ตั้งวอร์รูมรับมือภัยแล้ง-อินเดีย งดส่งออกข้าวกระทบไทย

นนทบุรี 7 ส.ค. – รัฐมนตรีพาณิชย์สั่งตั้งวอร์รูมให้ปลัดพาณิชย์และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งติดตามปัญหาภัยแล้งเกิดทั่วโลก ทำให้พื้นที่เพาะปลูกข้าวเปลือก โดยเฉพาะปริมาณข้าวเปลือกนาปรังและนาปีลดลงกว่าล้านตัน โดยให้รายงานสถานการณ์ทุก 2 สัปดาห์ โดยเหตุผลดังกล่าวทำให้ราคาข้าวเปลือกสดสูงขึ้นเป็นประวัติการณ์ตันละ 12,000 บาท พร้อมเร่งติดตามราคาข้าวสารถุงภายในประเทศสูงขึ้น โดยจะเร่งหาวิธีดูแลทุกฝ่ายให้อยู่ร่วมกันได้


นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวภายหลังเป็นประธานการประชุมติดตามสถานการณ์ภัยแล้ง การผลิต และการตลาดสินค้าเกษตร โดยมอบหมายให้ปลัดกระทรวงพาณิชย์ติดตามสถานการณ์เอลนีโญหรือภัยแล้งที่เกิดขึ้นทั่วโลก เพื่อประเมินผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับภาคเกษตร และการตลาดพืชผลการเกษตรของไทย โดยมีผู้แทนกระทรวงพาณิชย์ ทูตพาณิชย์จาก 58 ประเทศทั่วโลก กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงการคลัง กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ส่วนราชการอื่น และภาคเอกชนร่วมด้วย โดยมุ่งเน้นเรื่องข้าวเป็นหลัก 

อย่างไรก็ตาม ที่ประชุมประเมินตรงกันว่าสถานการณ์เอลนีโญ รวมทั้งมาตรการห้ามส่งออกข้าวขาวของอินเดีย เมื่อวันที่ 20 ก.ค.ที่ผ่านมา มีผลกระทบต่อปริมาณผลผลิตข้าว ตลาดข้าว และราคาข้าว กรมอุตุนิยมวิทยาชี้แจงว่าสถานการณ์เอลนีโญแบ่งเป็น 3 ระดับ ระดับอ่อน 0.5-1.0 ระดับปานกลาง 1.0-1.5 และระดับรุนแรง เกินกว่า 1.5 สำหรับประเทศไทย เดือน พ.ค.-ก.ค.ที่ผ่านมา อยู่ที่ระดับ 0.8 ซึ่งช่วงที่มีสถานการณ์ภัยแล้งรุนแรงตอนปี 59 อยู่ที่ระดับ 1.2 และกรมชลประทานรายงานว่าปีนี้ ปริมาณน้ำฝนของไทยจะลดลง 5% เมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ย 30 ปี และปริมาณน้ำในเขื่อนปีนี้ คาดว่าจะน้อยกว่าปี 65 ประมาณครึ่งหนึ่ง ซึ่งจะมีผลกระทบกับพืชผลการเกษตรอยู่ในเขตชนประทาน 


นอกจากนี้กรณีที่อินเดียได้ระงับการส่งออกข้าวขาวเมื่อวันที่ 20 ก.ค.ที่ผ่านมา กระทรวงพาณิชย์รายงานว่าเกิดจากสถานการณ์เอลนีโญและภัยแล้งที่กระทบกับราคาข้าวในอินเดียสูงขึ้น รัฐบาลต้องการให้ราคาข้าวในประเทศลดลงจึงระงับการส่งออก เพื่อดูแลผู้บริโภคในประเทศ ส่งผลให้ 1.ราคาข้าวในตลาดโลกสูงขึ้น 2.เป็นโอกาสของตลาดข้าวไทย โดยเฉพาะตลาดแอฟริกา เพราะแอฟริกานำเข้าข้าวจากอินเดีย 3.เกษตรกรขายข้าวเปลือกได้ในราคาสูงขึ้น ซึ่งขณะนี้ราคาข้าวเปลือกเจ้า สูงกว่าก่อนอินเดียห้ามส่งออกข้าวประมาณ 7% แต่อาจมีผลลบกับอาหารสัตว์และปศุสัตว์เพราะต้นทุนอาหารสัตว์สูงขึ้น แต่ราคาตลาดข้าวโลกมีความผันผวน ซึ่งยังไม่นิ่งในขณะนี้ เพราะยังไม่สามารถประเมินราคาข้าวในตลาดโลกได้อย่างชัดเจน แต่ยอมรับว่าปีนี้ไปจนถึงปีหน้าปริมาณข้าวเปลือกของไทยลดลงจากฤดูข้าวนาปังปี 65และข้าวเปลือกนาปี 66/67 โดยมีปริมาณผลผลิตรวม 32.35 ล้านตันลดลง 5.6% จากปีก่อนที่มีปริมาณผลผลิตรวม 34.3 ล้านตัน หรือลดลงกว่า 1-2 ล้านข้าวเปลือก

