ 1/66
3)ดุลการค้าไตรมาสที่ 2/66 เกินดุล 7.506 หมื่นล้านบาท (2.152 พันล้านดอลลาร์ฯ) เทียบกับไตรมาสที่ 1/66 เกินดุล 1.1043 แสนล้านบาท (2.945 พันล้านดอลลาร์ฯ) และไตรมาสที่ 2/65 เกินดุล 9.331 หมื่นล้านบาท (2.698 พันล้านดอลลาร์ฯ)
ปัจจัยลบถ่วงการขยายตัว GDP ไตรมาสที่ 2/66 คือ
ดัชนีผลผลิตภาคอุตสาหกรรมและการลงทุนภาคเอกชนไตรมาสที่ 2/66 หดตัวลง 5.7% YoY และ 0.5% YoY ลดลงมากขึ้นจาก 3.7% YoY และ 0.2% YoY ในไตรมาสที่ 1/66 สะท้อนถึงภาวะเศรษฐกิจในประเทศและต่างประเทศโดยรวมชะลอตัว บัญชีเดินสะพัดไตรมาสที่ 2/66 กลับมาขาดดุล 6.406 หมื่นล้านบาท (1.899 พันล้านดอลลาร์ฯ) เทียบกับเกินดุลในไตรมาสที่ 1/66 1.387 แสนล้านบาท (3.961 พันล้านดอลลาร์ฯ) คาดว่าการใช้จ่ายภาครัฐจะยังคงหดตัว เนื่องจากฐานสูงที่เกิดจากค่าใช้จ่ายสำหรับกรณีโควิด-19 ปีที่ผ่านมา ขณะที่การใช้จ่ายภาครัฐในไตรมาสที่ 2/66 ไม่มีค่าใช้จ่ายดังกล่าว และ การใช้จ่ายภาครัฐที่ต้องล้อตาม พ.ร.บ. งบประมาณรายจ่ายปี 2566 เนื่องจากยังไม่มี พรบ. งบประมาณรายจ่ายปี 2567
ด้านการผลิต
1)การผลิตภาคการเกษตร(9.2%) คาดว่าจะขยายตัว 3.5%YoY ในไตรมาสที่ 2/66 จากผลผลิตภาคการเกษตรเพิ่มขึ้น 0.6%YoY
2)การผลิตที่ไม่ใช่ภาคการเกษตร(90.8%) คาดว่าจะขยายตัว 1.9%YoY โดยผลผลิตภาคอุตสาหกรรม(33.0%)จะลดลง 3.9%YoY แต่ภาคบริการ(57.8%) จะขยายตัว 5.8%YoY
ด้านการใช้จ่าย
การใช้จ่ายเพื่อการอุปโภคบริโภคขั้นสุดท้ายของเอกชนในไตรมาสที่ 2/66 จะขยายตัว 6.1%YoY ได้ปัจจัยบวกจากนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้าประเทศเพิ่มขึ้นและการใช้จ่ายช่วงก่อนการเลือกตั้ง ขณะที่รายได้เกษตรกรลดลง
2)การใช้จ่ายเพื่อการอุปโภคขั้นสุดท้ายของรัฐบาลจะหดตัว 4.9%YoY ในไตรมาสที่ 2/66
3)การลงทุนรวมจะเพิ่มขึ้น 1.5%YoY คาดว่าการลงทุนภาครัฐจะเพิ่มขึ้น 2.2%YoY ขณะที่การลงทุนภาคเอกชนจะเพิ่มขึ้น 1.3%YoY
4)สินค้าคงคลังมีแนวโน้มลดลง สต๊อกทองคำแท่งลดลงจากราคาทองคำตลาดโลกกลับมาเป็นช่วงขาขึ้นส่งผลให้มีการขายทองคำแท่ง สต๊อกน้ำมันดิบลดลงตามราคาน้ำมันดิบที่ลดลง ขณะที่สตอกผลผลิตทางการเกษตรจะไม่เปลี่ยนแปลง
5)บัญชีเดินสะพัดไตรมาสที่ 2/66 กลับมาขาดดุล 6.406 หมื่นล้านบาท (1.899 พันล้านดอลลาร์ฯ) .-สำนักข่าวไทย