อย่างไรก็ตาม ที่ประชุมมีมติให้ตั้งวอร์รูม ติดตามสถานการณ์เอลนีโญภัยแล้งของโลกและประเทศไทย รวมทั้งติดตามการผลิต การตลาด ราคาข้าวและพืชผลการเกษตรอื่นด้วย ซึ่งวอร์รูมจะประกอบด้วยปลัดกระทรวงพาณิชย์เป็นประธาน รองปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เป็นรองประธานและผู้แทนส่วนราชการทั้งกระทรวงพาณิชย์ กระทรวงเกษตรฯ กระทรวงการคลัง กระทรวงดีอี และส่วนราชการอื่นที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งภาคเอกชนและเกษตรกรที่เกี่ยวข้อง และให้เสนอแนวทางตัดสินใจเรื่องสำคัญต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ต่อไป ทั้งนี้ มอบหมายให้ทูตพาณิชย์ทั่วโลกติดตามสถานการณ์ภัยแล้ง การผลิต ราคาและการตลาดของพืชเกษตรทุกตัว โดยเฉพาะข้าว รายงานให้กระทรวงพาณิชย์ทราบทุก 1-2 สัปดาห์

สำหรับราคาข้าวในอนาคตได้สั่งการให้หาจุดสมดุล ขณะที่ราคาข้าวเปลือกสูงขึ้นเกษตรกรได้ประโยชน์มากขึ้นจะส่งผลให้ข้าวสารแพงเกินจุดสมดุลหรือไม่ ถ้าแพงเกินก็ต้องกำกับควบคุมให้อยู่ในจุดที่ผู้บริโภครับได้ แต่ขณะเดียวกันผู้ประกอบการก็ต้องอยู่ได้ด้วย ให้วินวินทุกฝ่าย ได้ประโยชน์ร่วมกันทุกฝ่ายและถ้าเสียประโยชน์ให้เสียประโยชน์น้อยที่สุดทุกฝ่าย วอร์รูมมีหน้าที่ต้องไปดู ซึ่งกรณีดังกล่าวแม้ว่าจะส่งผลดีต่อราคาข้าวเปลือกเจ้าโดยเฉพาะข้าวเปลือกเกี่ยวสดมีราคาข้าวเปลือกตันละ 12,000 บาทถือว่าเป็นราคาข้าวเปลือกที่สูงขึ้นเป็นประวัติการที่ราคาข้าวไม่เคยสูงขึ้นมาระดับนี้ ส่งผลดีต่อเกษตรกรอย่างมาก แต่ขณะเดียวกันราคาข้าวสารที่บริโภคภายในประเทศอาจจะสูงขึ้นไปบ้าง โดยได้สั่งการให้กรมการค้าภายในไปติดตามตรงนี้แล้ว


นายเจริญ เหล่าธรรมทัศน์ นายกสมาคมผู้ส่งข้าวไทย กล่าวว่า ในกรณีอินเดียงดส่งออกข้าวนั้น ยอมรับว่ามีผลกระทบต่อการส่งออกข้าวของผู้ส่งออกข้าวไทยอย่างมาก โดยเฉพาะในเวลานี้ทั้งโรงสีข้าวและผู้ส่งออกยังหาจุดสมดุลในเรื่องของการโคสราคาขายข้าวค่อนข้างลำบากพอสมควร ดังนั้น คงต้องติดตามว่าทางอินเดียจะมีการผ่อนผันในเรื่องงดการส่งออกข้าว เพื่อให้สถานการณ์ข้าวโลกกลับมาเป็นปกติในเร็วๆ นี้ แต่ยังมั่นใจว่าโดยภาพรวมการส่งออกข้าวไทยไปตลาดโลกยังดีอยู่ ซึ่งจากตัวเลข 7 เดือน ไทยส่งออกข้าวไปแล้วกว่า 4.8 ล้านตัน และในช่วงเวลาที่เหลืออีก 5 เดือน ที่คาดว่าจะส่งออกข้าวเฉลี่ยต่อเดือน 7-8 แสนตัน จะทำให้ยอดรวมการส่งออกข้าวไทยในปีนี้เกินกว่า 8 ล้านตันได้แน่นอน และคาดว่าราคารวมส่งออกข้าวไทยจะสูงขึ้นไม่น้อยกว่า 20 % เป็นไปได้สูง.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เผยเหนือ-อีสาน อากาศเย็นในตอนเช้า ภาคใต้ฝนตกหนักบางแห่ง

กรมอุตุฯ เผยภาคเหนือ ภาคอีสาน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาวะอากาศที่เปลี่ยนแปลง ส่วนภาคใต้ มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ต้อนรับอบอุ่น “โอปอล” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ถึงไทย

กลับถึงไทยแล้ว “โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ปรากฏตัวในชุดไทย สวยสง่า แฟนนางงามต้อนรับอย่างอบอุ่น

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก